Categories
เบเกอรี่

ขนมอร่อยบอกต่อ! คุกกี้สิงคโปร์ รสชาติหวาน มัน อบอวลด้วยกลิ่นควันเทียนหอมกำลังดี

คุกกี้สิงคโปร์

หลายเชื่อว่าขนม คุกกี้สิงคโปร์ เป็นขนมจากประเทศสิงโปร์ แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่อย่างที่คิด เพราะแท้จริงล้วขนมชนิดนี้เป็นขนมไทย แต่ที่มีของชื่อขนมมาจากวัตถุดิบที่ใช้ทำขนมใช้แป้งมันสัมปะหลังเป็นส่วนผสม ซึ่งแป้งมันสัมปะหลังผลิตจากประเทศสิงคโปร์นั่นเอง สำหรับขนมคุกกี้ สิงคโปร์มีรสชาติหวาน มัน และมีกลิ่นควันเทียนหอมอบอวล ฟินสุดๆ แถมยังสามารถคู่กับเครื่องดื่มอย่าง ชา หรือกาแฟอร่อยอย่างลงตัว เรียกได้ว่าเป็นขนมที่สามารถทานได้ทุกเวลาไม่มีเบื่อ แถมขนมคุกกี้ชนิดนี้ยังมีปริมาณแคลน้อยมาก เพียง 95 แคลลอรี่ เท่านั้น ทานเยอะแค่ไหนก็ไม่อ้วนแน่นอน

คุกกี้สิงคโปร์

คุกกี้ สิงคโปร์ ถือว่าเป็นขนมที่มีเนื้อแป้งกรุบกรอบเคี้ยวเพลินสุดๆ จนต้องขอเพิ่มเลยทีเดียว นอกจากรสชาติขนมจะอร่อยแล้ว รูปร่างหน้าตายังน่ารักอีกด้วย เรียกได้ว่าหากใครเห็นขนมชนิดจะต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านแน่นอน แต่ถ้าจะให้บ่อยๆ คงหมดเงินเป็นแน่ ดังนั้นวันนี้เรามีสูตรคุกกี้สิงคโปร์มาฝากทุกคนได้ลองทำตาม เผื่อใครอยากลองทำเล่นๆ ที่บ้าน รับรองว่าสูตรเรานำมาแชร์นั้นง่ายนิดเดียว แถมยังอร่อยเหมือนซื้อที่ร้านมาเลยทีเดียว 

วิธีทำ คุกกี้สิงคโปร์ ขนมยอดฮิต เนื้อแน่นกรุบกรอบ ทำง่ายๆ ได้ที่บ้าน 

คุกกี้สิงคโปร์

ขนมคุกกี้สิงคโปร์เป็นขนมที่มีความหวานละมุน ที่มาพร้อมกับกลิ่นควันเทียนที่หอมอบอวลอร่อยฟินทุกคำ นอกจากนี้เนื้อแป้งแน่น และกรุบกรอบเคี้ยวเพลินกันเลยทีเดียว นอจากนี้ขนมคุกกี้ สิงคโปร์ยังถูกนำมาเป็นขนมหวานตามงานเลี้ยงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่ง งานวันเกิด หรืองานเลี้ยงสังสรรค์อีกด้วย หากใครอยากลองทำขนมชนิดนี้ไว้ทานระหว่างมื้อ วันนี้เรามีวิธีทำคุกกี้สิงคโปร์ ง่ายๆ ที่บ้าน ซึ่งสูตรใช้ทำคุกกี้สิงคโปร์ สูตรดั้งเดิม รับรองว่าทำออกมาแล้วอร่อยแน่นอน

วัตถุดิบ และส่วนผสมของแป้งคุกกี้

  1. แป้งมัน 150 กรัม
  2. แป้งอเนกประสงค์ 300 กรัม
  3. เนยจืด 200 กรัม
  4. น้ำตาลไอซ์ซิ่ง 150 กรัม
  5. เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 50 กรัม
  6. เทียนอบขนม 1 แท่ง
  7. น้ำมันพืช 50 กรัม
คุกกี้สิงคโปร์

วัตถุ และส่วนผสมสำหรับทาหน้าขนม

  1. ไข่แดง 2 ฟอง
  2. เกลือป่น ½ ช้อนชา
  3. กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา

เมื่อเตรียมส่วนผสมของคุกกี้สิงคโปร์แล้ว ในขั้นตอนต่อมาเราจะมาทำเบเกอรี่อย่าง คุกกี้ สูตรสิงคโปร์ โดยมีขั้นตอนดังนี้

คุกกี้สิงคโปร์
  1. มาเริ่มที่ขั้นตอนแรกกันเลย นำเนยมาตีให้ฟูด้วยเครื่องตีขนม จากนั้นใส่น้ำตาลไอซ์ซิ่งลงไปตีส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง ต่อมาให้นำแป้งสาลีอเนกประสงค์ และแป้งมันร่อนลงในภาชนะที่เตรียมไว้ 
  2. นำแป้งที่ร่อนไว้แล้วใส่ในภาชนะที่ตีเนยไว้ โดยค่อยๆ เติมแป้งลงไป และน้ำมันพืชลงไปด้วย ตีส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียว ตามด้วยไข่แดง เกลือป่น และกลิ่นวานิลลา จากนั้นตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
  3. นำแป้งที่ได้มาทำการรีดให้แผ่นความประมาณ 1 เซนติเมตร นำพิมพ์กดลงไปบนแผ่นแป้งที่รีดไว้ จากนั้นนำไปวางบนถาดอบขนม โดยจะต้องขนมให้ห่างกันประมาณ 1 เซนติเมตร 
  4. นำเม็ดม่วงหิมะพานต์ผ่าครึ่ง นำไปวางบนแป้งคุกกี้ เสร็จแล้วทาไข่แดงลงไปบนหน้าขนม นำถาดอบเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลาประมาณ 15 นาที พักไว้ให้เย็น
  5. นำขนมที่อบเสร็จแล้วนำมาอบควันเทียน เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนำออกมาจัดใส่จาน เพียงเท่านี้ก็จะได้ขนมคุกกี้ สูตรสิงคโปร์เรียบร้อยแล้ว
คุกกี้สิงคโปร์

คุกกี้ สิงคโปร์ ที่อบเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะมีสีเหลืองสวยงาม รสชาติหวาน มัน เค็ม และหอมกลิ่นควันเทียน ส่วนเนื้อแป้งกรุบกรอบเคี้ยวเพลินจนหมดจาน เรียกได้ว่าเป็น เบเกอรี่ยอดนิยมที่มีวิธีการทำค่อนข้างง่าย ไม่ยุ่งยาก และส่วนผสมมีเพียงน้อยสามารถทำได้แม้จะมีเวลาว่างเพียง 2-3 ชั่วโมงก็สามารถขนมสูตรดั้งเดิมได้

แชร์วิธีทำเบเกอรี่ง่ายๆ คุกกี้ สูตรสิงคโปร์ ขนมเทศกาลตรุษจีน

คุกกี้สิงคโปร์

คุกกี้สิงคโปร์เป็นอีกหนึ่งขนมที่นิยมทำในช่วงเทศกาลตุษจีน เพราะเนื้อสัมผัสที่กรุบกรอบ หอม หวาน และมีความเค็มหน่อยๆ ส่วนด้านบนของขนมถูกตกแต่งด้วยมะม่วงหิมพานต์ ทาเคลือบด้วยไข่แดงน่าทานสุดๆ สำหรับชนิดนี้สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายขนมเจทั่วไปในท้องตลาด แต่ถ้าใครอยากลองเบเกอรี่ทำเองง่ายๆ อย่างคุกกี้ สูตรสิงคโปร์ เรามีสูตรมาให้ได้ลองทำตาม สำหรับสูตรนี้เราจะเปลี่ยนเนยสด เป็นเนยถั่วแทน แต่ส่วนผสมอื่นสามารถใช้ตามสูตรคุกกี้ สูตรสิงคโปร์ และวิธีทำสามารถทำตามที่กล่าวมาข้างต้นได้เลย แต่ถ้าใครอยากให้ขนมคุกกี้สามารถเก็บไว้ได้นานๆ แนะนำให้ใช้น้ำมันปาล์มแทนน้ำมันหมู แต่ความหอมของขนมจะน้อยกว่าน้ำมันหมูนั่นเอง 

คุกกี้สิงคโปร์

เป็นอย่างไรบ้างกับวิธีการทำขนมคุกกี้สิงคโปร์ที่หลายคนคิดว่าทำยากมากแน่ๆ แต่พอได้ทำเบเกอรี่โฮมเมดแล้ว ต้องบอกเลยว่าขนมสูตรนี้ทำง่ายมากๆ แถมยังสามารถได้ด้วยตัวเองที่บ้านอีกด้วย นอกจากนี้ขนมคุกกี้ที่ทำเสร็จแล้วสามารถนำมาเก็บไว้ทานได้อีกหลายวัน โดยที่รสชาติยังคงความอร่อย และกลิ่นหอมควันเทียนอบขนมเหมือนเดิม สำหรับใครอยากลองทำขนมสามารถทำตามสูตร และขั้นตอนเรานำมาให้ติดตามได้เลย เผื่อทำไว้ขายในช่วงเทศกาลต่างๆ ที่สำคัญของไทย รายได้ปังแน่นอน

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

เมนูขนม บัวลอย ไข่หวาน แป้งนุ่ม ไข่หวานฟองโต หอม มัน เค็ม จัดเต็มทุกคำ

บัวลอย ไข่หวาน

บัวลอย ไข่หวาน เป็นเมนูขนมพื้นบ้านที่อยู่คู่กับชาวไทยมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ซึ่งมีการนำของหวานและของคาวมารวมกันทำให้รสชาติที่ได้มีความหวาน มัน และหอมกลิ่นไข่นุ่มๆ อร่อยอย่างลงตัว ปัจจุบันขนมชนิดนี้เป็นที่รู้จักกันทุกภูมิภาค ซึ่งในแต่ละภาคที่จะมีการปรับปรุงสูตรลับเฉพาะที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งยังมีการประยุกต์สูตรให้ขนมมีสีสันน่ารับประทานมากขึ้น โดยจะใช้แป้งผสมกับสีที่ได้จากธรรมชาติมาปั้นเป็นเม็ดกลมๆ น้ำกะทิเข้มข้น น้ำตาล และไข่เป็ดเป็นส่วนประกอบหลัก นอกจากนี้ยังมีการใช้วัตถุดิบที่หาได้จากธรรมชาติมาใช้เป็นส่วนผสมของขนมอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ใบเตย ฟักทอง ดอกอัญชัน เป็นต้น 

บัวลอย ไข่หวาน

บัวลอยไข่หวาน ขนมเม็ดกลมที่มาพร้อมกับสีสันสดใส และรสชาติหวาน หอมกลิ่นกะทิสด เนื้อแป้งนุ่มนิ่มเคี้ยวเพลินสุดๆ หากใครยังไม่เคยลองทานสามารถหาทานได้ตามร้านอาหาร หรือร้านขนมทั่วไป อีกทั้งยังเป็นขนมที่สามารถหาซื้อทานได้ในตลาดใกล้บ้านอีกด้วย แต่อยากลองทำขนมไว้ทานเองกับครอบครัว หรือทำขาย วันนี้เรามีวิธีการทำ และสูตรขนม บัวลอย ไข่หวานพื้นบ้าน มาให้ได้ลองทำตาม 

สูตร บัวลอย ไข่หวาน เมนูขนมหวานพื้นบ้าน สีสันสดใส ทานได้ไม่มีเบื่อ 

เชื้อว่าหลายคนคงคิดว่าขนมบัวลอย ไข่หวาน ทำยาก และขั้นตอนซับช้อนเกินไป จนไม่กล้าลองทำทานเองที่บ้าน แต่แท้จริงแล้วขนมบัวลอย เป็นหนึ่งในเมนูขนมหวานที่ทำง่ายมาก โดยวิธี ทำ บัวลอย ไข่หวานจะมีขั้นตอนที่ทำตามได้ง่ายนิดเดียว สำหรับสูตรบัวลอยไข่หวานที่จะนำมาแชร์เป็นสูตรแบบดั้งเดิมที่หาทานได้อยากในปัจจุบัน โดยก่อนที่เราจะไปดูวิธีทํา บัวลอยไข่หวานโบราณ เราจะต้องเตรียมส่วนผสม และวัตถุดิบที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป และมีอยู่ตามธรรมชาติดังนี้

บัวลอย ไข่หวาน
  1. แป้งข้าวเหนียว 500 กรัม
  2. น้ำสะอาด 1 ถ้วยตวง
  3. น้ำใบเตย ½ ถ้วยตวง
  4. ฟักทองนึ่ง ½ ถ้วยตวง
  5. เผือกนึ่ง ½ ถ้วยตวง
  6. น้ำกระทิ 1 ถ้วยตวง
  7. น้ำตาลทราย 100 กรัม
  8. เกลือ ½ ช้อนชา
  9. ไข่เป็ด หรือไข่ไก่ 1 ฟอง

สำหรับสีธรรมชาติที่ใช้ผสมสีแป้งของบัวลอยไข่หวานสามารถใช้สีได้ตามใจชอบ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสีที่ใช้ตามสูตรก็ได้ สำหรับบัวลอยสูตรไข่หวานตามฉบับขนม ไทยดั้งเดิมจะใช้ไข่เป็ดในการทำขนม แต่ถ้าใครไม่ชอบไข่เป็ดสามารถใช้ไข่ไก่แทนได้ ในส่วนวิธีทำบัวลอยสูตรขนมไทยโบราณมีดังนี้

บัวลอย ไข่หวาน
  1. นำแป้งข้าวเหนียว แบ่งออกเป็น 3 ถ้วย เท่าๆ กัน จากนั้นนำน้ำใบเตย ฟักทองนึ่ง และเผือกนึ่ง ผสมในแป้งที่เตรียม โดยแป้งหนึ่งถ้วยต่อ 1 วัตถุดิบ จากนั้นใช้มือนวดส่วนผสมในแต่ละถ้วยให้เข้ากัน ซึ่งแป้งที่นวดเสร็จแล้วจะมีสีตามวัตถุดิบที่นำมาผสมกับแป้ง
  2. นำแป้งที่นวดเสร็จแล้ว มาปั้นเป็นก้อนกลมๆ ขนาดเล็ก หรือใหญ่ตามใจชอบ จากนั้นมาคลุกแป้งบางๆ เพื่อไม่เม็ดแป้งติดกันในระหว่างที่ต้ม
  3. ในขั้นตอนต่อมา เตรียมหม้อใส่น้ำสะอาดที่เตรียมไว้ จากนั้นนำไปตั้งไฟปานกลางรอให้น้ำเดือด เมื่อน้ำเดือดจัดให้ใส่เม็ดแป้งบัวลอยลงไป คนแป้งเพื่อไม่ให้ติดก้นหม้อ และรอให้แป้งสุก วิธีสังเกตคือ ถ้าแป้งลอยขึ้นมาเหนือน้ำแสดงแป้งสุกดีแล้ว จากนั้นตักออกมาแช่ในน้ำเย็น เพื่อลดอุณหภูมิไม่ให้แป้งร้อนเกินไป แถมยังทำให้บัวลอยมีเนื้อเด้งหนึบหนับอีกด้วย 
  4. หลังจากที่แช่บัวลอยในน้ำแช่เสร็จแล้ว ให้ตักออกมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ ต่อจะเป็นขั้นตอนการทำน้ำกะทิ เริ่มจากนำกะทิใส่ในหม้อ ตามด้วยน้ำตาลทราย และเกลือลงไป นำไปตั้งไฟอ่อนๆ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นรอให้กะทิเดือด ใส่ไข่ไก่ หรือไข่เป็ดลงไป รอให้ใข่สุก ปิดไฟ และยกออกจากเตา
  5. ตักบัวลอยใส่ถ้วย ราดด้วยน้ำกะทิ และไข่หวาน พร้อมรับประทาน 
บัวลอย ไข่หวาน

จบไปแล้วกับวิธีทำ บัวลอยไข่หวาน สูตรขนม โบราณที่หลายคนว่าทำยาก แต่จริงๆ แล้วไม่ยากเลย และก่อนที่จะนำขนมมารับประทานควรนำไปแช่ตู้เย็นสักพัก เพื่อให้ขนมหวานมีความเย็นทานแล้วอร่อยชื่นใจตามแบบฉบับขนมไทย โบราณ พื้นบ้านที่ทานได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ แถมรสชาติหวานฉ่ำ อร่อยเกินห้ามใจ

รวมเคล็บลับการทำเมนูบัวลอย ขนม หวาน ไทย รสชาติหวาน มัน อร่อยเกินต้าน 

บัวลอย ไข่หวาน

บัวลอยไข่หวาน เมนูขนมหวานยอดนิยมที่มาพร้อมกับสีสันสดใสน่ารับประทาน แถมยังเป็นขนม ไทย ทำ ง่ายๆ ได้ที่บ้าน ซึ่งเคล็ดลับในการทำบัวลอยขนม ไทย ง่ายๆให้อร่อยสิ่งที่ต้องทำในขั้นตอนการนวดแป้งหลังจากนวดเสร็จแล้ว ในระหว่างที่นวดแป้งอีกถ้วยควรใช้ผ้าขาวบางแป้งที่นวดเสร็จแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้แป้งแห้งจนเกินไป เพราะจะให้ปั้นแป้งไม่สวย และในขั้นตอนการตอนการต้มเม็ดแป้งจะแตกออกจากกันได้ สำหรับข้อดีของขนมไทย ทำเอง คือ เราสามารถปรุงรสชาติขนมได้ตามใจชอบ และทำทานได้แบบไม่อั้น จัดหนัก จัดเต็มทุกคำ แถมสูตร ขนม ไทยอย่างบัวลอย ใส่ไข่หวานที่นำมาแชร์เป็นสูตรที่คัดมาแล้วว่าทำแล้วต้องอร่อยแน่นอน 

บัวลอย ไข่หวาน

สำหรับใครที่อยากลองทำบัวลอย ไข่ หวานไว้ทานกับครอบครัว หรือจะทำเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับตนเองอีกทางหนึ่ง แนะนำให้ทำตามสูตรขนมไทยชาววังที่กล่าวมาข้างต้นได้เลย รับรองไม่ทำให้ผิดหวัง

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารนานาชาติ

เผยสูตร เบอร์เกอร์ เมนูยอดฮิต สไตล์โฮมเมค ทำเองได้ไม่ยาก

เบอร์เกอร์

เบอร์เกอร์ เป็นอาหารที่มีรายงานว่ามีถิ่นกำเนิดอยู่ประเทศเยอรมันนี ต่อมามีการแพร่หลายมาในประเทศอเมริกา ดังนั้นจึงเป็นอาหารสไตล์อเมริกัน ซึ่งจัดอยู่ในอาหารประเภทแซนด์วิช โดยส่วนประกอบมีเพียง เนื้อสัตว์ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อวัว เนื้อหมู หรือเนื้อปลา นำมาปรุงให้มีรสชาติกลมกล่อม ตามด้วยผักกาดหอม หอมหัวใหญ่ เพิ่มความอร่อยด้วยแผ่นชีส พร้อมขนมปังก้อนกลมประกบบนล่างนั้นเอง 

เบอร์เกอร์

เบอร์เกอร์ เป็นเมนูอาหารฝรั่งยอดฮิตที่นิยมทานกันมากที่สุด เพราะเป็นอาหารจานด่วนที่มีรสชาติเปรี้ยวของซอสมะเขือเทศตัดกับเนื้อนุ่มๆ อร่อยกลมกล่อมสุดๆ สามารถทานได้ทุกวัน แถมยังเป็นอาหารที่มีความสะดวกรวดเร็วอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นเมนูที่สามารถหาทานในร้านอาหารนานาชาติทั่วไป และมีขายตามร้านอาหารทั่วไป ดังนั้นจึงเมนูที่หาทานได้ง่าย แต่สำหรับใครที่อยากทำเมนูสไตล์อเมริกันดูสักครั้ง แต่ไม่รู้จะทำสูตรไหนดี ขอแนะนำสูตร เบอร์เกอร์ เนื้อนุ่ม รสชาติกลมกล่อม มาให้ได้ลองทำ ว่าแล้วไปดูกันเลย

วิธีทำ เบอร์เกอร์ เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ รสชาติกลมกล่อม อร่อยจัดเต็ม ฟินทุกคำ

เบอร์เกอร์

เบอร์เกอร์หนึ่งในอาหารสไตล์อเมริกันที่มีรสชาติอร่อยถูกปากทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือ ผู้ใหญ่สามารถทานเมนูเบอร์ เกอร์ ได้ทุกคน อีกทั้งยังเป็นเมนูที่ขายดีเป็นอันดับต้นๆ ของอาหารอเมริกันเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละร้านก็จะมีสูตรลับเฉพาะการหมักเนื้อที่แตกต่างกันไป จึงทำให้รสชาติของเนื้อมีความแตกต่างกันไปด้วย ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมาดู วิธีทําเบอร์เกอร์ ง่ายๆ อร่อยเหมือนทานที่ร้านอาหารระดับห้าดาวเลยทีเดียว และที่สำคัญ เบอร์เกอร์โฮมเมดที่ได้จะมีความหอมรสชาติกลมกล่อม สำหรับสูตรเบอร์เกอร์ที่จะนำมาแชร์จะเป็นหมูนุ่มฉ่ำๆ อร่อยสุดๆ 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

เบอร์เกอร์
  1. เนื้อหมูบดเกรดพรีเมียม 500 กรัม
  2. เนยเค็ม 10 กรัม
  3. หอมหัวใหญ่สับละเอียด 20 กรัม
  4. ซอสมะเขือเทศ 4 ช้อนโต๊ะ
  5. ผงโอริกาโน่ 1 ซ้อนชา
  6. ซอมหอยนางรม 1 ซ้อนโต๊ะ
  7. น้ำตาลทราย 1 ซ้อนโต๊ะ
  8. พริกไทย 1 ซ้อนชา
  9. ไข่แดง 1 ฟอง
  10. ขนมปังเบอร์เกอร์ 1 ก้อน
  11. มะเขือเทศหั่นเป็นแว่นๆ 1 ลูก
  12. หัวหอมหั่นเป็นแว่นๆ 1 หัว
  13. ผักสลัดใส่ได้ตามใจชอบ
  14. มายองเนสตามใจชอบ
  15. ชีสแผ่นใส่ตามใจชอบ

สำหรับวัตถุดิบในการทำเบอร์เกอร์ สามารถใช้ซอสมะเขือเทศแทนซอสมายองเนสได้ตามใจชอบ รวมถึงผักต่างๆ สามารถใส่ได้ตามใจชอบได้เลย และในลำดับต่อมาเราจะมาทำเบอร์เกอร์ทำเองง่ายๆ ขั้นตอนไม่ซับซ้อนว่าแล้วไปลงมือทำกันเลย

เบอร์เกอร์
  1. มาเริ่มที่ขั้นตอนแรก เตรียมหัวหอมใหญ่ที่สับละเอียดดีแล้วนำไปผัดกับเนยเค็มให้มีกลิ่นหอม และหลังจากนั้นใส่ซอสมะเขือเทศ กับผงโอริกาโน่ลงไป จากนั้นผัดต่อไปให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
  2. หลังจากที่ทำการผัดหัวหอมเสร็จแล้ว นำไปพักไว้ให้เย็น จากนั้นใส่หมูบด น้ำตาล ซอสหอยนางรม พริกไทย และไข่แดง คลุกเคล้าให้ส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน พักไว้ประมาณ 20 นาที เพื่อให้เครื่องปรุงซึมเข้าเนื้อหมูบด จากนั้นนำมาปั้นเป็นก้อน 
  3. นำหมูที่ปั้นเป็นก้อนแล้ว มาทำให้สุก โดยการนำกระทะตั้งไฟอ่อนๆ จากนั้นนำหมูวางลงไปรอให้สุก และตามด้วยขนมปังเบอร์เกอร์ที่ทำการทาเนยแล้วเรียบร้อยจี่ในกระทะให้หน้าขนมปังมีสีเหลืองสวยงาม และหลังจากที่รอหมูสุกใส่หอมหัวใหญ่ที่หั่นเป็นแว่นๆ จี่ให้สุก
  4. หลังจากหมูสุกเรียบร้อยแล้วให้นำหมูมาประกบกับเบอร์เกอร์ และใส่หอมหัวใหญ่ที่จี่ไว้ ทาซอสมายองเนส ใส่ผักสลัด มะเขือเทศแว่น ประกบด้วยขนมปังที่จี่ไว้ เสร็จพร้อมเสิร์ฟ

จบไปแล้วกับวิธีทำเบอร์เกอร์ตามสไตล์โฮเมคตามสูตรดั้งเดิม ต้องบอกเลยว่ารสชาติของแฮมเบอร์เกอร์ที่ทำเองอร่อยไม่แพ้ที่ขายในร้านระดับห้าดาวแน่นอน อีกทั้งวัตถุดิบนั้นหาซื้อได้ง่ายมาก แถมขั้นตอนการทำนั้นง่ายมากๆ หากชอบทานเมนูอาหาร อเมริกันเป็นชีวิตจิตใจ แนะนำเมนูอาหารเบอร์เกอร์แฮมสูตรดั้งนี้ได้ไม่ผิดหวัง 

วิธีทำเมนูอาหารอเมริกัน ง่ายๆ เบอร์เกอร์แฮมเนื้อนุ่มนิ่ม มือใหม่ก็ทำได้

เบอร์เกอร์

อีกหนึ่งสูตรเบอร์เกอร์ที่อยากแนะนำ นั่นคือ ดับเบิ้ลชีสเบอร์เกอร์ เป็นเมนูอาหารอเมริกันที่มีหอมกลิ่นชีส และเนื้อวัวรสชาติกลมกล่อมสุดๆ สำหรับขั้นตอนในการทำเพียงใช้เนื้อวัวบดปั้นเป็นก้อนกลมๆ จากนั้นนำไปย่างให้สุก ในระหว่างรอเนื้อให้นำหอมหัวใหญ่มาผัดใส่เนย พริกไทย เกลือ น้ำส้มสายชูบัลซามิก ผัดส่วนผสมให้สุก พักไว้ นำขนมปังทาเนยย่างให้หอม เสร็จแล้วนำเนื้อที่ย่างสุกแล้ววางบนขนมปังใส่มะเขือเทศ ชีส และหอมหัวใหญ่ และผักสลัด จากนั้นนำขนมปังอีกชิ้นประกบ เพียงแค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เบอร์เกอร์

การทำเบอร์เกอร์ให้อร่อย และรสชาติกลมกล่อม ในขั้นตอนการปรุงเนื้อควรหมักไว้ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นนำมาย่างในกระทะ ในระหว่างที่ย่างให้ใส่น้ำชุปเนื้อใส่ลงไปในกระทะเล็กน้อย เพื่อให้เนื้อนุ่มนิ่ม ไม่แห้งเกินไป และรสชาติที่กลมกล่อมหอมละมุน อร่อยอย่างลงตัว สำหรับชิสเบอร์เกอร์ เป็นเมนูอาหารอเมริกันที่นิยมทานมากในช่วงเช้า เพราะเป็นเมนูง่ายๆ สไตล์โฮมเมคที่ทำได้ไม่ยาก และขั้นตอนไม่ซับซ้อนสามารถทำได้ด้วยตัวเอง และถ้าอยากลองทำขายก็สามารถสร้างกำไรได้ดีเลยทีเดียว

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
เบเกอรี่

แจกสูตรความอร่อย ขนม คุกกี้ สับปะรด หวานอมเปรี้ยม เนื้อสับปะรดเต็มคำ 

คุกกี้ สับปะรด

ใครที่ชอบทานสับปะรดต้องไม่พลาด เพราะวันนี้เราจะมาแจกสูตร คุกกี้ สับปะรด รสชาติหวานอมเปรี้ยว แป้งน้อย แต่ไส้เยอะ และขนาดพอดีคำ รวมถึงเทคนิคการทำไส้สับปะรดอย่างง่ายๆ ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องซื้อสำเร็จรูป รวมถึงขั้นตอนการทำคุกกี้ สับปะรดด้วยตัวเอง มือใหม่ทำได้ ไม่ว่าจะทำขาย หรือทำทานเองก็อร่อยแน่อนอน หรือจะทำเป็นของขวัญมอบให้กับเพื่อน หรือญาติผู้ใหญ่ก็ปังสุดๆ แถมยังเป็นขนมที่ใช้ต้นทุนต่ำอีกด้วย เรียกได้ว่า ซื้อวัตถุดิบมาครั้งเดียวสามารถทำขนมคุกกี้ สูตรสับปะรดได้หลายชิ้นมากๆ 

คุกกี้ สับปะรด

คุกกี้ สับปะรดเป็นอีกหนึ่งเมนูขนมหวานที่มีความโดดเด่น และแปลกใหม่ต่างจากคุกกี้ทั่วไปที่เคยทาน เพราะสูตรนี้จะเป็นการนำสับปะรดที่เราทานกันทุกวันมาทำเป็นไส้ขนมคุกกี้ จึงทำให้รสชาติที่ได้มีความหวานอมเปรี้ยว และมีกลิ่นเนยอ่อนๆ เข้ากันได้ดีเลยทีเดียว หากใครชอบขนมที่มีรสชาติเปรี้ยวนิดๆ ขนมคุกกี้ สูตรสับปะรดเป็นอีกหนึ่งขนมหวานที่ตอบโจทย์ ไม่ผิดหวังแน่นอน

เผยขั้นตอนการทำ คุกกี้ สับปะรด ไส้แน่นๆ ทำง่ายนิดเดียว แถมอร่อยด้วย

คุกกี้ สับปะรด

กลับมาอีกครั้งกับการทำขนมคุกกี้แสนอร่อย โดยวันนี้จะพาทำสูตร คุกกี้สับปะรด เนื้อไส้สับปะรดแบบจัดเต็ม เพราะเราเน้นไส้ แต่ไม้เน้นแป้ง หากใครชอบทานสับปะรดต้องบอกเลยว่า คุกกี้ ไส้ สับปะรด คือหนึ่งในเมนูคุกกี้ที่ตอบโจทย์อย่างแน่นอน นอกจากนี้คนที่ทานเจ หรือกำลังทานเจอยู่ตอนนี้สามารถทานคุกกี้ชนิดได้ด้วย เพราะมีสูตรคุกกี้สับปะรดเจ ซึ่งจะใช้มาการีนแทนเนยสด และส่วนผสม และวัตถุดิบเป็นของเจทั้งหมด ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องเจไม่เจเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นขนมคุกกี้สับปะรดที่สามารถทานได้ทั้งคนทั่วไป และคนที่ทานเจเลยอีกด้วย

วัตถุดิบ และส่วนผสมของแป้งคุกกี้

  1. แป้งข้าวโพด 100 กรัม
  2. แป้งเค้ก หรือแป้งอเนกประสงค์ 500 กรัม
  3. นมผง 50 กรัม
  4. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  5. เกลือ ½ ช้อนชา
  6. น้ำตาลไอซิ่ง 200 กรัม
  7. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
คุกกี้ สับปะรด

ส่วนผสม และวัตถุดิบของไส้สับปะรด

  1. สับปะรดสด 1000 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 100 กรัม
  3. น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ
  4. เกลือ ½ ช้อนชา
  5. น้ำมันพืช 1 ช้อนชา

หลังจากที่เตรียมวัตถุดิบ และส่วนผสมของขนมคุกกี้ สับปะรดเรียบร้อยแล้ว ในขั้นตอนต่อมาเราจะพามาดูขั้นตอนการทำคุกกี้สอดไส้สับปะรด สำหรับสูตรคุกกี้สับปะรดที่ใช้ทำนั้นง่ายมากๆ ไมยุ่งยาก และไม่ซับช้อนอีกด้วย เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปลงมากันเลย

คุกกี้ สับปะรด
  1. นำสับปะรดมาปอกเปลือกให้หมด และหั่นสับปะรดเป็นชิ้นเล็กๆ ให้ละเอียด จากนั้นตั้งกระทะ เปิดไฟปานกลาง หลังจากนั้นใส่สับปะรดที่เตรียมไว้ลงไป ใส่น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู เกลือ ลงไป คนส่วนผสมของสับปะรดไปเรื่อยๆ จนกว่าสับปะรดจะแห้ง เหนียวหนึบหนับ เมื่อได้สับปะรดกวนเรียบร้อยแล้ว ให้นำออกจากเตา พักไว้ให้เย็น
  2. หลังจากที่เตรียมสับปะรดกวนเรียบร้อย ต่อมาจะเป็นขั้นตอนการเตรียมแป้ง โดยเริ่มแรกใส่เนยชนิดจืด และน้ำตาลไอเลงไป นำเข้าเครื่องตีขนม เมื่อเนยกระจายตัวเรียบร้อยแล้ว ใส่ไข่ไก่ลงไปแล้วตีอีกรอบ เมื่อส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกันแล้วให้ใส่แป้งข้าวโพด และแป้งเค้กที่ร่อนไว้เรียบร้อยแล้วลงไป ตามด้วยนมผง และเกลือ ทำการตีส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  3. นำสับปะรดกวนมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ นำแป้งขนมที่เตรียมไว้มาห่อไส้สับปะรดให้เป็นรูปทรงกลม เสร็จแล้วนำมากดในพิมพ์ที่เตรียมไว้ จากนั้นนำขนมที่ได้เข้าตู้เย็นประมาณ 10 นาที เพื่อให้แป้งเซตตัว 
  4. นำขนมออกจากตู้เย็น มาวางในถาดอบขนม แล้วนำเข้าตู้อบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เปิดไฟบน-ล่าง เป็นเวลา 15 นาที เสร็จแล้วนำออกมาพักไว้ให้เย็น
คุกกี้ สับปะรด

หลังจากที่ทำคุกกี้ สับปะรด เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้นำมาจัดใส่จานให้สวยงาม โดยรสชาติของขนมที่ได้จะมีความหอมของสับปะรด และกลิ่นเนยอร่อยอย่างลงตัว นอกจากนี้หากทานขนมเบเกอรี่ อย่างคุกกี้สอดไส้สับปะรดคู่กับเครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้วจะยิ่งทำให้รสชาติของขนมอร่อยมายิ่งขึ้น 

ขนมคุกกี้สอดไส้สับปะรดเบเกอรี่ยอดนิยม ทำขายสร้างรายได้ 

สำหรับใครที่อยากลองทำคุกกี้ สับปะรด เนื้อแน่นจัดเต็ม รสชาติหวานอร่อยกำลังดี วันนี้เรามีเคล็ดลับการทำเบเกอรี่ง่ายๆ อย่างคุกกี้สอดไส้สับปะรดมาให้คนที่สนใจได้ลองทำขายดูบ้าง โดยขั้นตอนเตรียมแป้งขนม ถ้าอยากแป้งมีความนุ่มนิ่ม ควรนำแป้งที่เตรียมเสร็จแล้วไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 5-10 นาที ก่อนนำมาห่อด้วนไส้สับปะรด เพียงแค่ก็จะได้ขนมคุกกี้เนื้อแป้งนุ่ม และอร่อย สำหรับขนมคุกกี้สอดไว้สับปะรดสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น คุกกี้สอดไส้สับปะรดรูปหอยแครง รูปหมูน้อย หรือจะเป็นรูปตัวหนอนที่มีหน้าตา และสีสันสวยงาม 

คุกกี้ สับปะรด

สำหรับขนม คุกกี้ สับปะรด เป็นขนมเบเกอรี่ทำเองง่ายนิดเดียว แถมยังสามารถทำทานได้ทั้งครอบครัว และนำเป็นของฝากให้คนพิเศษได้ด้วย และแน่นอนว่าขนมเบเกอรี่โฮมเมดอย่าง คุกกี้สอดไส้สับปะรดยังสามารถนำมาขาย เพื่อสร้างรายได้ และสร้างอาชีพได้อีกทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเปิดร้าน และขายทางออนไลน์รายได้ปังแน่นอน อีกข้อดีของคุกกี้สูตรนี้สามารถเก็บไว้ทานได้นานเป็นอาทิตย์ โดยที่รสชาติขนมยังคงมีความอร่อยเหมือนเดิม

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
เบเกอรี่

เปิดครัวชวนทำ ซอ ฟ คุกกี้ ในตำนาน รสชาติหวานละมุนลิ้น แป้งนุ่มอร่อยฟินทุกคำ 

ซอ ฟ คุกกี้

มาต่อกันที่ขนมหวานในตำนานอย่าง ซอ ฟ คุกกี้ เป็นขนมเนื้อนุ่ม กรอบเล็กน้อย รสชาติหวานละมุน ที่มาพร้อมกับความกลิ่นช็อกโกแลตอ่อนๆ นอกจากนี้ยังมีกลิ่นของคาราเมลอ่อนอีกด้วย สำหรับขนมชนิดนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูคุกกี้ที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญยังเป็นขนมสุดฮิตของกลุ่มเด็กๆ อีกด้วย เพราะเป็นมที่สามารถทานกับอะไรก็อร่อย โดยเฉพาะนมสด หากทานคู่กันจะทำให้รสชาติของขนมมีความอร่อย และฟินคำ และที่สำคัญยังเป็นขนมที่สามารถทานได้ทั้งครอบครัว และทานได้ทุกเทศกาล 

ซอ ฟ คุกกี้

วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำซอ ฟ คุกกี้ เมนูขนมหวานยอดนิยมที่มีรสชาติที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร สำหรับสูตรซอฟ คุกกี้ที่จะแชร์ให้ได้ติดตามนั้น เป็นสูตรที่สามารถทำทานได้ง่ายๆ ขั้นตอนต่างๆ ไม่ซับช้อน และไม่ต้องมีอุปกรณ์มากมาย เพียงแค่มีเตาอบขนมก็สามารถขนมชนิดนี้ได้แล้ว นอกจากนี้ขนมทำเองยังสามารถนำไปเป็นของฝากให้กับคนพิเศษในวันพิเศษอีกด้วย หรือจะทำเป็นอาชีพก็ปังสุดๆ 

วิธีทำ ขนม ซอ ฟ คุกกี้ ซ็อคโกแลต หวานนุ่มนิ่ม ทานได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ 

ซอ ฟ คุกกี้

เมนูขนมหวานคุกกี้มีหลากหลายสูตรมากมาย โดยแต่ละสูตรจะมีความแตกกันอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นรสชาติ สี กลิ่น รูปร่างหน้าตาขนม เป็นต้น ดังนั้นหากใครเป็นสายคุกกี้ต้องไม่พลาด เพราะเราได้คัดสรรค์สูตรขนมหวานที่กำลังมาแรงอยู่ตอนนี้ นั่นก็คือ ซอฟ คุกกี้ มาให้ติดตามกัน โดยเฉพาะเมนูซอฟคุกกี้เนยสด เป็นยอดฮิตตลอดกาลที่มีลักษณะเนื้อแป้งเป็นสีน้ำตาลอ่อนของซ็อกโกแลต รสชาติหวานละมุนกำลังดี ส่วนเนื้อแป้งนุ่มนิ่ม และกรุบกรอบเล็กน้อย อีกทั้งยังมีความหอมกลิ่นหอมเนยสดอร่อยทานได้ทุกเวลาไม่มีเบื่อ ในส่วนของวิธีการทำซอฟคุกกี้ก็ง่ายนิดเดียว แถมยังสามารถปรับรสชาติได้ตามใจชอบอีกด้วย 

ซอ ฟ คุกกี้

ส่วนผสม และวัตถุดิบที่เตรียม

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 250 กรัม
  2. เนยสดชนืดจืด 150 กรัม
  3. น้ำตาลทรายแดง 140 กรัม
  4. น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม
  5. ซ็อกโกแลต 180 กรัม
  6. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  7. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  8. เกลือป่น ½ ช้อนชา

สำหรับการทำซอฟคุกกี้ หากใครไม่ชอบความหากใครไม่ชอบรสชาติหวานเกินไปสามารถลดน้ำตาลลงได้ แต่สำหรับสูตรคุกกี้ที่เรานำมาแชร์นั้นเป็นสูตร ซอ ฟ คุกกี้ หวานน้อย ดังนั้นไม่ต้องกังวลใจว่าเรื่องความอ้วน เพราะคุกกี้ สูตรหวานน้อยไม่ทำให้อ้วนแน่นอน และวิธีการทำนั้นสามารถทำตามได้ดังต่อไปนี้

ซอ ฟ คุกกี้
  1. มาเริ่มกันที่นำแป้งมาร่อนในภาชนะที่เตรียมไว้ เพื่อเอาตะกอนออก จากนั้นพักไว้ก่อน ต่อมาให้เตรียมละลายเนย โดยการนำเนยสดชนิดจืดมาใส่ในหม้อ เปิดไฟอ่อนๆ คนเนยเรื่อยๆ จนกว่าเนยจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล จากนั้นนำมากรองด้วยกระชอน แนะนำให้ใช้ตาถี่ เพื่อกรองตะกอนที่ไม่ละลายออกจากเนย จากนั้นนำภาชะที่มีเนยอยู่มาวางบนอ่างน้ำร้อน เพื่อไม่ให้แข็งกลับมาเซตตัว
  2. หลังจากนั้นใส่น้ำตาลทรายแดง และน้ำตาลทรายขาวลงไปในภาชนะที่มีเนยอยู่ ตามด้วยไขไก่ และกลิ่นวานิลลาลงไปด้วย ตีส่วนผสมทั้งหมดจนกว่าน้ำตาลจะละลายด้วยตะกร้อไฟฟ้า ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ที่เตรียมไว้ เกลือ และเบกกิ้งโซดา หลังจากนั้นใช้ไม้พายตะล่อมส่วนผสมทั้งให้เข้ากัน และเป็นเนื้อเดียวกัน 
  3. เพื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ให้ใส่ซ็อกโกแลตลงไป ทำการตะล่อมส่วนผสมทั้งหมดอีกครั้ง เสร็จแล้วนำมาตักใส่ถาดอบขนม โดยการนำกระดาษไขมาลองถาดก่อน แล้วค่อยใช้ช้อน หรือสคูปตักไอศกรีม และใช้พายปาดส่วนที่เกินออก นำมาวางบนถาดอบขนม โดยวางขนมแต่ละชิ้นให้ห่างกันประมาณ 2 เชนติเมตร 
  4. จากนั้นนำถาดขนมเข้าอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที จากนั้นนำออกมาพักไว้ให้เย็น จัดขนมใส่จานให้สวยงาม เตรียมตั้งโต๊ะรับประทาน
ซอ ฟ คุกกี้

ขนมซอฟคุกกี้หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า คุกกี้นิ่ม เมื่อทำเสร็จแล้วจะมีเนื้อแป้งนุ่มนิ่ม หนึบหนับ หอมกรุ่นเนยสด และกลิ่นซ็อกโกแลตอ่อนๆ รสชาติหวานนุ่มนวลพอดี เหมาะสำหรับคนที่กำลังลดความอ้วน แต่อยากทานขนมสักชิ้นให้ชื่นใจ แต่ถ้าใครต้องรสชาติที่หวานกว่านี้สามารถเพิ่มน้ำตาลได้เลยอร่อยหวานจัดจ้านแน่นอน 

แนะนำวิธีทำขนม คุกกี้ปีใหม่ ของขวัญสุดพิเศษ เพื่อคนพิเศษ

สำหรับใครที่กำลังมองหาของขัวญปีใหม่อยู่ตอนนี้ แต่ไม่รู้ว่าจะมอบอะไรเป็นของขวัญกับญาติผู้ใหญ่ ขอแนะนำ เมนูเบเกอรี่ อย่างซอฟ คุกกี้ หรือ Soft Cookie สูตร มัทฉะไวท์ซ็อกโกแลต เป็น เบเกอรี่ยอดนิยม มีรสชาติโดดเด่นด้วยกลิ่นชาเขียวมัทฉะ หอมอบอวลอร่อยฟินทุกชิ้น แต่ถ้าไม่อยากซื้อคุกกี้เป็นของขวัญสามารถทำเบเกอรี่ง่ายๆ ได้ด้วยตัวเอง เพียงใช้สูตร และขั้นตอนตามที่กล่าวมาข้างต้น จากนั้นเพิ่มเติมชาเขียวมัทฉะ 20 กรัม และ เปลี่ยนจากดาร์กซ็อกโกแลตเป็นไวท์ซ็อกโกแลตแทน จากนั้นคนส่วนผสมทั้งมหดให้เข้ากัน และเป็นเนื้อเดียวกัน นำมาตักใส่ถาดอบขนมและนำไปอบ เมื่ออบเร็จแล้วจะได้ขนมคุกกี้ที่มีสีเขียวอ่อน ที่มาพร้อมกับความของกลิ่นมัทฉะ จากนั้นบรรจุใส่ขวดโหลตกแต่งให้สวยงาม

ซอ ฟ คุกกี้

เป็นอย่างไรบ้างกับซอฟคุกกี้ ซึ่งเป็นสูตรเบเกอรี่ทำเองอย่างง่ายๆ ที่นำแชร์ในวันนี้ หวังว่าทุกคนจะมีความสุขกับการทำคุกกี้ สูตรนุ่มนิ่ม หนึ่งในเมนูเบเกอรี่โฮมเมด เพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับคนพิเศษในวันพิเศษ หรือทำไว้ทานกับครอบครัวก็ได้เช่นกัน

อ่านบทความอื่นๆ:

  • “ราดหน้าหมี่กรอบ” หมี่เหลืองกรอบ อร่อย ฉ่ำน้ำสต๊อกง
Categories
ขนมไทย

แชร์สูตรโบราณ ขนม เปียก ปูน กะทิ สด หอมกรุ่น อร่อย ละมุนละไม

เปียก ปูน กะทิ สด

เปียก ปูน กะทิ สด คือขนมปรับปรุงสูตรมาจากขนมเปียกปูนสูตรดั้งเดิม ซึ่งเป็นหนึ่งในขนมหวานยอดนิยมของชาวบ้านในสมัยอดีต โดยขนมเปียกปูนได้ถูกดัดแปลงมาจากขนมกวน โดยส่วนผสมหลักของขนมเปียกปูนมีเพียงไม่กี่อย่าง อาทิ แป้งท้าวยายม่อม แป้งข้าวเจ้า น้ำตาล กะทิสด ผสมกับสีของใบเตย และกวนให้เป็นเนื้อเดียวกัน โดยสีของขนมเปียกปูนที่ได้จะมีสีเขียวธรรมชาติ เนื้อเนียนนุ่ม รสชาติหวาน หอมกลิ่นใบเตยอ่อนๆ สำหรับชื่อของขนมเปียกปูนมาจากส่วนส่วนผสมที่ใช้ในการทำขนม นั้นก็คือ น้ำปูนใส นั่นเอง จึงทำให้เป็นที่มาของขนมเปียกปูน ที่เรียกมาตั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน

เปียก ปูน กะทิ สด

เมนูขนม เปียกปูน กะทิ สด ถือว่าเป็นเมนูที่ขึ้นชื่อมาอย่างยาวนาน เพราะเนื้อสัมผัสของขนมที่เนียนนุ่ม เหนียวหนึบ ตัดกับกลิ่นใบเตย และกลิ่นกะทิได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่าเป็นขนมที่ทานแล้วชื่นใจสุดๆ อีกทั้งสีเขียวของขนมยังทำให้เพิ่มความน่ารับประทานมากขึ้นอีกด้วย และเป็นอีกหนึ่งเมนูที่สามารถทานเล่นๆ คลายร้อนได้ดีสุดๆ สำหรับใครที่ชอบทานขนมหวานโบราณ ไม่ควรพลาด เพราะเรามีสูตรทำขนมเปียก ปูน กะทิ สด มาให้ได้ติดตาม ว่าแล้วไปดูกันเลย

วิธีทำ ขนมเปียกปูน กะทิสด ตามฉบับชาววัง ทำง่ายๆ อร่อยถูกปากกันทั้งครอบครัว

เปียก ปูน กะทิ สด

ในช่วงวันหยุดยาวแบบนี้อยู่บ้านไม่รู้จะทานอะไรดีที่คลายร้อนได้ ขอแนะนำขนมเปียก ปูน กะทิ สด เมนูยอดนิยมสำหรับคลายร้อนในช่วงสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวแบบนี้ สำหรับเปียกปูนกะทิสดสูตรปัจจุบันจะมีลักษณะแตกต่างไปจากขนมเปียกปูนสูตรดั้งเดิม คือ เนื้อขนมจะมีความแข็งตัวน้อยกว่า แต่ขนมยังคงมีความเหนียวนุ่มเหมือนเดิม และรสชาติยังคงอร่อยตามสูตรโบราณไม่เปลี่ยนแปลง ที่สำคัญวิธีทำขนมเปียกปูนสามารถได้ง่ายๆ แถมส่วนผสม เปียกปูนกะทิสดโบราณจะใช้เพียงน้อยนิด ดังนั้นวัตถุดิบที่เหลือสามารถนำไปทำขนมได้อีกในครั้งต่อไปได้ด้วย 

วัตถุดิบ และส่วนผสมของขนมเปียกปูน

  1. แป้งท้าวยายม่อม 100 กรัม
  2. แป้งข้าวเจ้า 150 กรัม
  3. น้ำตาลโตนด 70 กรัม
  4. น้ำตาลทราย 30 กรัม
  5. เกลือ ½ ช้อนชา
  6. น้ำปูนใส 200 กรัม
  7. น้ำมะพร้าว 200 กรัม
  8. น้ำใบเตย 300 กรัม
  9. กะทิสด 150 กรัม
เปียก ปูน กะทิ สด

วัตถุดิบ และส่วนผสมของน้ำกะทิ

  1. กะทิสด 300 กรัม
  2. แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
  3. งาคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ

ปัจจุบันขนมเปียกปูนกะทิ สด มีการประยุกต์ให้สวยงามจนกลายมาเป็นขนมเปียกปูนกะทิสดดอกไม้ที่สวยงามน่ารับประทานมากขึ้น สำหรับสูตร เปียกปูนกะทิสดที่นำมาแชร์เป็นสูตรโบราณแบบดั้งเดิม รสชาติหวานหอมกรุ่นใบเตยละมุนลิ้นจนต้องทานเพิ่มเลยทีเดียว ในส่วนของวิธีทำขนมเปียกปูนนั้นง่ายเดียว เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปดูขั้นตอนกันเลย

เปียก ปูน กะทิ สด
  1. ในขั้นตอนแรก ให้นำแป้งท้าวยายม่อม แป้งข้าวเจ้า น้ำตาลโตนด น้ำตาลทราย น้ำกะทิ เกลือ ใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นนวดแป้งให้เป็นเนื้อเดียวกัน 
  2. หลังจากที่แป้งเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว นำน้ำปูนใส น้ำใบเตย น้ำมะพร้าว ใส่ในภานะที่เตรียมไว้ ใช้ตะกร้อผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน นำไปผสมกับแป้งที่เตรียมไว้ จากนั้นนำมากรองด้วยผ้าขาวบาง เทใส่ในกระทะสำหรับกวนแป้ง
  3. นำกระทะไปตั้งไฟปานกลาง จากนั้นกวนแป้งไปในทิศทางเดียวกัน และต้องกวนให้ถึงกระทะ เพื่อให้แป้งสุกพร้อมกัน เมื่อแป้งเริ่มจับตัวกันให้เร่งความเร็วในการคนแป้งมากขึ้นจนกว่าแป้งจะใส แสดงว่าแป้งสุกดีแล้ว ปิดไฟ และนำกระทะออกจากเตา 
  4. นำขนมตักใส่ถุงสำหรับสำหรับบีบขนม จากนั้นบีบขนมให้เป็นรูปดอกไม้ หรือจะเทใส่พิมพ์ได้ตามใจชอบ 
  5. ต่อมาเป็นขั้นตอนการทำน้ำกะทิ เริ่มจากใส่กะทิลงไปในหม้อ ใส่แป้งข้าวเจ้า เกลือ ผสมให้เข้ากัน เสร็จแล้วนำไปตั้งไฟปานกลาง จากนั้นคนจนกะทิแตกมัน และเข้มข้นขึ้น รอให้เดือด แล้วยกออกจากเตา นำไปราดบนขนมเปียกปูนที่เตรียมไว้ ตามด้วยงาคั่วแสนอร่อย พร้อมจัดใส่จานให้สวยงาม

ขนม เปียก ปูน กะทิสด จะมีความหอมกลิ่นใบเตย และกะทิเข้มข้นอร่อยมากกว่าขนมเปียกปูนสูตรทั่วไป และอีกหนึ่งความอร่อยก่อนที่จะนำมารับประทานควรนำไปแช่ในตู้เย็นก่อนจะทำให้เปียกปูนสูตรขนม ไทยมีความหวานสดชื่น และอบอวลไปด้วยกลิ่นใบเตยอร่อยจนต้องทานเพิ่มอีกจานเลยทีเดียว

สูตรขนมไทย แนะนำ ขนมเปียกปูน สูตรกะทิสด มะพร้าวอ่อน

เปียก ปูน กะทิ สด

สายขนมหวานไม่ควรพลาด เพราะนอกจากสูตร เปียกปูนกะทิสด ที่แสนอร่อยแล้ว เรามีอีกหนึ่งสูตรที่อยากแนะนำนั่นก็คือ ขนมเปียกปูน กะทิสด มะพร้าวอ่อน ซึ่งเป็นหนึ่งในขนม โบราณยอดนิยม และยังเป็นสูตรขนมไทย โบราณที่มีรสชาติหวานละมุน ที่มีเนื้อมะพร้าวกรุบกรอบเคี้ยวเพลินสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นขนม หวาน ไทยที่สามารถทานได้ไม่มีเบื่อ ที่สำคัญขนมเปียกปูนสูตรกะทิสด มะพร้าวอ่อน เป็นขนม ไทย ทำ ง่ายนิดเดียว เพียงแค่มีแป้ง น้ำตาล กับน้ำกะทิก็สามารถทำขนม ไทย ง่ายๆ โดยสูตรและ ขั้นตอนการทำสามารถใช้สูตรของขนมเปียกปูนกะทิสดได้เลย เพียงแค่ใส่เนื้อมะพร้าวเพิ่มเข้าไปด้วย เสร็จแล้วจัดเสิร์ฟใส่จานได้เลย

จบไปแล้วกับสูตรเปียกปูน กะทิสด ซึ่งเป็นขนมไทย ทำเองได้ที่บ้าน สำหรับมือใหม่สามารถลองทำตามสูตร ขนม ไทยที่เรานำมาแชร์ให้ติดตามได้เลย รับรองว่าทำง่ายอร่อยด้วย และทำขายได้แน่นอน 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารนานาชาติ

ชวนทำเมนูยอดฮิต ขนมปังอิตาเลี่ยน Focaccia อาหารว่าง ทานได้ทุกวัน

Focaccia

หากพูดถึงเมนูอาหารว่าง หรืออาหารยามเช้าเชื่อว่าเมนูขนมปังต้องติดอยู่ในอันดับต้นๆ ในเมนูยอดนิยมอย่างแน่นอน และอีกเมนูที่หลายคนชอบทานคือ Focaccia เป็นขนมปังสไตล์อิตาเลี่ยนที่มีความโดดเด่นด้วยกลิ่นสมุนไพร และน้ำมันมะกอกอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งขนมปังยังมีเนื้อแน่นผสมสานกับรสชาติเค็มเล็กน้อย และที่สำคัญคือ ท็อปปิ้งแบบพิซซ่ายิ่งทำให้เพิ่มรสชาติขนมปังมีความอร่อย และฟินสุดๆ

Focaccia

ชาวอิตาเลี่ยนไม่ควรพลาด เพราะวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำFocaccia ขนมปังสไตล์พิซซ่า เนื้อนุ่มหนึบหนับ ไม่แข็ง สำหรับขนมปังสไตล์อิตาเลี่ยนจะมีคล้ายคลึงกับแป้งพิซซ่าที่เราทานกัน แต่เนื้อขนมปังด้านในจะมีความนุ่มกว่า ส่วนหน้าของขนมปังสามารถตกแต่งได้ตามใจชอบ แต่ยังคงกลิ่นสมุนไพรอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวนั่นเอง สำหรับวิธีทำFocacciaที่นำแชร์จะเป็บแบบโฮมเมคง่ายๆ ทำได้สบายมาก ที่สำคัญรสชาติอร่อยตามฉบับบสูตรดั้งเดิมไม่ผิดเพี้ยนแน่นอน

ขั้นตอนการทำ Focaccia ขนมยอดฮิตของชาวอิตาเลี่ยน สไตล์โฮมเมค ทำง่ายมาก 

Focaccia

สำหรับใครที่อยากทำเมนูอาหารสไตล์อิตาเลี่ยน แต่ไม่รู้จะทำเมนูไหนดี ขอแนะนำ Focacciaขนมปังจากอิตาลี เนื้อนุ่มหนึบหนับ หอมกลิ่นสมุนไพรชั้นเลิศความโดดเด่นไม่เหมือนใคร อีกทั้งอยังเป็นขนมปังที่สามารถทานได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ แต่ก่อนที่เราจะเข้าสู่กระบวนทำขนมปัง เราต้องมาทำความรู้จัก focaccia คือ เมนูขนมปังสไตล์อิตาเลี่ยนจากอิตาลี มีลักษณะแบนคล้ายแป้งพิซซ่า แต่สามารถทานแค่ขนมปังก็อร่อย หรือจะทานกับซอสต่างๆ อร่อยสุดๆ ไปเลย หรือจะแต่งหน้า focaccia คล้ายพิซซ่าก็อร่อยแปลกใหม่ ส่วนวิธีการทำฟอคคาเซีย หรือ ขนมปังอิตาลีมีรายละเอียดดังนี้ 

วัตถุดิบ และส่วนผสมของขนมปัง

  1. แป้งอเนกประสงค์ 300 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
  3. ยีสต์ 1 ช้อนชา
  4. น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
  5. น้ำมันมะกอก 20 กรัม
  6. เกลือป่น ½ ช้อนชา
Focaccia

วัตถุดิบ และส่วนผสมของหน้าขนมปัง

  1. ใบโรสแมรี่ 2 ก้าน
  2. มะกอกดำหั่นแว่น 3-5 ลูก
  3. มะเขือเทศหั่นเป็นแว่น 4-5 ลูก
  4. อิตาเลียนเอิร์บ 1 ช้อนโต๊ะ

สำหรับส่วนผสม และวัตถุดิบในการทำFocaccia ถ้าใครอยากแต่งหน้าขนมปังให้อร่อยแบบจัดเต็มสามารถนำวัตถุดิบชนิดอื่นมาแต่งหน้าได้ และในส่วนของขั้นตอนการทำอาหารอิตาลี อย่างขนมปังสามารถทำตามเราได้ดังนี้

Focaccia
  1. มาเริ่มกันที่ขั้นตอนแรก โดยการนำแป้งอเนกประสงค์ น้ำตาลทราย ยีสต์ และเกลือมาใส่ในภาชะที่เตรียมไว้ จากนั้นผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เมื่อส่วนผสมทั้งหมดเป็นเนื้อเดียวกันแล้วให้ใส่น้ำมันมะกอกลงไป ใช้มือนวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน 
  2. เมื่อนวดเสร็จแล้ว ให้นำมาปั้นเป็นทรงกลม จากนั้นพักไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง จะได้แป้งที่ฟูขึ้นอีกเท่าตัว ในระหว่างที่รอให้แป้งฟู ให้เตรียมถาดสำหรับอบขนม โดยใช้น้ำมันมะกอกที่เตรียมไว้ทาให้ทั่วถาด นำแป้งที่พักไว้มาวางไว้บนถาด จากนั้นกดแป้งให้เป็นทรงแบน และกลม 
  3. นำน้ำมันมะกอกมาทาบนหน้าขนมปัง เพื่อเพิ่มความหอมของขนมปัง และยังทำให้สีขนมมีสีเหลืองน่ารับประทาน จากนั้นตามด้วยโรสแมรี่แห้ง และเกลือให้ทั่วหน้าขนมปังอีกครั้ง พักแป้งขนมปังอักรอบประมาณ 20-30 นาที
  4. เมื่อครบกำหนดเวลาพักแป้งขนมปังแล้ว ตกแต่งหน้าด้วยมะเขือเทศหั่นเป็นแว่นๆ มะกอกดำหั่นแว่น และอิตาเลียนเอิร์บ อิตาเลียนเอิร์บ ตามด้วยใบโรสแมรี่ หลังจากนั้นให้นำถาดขนมปังเข้าเครื่องอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส เป็นเวลาประมาณ 20 นาที เสร็จแล้วเสิร์ฟ
Focaccia

ขนมปังFocacciaเป็นหนึ่งในเมนูอาหารอิตาลีที่มีส่วนผสมน้อย แต่รสชาติเค็มหน่อยๆ และเปรี้ยวเล็กน้อย อีกทั้งยังมีความหอมของน้ำมันมะกอกอ่อนๆ ทำให้เมื่อทานเข้าไปมีความฟินสุดๆ ที่สำคัญใช้เวลาในการทำขนมปังเพียงน้อยนิด รับรองว่าถ้ามีเวลาน้อยก็สามารถทำขนมปังชนิดนี้ได้แน่นอน ที่สำคัญขนมปังที่อบเสร็จใหม่จะมีความหอมน่าทานสุดๆ 

เผยวิธีขนมปังอาหารอิตาลี ง่ายๆ ฉบับคนมีเวลาน้อย

Focaccia

มาเอาใจสายไม่ค่อยมีเวลาทำอาหารกันบ้าง วิธีการทำFocaccia ขนมปังที่เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมอาหารอิตาลีที่รู้จักมาอย่างยาวนาน ให้อร่อยแบบดั้งเดิม โดยใช้สูตรที่เรานำแชร์ไว้ข้างต้น ซึ่งในขั้นตอนหลังจากนวดแป้งเสร็จแล้ว นำแป้งไปพักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นนำมานวดอีกครั้ง และแบ่งแป้งเป็นก้อนๆ นำไปพักไว้อีกครั้งประมาณ 20 นาที เสร็จแล้วนำถาดอบขนมมาทาด้วยน้ำมันมะกอก วางขนมปังลงไป จากนั้นทำเป็นแบนๆ นำเข้าอบที่อุณภูมิ 220 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที เพียงเท่านี้ก็เป็นเสร็จเรียบร้อย 

Focaccia

Focacciaเป็นเมนูอาหารอิตาเลี่ยนที่ไม่ต้องใส่ท็อปปิ้งก็จะอร่อยสุดๆ สามารถทานได้ทุกวันไม่มีเบื่อ และยังหาทานได้ตามร้านอาหารอิตาเลี่ยนทั่วไปอีกด้วย สำหรับขนมปังเป็นอาหารอิตาเลี่ยนแท้ๆ มีราคาค่อนข้างแพง แต่อร่อย และคุ้มค่าสุดๆ สำหรับใครที่อยากลองทำขนมปังสไตล์อิตาเลี่ยนนี้ดูก็สามารถทำตามสูตรที่นำมาแชร์ได้เลย ที่สำคัญขนมปังยังเป็นเมนูอาหารอิตาลี ทำเองได้ง่ายๆ ได้ที่บ้าน มือใหม่ก็ทำตามได้ ส่วนเรื่องรสชาติอร่อยตรงตามสูตรแบบดั้งเดิม และถ้าใครอยากเพิ่มความอร่อยสามารถใส่ท็อปปิ้งต่างๆ ได้ตามใจชอบอีกด้วย

อ่านบทความอื่นๆ: