Categories
เบเกอรี่

แจกสูตร ชีสเค้ก หน้าไหม้ ง่าย ๆ ด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน

แจกสูตรขนมเบเกอรี่เอาใจสาวกผู้ที่ชื่นชอบขนมหวานกันเสียหน่อย ซึ่งเรียกได้ว่าสายขนมหวานทุกคนจะต้องรู้จักและชื่นชอบกันอย่างแน่นอน สำหรับขนมเบเกอรี่ที่มีรสชาติที่อร่อย เนื้อนุ่มละมุนลิ้น กลิ่นหอมเย้ายวนใจน่ารับประทาน ต้องขอบอกก่อนว่าขนมเบเกอรี่ที่เราจะมาแจกสูตรความอร่อยให้ได้ฟินกันในบทความนี้ เรียกได้ว่าเป็นสูตรขนมที่มีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นั่นก็คือ ชีสเค้ก หน้าไหม้ ซึ่งความโดดเด่นจะอยู่ที่ตัวเค้กที่มีหน้าไหม้ ผสมกับความหอมของชีสที่ยิ่งเพิ่มความน่าหลงใหล

 

ชีสเค้ก หน้าไหม้ เนียนนุ่ม ต้นตำรับจากสเปน

ก่อนจะไปดู สูตรทำชีสเค้ก ไปดูต้นกำเนิดของขนมชนิดนี้กันก่อนเลยดีกว่า ซึ่งขนมเบเกอรี่ชนิดนี้นั้นมีต้นกำเนิดมาจากประเทศสเปน ที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยด้วย เนื่องจากรูปร่างหน้าตาที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัวจากชีสที่ไหม้ พร้อมทั้งกลิ่นความไหม้ของชีสที่มีกลิ่นหอม เชิญชวนให้ต้องลิ้มลองให้ได้ แต่อย่างที่ทราบกันดีว่า เบเกอรี่ ส่วนใหญ่มักจะต้องใช้เตาอบ แต่ในบทความนี้ เราจะมาชวนทุกคนไปทำตามสูตรง่าย ๆ และสะดวก จากการใช้หม้อทอดไร้น้ำมันนั่นเอง

วัตถุดิบเมนูขนม ชีสเค้ก หน้าไหม้

ใครที่ชอบเนื้อเค้กแบบนุ่มๆ ฟูๆ ต้องไม่พลาดขนมชีสเค้กหน้าไหม้ ที่เรียกได้ว่าเป็น ของหวาน ที่ใช้วัตถุดิบหลักในการทำเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น และสามารถหาซื้อมาได้ง่าย เมื่อเทียบกับขนมเค้กหรือเบเกอรี่ชนิดอื่น ๆ แล้ว ทำให้กลายเป็นเมนูขนมที่กำลังฮิตเป็นอย่างมากในปัจจุบันนี้ ทำทานเองที่บ้านหรือทำขาย ก็เรียกได้ว่าขายดิบขายดีกันเลย ตามไปดูวัตถุดิบในการ ทำเค้กง่าย ๆ กันดีกว่า

  1. ไข่ไก่ 3 ฟอง
  2. ครีมชีส 500 กรัม
  3. แป้งข้าวโพด 15 กรัม
  4. น้ำตาลทราย 140 กรัม
  5. วานิลลา 1 ช้อนชา
  6. วิปปิ้มครีม 250 กรัม

วิธีทำชีสเค้ก ง่าย ๆ ด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน

สำหรับสูตรขนมเค้กหน้าไหม้ ที่เรานำมาแบ่งปันในบทความนี้ ถือว่าเป็นมีขั้นตอนการทำง่าย ๆ ที่เรียกได้ว่าเป็น เมนูเบเกอรี่มือใหม่ ก็สามารถทำตามได้ง่ายและไม่ยุ่งยาก อีกทั้งที่สำคัญยังไม่ต้องหาซื้อเตาอบที่มีขั้นตอนการทำเยอะวุ่นวายกันอีกด้วย เนื่องจากสูตรนี้จะเป็น วิธีทำเค้กง่ายๆ ไม่ใช้เตาอบ เพียงความสะดวกในการสร้างสรรค์เมนูเค้ก เนื้อนุ่ม ละมุนลิ้นกัน อย่ามัวรีรอกันอยู่เลย ตามไปจดสูตรกันดีกว่า 

  1. ขั้นตอนแรกให้เตรียมชามผสม แล้วนำครีมชีส น้ำตาลทราย แป้งข้าวโพด ใส่ลงไปในชามผสมแล้วตีให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเนียนละเอียด จากนั้นให้ใส่วิปปิ้มครีม วานิลลา ไข่ไก่ ลงไปแล้วตีให้เข้ากันอีกรอบ
  2. เมื่อตีส่วนผสมจนเข้ากันเป็นเนื้อเนียนละเอียดแล้ว ให้นำส่วนผสมเทลงให้แม่พิมพ์เค้ก จากนั้นเคาะเพื่อไล่ฟองอากาศ
  3. เอาเข้าหม้อทอดไร้น้ำมัน โดยจะอบด้วยกัน 2 ครั้ง ซึ่งครั้งแรกก็จะใช้ไฟ 190 องศาเซลเซียส ประมาณ 20-25 นาที และครั้งที่สองใช้ไฟ 200 องศา เวลา 10 นาที
  4. เมื่อเค้กสุกฟูอย่างสวยงามแล้ว ให้นำออกจากหม้อทอดไร้น้ำมันมาพักทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นให้นำแช่ตู้เย็นอีก 2 ชั่วโมง เมื่อครบแล้วนำออกมาจัดใส่จาน เพิ่มท็อปปิ้งด้วยผลไม้ เพียงเท่านี้ก็พร้อมทานได้แล้ว

ชีสเค้ก หน้าไหม้ ทำทานง่าย ทำขายก็ดี

สำหรับสูตรที่เรานำมาแบ่งปันกันนั้น เรียกได้ว่าเป็นขนมเบเกอรี่ที่สามารถทำทานที่บ้านได้ง่าย ๆ หรือจะทำขายก็กำไรดีอย่างล้นหลาม อีกทั้งส่วนผสมก็มีเพียงแค่ไม่กี่อย่าง พร้อมทั้งขั้นตอนการทำก็สะดวกรวดเร็ว ใช้เวลาไม่นานด้วยการใช้หม้อทอดไร้น้ำมัน นอกจากนี้สำหรับใครที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ ก็สามารถทำทานได้ไม่ต้องกลัวอ้วน อาจจะนำสูตรไปดัดแปลง แล้วเพิ่มวัตถุดิบและตกแต่งด้วยผลไม้ให้คลีนมากยิ่งขึ้น ก็สามารถทำได้ตามใจชอบกันเลย

Categories
อาหารนานาชาติ

ผักโขมอบชีส เมนูอาหารชีสยอดฮิตจากอิตาลี

ผักโขมอบชีส เมนูอาหารอิตาลียอดนิยม อีกเมนูหนึ่งที่เชื่อว่าเป็นเมนูจานโปรดของสาวกชีสกันหลาย ๆ คน อีกทั้งยังเป็นเมนูเด็ดจากร้านอาหารนานาชาติกันเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าจะเป็นอาหารอิตาลีแต่ก็ได้รับความนิยมจากคนไทย รวมไปถึงต่างประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยรสชาติความอร่อยและกลิ่นที่หอมละมุน ทำให้เป็นที่นิยมและเป็นเมนูจานโปรดของใครหลายคน นอกจากนี้ยังเป็นเมนูอาหารที่สามารถทำได้ง่าย สำหรับใครที่เป็นสาวกชีสตัวยงแล้วรู้สึกว่าบางร้านอาหารให้ชีสไม่จุใจเลย เรามีสูตรชีสแน่น ๆ รสชาติหอมอร่ยอมาฝากกันแล้ว

ผักโขมอบชีส เมนูอิตาลีจานโปรดของสาวกชีส

สำหรับใครที่เป็นสาวกชีสตัวยง จะต้องชื่นชอบเมนู อาหารอิตาลี ที่เรียกได้ว่าเป็นเมนูเด็ดประจำร้านอาหารนานาชาติที่ได้รับความนิยมสูง แต่เนื่องด้วยราคาของเมนูอาหารชนิดนี้ที่มีราคาแพงอยู่พอสมควร ทำให้สาวกผู้ที่ชื่นชอบการทานชีสอาจจะไม่ได้ไปรับประทานกันบ่อย ๆ แต่ในวันนี้เรามีสูตรชีสผักโขมมาแบ่งปันกันแล้ว นอกจากจะได้รับความอร่อยไม่แพ้ทานที่ร้านราคายังสบายกระเป๋าอีกด้วย ว่าแล้วเรามาเริ่มทำ เมนูชีส กันเลย

วัตถุดิบเมนูอาหาร ผักโขมอบชีส

 สูตรผักโขมอบชีส เมนูอาหารเอาใจคนรักชีส ด้วยวัตถุดิบอย่างผักโขมนำมาคลุกเคล้ากับซอสครีม และมีชีสเยิ้ม ๆ แน่น ๆ บอกได้คำเดียว่าอร่อยถูกใจสาวกรักชีสอย่างแน่นอน พร้อมที่จะลงมือทำเมนูอาหารอิตาลียอดนิยมกันหรือยัง ถ้าพร้อมแล้วตามไปดู วัตถุดิบกันเลยดีกว่า

  1. ผักโขม 150 กรัม
  2. หัวหอมใหญ่ 1 ลูก
  3. กระเทียมสับ
  4. เนยจืด 2 ช้อนโต๊ะ
  5. เกลือ 1 ช้อนชา
  6. พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  7. นมสดรสจืด 1 ถ้วย
  8. ชีสตามใจชอบ
  9. แฮม 1 แผ่น (ตามใจชอบ)
  10. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม

วิธีทำผักโขมอบชีส ง่าย ๆ ด้วยไมโครเวฟ

สำหรับวิธีการทำ อาหารอิตาเลี่ยน จานโปรดของใครหลายคนอย่างเมนูชีสนี้ สามารถทำทานเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ซึ่งจะเป็นสูตรการทำ ผักโขมอบชีสไมโครเวฟ สะดวกและรวดเร็ว แถมยังสามารถเติมชีสได้เองแบบจุใจกันไปเลย อย่ามัวรอช้ากันอยู่เลย เตรียมปากกามาจดสูตร แล้วไปเข้าครัวกันเลยดีกว่า

  1. เริ่มต้นด้วยการนำกระทะตั้งไฟปานกลาง นำเนย หัวหอม และกระเทียมสับใส่ลงไป คนให้กระเทียมโดนเนยให้ทั่วกัน ไม่ต้องรอให้กระเทียมถึงขั้นสุกเหลืองกรอบ แค่เหลืองนิด ๆ ก็พอ แล้วนำแฮมลงไปผัดกับเนย
  2. นำแป้งสาลีอเนกประสงค์ลงไปผัดจนสุกดี เทนมสดรสจืดตามลงไป ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ใส่ผักโขมลงไปผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นชิมรสให้ออกมันและเค็มนิดหน่อย พยายามอย่าใส่เกลือมากจนเกินไป
  3. ผัดทุกอย่างด้วยไฟกลางจนน้ำเริ่มงวด ปิดไฟแล้วนมาใส่ภาชนะที่เข้าไมโครเวฟได้ จากนั้นโรยหน้าด้วยชีสด้านบนตามใจชอบ นำเข้าไมโครเวฟใช้อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส 15 – 20 นาที อบจนชีสเหลืองและละลาย
  4. เมื่ออบจนชีสเหลืองสวยน่ารับประทานแล้ว นำออกจากไมโครเวฟ จัดใส่จาน เพียงเท่านี้ก็จะได้ เมนูอาหาร จากอิตาลีพร้อมทานกันแล้ว

เคล็ดลับการทำเมนูผักโขมใส่ชีสให้อร่อย ก็คือ ระหว่างที่ตักครีมซอสที่ปรุงไว้ใส่ถ้วยก่อนนำเข้าไมโครเวฟ ให้ใส่เป็นชั้นสลับกับชีส เนื่องจากจะทำให้ชีสที่ความเยิ้ม หอมอร่อยและละมุนมากยิ่งขึ้นนั่นเอง และควรทานตอนที่ยังร้อน ๆ อยู่ เพื่อให้ได้รับรสความอร่อยขอชีสได้มากขึ้น

ผักโขมอบชีส ทำง่าย ถูกใจสาวกชีส

เป็นอย่างไรกับสูตรเมนูอาหารอิตาลียอดนิยม ผักโขมอบหน้าชีส จะเห็นได้ว่ามีการเตรียมวัตถุดิบที่สามารถหาซื้อได้ง่าย และขั้นตอนในการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากหรือซับซ้อนอะไรมากมาย สำหรับใครที่เป็นสาวกชีสตัวยง และต้องการจะให้ทำเมนูชีสทานเอง ที่จะใส่ชีส ใส่แฮม ใส่ผักเท่าไหร่ก็ได้ สามารถนำสูตรที่เรานำมาแบ่งปันในบทความนี้ ไปเข้าครัวทำเมนูอาหารจานโปรดของคุณกันได้เลย รับรองว่าจะต้องติดใจกันอย่างแน่นอน

Categories
ขนมไทย

สังขยาฟักทอง ขนมไทยทำง่าย อร่อย เนื้อเนียนนุ่ม

สำหรับใครที่ชื่นชอบการรับประทานเมนูขนมไทยโบราณ และอยากลองลงมือทำเองดูสักครั้ง วันนี้เราจะมานำเสนอ ขนมหวานไทยที่ทำได้ง่าย ผ่านวิธีการทำเพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น อีกทั้งยังให้ประโยชน์ต่อร่างกายอย่างหลากหลาย นั่นก็คือ เมนูขนมไทย สังขยาฟักทอง เรียกได้ว่าเป็นขนมไทยยอดนิยมอีกชนิดหนึ่ง ด้วยความที่มีรสชาติอร่อย เนื้อเนียนนุ่ม และหอมกลิ่นใบเตย

สำหรับผลไม้พื้นบ้านของไทยอย่าง ฟักทอง เชื่อว่าหลายคนรู้จักและคุ้นเคยกับผลไม้ชนิดนี้กันเป็นอย่างนี้ เรียกได้ว่าเป็นผลไม้ที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักของเมนูอาหารไทยหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาว และอาหารหวาน อีกทั้งยังมีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย ยกตัวอย่างเช่น บำรุงผิวพรรณ ช่วยในการลดน้ำหนัก ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง เป็นต้น สำหรับใครที่อยากเข้าครัวลองทำทานเองสักครั้ง ในวันนี้เราก็ได้นำสูตรการทำ สังขยาเนื้อเนียน มาแนะนำให้ทุกคนไปลองทำตามกันแล้ว

ความเป็นมาของเมนูขนมไทย สังขยาฟักทอง

ถือว่าเป็น ขนมหวานไทย โบราณที่อยู่เคียงข้างคนไทยมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยโบราณ และได้รับความนิยมมาจนถึงในยุคปัจจุบันนี้ ก่อนที่เราจะไปจดสูตรขนมกัน เราขอพาทุกคนมารู้จักความเป็นมาของ ขนมไทยยอดนิยมชนิดนี้กันก่อน ขนมสังขยาเป็น ขนมไทย ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศโปรตุเกส ซึ่งทำมาจากคัสตาร์ด ต่อมาประเทศไทยได้รับสูตรคัสตาร์ดขนมจากต่างประเทศ มาประยุกต์ปรุงแต่งใหม่เป็นขนมของประเทศไทยจากท้าวทองกีบม้า

สูตรเดิมของสังขยาหรือคัสตาร์ดจากต่างประเทศนั้น จะนิยมใช้วัตถุดิบหลักเป็นนมวัว แต่เมื่อนำมาดัดแปลงมาทำเป็น ขนมไทย จึงได้ใช้กะทิเป็นส่วนผสมแทนทำให้มีรสชาติที่แตกต่างไป และมีหลากหลายรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นสังขยาใบเตย สังขยาไข่ สังขยาไส้มันม่วง สังขยาไส้มะพร้าว ข้าวเหนียวสังขยา และสังขยาไส้ฟักทอง ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน หากใครอยากลองทำขนมโบราณยอดนิยมนี้กันแล้ว ไปเตรียมวัตถุดิบกันเลย



วัตถุดิบหลักของเมนู สังขยาฟักทอง

วัตถุดิบในการทำสังขยานั้น ก็สามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ ตามท้องตลาด โดยวัตถุดิบหลัก ๆ สำหรับการทำขนมสังขยาไส้ฟักทอง ก็มีเพียงแค่ไม่กี่อย่าง ดังนี้

  1. ฟักทองแก่ 1 ลูก คว้านเนื้อด้านในออก
  2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  3. ไข่เป็ด 2 ฟอง
  4. หัวกะทิ 100 มิลลิลิตร
  5. น้ำตาลโตนด 500 กรัม
  6. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
  7. น้ำตาลปี๊บ 150 กรัม
  8. ใบเตยสด 3 ใบ

วิธีทำ สังขยาฟักทอง ขนมหวานทำง่าย

อย่างที่เราได้เกริ่นนำตั้งแต่แรกกันไปแล้วว่าการ ทําสังขยาฟักทอง ขนมไทยโบราณยอดนิยมนั้น สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตนเองที่บ้าน เนื่องจากมีวัตถุดิบที่หาซื้อได้ง่าย และใช้อุปกรณ์ในการทำเพียงไม่กี่อย่าง เพราะฉะนั้นมือใหม่หัดเข้าครัวก็สามารถทำตามสูตร ที่เรานำมาแนะนำในบทความนี้กันอย่างสบาย ๆ เลย ถ้าอยากรู้แล้วว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย

  1. วิธีทําสังขยาฟักทอง ขั้นตอนแรกให้เริ่มโดยการ คว้านไส้ฟักทองด้านในและเมล็ดออกให้หมด จากนั้นนำไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วมาเตรียมส่วนผสม
  2. เตรียมชามผสมใส่ไข่ไก่ ไข่เป็ด หัวกะทิ น้ำตาลโตนด เกลือป่น น้ำตาลปี๊บ และใบเตยสดลงไปขย้ำให้เข้ากันด้วยมือ จากนั้นนำมากรองผ้าขาวบาง และนำไปเทใส่ลูกฟักทองที่เตรียมไว้ โดยเหลือขอบฝาไว้
  3. ตั้งหม้อนึ่งใช้ไฟแรง นำลูกฟักทองลงไปนึ่ง ใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที ระหว่างนี้ให้คอยเปิดดูเป็นระยะทุก ๆ 15 นาที เพื่อให้ขนมมีเนื้อเนียน
  4. เมื่อสุกแล้วให้นำออกจากหม้อนึ่ง แล้วนำมาตัดผ่าครึ่ง เพียงเท่านี้ก็ได้เมนูสังขยาไส้ฟักทอง ของหวานไทย แสนอร่อยพร้อมทานกันแล้ว

สังขยาฟักทอง เมนูขนมไทยที่ควรอนุรักษ์

นอกจากจะเป็นขนมไทยที่มีรสชาติหวาน มัน อร่อยแล้ว ยังถือว่าเป็นขนมไทยโบราณที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ให้อยู่คู่คนไทยไปอย่างยาวนาน เนื่องจากเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลไม้พื้นบ้านของไทยเรา และสำหรับใครที่อยากอนุรักษ์ขนมไทยชนิดนี้ไว้ และกำลังมองเมนูขนมไทยทำทานที่บ้าน สามารถนำสูตรขนมที่เรานำมาแบ่งปัน ไปทำทานกันหรือจะทำขายก็ทำได้อย่างง่าย ๆ แถมกำไรดีอีกด้วย

Categories
อาหารไทย

แกงเขียวหวาน เมนูอาหารไทยยอดนิยม

แกงเขียวหวาน ถือว่าเป็นเมนูอาหารไทยถ้วยโปรดของคนไทยหลายคน รวมไปถึงชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวในเมืองไทย ต่างก็ต้องถามหาเมนูอาหารไทยนี้ชิมกัน ที่สามารถทานได้อย่างหลากหลายทั้งกับข้าวสวยร้อน ๆ หรือกับขนมจีนก็อร่อยไม่แพ้กัน อีกทั้งยังเป็นเมนูอาหารที่เรียกได้ว่าทำทานเองได้ง่ายสุด ๆ ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาพาทุกคนไปเข้าครัว ทำเมนูแกงเขียวหวานถ้วยอร่อยกัน รับรองได้เลยว่าเพียงแค่ทำตามสูตรเหล่านี้ จะได้ทานเมนูอาหารไทยที่อิ่มอร่อยกันอย่างแน่นอน 

ต้องขอบอกเลยว่า อาหารไทย มักเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความอร่อยและรสชาติ ที่มีความหลากหลายมาก เนื่องจากว่าประเทศไทย เป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ของอาหาร พืชพรรณ และสัตว์ต่าง ๆ จึงทำให้เรามีเมนูที่หลากหลาย ทานได้อย่างไม่น่าเบื่อ ซึ่งเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงมากใน อาหารภาคกลาง นั้นคือ แกงเขียวหวานไก่ ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมนู แกงกะทิ ที่ใช้น้ำกะทิมาเป็นส่วนประกอบหลัก ที่จะมาเพิ่มความหอม กลมกล่อมให้กับเมนูนี้ได้อย่างลงตัว ตามเราไปดูวัตถุดิบและวิธีการทำกันเลยดีกว่า

วัตถุดิบหลักของเมนู แกงเขียวหวาน

ถ้าพูดถึงวัตถุดิบหลักของเมนูอาหารไทยยอดนิยมเมนูนี้ ถือว่าเป็นเมนูอาหารที่มีวัตถุดิบหาซื้อได้ง่าย หรือหาได้ง่ายตามท้องถิ่น ซึ่งรสชาติหลัก ๆ ของ แกงเขียวหวานไก่ ที่จะมีทั้งความเผ็ด หวาน มัน และเค็มกลมกล่อมอย่างลงตัว และที่ขาดไม่ได้สำหรับการทำเมนู แกงเขียวหวาน นั่นก็คือ วัตถุดิบหลักอย่างกะทิ ที่จะมาเพิ่มความอร่อย สีสัน ให้น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น ตามไปจด สูตรแกงเขียวหวาน กันเถอะ

วัตถุดิบเมนูอาหารแกงเขียวหวานไก่

  1. เนื้อไก่หั่นเป็นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย
  2. มะเขือเปราะหั่นแช่น้ำเกลือ 5-6 ลูก
  3. พริกชี้ฟ้าแดงหั่น 2 เม็ด
  4. กะทิ 2 ถ้วยตวง
  5. พริกแกงเขียวหวาน 2 ช้อนโต้ะ
  6. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต้ะ
  8. น้ำมันงา 1 ช้อนโต้ะ
  9. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต้ะ
  10. ใบโหระพา 1 กำมือ
  11. ใบมะกรูดหั่น 4 ใบ



วิธีทำ แกงเขียวหวาน ฉบับง่าย ๆ ทำตามได้ที่บ้าน

เมื่อได้ทราบถึง วัตถุดิบในการทำแกงเขียวหวาน เมนูอาหารไทยยอดนิยมกันไปแล้ว ถัดมาเรามาดู วิธีทำแกงเขียวหวาน ที่เราได้นำมาแบ่งปันกันในบทความนี้ รับรองได้เลยว่าเป็นวิธีทำฉบับง่าย ๆ สามารถทำเพื่อรับประทานกันได้ที่บ้าน อร่อยถูกใจอย่างแน่นอน ดังนั้นตามเราไปจดสูตร แกงเขียวหวาน แล้วไปเข้าครัวกันเลย

วิธีทำการทำแกงเขียวหวานไก่

  1. ขั้นตอนแรกในการ ทำแกงเขียวหวาน ก็คือ ตำพริกแกงให้ละเอียด จากนั้นตั้งกระทะใส่กะทิลงไปเคี่ยวหม้อให้แตกมัน โดยใช้ไฟอ่อน ตามด้วยพริกแกงที่ตำไว้ใส่ลงไปเคี่ยวให้เข้ากันดี จนมีกลิ่นหอม 
  2. ตามด้วยเนื้อไก่หั่น ลงไปผัดคลุกคล้ากับส่วนผสมที่ใส่ลงไปให้เข้าเนื้อ เติมกะทิเพิ่มความหอม ทิ้งไว้ให้เริ่มเดือดแล้วจึงคนให้ไก่สุกทั่วกัน
  3. เมื่อกระทะเดือดได้ที่แล้ว ให้ใส้มะเขือเปราะลงไปคนให้โดนความร้อนทั่วกัน เพื่อไม่ให้มะเขือดำ เมื่อมะเขือเปราะเริ่มสุกแล้ว 
  4. จากนั้นให้ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมันงา และซีอิ๊วขาว ในขั้นตอนนี้ให้ชิมแล้วปรุงรสเพิ่มได้ตามชอบ

5. จากนั้นให้ใส่พริกชี้ฟ้าแดง ใบโหระพา และพริกชี้ฟ้าแดงลงไป เพื่อเพิ่มสีสัน แล้วให้คนส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นปิดไฟ แล้วใส่จานพร้อมเสิร์ฟ เพียงวิธีทำง่าย ๆ นี้ก็จะได้ชิมความอร่ยอของเมนู อาหารไทย แล้ว

แกงเขียวหวาน อาหารไทยรสอร่อย กลมกล่อม

แกงเขียวหวาน อาหารยอดนิยมที่ติดอันดับที่สุดของ อาหารไทย ที่เรียกได้ว่าถูกใจ ถูกปาก ทั้งคนไทยเองและคนต่างชาติเป็นอย่างยิ่ง สำหรับใครที่อยากลองเข้าครัวทำเมนูอาหารไทย ง่าย ๆ ทำทานที่บ้านล่ะก็ เราแนะนำให้ลองทำเมนูอาหารไทยยอดนิยมนี้กันเลย ซึ่งเราสามารถดัดแปลงเนื้อสัตว์ที่นำมาเป็นวัตถุดิบได้เองตามใจชอบเลย ไม่ว่าจะเป็นแกงเขียวหวานหมู แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย เป็นต้น รับรองเลยว่ารสชาติอร่อย กลมกล่อม สีสันน่ารับประทานเป็นอย่างมาก