Categories
เบเกอรี่

แจกสูตรความอร่อย ขนม คุกกี้ สับปะรด หวานอมเปรี้ยม เนื้อสับปะรดเต็มคำ 

คุกกี้ สับปะรด

ใครที่ชอบทานสับปะรดต้องไม่พลาด เพราะวันนี้เราจะมาแจกสูตร คุกกี้ สับปะรด รสชาติหวานอมเปรี้ยว แป้งน้อย แต่ไส้เยอะ และขนาดพอดีคำ รวมถึงเทคนิคการทำไส้สับปะรดอย่างง่ายๆ ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องซื้อสำเร็จรูป รวมถึงขั้นตอนการทำคุกกี้ สับปะรดด้วยตัวเอง มือใหม่ทำได้ ไม่ว่าจะทำขาย หรือทำทานเองก็อร่อยแน่อนอน หรือจะทำเป็นของขวัญมอบให้กับเพื่อน หรือญาติผู้ใหญ่ก็ปังสุดๆ แถมยังเป็นขนมที่ใช้ต้นทุนต่ำอีกด้วย เรียกได้ว่า ซื้อวัตถุดิบมาครั้งเดียวสามารถทำขนมคุกกี้ สูตรสับปะรดได้หลายชิ้นมากๆ 

คุกกี้ สับปะรด

คุกกี้ สับปะรดเป็นอีกหนึ่งเมนูขนมหวานที่มีความโดดเด่น และแปลกใหม่ต่างจากคุกกี้ทั่วไปที่เคยทาน เพราะสูตรนี้จะเป็นการนำสับปะรดที่เราทานกันทุกวันมาทำเป็นไส้ขนมคุกกี้ จึงทำให้รสชาติที่ได้มีความหวานอมเปรี้ยว และมีกลิ่นเนยอ่อนๆ เข้ากันได้ดีเลยทีเดียว หากใครชอบขนมที่มีรสชาติเปรี้ยวนิดๆ ขนมคุกกี้ สูตรสับปะรดเป็นอีกหนึ่งขนมหวานที่ตอบโจทย์ ไม่ผิดหวังแน่นอน

เผยขั้นตอนการทำ คุกกี้ สับปะรด ไส้แน่นๆ ทำง่ายนิดเดียว แถมอร่อยด้วย

คุกกี้ สับปะรด

กลับมาอีกครั้งกับการทำขนมคุกกี้แสนอร่อย โดยวันนี้จะพาทำสูตร คุกกี้สับปะรด เนื้อไส้สับปะรดแบบจัดเต็ม เพราะเราเน้นไส้ แต่ไม้เน้นแป้ง หากใครชอบทานสับปะรดต้องบอกเลยว่า คุกกี้ ไส้ สับปะรด คือหนึ่งในเมนูคุกกี้ที่ตอบโจทย์อย่างแน่นอน นอกจากนี้คนที่ทานเจ หรือกำลังทานเจอยู่ตอนนี้สามารถทานคุกกี้ชนิดได้ด้วย เพราะมีสูตรคุกกี้สับปะรดเจ ซึ่งจะใช้มาการีนแทนเนยสด และส่วนผสม และวัตถุดิบเป็นของเจทั้งหมด ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องเจไม่เจเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นขนมคุกกี้สับปะรดที่สามารถทานได้ทั้งคนทั่วไป และคนที่ทานเจเลยอีกด้วย

วัตถุดิบ และส่วนผสมของแป้งคุกกี้

  1. แป้งข้าวโพด 100 กรัม
  2. แป้งเค้ก หรือแป้งอเนกประสงค์ 500 กรัม
  3. นมผง 50 กรัม
  4. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  5. เกลือ ½ ช้อนชา
  6. น้ำตาลไอซิ่ง 200 กรัม
  7. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
คุกกี้ สับปะรด

ส่วนผสม และวัตถุดิบของไส้สับปะรด

  1. สับปะรดสด 1000 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 100 กรัม
  3. น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ
  4. เกลือ ½ ช้อนชา
  5. น้ำมันพืช 1 ช้อนชา

หลังจากที่เตรียมวัตถุดิบ และส่วนผสมของขนมคุกกี้ สับปะรดเรียบร้อยแล้ว ในขั้นตอนต่อมาเราจะพามาดูขั้นตอนการทำคุกกี้สอดไส้สับปะรด สำหรับสูตรคุกกี้สับปะรดที่ใช้ทำนั้นง่ายมากๆ ไมยุ่งยาก และไม่ซับช้อนอีกด้วย เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปลงมากันเลย

คุกกี้ สับปะรด
  1. นำสับปะรดมาปอกเปลือกให้หมด และหั่นสับปะรดเป็นชิ้นเล็กๆ ให้ละเอียด จากนั้นตั้งกระทะ เปิดไฟปานกลาง หลังจากนั้นใส่สับปะรดที่เตรียมไว้ลงไป ใส่น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู เกลือ ลงไป คนส่วนผสมของสับปะรดไปเรื่อยๆ จนกว่าสับปะรดจะแห้ง เหนียวหนึบหนับ เมื่อได้สับปะรดกวนเรียบร้อยแล้ว ให้นำออกจากเตา พักไว้ให้เย็น
  2. หลังจากที่เตรียมสับปะรดกวนเรียบร้อย ต่อมาจะเป็นขั้นตอนการเตรียมแป้ง โดยเริ่มแรกใส่เนยชนิดจืด และน้ำตาลไอเลงไป นำเข้าเครื่องตีขนม เมื่อเนยกระจายตัวเรียบร้อยแล้ว ใส่ไข่ไก่ลงไปแล้วตีอีกรอบ เมื่อส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกันแล้วให้ใส่แป้งข้าวโพด และแป้งเค้กที่ร่อนไว้เรียบร้อยแล้วลงไป ตามด้วยนมผง และเกลือ ทำการตีส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  3. นำสับปะรดกวนมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ นำแป้งขนมที่เตรียมไว้มาห่อไส้สับปะรดให้เป็นรูปทรงกลม เสร็จแล้วนำมากดในพิมพ์ที่เตรียมไว้ จากนั้นนำขนมที่ได้เข้าตู้เย็นประมาณ 10 นาที เพื่อให้แป้งเซตตัว 
  4. นำขนมออกจากตู้เย็น มาวางในถาดอบขนม แล้วนำเข้าตู้อบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เปิดไฟบน-ล่าง เป็นเวลา 15 นาที เสร็จแล้วนำออกมาพักไว้ให้เย็น
คุกกี้ สับปะรด

หลังจากที่ทำคุกกี้ สับปะรด เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้นำมาจัดใส่จานให้สวยงาม โดยรสชาติของขนมที่ได้จะมีความหอมของสับปะรด และกลิ่นเนยอร่อยอย่างลงตัว นอกจากนี้หากทานขนมเบเกอรี่ อย่างคุกกี้สอดไส้สับปะรดคู่กับเครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้วจะยิ่งทำให้รสชาติของขนมอร่อยมายิ่งขึ้น 

ขนมคุกกี้สอดไส้สับปะรดเบเกอรี่ยอดนิยม ทำขายสร้างรายได้ 

สำหรับใครที่อยากลองทำคุกกี้ สับปะรด เนื้อแน่นจัดเต็ม รสชาติหวานอร่อยกำลังดี วันนี้เรามีเคล็ดลับการทำเบเกอรี่ง่ายๆ อย่างคุกกี้สอดไส้สับปะรดมาให้คนที่สนใจได้ลองทำขายดูบ้าง โดยขั้นตอนเตรียมแป้งขนม ถ้าอยากแป้งมีความนุ่มนิ่ม ควรนำแป้งที่เตรียมเสร็จแล้วไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 5-10 นาที ก่อนนำมาห่อด้วนไส้สับปะรด เพียงแค่ก็จะได้ขนมคุกกี้เนื้อแป้งนุ่ม และอร่อย สำหรับขนมคุกกี้สอดไว้สับปะรดสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น คุกกี้สอดไส้สับปะรดรูปหอยแครง รูปหมูน้อย หรือจะเป็นรูปตัวหนอนที่มีหน้าตา และสีสันสวยงาม 

คุกกี้ สับปะรด

สำหรับขนม คุกกี้ สับปะรด เป็นขนมเบเกอรี่ทำเองง่ายนิดเดียว แถมยังสามารถทำทานได้ทั้งครอบครัว และนำเป็นของฝากให้คนพิเศษได้ด้วย และแน่นอนว่าขนมเบเกอรี่โฮมเมดอย่าง คุกกี้สอดไส้สับปะรดยังสามารถนำมาขาย เพื่อสร้างรายได้ และสร้างอาชีพได้อีกทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเปิดร้าน และขายทางออนไลน์รายได้ปังแน่นอน อีกข้อดีของคุกกี้สูตรนี้สามารถเก็บไว้ทานได้นานเป็นอาทิตย์ โดยที่รสชาติขนมยังคงมีความอร่อยเหมือนเดิม

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
เบเกอรี่

เปิดครัวชวนทำ ซอ ฟ คุกกี้ ในตำนาน รสชาติหวานละมุนลิ้น แป้งนุ่มอร่อยฟินทุกคำ 

ซอ ฟ คุกกี้

มาต่อกันที่ขนมหวานในตำนานอย่าง ซอ ฟ คุกกี้ เป็นขนมเนื้อนุ่ม กรอบเล็กน้อย รสชาติหวานละมุน ที่มาพร้อมกับความกลิ่นช็อกโกแลตอ่อนๆ นอกจากนี้ยังมีกลิ่นของคาราเมลอ่อนอีกด้วย สำหรับขนมชนิดนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูคุกกี้ที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญยังเป็นขนมสุดฮิตของกลุ่มเด็กๆ อีกด้วย เพราะเป็นมที่สามารถทานกับอะไรก็อร่อย โดยเฉพาะนมสด หากทานคู่กันจะทำให้รสชาติของขนมมีความอร่อย และฟินคำ และที่สำคัญยังเป็นขนมที่สามารถทานได้ทั้งครอบครัว และทานได้ทุกเทศกาล 

ซอ ฟ คุกกี้

วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำซอ ฟ คุกกี้ เมนูขนมหวานยอดนิยมที่มีรสชาติที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร สำหรับสูตรซอฟ คุกกี้ที่จะแชร์ให้ได้ติดตามนั้น เป็นสูตรที่สามารถทำทานได้ง่ายๆ ขั้นตอนต่างๆ ไม่ซับช้อน และไม่ต้องมีอุปกรณ์มากมาย เพียงแค่มีเตาอบขนมก็สามารถขนมชนิดนี้ได้แล้ว นอกจากนี้ขนมทำเองยังสามารถนำไปเป็นของฝากให้กับคนพิเศษในวันพิเศษอีกด้วย หรือจะทำเป็นอาชีพก็ปังสุดๆ 

วิธีทำ ขนม ซอ ฟ คุกกี้ ซ็อคโกแลต หวานนุ่มนิ่ม ทานได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ 

ซอ ฟ คุกกี้

เมนูขนมหวานคุกกี้มีหลากหลายสูตรมากมาย โดยแต่ละสูตรจะมีความแตกกันอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นรสชาติ สี กลิ่น รูปร่างหน้าตาขนม เป็นต้น ดังนั้นหากใครเป็นสายคุกกี้ต้องไม่พลาด เพราะเราได้คัดสรรค์สูตรขนมหวานที่กำลังมาแรงอยู่ตอนนี้ นั่นก็คือ ซอฟ คุกกี้ มาให้ติดตามกัน โดยเฉพาะเมนูซอฟคุกกี้เนยสด เป็นยอดฮิตตลอดกาลที่มีลักษณะเนื้อแป้งเป็นสีน้ำตาลอ่อนของซ็อกโกแลต รสชาติหวานละมุนกำลังดี ส่วนเนื้อแป้งนุ่มนิ่ม และกรุบกรอบเล็กน้อย อีกทั้งยังมีความหอมกลิ่นหอมเนยสดอร่อยทานได้ทุกเวลาไม่มีเบื่อ ในส่วนของวิธีการทำซอฟคุกกี้ก็ง่ายนิดเดียว แถมยังสามารถปรับรสชาติได้ตามใจชอบอีกด้วย 

ซอ ฟ คุกกี้

ส่วนผสม และวัตถุดิบที่เตรียม

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 250 กรัม
  2. เนยสดชนืดจืด 150 กรัม
  3. น้ำตาลทรายแดง 140 กรัม
  4. น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม
  5. ซ็อกโกแลต 180 กรัม
  6. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  7. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  8. เกลือป่น ½ ช้อนชา

สำหรับการทำซอฟคุกกี้ หากใครไม่ชอบความหากใครไม่ชอบรสชาติหวานเกินไปสามารถลดน้ำตาลลงได้ แต่สำหรับสูตรคุกกี้ที่เรานำมาแชร์นั้นเป็นสูตร ซอ ฟ คุกกี้ หวานน้อย ดังนั้นไม่ต้องกังวลใจว่าเรื่องความอ้วน เพราะคุกกี้ สูตรหวานน้อยไม่ทำให้อ้วนแน่นอน และวิธีการทำนั้นสามารถทำตามได้ดังต่อไปนี้

ซอ ฟ คุกกี้
  1. มาเริ่มกันที่นำแป้งมาร่อนในภาชนะที่เตรียมไว้ เพื่อเอาตะกอนออก จากนั้นพักไว้ก่อน ต่อมาให้เตรียมละลายเนย โดยการนำเนยสดชนิดจืดมาใส่ในหม้อ เปิดไฟอ่อนๆ คนเนยเรื่อยๆ จนกว่าเนยจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล จากนั้นนำมากรองด้วยกระชอน แนะนำให้ใช้ตาถี่ เพื่อกรองตะกอนที่ไม่ละลายออกจากเนย จากนั้นนำภาชะที่มีเนยอยู่มาวางบนอ่างน้ำร้อน เพื่อไม่ให้แข็งกลับมาเซตตัว
  2. หลังจากนั้นใส่น้ำตาลทรายแดง และน้ำตาลทรายขาวลงไปในภาชนะที่มีเนยอยู่ ตามด้วยไขไก่ และกลิ่นวานิลลาลงไปด้วย ตีส่วนผสมทั้งหมดจนกว่าน้ำตาลจะละลายด้วยตะกร้อไฟฟ้า ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ที่เตรียมไว้ เกลือ และเบกกิ้งโซดา หลังจากนั้นใช้ไม้พายตะล่อมส่วนผสมทั้งให้เข้ากัน และเป็นเนื้อเดียวกัน 
  3. เพื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ให้ใส่ซ็อกโกแลตลงไป ทำการตะล่อมส่วนผสมทั้งหมดอีกครั้ง เสร็จแล้วนำมาตักใส่ถาดอบขนม โดยการนำกระดาษไขมาลองถาดก่อน แล้วค่อยใช้ช้อน หรือสคูปตักไอศกรีม และใช้พายปาดส่วนที่เกินออก นำมาวางบนถาดอบขนม โดยวางขนมแต่ละชิ้นให้ห่างกันประมาณ 2 เชนติเมตร 
  4. จากนั้นนำถาดขนมเข้าอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที จากนั้นนำออกมาพักไว้ให้เย็น จัดขนมใส่จานให้สวยงาม เตรียมตั้งโต๊ะรับประทาน
ซอ ฟ คุกกี้

ขนมซอฟคุกกี้หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า คุกกี้นิ่ม เมื่อทำเสร็จแล้วจะมีเนื้อแป้งนุ่มนิ่ม หนึบหนับ หอมกรุ่นเนยสด และกลิ่นซ็อกโกแลตอ่อนๆ รสชาติหวานนุ่มนวลพอดี เหมาะสำหรับคนที่กำลังลดความอ้วน แต่อยากทานขนมสักชิ้นให้ชื่นใจ แต่ถ้าใครต้องรสชาติที่หวานกว่านี้สามารถเพิ่มน้ำตาลได้เลยอร่อยหวานจัดจ้านแน่นอน 

แนะนำวิธีทำขนม คุกกี้ปีใหม่ ของขวัญสุดพิเศษ เพื่อคนพิเศษ

สำหรับใครที่กำลังมองหาของขัวญปีใหม่อยู่ตอนนี้ แต่ไม่รู้ว่าจะมอบอะไรเป็นของขวัญกับญาติผู้ใหญ่ ขอแนะนำ เมนูเบเกอรี่ อย่างซอฟ คุกกี้ หรือ Soft Cookie สูตร มัทฉะไวท์ซ็อกโกแลต เป็น เบเกอรี่ยอดนิยม มีรสชาติโดดเด่นด้วยกลิ่นชาเขียวมัทฉะ หอมอบอวลอร่อยฟินทุกชิ้น แต่ถ้าไม่อยากซื้อคุกกี้เป็นของขวัญสามารถทำเบเกอรี่ง่ายๆ ได้ด้วยตัวเอง เพียงใช้สูตร และขั้นตอนตามที่กล่าวมาข้างต้น จากนั้นเพิ่มเติมชาเขียวมัทฉะ 20 กรัม และ เปลี่ยนจากดาร์กซ็อกโกแลตเป็นไวท์ซ็อกโกแลตแทน จากนั้นคนส่วนผสมทั้งมหดให้เข้ากัน และเป็นเนื้อเดียวกัน นำมาตักใส่ถาดอบขนมและนำไปอบ เมื่ออบเร็จแล้วจะได้ขนมคุกกี้ที่มีสีเขียวอ่อน ที่มาพร้อมกับความของกลิ่นมัทฉะ จากนั้นบรรจุใส่ขวดโหลตกแต่งให้สวยงาม

ซอ ฟ คุกกี้

เป็นอย่างไรบ้างกับซอฟคุกกี้ ซึ่งเป็นสูตรเบเกอรี่ทำเองอย่างง่ายๆ ที่นำแชร์ในวันนี้ หวังว่าทุกคนจะมีความสุขกับการทำคุกกี้ สูตรนุ่มนิ่ม หนึ่งในเมนูเบเกอรี่โฮมเมด เพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับคนพิเศษในวันพิเศษ หรือทำไว้ทานกับครอบครัวก็ได้เช่นกัน

อ่านบทความอื่นๆ:

  • “ราดหน้าหมี่กรอบ” หมี่เหลืองกรอบ อร่อย ฉ่ำน้ำสต๊อกง
Categories
ขนมไทย

แชร์สูตรโบราณ ขนม เปียก ปูน กะทิ สด หอมกรุ่น อร่อย ละมุนละไม

เปียก ปูน กะทิ สด

เปียก ปูน กะทิ สด คือขนมปรับปรุงสูตรมาจากขนมเปียกปูนสูตรดั้งเดิม ซึ่งเป็นหนึ่งในขนมหวานยอดนิยมของชาวบ้านในสมัยอดีต โดยขนมเปียกปูนได้ถูกดัดแปลงมาจากขนมกวน โดยส่วนผสมหลักของขนมเปียกปูนมีเพียงไม่กี่อย่าง อาทิ แป้งท้าวยายม่อม แป้งข้าวเจ้า น้ำตาล กะทิสด ผสมกับสีของใบเตย และกวนให้เป็นเนื้อเดียวกัน โดยสีของขนมเปียกปูนที่ได้จะมีสีเขียวธรรมชาติ เนื้อเนียนนุ่ม รสชาติหวาน หอมกลิ่นใบเตยอ่อนๆ สำหรับชื่อของขนมเปียกปูนมาจากส่วนส่วนผสมที่ใช้ในการทำขนม นั้นก็คือ น้ำปูนใส นั่นเอง จึงทำให้เป็นที่มาของขนมเปียกปูน ที่เรียกมาตั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน

เปียก ปูน กะทิ สด

เมนูขนม เปียกปูน กะทิ สด ถือว่าเป็นเมนูที่ขึ้นชื่อมาอย่างยาวนาน เพราะเนื้อสัมผัสของขนมที่เนียนนุ่ม เหนียวหนึบ ตัดกับกลิ่นใบเตย และกลิ่นกะทิได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่าเป็นขนมที่ทานแล้วชื่นใจสุดๆ อีกทั้งสีเขียวของขนมยังทำให้เพิ่มความน่ารับประทานมากขึ้นอีกด้วย และเป็นอีกหนึ่งเมนูที่สามารถทานเล่นๆ คลายร้อนได้ดีสุดๆ สำหรับใครที่ชอบทานขนมหวานโบราณ ไม่ควรพลาด เพราะเรามีสูตรทำขนมเปียก ปูน กะทิ สด มาให้ได้ติดตาม ว่าแล้วไปดูกันเลย

วิธีทำ ขนมเปียกปูน กะทิสด ตามฉบับชาววัง ทำง่ายๆ อร่อยถูกปากกันทั้งครอบครัว

เปียก ปูน กะทิ สด

ในช่วงวันหยุดยาวแบบนี้อยู่บ้านไม่รู้จะทานอะไรดีที่คลายร้อนได้ ขอแนะนำขนมเปียก ปูน กะทิ สด เมนูยอดนิยมสำหรับคลายร้อนในช่วงสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวแบบนี้ สำหรับเปียกปูนกะทิสดสูตรปัจจุบันจะมีลักษณะแตกต่างไปจากขนมเปียกปูนสูตรดั้งเดิม คือ เนื้อขนมจะมีความแข็งตัวน้อยกว่า แต่ขนมยังคงมีความเหนียวนุ่มเหมือนเดิม และรสชาติยังคงอร่อยตามสูตรโบราณไม่เปลี่ยนแปลง ที่สำคัญวิธีทำขนมเปียกปูนสามารถได้ง่ายๆ แถมส่วนผสม เปียกปูนกะทิสดโบราณจะใช้เพียงน้อยนิด ดังนั้นวัตถุดิบที่เหลือสามารถนำไปทำขนมได้อีกในครั้งต่อไปได้ด้วย 

วัตถุดิบ และส่วนผสมของขนมเปียกปูน

  1. แป้งท้าวยายม่อม 100 กรัม
  2. แป้งข้าวเจ้า 150 กรัม
  3. น้ำตาลโตนด 70 กรัม
  4. น้ำตาลทราย 30 กรัม
  5. เกลือ ½ ช้อนชา
  6. น้ำปูนใส 200 กรัม
  7. น้ำมะพร้าว 200 กรัม
  8. น้ำใบเตย 300 กรัม
  9. กะทิสด 150 กรัม
เปียก ปูน กะทิ สด

วัตถุดิบ และส่วนผสมของน้ำกะทิ

  1. กะทิสด 300 กรัม
  2. แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
  3. งาคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ

ปัจจุบันขนมเปียกปูนกะทิ สด มีการประยุกต์ให้สวยงามจนกลายมาเป็นขนมเปียกปูนกะทิสดดอกไม้ที่สวยงามน่ารับประทานมากขึ้น สำหรับสูตร เปียกปูนกะทิสดที่นำมาแชร์เป็นสูตรโบราณแบบดั้งเดิม รสชาติหวานหอมกรุ่นใบเตยละมุนลิ้นจนต้องทานเพิ่มเลยทีเดียว ในส่วนของวิธีทำขนมเปียกปูนนั้นง่ายเดียว เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปดูขั้นตอนกันเลย

เปียก ปูน กะทิ สด
  1. ในขั้นตอนแรก ให้นำแป้งท้าวยายม่อม แป้งข้าวเจ้า น้ำตาลโตนด น้ำตาลทราย น้ำกะทิ เกลือ ใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นนวดแป้งให้เป็นเนื้อเดียวกัน 
  2. หลังจากที่แป้งเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว นำน้ำปูนใส น้ำใบเตย น้ำมะพร้าว ใส่ในภานะที่เตรียมไว้ ใช้ตะกร้อผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน นำไปผสมกับแป้งที่เตรียมไว้ จากนั้นนำมากรองด้วยผ้าขาวบาง เทใส่ในกระทะสำหรับกวนแป้ง
  3. นำกระทะไปตั้งไฟปานกลาง จากนั้นกวนแป้งไปในทิศทางเดียวกัน และต้องกวนให้ถึงกระทะ เพื่อให้แป้งสุกพร้อมกัน เมื่อแป้งเริ่มจับตัวกันให้เร่งความเร็วในการคนแป้งมากขึ้นจนกว่าแป้งจะใส แสดงว่าแป้งสุกดีแล้ว ปิดไฟ และนำกระทะออกจากเตา 
  4. นำขนมตักใส่ถุงสำหรับสำหรับบีบขนม จากนั้นบีบขนมให้เป็นรูปดอกไม้ หรือจะเทใส่พิมพ์ได้ตามใจชอบ 
  5. ต่อมาเป็นขั้นตอนการทำน้ำกะทิ เริ่มจากใส่กะทิลงไปในหม้อ ใส่แป้งข้าวเจ้า เกลือ ผสมให้เข้ากัน เสร็จแล้วนำไปตั้งไฟปานกลาง จากนั้นคนจนกะทิแตกมัน และเข้มข้นขึ้น รอให้เดือด แล้วยกออกจากเตา นำไปราดบนขนมเปียกปูนที่เตรียมไว้ ตามด้วยงาคั่วแสนอร่อย พร้อมจัดใส่จานให้สวยงาม

ขนม เปียก ปูน กะทิสด จะมีความหอมกลิ่นใบเตย และกะทิเข้มข้นอร่อยมากกว่าขนมเปียกปูนสูตรทั่วไป และอีกหนึ่งความอร่อยก่อนที่จะนำมารับประทานควรนำไปแช่ในตู้เย็นก่อนจะทำให้เปียกปูนสูตรขนม ไทยมีความหวานสดชื่น และอบอวลไปด้วยกลิ่นใบเตยอร่อยจนต้องทานเพิ่มอีกจานเลยทีเดียว

สูตรขนมไทย แนะนำ ขนมเปียกปูน สูตรกะทิสด มะพร้าวอ่อน

เปียก ปูน กะทิ สด

สายขนมหวานไม่ควรพลาด เพราะนอกจากสูตร เปียกปูนกะทิสด ที่แสนอร่อยแล้ว เรามีอีกหนึ่งสูตรที่อยากแนะนำนั่นก็คือ ขนมเปียกปูน กะทิสด มะพร้าวอ่อน ซึ่งเป็นหนึ่งในขนม โบราณยอดนิยม และยังเป็นสูตรขนมไทย โบราณที่มีรสชาติหวานละมุน ที่มีเนื้อมะพร้าวกรุบกรอบเคี้ยวเพลินสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นขนม หวาน ไทยที่สามารถทานได้ไม่มีเบื่อ ที่สำคัญขนมเปียกปูนสูตรกะทิสด มะพร้าวอ่อน เป็นขนม ไทย ทำ ง่ายนิดเดียว เพียงแค่มีแป้ง น้ำตาล กับน้ำกะทิก็สามารถทำขนม ไทย ง่ายๆ โดยสูตรและ ขั้นตอนการทำสามารถใช้สูตรของขนมเปียกปูนกะทิสดได้เลย เพียงแค่ใส่เนื้อมะพร้าวเพิ่มเข้าไปด้วย เสร็จแล้วจัดเสิร์ฟใส่จานได้เลย

จบไปแล้วกับสูตรเปียกปูน กะทิสด ซึ่งเป็นขนมไทย ทำเองได้ที่บ้าน สำหรับมือใหม่สามารถลองทำตามสูตร ขนม ไทยที่เรานำมาแชร์ให้ติดตามได้เลย รับรองว่าทำง่ายอร่อยด้วย และทำขายได้แน่นอน 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารนานาชาติ

ชวนทำเมนูยอดฮิต ขนมปังอิตาเลี่ยน Focaccia อาหารว่าง ทานได้ทุกวัน

Focaccia

หากพูดถึงเมนูอาหารว่าง หรืออาหารยามเช้าเชื่อว่าเมนูขนมปังต้องติดอยู่ในอันดับต้นๆ ในเมนูยอดนิยมอย่างแน่นอน และอีกเมนูที่หลายคนชอบทานคือ Focaccia เป็นขนมปังสไตล์อิตาเลี่ยนที่มีความโดดเด่นด้วยกลิ่นสมุนไพร และน้ำมันมะกอกอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งขนมปังยังมีเนื้อแน่นผสมสานกับรสชาติเค็มเล็กน้อย และที่สำคัญคือ ท็อปปิ้งแบบพิซซ่ายิ่งทำให้เพิ่มรสชาติขนมปังมีความอร่อย และฟินสุดๆ

Focaccia

ชาวอิตาเลี่ยนไม่ควรพลาด เพราะวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำFocaccia ขนมปังสไตล์พิซซ่า เนื้อนุ่มหนึบหนับ ไม่แข็ง สำหรับขนมปังสไตล์อิตาเลี่ยนจะมีคล้ายคลึงกับแป้งพิซซ่าที่เราทานกัน แต่เนื้อขนมปังด้านในจะมีความนุ่มกว่า ส่วนหน้าของขนมปังสามารถตกแต่งได้ตามใจชอบ แต่ยังคงกลิ่นสมุนไพรอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวนั่นเอง สำหรับวิธีทำFocacciaที่นำแชร์จะเป็บแบบโฮมเมคง่ายๆ ทำได้สบายมาก ที่สำคัญรสชาติอร่อยตามฉบับบสูตรดั้งเดิมไม่ผิดเพี้ยนแน่นอน

ขั้นตอนการทำ Focaccia ขนมยอดฮิตของชาวอิตาเลี่ยน สไตล์โฮมเมค ทำง่ายมาก 

Focaccia

สำหรับใครที่อยากทำเมนูอาหารสไตล์อิตาเลี่ยน แต่ไม่รู้จะทำเมนูไหนดี ขอแนะนำ Focacciaขนมปังจากอิตาลี เนื้อนุ่มหนึบหนับ หอมกลิ่นสมุนไพรชั้นเลิศความโดดเด่นไม่เหมือนใคร อีกทั้งอยังเป็นขนมปังที่สามารถทานได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ แต่ก่อนที่เราจะเข้าสู่กระบวนทำขนมปัง เราต้องมาทำความรู้จัก focaccia คือ เมนูขนมปังสไตล์อิตาเลี่ยนจากอิตาลี มีลักษณะแบนคล้ายแป้งพิซซ่า แต่สามารถทานแค่ขนมปังก็อร่อย หรือจะทานกับซอสต่างๆ อร่อยสุดๆ ไปเลย หรือจะแต่งหน้า focaccia คล้ายพิซซ่าก็อร่อยแปลกใหม่ ส่วนวิธีการทำฟอคคาเซีย หรือ ขนมปังอิตาลีมีรายละเอียดดังนี้ 

วัตถุดิบ และส่วนผสมของขนมปัง

  1. แป้งอเนกประสงค์ 300 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
  3. ยีสต์ 1 ช้อนชา
  4. น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
  5. น้ำมันมะกอก 20 กรัม
  6. เกลือป่น ½ ช้อนชา
Focaccia

วัตถุดิบ และส่วนผสมของหน้าขนมปัง

  1. ใบโรสแมรี่ 2 ก้าน
  2. มะกอกดำหั่นแว่น 3-5 ลูก
  3. มะเขือเทศหั่นเป็นแว่น 4-5 ลูก
  4. อิตาเลียนเอิร์บ 1 ช้อนโต๊ะ

สำหรับส่วนผสม และวัตถุดิบในการทำFocaccia ถ้าใครอยากแต่งหน้าขนมปังให้อร่อยแบบจัดเต็มสามารถนำวัตถุดิบชนิดอื่นมาแต่งหน้าได้ และในส่วนของขั้นตอนการทำอาหารอิตาลี อย่างขนมปังสามารถทำตามเราได้ดังนี้

Focaccia
  1. มาเริ่มกันที่ขั้นตอนแรก โดยการนำแป้งอเนกประสงค์ น้ำตาลทราย ยีสต์ และเกลือมาใส่ในภาชะที่เตรียมไว้ จากนั้นผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เมื่อส่วนผสมทั้งหมดเป็นเนื้อเดียวกันแล้วให้ใส่น้ำมันมะกอกลงไป ใช้มือนวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน 
  2. เมื่อนวดเสร็จแล้ว ให้นำมาปั้นเป็นทรงกลม จากนั้นพักไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง จะได้แป้งที่ฟูขึ้นอีกเท่าตัว ในระหว่างที่รอให้แป้งฟู ให้เตรียมถาดสำหรับอบขนม โดยใช้น้ำมันมะกอกที่เตรียมไว้ทาให้ทั่วถาด นำแป้งที่พักไว้มาวางไว้บนถาด จากนั้นกดแป้งให้เป็นทรงแบน และกลม 
  3. นำน้ำมันมะกอกมาทาบนหน้าขนมปัง เพื่อเพิ่มความหอมของขนมปัง และยังทำให้สีขนมมีสีเหลืองน่ารับประทาน จากนั้นตามด้วยโรสแมรี่แห้ง และเกลือให้ทั่วหน้าขนมปังอีกครั้ง พักแป้งขนมปังอักรอบประมาณ 20-30 นาที
  4. เมื่อครบกำหนดเวลาพักแป้งขนมปังแล้ว ตกแต่งหน้าด้วยมะเขือเทศหั่นเป็นแว่นๆ มะกอกดำหั่นแว่น และอิตาเลียนเอิร์บ อิตาเลียนเอิร์บ ตามด้วยใบโรสแมรี่ หลังจากนั้นให้นำถาดขนมปังเข้าเครื่องอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส เป็นเวลาประมาณ 20 นาที เสร็จแล้วเสิร์ฟ
Focaccia

ขนมปังFocacciaเป็นหนึ่งในเมนูอาหารอิตาลีที่มีส่วนผสมน้อย แต่รสชาติเค็มหน่อยๆ และเปรี้ยวเล็กน้อย อีกทั้งยังมีความหอมของน้ำมันมะกอกอ่อนๆ ทำให้เมื่อทานเข้าไปมีความฟินสุดๆ ที่สำคัญใช้เวลาในการทำขนมปังเพียงน้อยนิด รับรองว่าถ้ามีเวลาน้อยก็สามารถทำขนมปังชนิดนี้ได้แน่นอน ที่สำคัญขนมปังที่อบเสร็จใหม่จะมีความหอมน่าทานสุดๆ 

เผยวิธีขนมปังอาหารอิตาลี ง่ายๆ ฉบับคนมีเวลาน้อย

Focaccia

มาเอาใจสายไม่ค่อยมีเวลาทำอาหารกันบ้าง วิธีการทำFocaccia ขนมปังที่เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมอาหารอิตาลีที่รู้จักมาอย่างยาวนาน ให้อร่อยแบบดั้งเดิม โดยใช้สูตรที่เรานำแชร์ไว้ข้างต้น ซึ่งในขั้นตอนหลังจากนวดแป้งเสร็จแล้ว นำแป้งไปพักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นนำมานวดอีกครั้ง และแบ่งแป้งเป็นก้อนๆ นำไปพักไว้อีกครั้งประมาณ 20 นาที เสร็จแล้วนำถาดอบขนมมาทาด้วยน้ำมันมะกอก วางขนมปังลงไป จากนั้นทำเป็นแบนๆ นำเข้าอบที่อุณภูมิ 220 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที เพียงเท่านี้ก็เป็นเสร็จเรียบร้อย 

Focaccia

Focacciaเป็นเมนูอาหารอิตาเลี่ยนที่ไม่ต้องใส่ท็อปปิ้งก็จะอร่อยสุดๆ สามารถทานได้ทุกวันไม่มีเบื่อ และยังหาทานได้ตามร้านอาหารอิตาเลี่ยนทั่วไปอีกด้วย สำหรับขนมปังเป็นอาหารอิตาเลี่ยนแท้ๆ มีราคาค่อนข้างแพง แต่อร่อย และคุ้มค่าสุดๆ สำหรับใครที่อยากลองทำขนมปังสไตล์อิตาเลี่ยนนี้ดูก็สามารถทำตามสูตรที่นำมาแชร์ได้เลย ที่สำคัญขนมปังยังเป็นเมนูอาหารอิตาลี ทำเองได้ง่ายๆ ได้ที่บ้าน มือใหม่ก็ทำตามได้ ส่วนเรื่องรสชาติอร่อยตรงตามสูตรแบบดั้งเดิม และถ้าใครอยากเพิ่มความอร่อยสามารถใส่ท็อปปิ้งต่างๆ ได้ตามใจชอบอีกด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
เบเกอรี่

เปิดความอร่อย สูตร คุกกี้ บ ราว นี่ รสชาติเข้มข้น กรอบนอก นุ่มใน หวานกำลังดี

คุกกี้ บ ราว นี่

อีกหนึ่งเมนูขนมหวานแสนอร่อยโดนใจที่อยากแนะนำ นั่นก็คือ สูตร คุกกี้ บ ราว นี่ รูปร่างกลม หรือสี่เหลี่ยม สีน้ำตาล มีกลิ่นหอมของวานิลลา รสชาติหวาน ตัดกับรสขมของซ็อคโกแลตเข้ากันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เนื้อแป้งยังมีความกรอบนอก และนุ่มในโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ สำหรับขนมชนิดนี้สามารถหาทานได้ตามร้านขายขนมทั่วไป และร้านคาเฟ่ใกล้บบ้านที่มักจะมีบราวนี่วางขายคู่กับเครื่องดื่มมากมายให้เลือกทานอย่างจุใจ และแน่นอนว่าบราวนี่เป็นขนมหวานสุดคลาสสิกที่คนทั่วไปชอบทานเป็นประจำ

คุกกี้ บ ราว นี่

สำหรับเชฟมือใหม่อยากลองทำขนมไว้ทำขาย แต่ไม่รู้จะทำขนมหวานเมนูไหนดี วันนี้เรามีขนมสูตรพิเศษที่คนทั่วไปนิยมทานมากที่สุดในร้านคาเฟ่ นั่นก็คือ คุกกี้ บราว นี่ ขนมสายซ็อคโกแลต เนื้อแป้งเหนียวนุ่ม กรอบนอก รสชาติหวานอร่อย หอมกลิ่นช็อคโกแลตเข้มข้น เรียกได้ว่า ใครได้ลองทานบราวนี่ต้องติดใจทุกคน ส่วนวิธีทำขนม คุกกี้ บ ราว นี่ ก็ง่าย แสนง่าย รับรองว่าทำขายได้กำไร แถมลูกค้าแน่นร้านทุกวันแน่นอน 

สูตร คุกกี้ บ ราว นี่ สุดคลาสสิก เนื้อแป้งเข้มข้น ทำง่าย มือใหม่ก็ทำได้ 

ขนมคุกกี้ บ ราว นี่ มีความโดดเด่นด้วยหน้านอกกรุบกรอบ เนื้อในนุ่มนิ่ม รสชาติหวาน หอมกลิ่นซ็อคโกแลตเข้มข้นอร่อยกำลังดี นอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว สีของบ ราว นี่ คุกกี้มีสีน้ำตาลเข้มข้นยิ่งความน่ารับประทานของขนมมากยิ่งขึ้นอีกด้วย สำหรับใครที่ชอบคุกกี้บราวนี่โกโก้เข้มข้น วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำขนมสูตรคุกกี้ บ ราว นี่ กรอบนอก นุ่ม ใน รสชาติโดดเด่น จากต้นตำรับ และอัดแน่นไปด้วยซ็อคโกแลตแบบจัดหนักจัดเต็ม พร้อมแชร์เคล็ดลับการทำแป้งให้กรอบ นุ่ม เหมือนซื้อทานที่ร้าน 

คุกกี้ บ ราว นี่

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

  1. แป้งอเนกประสงค์ 100 กรัม
  2. ดาร์กซ็อกโกแลต 90 กรัม
  3. เนยจืด 30 กรัม
  4. น้ำตาลทรายขาว 50 กรัม
  5. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  6. ผงโกโก้ 10 กรัม
  7. ดาร์กซ็อกโกแลตชิพ 90 กรัม
  8. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  9. ผงฟู 1 กรัม
  10. เกลือ ½ ช้อนชา

ขนม คุกกี้บราวนี่ มีส่วนผสมค่อนข้างเยอะ แต่วัตถุดิบที่เหลือสามารเก็บไว้ทำคุกกี้ได้อีกในครั้งต่อไป โดยวันนี้เราจะพาทำสูตร คุกกี้ บ ราว นี่อย่างง่าย ไม่ยุ่งยาก หากใครยังเป็นมือใหม่สามารถทำตามวิธีทำขนมคุกกี้ สูตรบราวนี่ ได้ดังนี้

คุกกี้ บ ราว นี่
  • ในขั้นตอนแรก ให้เตรียมซ็อกโกแลตสำหรับทำขนม เริ่มจากนำดาร์กซ็อกโกแลต และเนยวจืดที่เตรียมใส่ในภาชนะ จากนั้นนำไปละลาย โดยนำไปวางไว้บนหม้อน้ำร้อน
  • ต่อมาให้ไข่ไก่ตอกใส่ภาชนะ ตามด้วยน้ำตาลทรายขาว และน้ำตาลทรายแดง ตามด้วยกลิ่นวานิลลา จากนั้นตีส่วนผสมให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ ควรตีส่วนผสมไปเรื่อยๆ ประมาฯ 3-4 นาที เพื่อให้นน้ำตาลละลาย
  • น้ำดาร์กซ็อกโกแลตที่ลายแล้วมาใส่ในภาชนะที่มีส่วนผสมที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ ตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน นำแป้งอเนกประสงค์ ผงโกโก้ ผงฟู และเกลือมาร่อนที่แล้วใส่ลงไป หลังจากนั้นตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดี
  • ใส่ดาร็กซ็อกโกแลตชีพลง คนจนกว่าจะส่วนผสมจะเป็นเดียวกัน หลังจากนั้นตักใส่ถาดอบขนมให้เป็นรูปร่างทรงกลมเท่าๆ กัน โดยให้ขนมแต่ละชิ้นห่างกัน 1 เซนติเมตร จากนั้นกดแป้งให้แบนเล็กน้อย
  • นำถาดขนมเข้าอบที่อุณภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที นำออกมาพักไว้ให้เย็น เพียงเท่านี้ก็จะได้ขนมคุกกี้ สูตรซ็อคโกแลต ที่น่าตาน่ารับประทานสุดๆ 
คุกกี้ บ ราว นี่

ขนม คุกกี้ บราวนี่ มีหลากรูปร่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปสี่เหลี่ยม ทรงกลม ดังนั้นหากใครที่ไม่ชอบทรงกลมสามารถเทขนมลงในถาดอบขนม โดยนำกระดาษไขลองก้นถาด จากนั้นเทคุกกี้ลงไป และเกลี่ยหน้าขนมให้เรียบ จากนำเข้าอบได้เลย เพียงเท่านี้เราก็จะได้ขนมคุกกี้บราวนี่ หน้าฟิล์ม รสชาติหวาน กรอบนอก นุ่มใน แล้ว วิธีสังเกตขนมสุกหรือยัง ให้นำไม้จิ้มฟันจิ้มขนม หากไม่มีแป้งขนมติดไม้จิ้มฟันแสดงว่าขนมคุกกี้สุกดีแล้ว 

แชร์สูตรลับ ขนมคุกกี้ สูตรบราวนี่ เมนูเบเกอรี่ แสนอร่อย

คุกกี้ บ ราว นี่

คุกกี้บราวนี่คือขนมหวานที่เรียกว่าเป็นเมนูเบเกอรี่ยอดนิยมสุดคลาสสิกที่คนชอบทาน เพราะรสชาติหวาน ตัดขม แถมยังกลิ่นหอมของวานิลลา ผสมกับกลิ่นซ็อกโกแลตเข้ากันสุดๆ สำหรับเคล็บลับทำเบเกอรี่ง่ายให้อร่อยง่ายนิดเดียว โดยขั้นตอนการละลายซ็อกโกแลตต้องหมั่นคนสม่ำเสมอ หลังจากที่ซ็อกโกแลตละลายแล้วจะมีลักษณะมันวาว และสิ่งสำคัญต้องพยายามสังเกตไม่ให้ซ็อกโกแลตกลับมาเซตตัว เพราะจะทำให้ขนมคุกกี้ไม่เป็นหน้าฟิล์มนั่นเอง ดังนั้นควรวางภาชนะที่ละลายซ็อกโกแลตบนหม้อน้ำอุ่นตลอดเวลาจนกว่าจะนำไปผสมกับแป้งทำขนม เพียงเท่านี้ก็จะได้ขนมคุกกี้ สูตรบราวนี่หน้าฟิล์ม เหมือนสูตรต้นตำรับ

คุกกี้ บ ราว นี่

คุกกี้ บ ราว นี่สูตรหน้าฟิล์ม เนื้อแป้งซ็อกโกแลตเข้มข้น กรอบนอก นุ่มใน รสชาติหวานละมุน ตามฉบับต้นตำรับ ดังนั้นถ้าอยากทำขนมทานเองที่บ้าน หรือทำให้เพื่อนทานต้องลองทำคุกกี้ สูตรบราวนี่เบเกอรี่ทำเองง่ายๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่เบเกอรี่โฮมเมด แต่รับรองว่าอร่อยเมมือนสูตรดั้งเดิมแน่นอน

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

ขอแนะนำเมนูหาทานยาก ขนม หยก มณี นุ่มหนึบหนับ หอมอร่อย

ขนม หยก มณี

ขนม หยก มณี เป็นขนมหวานของไทยยอดฮิตในสมัยอดีต แต่ในปัจจุบันค่อนข้างหาทานได้ยาก สำหรับขนมชนิดนี้ทำมาจากสาคูต้มรวมกับน้ำเชื่อม โดยสีเขียวของขนมมาจากสีของใบเตย จึงทำให้ขนมมีความคล้ายกับสีหินที่มีสีเขียวสดใส จึงเรียก ขนมชนิดนี้ว่า หยกมณี เมื่อรับประทานขนมแล้วจะให้ความรู้สึกเหนียวนุ่ม และหอมกลิ่นใบเตย ที่มาพร้อมกับความกรุบกรอบของเนื้อมะพร้าวได้อย่างลงตัว ปัจจุบันของชนิดนี้มีหลากหลายสีสัน ไม่ว่าจะเป็น สีชมพู เหลือง ม่วง เป็นต้น 

ขนม หยก มณี

ขนมหยกมณี เมนูขนมมงคลของไทย ซึ่งในสมัยก่อนจะทำขนมชนิดนี้ในงานมงคลต่างๆ ไม่ว่าเป็นงานบวช งานแต่ง เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้อยู่เย็นเป็นสุข สำหรับใครที่อยากลองทำขนมชนิดนี้ไว้ทานในช่วงในหยุดสุดสัปดาห์ ขอแนะนำสูตร ขนม หยก มณีชาววัง รสชาติหอมกลิ่นใบเตยแบบดั้งเดิม เนื้อนุ่มนิ่ม ก้อนกลม เคี้ยวเพลินไม่มีเบื่อ 

วิธีทำ ขนม หยก มณี เมนูขนมหวานมงคล แสนอร่อย ทำทานได้ง่ายๆ 

ขนม หยกมณี เป็นหนึ่งในขนมมงคลที่มีรสชาติหวานอร่อยกลมกล่อม และขนาดพอดีคำทานง่าย แถมยังอิ่มท้อง สำหรับขนมชนิดนี้มีการปรับปรุงสูตรให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น หยกมณีอัญชัน มีสีน้ำเงิน ที่ได้จากดอกอัญชัน ส่วนสูตรขนมหยกมณี มีสีเขียวของน้ำใบเตย และสุดท้ายสูตรหยกมณีสามสี คือ สีน้ำเงิน สีแดง และสีขาว เป็นต้น เรียกว่าเป็นขนมที่มีหลากหลายสูตร แถมขนมหยกมณี ความหมายเป็นมงคล ซึ่งสีของขนมมีลักษณะคล้ายหยกหินสีเขียวสดใส โดยมีความเชื่อว่าขนม ไทยมงคลที่นำพาความเจริญ ร่ำรวยมาสู่ผู้รับประทานอีกด้วย ในส่วนวิธีการทำขนมไทยชนิดนี้ง่ายมากๆ โดยเริ่มจากเตรียมวัตถุ และส่วนผสมดังนี้

  1. แป้งสาคูล 1 ½ ถ้วย
  2. น้ำใบเตย 150 มิลลิลิตร
  3. น้ำมะพร้าว 500 มิลลิลิตร
  4. เนื้อมะพร้าว 100 กรัม
  5. น้ำตาลทราย 100 กรัม
  6. เกลือ ½ ช้อนชา

ในการทำขนม หยก มณีให้อร่อย ในส่วนแป้งสาคู แนะนำให้ใช้เม็ดสาคูแท้ ที่ทำจากแป้งต้นสาคู เพราะแป้งจะมีความหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และในลำดับต่อมาจะเป็นวิธีทำขนม โบราณสูตรขนมหยก ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ 

ขนม หยก มณี
  1. ขั้นตอนแรกให้นำ เม็ดสาคูมาล้างน้ำให้สะอาด เพื่อเอาผงแป้งออกจากเม็ดสาคู จากนั้นใช้กระชอนตักขึ้นมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ 
  2. ต่อมาใส่น้ำมะพร้าวลงไปในหม้อต้ม นำไปตั้งไฟปานกลาง รอให้น้ำมะพร้าวเดือดใส่เม็ดสาคูลงไป จากนั้นคนเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เม็ดสาคูติดก้นหม้อ เพราะจะทำให้เม็ดสาคูไหม้ก่อนสุกได้
  3. คนอย่างสม่ำเสมอจนกว่าน้ำจะแห้ง จากนั้นใส่น้ำใบเตยปั่นลงไป คนส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวกันจนกว่าเม็ดสาคูลจะสุก โดยวิธีสังเกตว่าสาคูสุกหรือยัง ให้ดูจากความใส และมีจุดสีขาวด้านใน เรียกว่า ตากบ แสดงว่าเม็ดสาคูสุกเรียบร้อย 
  4. ใส่น้ำตาลทรายคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นปิดไฟ พร้อมยกออกจากเตา และนำมาเทใส่ถาดที่เตรียมไว้ รอให้เย็น เมื่อขนมสาคูเย็นแล้วใช้ช้อนตักเป็นก้อนเล็กๆ 
  5. ทำการขูดมะพร้าวเป็นเส้นเล็กๆ นำไปนึ่งใช้ไฟปานกลาง ประมาณ 5-7 นาที นำขนมสาคูที่ตักเป็นก้อนเล็กมาคลุกเคล้ากับมะพร้าวขูดที่นึ่งไว้ จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

ถ้าอยากให้ ขนมหยกมณี น่าทานมากยิ่งขึ้น แนะนำให้นำใบตองมาทำกระทง จากนั้นนำขนมที่ทำเสร็จมาใส่ในกระทงที่เตรียมไว้ และโรยหน้าด้วยมะพร้าวขูด พร้อมทานได้เลย สำหรับขนมไทย โบราณที่ทำเองจะมีรสชาติหวานละมุน และเนื้อเหนียวหนึบของเม็ดสาคู เคี้ยวเพลินสุดๆ นอกจากนี้ถ้าใครไม่ชอบเม็ดสาคูสุกมากเกินไป แนะนำสาคูแบบตากบ คือ เม็ดสาคูจะมีสีขาวด้านใน และด้านนอกจะมีความใส และเติมน้ำตาลได้เลย 

เผยสูตรขนม หวาน ไทย หยกมณี สามสี หวาน หอม ชวนทาน

ขนม หยก มณี

มาต่อกันที่วิธีทำขนมหยกมณีสามสี หนึ่งในขนมหวานหมกมณีที่มีการปรับปรุงสูตรให้มีสีสันมากยิ่งขึ้น สำหรับขั้นตอนขนม ไทย ทำ ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดสามารถทำตามที่กล่าวมาข้างต้นได้เลย แต่จะเพิ่มสีสันของขนมมากขึ้น โดยสีที่ใช้ทำหยกมณีสามสีเป็นสีจากธรรมชาติ ได้แก่ สีเขียวใบเตย สีน้ำเงินจากดอกอัญชัน และสีเหลืองจากข้าวโพดหวาน จากนั้นนำวัตถุดิบที่เตรียมไว้มีปั่นให้ละเอียดกรองเอาน้ำใส่ในถ้วย ต่อมาต้มสาคูให้สุกใส่สีธรรมชาติที่เตรียมไว้ ทำทั้งหมดสามสี ตามด้วยน้ำตาล คนให้เข้ากันเสร็จแล้วนำไปพักไว้ให้เย็น และใช้ช้อนตักขนมให้ก้อนเล็กๆ นำไปคลุกเคล้ากับมะพร้าวขูด จัดใส่จานให้สวยงาม

ขนม หยก มณี

สำหรับ ขนม หยกมณีสามสี เป็นสูตรขนม ไทย ง่ายๆ ที่มีส่วนเพียงน้อยนิด และที่สำคัญยังเป็นขนมไทย ทำเองที่มีรสชาติหอมอร่อยละมุนสุดๆ แถมไม่ต้องไปหาซื้อทานให้เสียเวลา อีกทั้งขนมชนิดนี้ยังหาซื้อได้ยากอีกด้วย หากใครกำลังมองสูตร ขนม ไทยแบบขนมไทยชาววังสามารถลองทำเมนูขนมหวาน หยกมณีที่นำมาแชร์ได้เลย รับรองว่าทำได้แน่นอน พร้อมทั้งยังสามารถทำขายสร้างเป็นอาชีพให้ตัวเองได้อีกด้วย 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารนานาชาติ

สูตร สปาเก็ตตี้ คาโบนาร่า รสชาติไม่เลี่ยน อร่อยกลมกล่อม ทำเอง ง่ายนิดเดียว

สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า

สปาเก็ตตี้ คาโบนาร่า ถือว่าเป็นอาหารพาสตาชนิดหนึ่ง ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี ซึ่งรสชาติของเมนูอาหารอย่างสปาเก็ตตี้ซอสคาโบนาร่าสูตรโบราณจะมีความเข้มข้น อร่อยกลมกล่อม และยังเป็นเมนูยอดนิยมในช่วงสงครามโลกอีกด้วย และต่อมาได้รับการเผยแพร่เมนูสปาเก็ตตี้ครีมซอสคาโบนาร่าไปทั่วโลกเรียกได้ว่าเมนูอาหารอิตาเลี่ยนชนิดนี้ได้รับความนิยมตั้งอดีตจนถึงปัจจุบันเลยทีเดียว

สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า

สปาเก็ตตี้ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่หลายคนชอบทาน และอยากลองทำเองที่บ้าน แต่ไม่รู้จะทำสูตรไหนดี ขอแนะนำ สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า สูตรอิตาเลี่ยนแท้ๆ รสชาติกลมกล่อม หอมชีสเข้มข้น อร่อยเหมือนทานที่ร้านเลยทีเดียว และข้อดีของการทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าด้วยตัวเอง คือ ประหยัดเวลาในการเดินทางไปนั่งทานที่ร้าน และ ยังได้ทานอาหารอร่อยๆ กับครอบครัวในวันหยุดสุดสัปดาห์อีกด้วย 

ขั้นตอนการทำ สปาเก็ตตี้คา โบนาร่า อย่าง่าย มือใหม่ทำได้แน่นอน 

สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า

มีหลายคนชอบทานอาหารอิตาเลี่ยนอย่างมาก เพราะรสชาติมีกลมกล่อม ทานง่าย และยังสามารถทานได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ เรียกได้ว่า เป็นอาหารที่สามารถทานได้ทั้งครอบครัวเลยทีเดียว โดยเฉพาะเมนูสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าซอสเข้มข้น หอมกลิ่นชีสเข้มข้นสุดๆ สำหรับใครที่ไม่ชอบทานสปาเก็ตตี้ซอสครีมคาโบนาร่า วันนี้เรามีสูตรสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ไม่ใส่ครีม ไม่เลี่ยน รสชาติ มัน เค็มเล็กน้อย อร่อยอย่างลงตัว โดยสูตรที่เราจะพาทำเป็นสูตรใส่นมแทนวิปครีม ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะได้รสชาติไม่เหมือนที่ใส่วิปครีม เพราะเรามีเคล็ดลับในการทำเมนูนี้ให้ออกมาเหมือนซื้อทานที่ร้านระดับพรีเมียม ว่าแล้วไปดูกันเลย

สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

  1. เส้นสปาเก็ตตี้ 200 กรัม
  2. แฮม หรือเบคอน 200 กรัม
  3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  4. นมสด 150 กรัม
  5. หอมหัวใหญ่สับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
  6. แป้งมัน 1 ช้อนชา
  7. เกลือ ½ ช้อนชา
  8. น้ำมันมะกอก ½ ช้อนชา
  9. พริกไทย ½ ช้อนชา
  10. ออริกาโน่ 1 ช้อนชา

สปาเก็ตตี้ คาโบ นาร่า เมนูยอดฮิตอร่อยไม่มีเบื่อ สำหรับการทำเมนูสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า วัตถุดิบ และส่วนผสมที่แชร์ข้างต้น เป็น สูตรสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าไม่ใส่วิปครีม เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบวิปครีม แต่อยากทานสปาเก็ตตี้ และวัตถุดิบทุกอย่างที่ใช้ทำสปาเก็ตตี้สามารถเก็บไว้ทำอาหารในรอบต่อไปได้อีกด้วย เรียกได้ว่าอยากทานวันไหนก็สามารถทำได้เลย โดยไม่ต้องหาซื้อวัตถุดิบให้เสียเวลา สำหรับวิธีทำสปาเก็ตตี้ซอสคาโบนาร่าสามารถทำตามได้ง่ายๆ 

สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า
  1. เตรียมหม้อใส่น้ำสะอาด ตั้งไฟปานกลางรอให้น้ำเดือดใส่น้ำมันมะกอก และเกลือเล็กน้อย ตามด้วยเส้นสปาเก็ตตี้ เมื่อเส้นจมน้ำต้มต่อไปอีกประมาณ 5 นาที หลังจากนั้นตักเส้นแช่ในน้ำเย็นประมาณ 2-3 นาที เพื่อให้ลดอุณหภูมิไม่ให้เส้นเละเกินไป จากนั้นตักขึ้นมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ 
  2. ต่อมาทำการตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมันมะกอกลงไป ตามด้วยหอมหัวใหญ่สับละเอียดเจียวจนกว่าจะมีกลิ่นหอม ใส่แฮม หรือเบคอนลงไปผัดให้กรอบ และเข้ากันดี เมื่อส่วนผสมทั้งหมดมีกลิ่นหอม ใส่นมข้นจืด พริกไทย และเกลือลงไป คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน รอให้นมเดือด ใส่ออริกาโน่ เส้นสปาเก็ตตี้ที่เตรียมไว้ คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน และตามด้วยส่วนผสมสุดท้ายนั่นก็คือ ไข่แดง คนไข่แดงเร็วๆ เพื่อให้ไข่ติดเส้นสปาเก็ตตี้จนเป็นเนื้อเดียวกัน 
สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า

หลังจากที่ทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าไม่ใส่วิปครีม เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำการจัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลย สำหรับมือใหม่ฝึกทําสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ง่ายๆ ด้วยตัวเองสามารถทำตามสูตรที่แชร์ข้างต้นได้เลย รับรองว่ารสชาติอร่อยกลมกล่อมละมุนละไมสุดๆ แน่นอน อีกทั้งการทำอาหารทานเองยังสามารถปรุงรสชาติได้ตามใจชอบอีกด้วย แถมยังใส่วัถตุดิบได้แบบไม่อั้นแบบจัดหนักจัดเต็ม เรียกได้ว่านอกจากรสชาติอร่อยแล้วอิ่มท้องสุดๆ 

แชร์สูตรยอดฮิต สปาเก็ตตี้ คาโบนาร่า ทำขาย สร้างกำไร สร้างรายได้ 

สปาเก็ตตี้คาโบนาร่าเป็นเมนูอาหารอิตาเลี่ยนที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ และยังเป็นเมนูที่หาทานได้ง่ายตามร้านอาหารอิตาเลี่ยนทั่วไป สำหรับใครที่อยสกลองทำคาโบนาร่า สูตรดั้งเดิมไว้ขายสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง วันนี้เรามีสูตรสปาเก็ตตี้ซอสครีมคาโบนาร่าชีสเข้มข้นมาให้ได้ติดตาม สำหรับส่วนผสม และวัตถุจะเหมือนกับสูตรสปาเก็ตตี้ซอสคาโบนาร่าไม่ใส่วิครีม โดยเราจะใส่พาเมซานชีส 50 กรัม แทนนมสด ซึ่งขั้นตอนต่างสามารถทำตามที่เราแชร์ข้างต้นได้เลย หลังจากที่ทำเสร็จแล้วก็จะได้สปาเก็ตตี้ครีมซอสคาโบนาร่าที่เข้มข้น รสชาติ หวาน มัน เค็ม ตามสูตรโบราณ จากอิตาลี 

สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า

เกร็ดความรู้ในการทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าให้อร่อย เริ่มจากขั้นตอนการต้มเส้นควรเช็คเส้นด้วยว่าสุกดีหรือยัง โดยการหักเส้น และดูด้านในของเส้น หากมีสีเหลืองเนียนแสดงว่าเส้นสุกเรียบร้อย ส่วนขั้นตอนใส่ไข่แดง ควรคนเร็วๆ และปิดไฟ เพื่อไม่ให้ไข่แดงสุกเกินไป เพียงแค่นี้ก็จะได้เมนูสปาเก็ตตี้ครีมซอสคาโบนาร่าสุดแสนอร่อยทานได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
เบเกอรี่

สายคลีนไม่ควรพลาด! สูตร คุกกี้ ธัญพืช กรอบอร่อย อัดแน่นด้วยประโยชน์มากมาย 

คุกกี้ ธัญพืช

ปัจจุบันเทรนสุขภาพกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยทำงานอย่างมาก เนื่องจากทำงานอย่างหนักจนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ส่งผลให้หลายคนเริ่มรู้สึกว่าสุขภาพของตัวเองเริ่มย่ำแย่ลงเรื่อยๆ จนทำให้ร่างกายเจ็บป่วย และโรครุมเร้ามากมาย และนี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ผู้คนเริ่มออกกำลังกายมากขึ้น เพื่อให้ร่างกายมีสุภาพที่ดี แต่อีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้สุขภาพดี นั่นก็คือ การรับประทานอาหาร โดยเฉพาะอาหารคลีน และขนมคลีน สำหรับใครที่กำลังมาหาขนมคลีนทานมื้อย่อยๆ ขอแนะนำ คุกกี้ ธัญพืช ขนมที่มีการรวมเอาธัญพืชหลากหลายชนิดมาทำเป็นคุกกี้ กรอบอร่อย และยังมีประโยชน์มากที่คาดไม่ถึง

คุกกี้ ธัญพืช

สายคลีมต้องไม่พลาด กับเมนูสุดฮิต คุกกี้ธัญพืช ขนมทานเล่น รสชาติหวาน หอมกลิ่นธัญพืชนานาชนิด เนื้อกรอบอร่อยเคี้ยวเพลิน และทานแล้วไม่อ้วน ได้รับประโยชน์เต็มๆ แถมยังอิ่มท้องอีกด้วย เรียกได้เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทานแล้วได้ทั้งสุขภาพ และหุ่นดีอีกด้วย สำหรับขนมคุกกี้ สูตรธัญพืชมีขายทั่วในร้านคาเฟ่ หรือร้านขายเบเกอรี่ทั่วไป แต่ราคาค่อนข้างแพง ดังนั้นวันนี้เราจะพาสายคลีนมาลองทำขนม คุกกี้ธัญพืช สูตรไร้แป้ง ไร้น้ำตาล ไว้ทานระหว่างวันแบบจุใจไปเลย

เปิดเมนูเพื่อสุขภาพ คุกกี้ ธัญพืช สูตรไร้แป้ง ไร้น้ำตาล ไม่อ้วน แถมดีต่อสุขภาพ 

คุกกี้ ธัญพืช

เมนูเพื่อสุขภาพมีหลากหลายเมนูให้เราได้เลือกทานมากมาย ไม่ว่าเป็น อาหาร เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ แต่มีหนึ่งเมนูที่อยากแนะนำคุกกี้ธัญพืช ขนมเพื่อสุภาพ ทานแล้วได้ประโยชน์ดีต่อสุขภาพ และไม่อ้วนอีกด้วย สำหรับใครกำลังลดน้ำหนักแต่อยากขนมต้องลองทาน คุกกี้ธัญพืช ไร้แป้ง ไร้น้ำมัน กรอบ หวานธรรมชาติ ไร้น้ำตาล ทานยังก็ไม่อ้วน และที่สำคัญยังเป็นเมนูขนมคลีนที่สามารทำทานได้ด้วย โดยสูตร คุกกี้ ธัญพืชจะเน้นเพื่อสาพ ไม่มีแป้ง และน้ำตาล ส่วนขั้นตอนการทำขนมคุกกี้ธัญพืชนั้นไม่ยุ่งยาก มือใหม่สายคลีนทำได้ แต่ก่อนที่ลงทำเมนูคุกกี้ ธัญพืช ไร้ แป้ง ไร้ น้ำตาล ต้องเตรียมส่วนผสมกันก่อน

คุกกี้ ธัญพืช
  1. มะม่วงหิมพานต์อบแห้ง 25 กรัม
  2. อัลมอนด์ไลด์ 25 กรัม
  3. เมล็ดทานตะวัน 25 กรัม
  4. ลูกเกด 25 กรัม
  5. งาดำ 20 กรัม
  6. งาขาว 20 กรัม
  7. เมล็ดฟักทอง 20 กรัม
  8. น้ำผึ้ง 5 ช้อนโต๊ะ
  9. ไข่ไก่ (เฉพาะไข่ขาว) 2 ฟอง

สำหรับส่วนผสมของ คุกกี้ ธัญพืชรวมมิตร หากบ้านไหนไม่มีธัญพืชที่กล่าวมาข้างต้นสามารถเปลี่ยนวัตถุดิบได้ เพราะการทำคุกกี้คลีนทำทานเองจะเน้นวัตถุดิบที่มีอยู่ในครัว และสามารถหาซื้อได้จากร้านค้าใกล้บ้าน เมื่อเตรียมวัตถุดิบครบแล้ว ในขั้นตอนต่อมาจะเป็นวิธี ทํา คุกกี้ ธัญพืช ไร้ แป้งไร้น้ำมัน ใช้ความหวานจากธรรมชาติไม่อ้วน 

คุกกี้ ธัญพืช
  1. นำอัลมอนด์ไลด์ มะม่วงหิมพานต์อบแห้ง เมล็ดทานตะวัน ลูกเกด งำดำ งาขาว เมล็ดฟักทอง ใส่ลงไปในภาชนะที่เตรียมไว้ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ตามด้วยเกลือ คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกรอบ ใส่น้ำผึ้งลงไป คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันอีกรอบ
  2. หลังจากนั้นใส่ไข่ขาว โดยค่อยเททีละนิด เพื่อให้ไข่ขาวสามารถซึมเข้าธัญพืชได้ดี ต่อให้เตรียมพิมพ์ใส่ขนมวางบนถาดอบขนม จากนั้นตักธัญพืชใส่ในพิมพ์ ทำการกดขนมให้แน่น โดยขนมแต่ละชิ้นให้มีความห่างกันชิ้นละ 1 เซนติเมตร
  3. ต่อมาเป็นการอบขนม โดยก่อนที่จะอบต้องทำการวอมตู้ก่อน 5 นาที จากนั้นนำถาดขนมเข้าอบที่อุณหภูมิ 140 องศาเซลเซียส เปิดไฟบน- ล่าง เป็นเวลา 15 นาที เมื่ออบเสร็จแล้วนำออกมาพักไว้ให้เย็น จากนั้นจัดใส่จาน ให้สวยงาม
คุกกี้ ธัญพืช

คุกกี้ธัญพืชรวมมิตร ที่อบเสร็จแล้วจะมีเหลืองสวยงาม เนื้อขนมมีความกรุบกรอบ รสชาติหวานหอมน้ำผึ้งละมุนละไมอร่อยโดนใจ สำหรับวิธีการเก็บคุกกี้ให้นำขวดโหลมาทำความสะอาด จากนั้นบรรจุคุกกี้ลงไปพร้อมปิดฝาให้แน่น ขนมคุกกี้ธัญพืชสามารถพกพาไปทานในที่ทำงานได้ และอิ่มท้องนานอักด้วย หากใครที่ไม่ชอบขนมคุกกี้ สูตรธัญพืช ขอแนะนำ คุกกี้ธัญพืชข้าวโอ๊ต เพียงใช้แค่ข้าวโอ๊ตผสมกับไข่ขาว ตามด้วยสารให้ความหวาน และเกลือเล็กน้อย นำเข้าอบ เสร็จแล้วจะคุกกี้ข้าวโอ๊ตสีเหลืองน่าทาน

ขนม คุกกี้ธัญพืชคลีน หอมอร่อย สุขภาพดี มีประโยชน์

คุกกี้ ธัญพืช

สำใครที่ไม่ชอบขนมที่มีแป้งเยอะ แนะนำคุกกี้ ธัญพืชเป็นหนึ่งในขนมคลีนสูตร คุกกี้ธัญพืชไร้แป้ง และไม่มีน้ำตาล ทานแล้วไม่อ้วน และสุขภาพดี และร่างกายแข็งแรง จึงทำให้ขนมสูตรนี้สามารถทานได้ทุกวัย และยังสามารถทานในระหว่างวันสำหรับคนที่ไม่มีเวลาทานข้าวอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็น เบเกอรี่คลีนที่รสชาติอร่อย ไม่มีแป้ง ไม่มีน้ำตาล และยังมีประโยชน์อย่างมากมาย เพราะในธัญพืชมีกรดไขมันจำเป็นกลุ่มโอเมก้า 3 ไม่ว่าจะเป็น ช่วยบำรุงระบบประสาท ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และ ช่วยลดโรคหลอดเลือดตีบ ได้อีกด้วย แถมเบเกอรี่ยอดนิยมอย่าง ขนมคุกกี้ สูตรธัญพืชยังมีปริมาณแคลน้อย เพียงประมาณ 80 แคลลอรี่ต่อชิ้น รับรองว่าทานแล้วไม่อ้วนแน่นอน 

คุกกี้ ธัญพืช

คุกกี้ธัญพืช ถือว่าเป็นเมนูคลีนยอดนิยมที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกสบาย และยังสามารถทานได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ อีกทั้งยังมีวิธีทำเบเกอรี่ง่ายๆ มือใหม่ก็ทำได้ แถมขนมคุกกี้ สูตรธัญพืชรวมมิตรเป็นเบเกอรี่ทำเองได้ที่บ้าน และยังใช้เวลาทำเพียงน้อยนิด คนมีเวลาน้อยก็ทำได้สามารทำเบเกอรี่โฮมเมดแสนอร่อยได้ แถมคุกกี้ สูตรธัญพืชยังสามารถไว้ได้นานอีกด้วยนะ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

เผยสูตรชาววัง วุ้น กะทิ ใบ เตย เนื้อขนมกรุบกรอบ หอมชื่นใจ ไม่เหม็นเขียว

วุ้น กะทิ ใบ เตย

วุ้น กะทิ ใบ เตย คือขนมชาววังที่ยอดนิยมรับประทานกันมากที่สุด และสามารรับประทานได้ทุกช่วงโอกาส ที่สำคัญเป็นขนมราคาไม่แพงสามารถหาซื้อได้ตามตลาดนัดทั่วไป สำหรับจุดเด่นของเมนูขนมหวานชนิดนี้คือ ขนมมีลักษณะเป็นวุ้นสีเขียวสดใส เนื้อเด้งกรุบกรอบ และมีขาวของกะทิราดอีกชั้น ส่วนรสชาติมีความหวานเย็นๆ หอมกลิ่นใบเตยละมุนละไม จึงทำให้ขนมมีความน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น 

วุ้น กะทิ ใบ เตย

สำหรับใครกำลังมองหาขนมหวานไทยๆ ทานในช่วงสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวแบบนี้ ขอแนะนำ วุ้นกะทิ ใบเตย ขนมหวาน เนื้อกรุบกรอบ หวานฉ่ำๆ หอมกลิ่นใบเตยชื่นใจสุดๆ เคี้ยวเพลินทุกคำ และที่สำคัญยังเป็นเมนูขนมหวานของไทยที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง และไม่ยากอย่างที่คิด อีกทั้งยังเป็นเมนูขนมที่ถูกยกให้เป็นขนมยอดนิยมสามารถทานได้ทั้งครอบครัว หากใครชอบทำขนมชาววัง วันนี้เรามีสูตรขนมวุ้น กะทิ ใบ เตยโบราณ รสชาติหวาน ไม่เหม็นเขียวมาให้ได้ทำตาม 

วิธีทำ วุ้น กะทิ ใบ เตย สลับสี หอมกลิ่นใบเตย เคี้ยวเพลิน

วุ้น กะทิ ใบ เตย

มาเอาใจสายวุ้นกะทิกันบ้าง เมนูที่ทานทุกวันไม่มีเบื่อ โดยเฉพาะ วุ้นกะทิใบเตย ที่มีรสชาติหวานหอมจนทานคำเดียวคงไม่พอ ที่สำคัญเนื้อสัมผัสของขนมมีความเด้งกรุบกรอบทานได้อย่างเพลิดเพลิน สำหรับวุ้นกะทิ สูตรใบเตยมีลักษณะแยกเป็นสองชั้น โดยชั้นแรกจะเป็นสีขาวของกะทิสด และชั้นที่สองจะเป็นสีเขียวของน้ำใบเตยจึงทำให้ขนมหวานชนิดนี้มีรสชาติสองรสที่เข้ากันสุดๆ ในส่วนของวิธี ทํา วุ้น กะทิ ใบ เตยที่หลายคนคิดว่าทำยากเกินไป แท้จริงแล้วทำไม่ยากอย่างที่คิด อีกทั้งสูตรวุ้นกะทิ ใบเตย เป็นสูตรที่มีส่วนผสมเพียงน้อยนิด แถมยังมีหลายสูตรให้เลือกทำอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น วุ้นกะทิใบเตยดอกไม้ และวุ้นกะทิโบราณยอดนิยม เป็นต้น 

วัตถุ และส่วนผสมของวุ้นน้ำใบเตย

  1. ใบเตย 10 ใบ
  2. ผงวุ้น 2 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำตาลทราย 70 กรัม
  4. น้ำสะอาด 2 ถ้วย
วุ้น กะทิ ใบ เตย

ส่วนผสม และวัตถุดิบของวุ้นกะทิ

  1. น้ำตาลทราย 70 กรัม
  2. ผงวุ้น 2 ช้อนโต๊ะ
  3. เกลือ ½ ช้อนชา
  4. น้ำสะอาด 250 กรัม

หลังจากที่เตรียมส่วนผสม และวัตถุดิยของสูตรวุ้นกะทิ ใบ เตย เรียร้อยแล้ว ต่อมาเราจะมาดูขั้นตอนการทำขนม ไทย วุ้นกะทิ สูตรใบเตยกัน โดยวิธีทำวุ้นกะทิจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนแรกจะเป็นการทำวุ้นใบเตย และส่วนที่สองจะเป็นการทำวุ้นกะทิ สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยทำขนมไทยอย่างวุ้นกะทิ น้ำใบเตยสูตรขนม โบราณสามารถทำตามได้ดังนี้

ขั้นตอน: การทำวุ้นใบเตย

วุ้น กะทิ ใบ เตย
  1. มาเริ่มกันที่ขั้นตอนแรก นำใบเตยมาล้างน้ำให้สะอาด และทำการหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นใส่ในโถปั่น ใส่น้ำเล็กน้อยปั่นให้ใบเตยละเอียด เสร็จแล้วนำไปกรองเอาแต่น้ำใบเตยใส่ในภาชนะ 
  2. นำน้ำใบเตยใส่หม้อ และนำไปตั้งไฟอ่อนๆ ใส่ผงวุ้นลงไปคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน และคนเรื่อยๆ จนกว่าวุ้นจะละลายหมด จากนั้นใส่น้ำตาลลงไป คนเรื่อยๆ จนกว่าน้ำตาลจะละลาย
  3. เมื่อน้ำตาลละลายแล้ว นำมาเทใส่พิมพ์ หรือถาดที่เตรียมไว้ จากนั้นช้อนฟองอากาศออก เพื่อให้ได้วุ้นที่มีผิวเนียนเรียบ นำมาพักไว้ให้วุ้นเซตตัว

ขั้นตอน: การทำวุ้นกะทิ

วุ้น กะทิ ใบ เตย
  1. นำน้ำสะอาดที่เตรียมไว้ ใส่ลงไปในหม้อ และใส่น้ำทิลงไป จากนั้นนำไปตั้งเตา เปิดไฟปานอ่อนๆ ตามด้วยผงวุ้น คนส่วนผสมคนเข้ากัน และคนจนกว่าผงวุ้นจะละลาย เมื่อวุ้นละลายแล้ว ให้ใส่เกลือ และน้ำตาล คนส่วนผสมให้จนกว่าน้ำตาลจะละลายหมด 
  2. ในระหว่างที่คนน้ำตาลให้ละลาย ถ้ามีฟองอากาศให้ช้อนอากาศออกด้วย เมื่อทุกอย่างละลายเข้ากันดีแล้ว นำไปเทใส่พิมพ์วุ้นใบเตยที่เทไว้ก่อนหน้านี้ ทำการเกลี่ยผิวหน้าวุ้นให้เรียบ เพื่อความสวยงาม จากนั้นรอให้วุ้นเซตตัว
  3. นำวุ้นกะทิที่ได้มาตัดเป็นชิ้นสีเหลื่อม จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

หากต้องการทำ วุ้นกะทิ ใบเตย สูตรขนมไทย โบราณเป็นรูปดอกไม้ ให้หาพิมพ์รูปดอกไม้ จากนั้นเทวุ้นใบเตย และวุ้นกะทิลงไป รอให้วุ้นเซตตัว จากนั้นแกะออกจากพิมพ์ก็จะได้วุ้นรูปดอกไม้ที่สวยงามน่ารับประทาน และเคล็ดลับความอร่อยของขนม หวาน ไทย อย่างวุ้นกะทิสูตรใบเตยที่ทำเร็จแล้วควรนำไปแช่ในตู้เย็น เพื่อให้ขนมมีรสชาติหวาน เย็นชื่นใจ เคี้ยวฟินทุกคำ

แชร์เคล็ดลับน่ารู้ ขนม ไทย ทำ ง่าย วุ้นกะทิสูตรใบเตย ให้อร่อย ตามฉบับชาววัง

วุ้น กะทิ ใบ เตย

อีกหนึ่งเคล็บลับในการทำเมนูวุ้นกะทิใบเตยโบราณให้อร่อย ในขั้นตอนการต้มวุ้น ควรต้มวุ้นให้ละลายดีก่อน โดยวิธีสังเกตง่ายๆ คือ ถ้ายังมีเม็ดวุ้นเล็กๆ เกาะอยู่ที่ไม้พาย หรือทัพพี แสดงว่าวุ้นยังไม่ละลาย ให้คนต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าทัพพีที่คนจะไม่มีเม็ดเล็กเกาะ และอีกหนึ่งเคล็บลับทำวุ้นขนม ไทย ง่ายๆ คือ ไม่ควรใส่น้ำตาลก่อนผงวุ้น เพราะทำให้วุ้นละลายไม่ดีนั่นเอง

วุ้น กะทิ ใบ เตย

วุ้น กะทิ ใบ เตย เป็นขนมหวานชาววังที่นิยมทำทานกันในครอบครัว และขนมหวานของไทยที่ขายดีมากๆ อีกทั้งราคาไม่แพง สำหรับใครที่ชอบขนมไทย ทำเองไม่อยากซื้อทาน และอยากลองทำสูตร ขนม ไทยง่ายๆ ขอแนะนำ เมนูวุ้นกะทิ สูตรใบเตย รับรองว่าทำง่าย และขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แถมยังสามารถทำทานได้แบบเต็มอิ่มอีกด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
เบเกอรี่

แชร์สูตร คุกกี้ เนย สด หอมกลิ่นเนยสด รสชาติหวาน กรอบ ส่งตรงจากเดนมาร์ก 

คุกกี้ เนย สด

คุกกี้ เนย สด หรือ เดนิช บิสกิต หนึ่งในขนมยอดนิยมตลอดกาล โดยมีต้นกำเนิดมาจากประเทศเดนมาร์ก สำหรับคุกกี้จะมีส่วนประหลักเป็น แป้ง น้ำตาล และที่ขาดไม่ได้เลยคือ เนยสด เท่านั้น แต่ในปัจจุบันมีพัฒนาปรับปรุงสูตรขนมให้มีกลิ่นที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น กลิ่นวานิลลา ซ็อกโกแลต เป็นต้น ขนมคุกกี้มีความโดดเด่นในเรื่องความเรียบง่ายแบบคลาสสิก คือขนมมีลักษณะเรียบไม่มีการตกแต่ง หรือทำให้มีสีสันเหมือนขนมชนิดอื่น แต่มีความหลากหลายในเรื่องของรูปทรง เช่น ทรงกลม วงรี วงแหวน และสี่เหลี่ยม หรือบางครั้งเราเห็นขนมคุกกี้ในรูปทรงคล้ายเพรทเซล รวมไปถึงรูปทรงเกลียว 

คุกกี้ เนย สด

มาเอาใจสายคุกกี้กับบ้าง กับขนม คุกกี้เนยสด เป็นขนมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะรสชาติของขนมมีความหวานนุ่มนวล ส่วนเนื้อขนมมีความกรุบกรอบ ตัดกับกลิ่นเนยสดเข้ากันที่สุด อีกทั้งขนมคุกกี้ยังเป็นขนมที่ไม่ว่าจะเวลาจะผ่านมากี่ทศวรรษรสชาติยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เรียกได้ว่า ขนมคุกกี้ที่มีความคลาสสิกสุดๆ สำหรับวิธีทำที่หลายคิดว่าทำง่าย แต่แท้จริงแล้วไม่ยากอย่างที่คิด อีกทั้งรสชาติของขนมคุกกี้ เนย สดยังมาความอร่อยเหมือนส่งตรงจากต้นตำรับเลยทีเดียว

วิธีทำขนมสุดคลาสสิก คุกกี้ เนย สด เนื้อกรุบกรอบ อบอวลด้วยเนยสด หวานละมุน

หากใครเป็นชอบทำขนม และกำลังหาเมนูขนมหวานไว้ทำทานในช่วงวันหยุด ต้องไม่พลาดกับคุกกี้เนยสด ขนมที่หลายคนชอบทานเป็นของว่าง และทานลองท้องก่อนออกไปทำงาน อีกทั้งยังสามารถทำเป็นของขวัญในเทศกาลต่างๆ หรือมอบเป็นของขวัญในกับญาติผู้ใหญ่ได้ด้วย สำหรับวิธี ทํา คุกกี้ เนยสด ง่ายๆ มือใหม่ก็สามารถทำได้ไม่ยาก และในวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูวิธีทำคุกกี้แบบใหม่นั่นก็คือ วิธี ทํา คุกกี้ เนยสด ด้วย ไมโครเวฟ เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเตาอบขนมอย่างมาก ส่วนสูตรคุกกี้เนยสด ง่ายๆ ใช้ส่วนผสมเพียงเล็กน้อยดังนี้

คุกกี้ เนย สด
  1. แป้งอเนกประสงค์ 200 กรัม
  2. น้ำตาลไอซิ่งซ์ 50 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 60 กรัม
  4. เกลือ ½ ช้อนชา
  5. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  6. เนยสด 150 กรัม
  7. ผงฟู ½ ช้อนชา
  8. เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ

สำหรับสูตรคุกกี้ เนยสด ที่กล่าวมมาข้างต้นเป็นสูตรต้นตำรับของเดนมาร์ก ดังนั้นถึงแม้ว่าจะอบด้วยไมโครเวฟ ขนมคุกกี้ยังคงมีรสชาติหวาน หอม และกรุบกรอบเหมือนสูตรต้นตำรับแน่นอน ส่วนวิธีทำคุกกี้เนยสด ด้วยเตาไมโครเวฟสามารถทำตามได้ดังนี้

คุกกี้ เนย สด
  1. มาเริ่มกันที่ขั้นตอนแรกกันเลย นำไข่ เกลือ ผงฟู เบคกิ้งโซดา และน้ำตาลไอซิ่งใส่ลงไปในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นตีส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวกัน 
  2. เตรียมแป้งขนม โดยนำแป้งอเนกประสงค์มาร่อนในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นตะล่อมๆ แป้งใส่ในส่วนผสมปียกที่เตรียมไว้ในขั้นตอนแรก ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวกันอีกครั้ง ใส่น้ำตาทรายที่ละลายกับเนยสดลงไป ตีส่วนผสมทั้งหมดอีกรอบ
  3. เมื่อได้แป้งขนมคุกกี้แล้ว ให้นำมาตักใส่ถุงบีบขนมลงในจานจานกระเบื้อง จากนั้นนำเข้าเตาอบไมโครเวฟที่ 600 วัตต์ เป็นเวลา 50-60 นาที หรือจนกว่าแป้งคุกกี้จะเป็นสีเหลือง เสร็จแล้วนำออกจากเตา พักไว้ให้เย็น 

ขนม คุกกี้เนย สด สไตล์โฮมเมคที่ทำเสร็จแล้วจะมีรสชาติหวานละมุน และกรุบกรอบเคี้ยวอร่อยฟินทุกคำ และหากเสิร์ฟพร้อมกับชาร้อน หรือนมสักแก้วยจะยิ่งทำให้อร่อยมากขึ้น อีกทั้งขนมคุกกี้ยั้งเป็นเมนูเบเกอรี่ที่สามารถทานได้ทั้งครอบครัวไม่จะเป็นเด็ก และผู้ใหญ่ สำหรับขนมที่ทานไม่หมดสามารถนำไปเก็บไว้ในขวดโหลได้นานเป็นอาทิตย์เลยทีเดียว 

เผยสูตร ขนมคุกกี้ ด้วยเตาอบ เมนูเบเกอรี่ยอดนิยม ส่งมอบได้ทุกเทศกาล

คุกกี้ เนย สด

มาต่อกันที่ วิธีทำคุกกี้ เนย สดด้วยเตาอบเบเกอรี่ง่ายๆ กัน โดยใช้สูตรเดียวกับคุกกี้ด้วยไมโครเวฟ เริ่มจากนำแป้งเค้กมาร่อนเอาตะกอนออก จานั้นใส่ไข่ เนยสด น้ำตาลทราย ผงฟู และเบคกิ้งโซดาลงไป ตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ต่อมาให้ใส่เกลือ ตามด้วยกลิ่นวานิลลาเพียงเล็กน้อย ตีส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง เสร็จแล้วตักใส่ถุงบีบขนม ทำการบีบขนมลงไปในถาดอบขนม จากนั้นนำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 20 นาที หลังจากที่อบเสร็จแล้วให้นำออกมาพักไว้ให้เย็น ซึ่งขนมคุกกี้ที่อบเสร็จจะมีสีเหลือง และรสชาติหอม กรอบ หวานละมุนสุดๆ 

คุกกี้ เนย สด

ถ้าอยากเพิ่มรสชาติให้กับขนมคุกกี้ เนย สด แนะนำให้เติมแยมผลไม้ตรงกลางจะทำให้คุกกี้มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวอร่อยได้อย่างลงตัว เรียกว่าเป็นเบเกอรี่ทำเองง่ายๆ ทำสูตรไหนก็อร่อยทานได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ นอกจากนี้ขนมเบเกอรี่โฮมเมดยังสามารถทำเป็นของขวัญในวันพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น วันปีใหม่ ขึ้นบ้านใหม่ วันเกิด เป็นต้น อีกทั้งยังสามารถให้ได้ทั้งเด็ก และผู้ใหม่อีกด้วย แถมยังเป็นขนมสุดคลาสสิกที่นิยมทานในงานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ ตลอดจนงานบวช และงานแต่งกันเลยทีเดียว หากใครที่สนใจเมนูขนมหวานแสนอร่อยไว้ทำทาน หรือทำขาย แนะนำ ขนมคุกกี้ สูตรเนยสดทำง่ายๆ แถมอร่อยตามสูตรต้นตำรับขนานแท้ ไม่มีผิดเพี้ยน 

อ่านบทความอื่นๆ: