Categories
อาหารนานาชาติ

อาสาพาทำ เทมปุระ สูตรญี่ปุ่นดั้งเดิม แป้งกรอบ เคี้ยวเพลิน

เทมปุระ

เชื่อว่าหลายคนคงเคยทานอาหารญี่ปุ่นกันมาบ้างแล้ว แต่มีอีกหนึ่งเมนูที่อยากแนะนำให้ลองทานกันอย่าง เทมปุระ เป็นอาหารสุดโด่งดังของญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมของคนไทยเป็นอย่างมาก โดยเทมปุระ คือ เมนูอาหารที่สามารถทานเล่น หรืออาหารเรียกน้ำย่อยที่มีรสชาติอร่อยมีความกลมกล่อม กรุบกรอบ เคี้ยวมัน เคี้ยวเพลิน ทำให้เด็กๆ นิยมทานกันเป็นประจำ สำหรับแม่บ้านคนไหนที่ต้องการให้ลูกๆ ทานอาหารได้มากขึ้น เรามีสูตรกุ้งชุบแป้งทอด เทมปุระกรุบกรอบมาฝากสามารถติดตามกันได้เลย

วิธีทำ เทมปุระ แป้งทอดกรอบ ไม่อมน้ำมัน ทำง่าย ทำขายได้

เทมปุระ

ขอต้อนรับเข้าสู่ครัวญี่ปุ่นสุดคลาสสิก วันนี้เรากลับมาอีกครั้งกับคำเรียกร้องให้มาทำอาหารญี่ปุ่นเมนูเด็ดๆ ทานบ้าง ว่าแต่จะทำเมนูไหนดีที่อร่อยทานได้ทุกวัน ขอเสนอเมนูเทมปุระ แป้งกรอบนอกนุ่มใน พร้อมทานคู่กับน้ำจิ้มรสชาติเข้มข้น และผักทอดกรอบอร่อยได้ประโยชน์ ดังนั้น เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปทำกันเลย โดยสูตรที่จะพาทำนั้นเป็นสูตรกุ้งเทมปุระ วิธีทำอย่างง่ายสามารถทำทานเองหรือทำขายได้สบายมาก

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

เทมปุระ
  1. กุ้ง 500 กรัม
  2. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 150 กรัม
  3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  4. มะเขือยาว 1 ลูก
  5. น้ำมันพืช 1 ขวด
  6. แป้งทอดกรอบ 100 กรัม

เมนูเทมปุระสามารถใช้กุ้งสด และผักต่างๆ เช่น ฟักทอง หอมหัวใหญ่ มะเขือหวาน หรือใครอยากใช้ผักชนิดอื่นได้ตามใจชอบ เมื่อได้ผักที่ต้องการแล้วในขั้นตอนต่อไปจะเป็นการผสมแป้งเทมปุระ วิธีทำง่ายๆ สามารถทำตามได้ดังนี้ 

เทมปุระ
  1. นำผักต่างๆ ที่เตรียมไว้มาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นหั่นเป็นชิ้นๆ ขนาดตามความต้องการได้เลย ตัดใส่ถ้วยเตรียมไว้ก่อน
  2. ลำดับถัดมาเตรียมกุ้งล้างทำความสะอาดเด็ดหัว และแกะเปลือกกุ้งออกให้เหลือแค่หาง ต่อมาเตรียมแป้ง โดยนำแป้งทอดกรอบ และสาลีอเนกประสงค์มาผสมเข้าด้วยกันจะทำให้แป้งกรอบฟูมากยิ่งขึ้น ใส่ไข่ลงไป ตามด้วยน้ำเย็นจัดตีส่วนผสมให้เข้ากัน 
  3. จากนั้นมาเตรียมกระทะ หรือหม้อทอดตั้งเตาใช้ไฟปานกลาง รอจนกว่าน้ำมันร้อนจัด เสร็จแล้วนำกุ้งมาชุปแป้งทอด ใส่ลงไปในกระทะทอดให้เหลือง ตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน หลังจากนนั้นนำผักมาชุปแป้ง ทำการทอดเหลืองกรอบตักใส่ใส่ตะแกรงเหล็กให้สะเด็ดน้ำมัน นำน้ำจิ้มเทมปุระมาเทใส่ถ้วย จัดใส่จานพร้อมของทอดให้สวยงาม
เทมปุระ

เมนูสูตรกุ้งเทมปุระทอดกรอบ แป้งฟู เมื่อลองชิมจะให้รสชาติกลมกล่อม กรุบกรอบ เนื้อกุ้งแน่นเด้งทานคู่กับผักรสหวานกรอบๆ และน้ำจิ้ม เทมปุระอร่อยฟินเต็มคำได้ลงตัว หากใครไม่อยากเตรียมแป้งเองสามารถทำสูตร กุ้งเทมปุระ แป้งโกกิ แป้งทอดกรอบสำเร็จรูปที่สามารถซื้อได้ตามร้านค้าใกล้บ้าน 

เคล็ดลับ ทำเทมปุระกุ้ง แป้งฟูกรอบนาน หอมมัน ฟินเต็มคำ

เทมปุระ

เทม ปุระ เป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อีกทั้งสูตรกุ้ง เทมปุระ วิธี ทำง่ายๆ สามารถทำเองได้ แต่การทำให้แป้งทอดกรอบนานนั้นไม่ง่ายเลย ดังนั้นเรามีเคล็ดลับง่ายๆ ด้วยการนำแป้งผสมน้ำเย็นจัด จากนั้นนำไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที ก่อนนำมาใส่ไข่ไก่ลงไปตีส่วนผสมให้เข้ากันจะได้แป้งข้นเหลว เมื่อนำมาชุปแป้งทอดจะทำให้แป้งเหลืองกรอบฟูสวยงามน่าทาน และกรอบนานตามต้นตำรับญี่ปุ่น 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

เมนูอาหารไทยรสเด็ด หลน ปู เครื่องแน่น สูตรต้นตำรับชาววัง

หลน ปู

เมนูอาหารไทยนอกจากอาหารประเภทผัด แกง ทอด แล้วยังมีอาหารประเภทน้ำพริก อย่าง หลน ปู เป็นน้ำพริกที่มีกลิ่นหอมละมุน และมีรสชาติออกเค็มเล็กน้อย สำหรับเมนูปู หลนแสนอร่อยจะนิยมทานคู่กับผักสด อาทิ แตงกวา ถั่วฟู มะเขือเปราะ และผักชนิดอื่นๆ ที่สามารถหาได้จากสวนครัวหลังบ้าน นอกจากนี้ชาวบ้าวในสมัยก่อนยังนิยมทานเมนูหลนปูเป็นอาหารเย็น เพราะเป็นเมนูที่ทำง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก และยังเป็นเมนูที่สามารถทานได้ทั้งบ้านอีกด้วย ดังนั้น ถ้าใครยังไม่มีเมนูอาหารเย็นสามารถลองทำหลน ปู เค็มแสนอร่อยทานได้ง่ายๆ รับรองว่าอิ่มอร่อยได้สุขภาพอย่างแน่นอน 

วิธีทำ หลน ปู เค็ม แสนอร่อย หอมละมุน อย่างง่ายๆ มือใหม่ก็ทำได้ 

หลน ปู

ใครที่ชอบทานน้ำพริกรสเด็ดมาทางนี้ วันนี้เรามีเมนูหลน ปูเค็ม รสชาติกลมกล่อมอร่อยนัวร์ ที่มาพร้อมกับกลิ่นหอมๆ เย้ายวนใจเรียกน้ำย่อยสุดๆ สำหรับวิธีทำปู หลน โบราณด้วยตัวเองนั้นง่ายมากๆ มือใหม่หัดทำอาหารก็สามารถทำได้แน่นอน ส่วนวัตถุดิบต่างๆ ใช้เพียงน้อยอีกด้วย ว่าแต่ส่วนผสมของหลนปูใส่อะไรบ้างตามไปดูกันเลย 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

หลน ปู
  1. ปูดอง 200 กรัม
  2. หมูสับ 100 กรัม
  3. รากผีกซี 1 ต้น
  4. ข่าหั่นเป็นแว่น ½ ถ้วยตวง
  5. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  6. ตะไคร้ซอย ½ ถ้วยตวง
  7. หอมแดง ½ ถ้วยตวง
  8. มะดันซอย ½ ถ้วยตวง
  9. หิวกะทิ 100 กรัม
  10. พริกชี้ฟู พริกเหลือง 1 ถ้วยตวง

สำหรับเมนูหลน ปูเค็มจะใช้ปูดองตัวขนาดพอดี จากนั้นนำมาล้างน้ำให้สะอาดก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการทำหลน ปู เค็ม สูตร โบราณ ทรงเครื่อง รสเด็ด ฉบับมือใหม่สามารถทำตามได้ดังนี้

หลน ปู
  1. นำปูที่ล้างทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว นำมาแกะจับปิ้งปูออกให้หมด และแกะกระดองปู ปากปู และนมปูออกให้หมด
  2. ในขั้นตอนต่อมาให้นำหัวกะทิผสมกับหมูสับคนส่วนผสมให้เข้ากันจะช่วยให้หมูสับไม่ติดกันเป็นก้อนพักไว้ นำหางกระทิใส่หม้อต้ม ตามด้วยผักซี ข่าหั่นเป็นแว่น คนส่วนผสมให้เข้ากัน ใช้ไฟอ่อน จากนั้นใส่ส่วนผสมที่เป็นหมูสับผสมกับกะทิลงไป
  3. หลังจากนั้น ใส่ปูดองที่แกะไว้ใส่ลงไปในหม้อ คนส่วนผสมให้เข้ากัน จนกว่าจะกระดองปูจะเปลี่ยนสีส้ม ใส่ไข่ไก่ลงไปคนให้เข้ากัน ใส่ตะไคร้ซอย หอมแดงซอย มะกันซอย คนส่วนผสมเข้ากัน ตามด้วยมะดันซอย เป็นอันเสร็จเรียบร้อย 
หลน ปู

สำหรับหลน ปูเค็มตามสูตรอาหารไทยชาววังสามารถใส่มะดันลงไปได้ เพื่อเพิ่มความเปรี้ยวเล็กน้อยผสมผสานกับรสชาติเค็มของปูดอง และความมันของกะทิได้อย่างลงตัว จากนั้นเสิร์ฟคู่กับผักสดกรอบๆ และข้าวสวยร้อนๆ ทานแล้วอร่อยฟินกำลังดี เรียกได้ว่าหลนปูเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารไทยพื้นบ้านที่ทำง่าย และมีรสชาติอร่อยทานได้แบบไม่อั้น 

เคล็ดลับ! การทำ หลนปูเค็ม รสกลมกล่อม สูตรโบราณ อย่างง่าย 

หลน ปู

หลนปู เป็นหนึ่งในอาหารไทยพื้นบ้านที่มีความอร่อย รสกลมกล่อมทานได้ทุกวัน อีกทั้งยังเป็นอาหารเย็นจานเดียวที่ทานแล้วอิ่มท้องนานไม่หิวตอนกลางคืน แถมยังเป็นเมนูที่ทำทานได้ทั้งครอบครัว ซึ่งการทำปู หลน ชาววัง ให้อร่อยนั้นจะต้องใช้กะทิสดจะทำให้อาหารมีกลิ่นหอม มัน และอีกหนึ่งเคล็ดลับคือ นำหมูผสมกับหัวกะทิจะทำให้หมูไม่จับตัวเป็นก้อน นอกจากนี้หากต้องการให้ปูหลนมีความเข้มข้นมากขึ้นจะต้องใส่ไข่ไก่ลงไปด้วยจะช่วยให้ปูหลนมีความเข้มข้นมากขึ้น อีกทั้งการใส่มะดันซอยจะช่วยให้ปูหลนมีความเปรี้ยวอร่อยกลมกล่อมมากขึ้นอีกด้วย สำหรับใครที่อยากทำหลนปูเค็มทรงเครื่อง สูตรชาววัง รสชาติอร่อยกลมกล่อมสามารถทำตามเคล็ดลับที่เรานำมาแชร์ได้เลย รับรองว่าอร่อยชัวร์แน่นอน 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
เบเกอรี่

มาทำความรู้จัก ครอฟเฟิล แป้งครัวซองต์นุ่มนิ่ม ขนมสุดฮิตในคาเฟ่

ครอฟเฟิล

ขนม ครอฟเฟิล ถือว่าเป็นขนมเบเกอรี่ที่มีมาตั้งแต่สมัยสิบปีที่แล้ว โดยในสมัยก่อนสามารถหาทานขนม ครอฟเฟิลได้ตามร้านอาหาร หรือร้านคาเฟ่ทั่วไปเท่านั้น แต่ในปัจจุบันขนมชนิดนี้นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจึงมีการทำขนมออกมาขายตามร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป เพื่อให้คนทั่วไปสามารถซื้อทานได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น โดยมีครอฟเฟิลหน้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ขนมครอฟเฟิลคาราเมลหน้ามะม่วง ครอฟเฟิลหน้าซ็อกโกแลต และอื่นๆ อีกมากมาย ให้เลือกได้ตามใจชอบ และทานได้แบบไม่อั้น แถมรสชาติอร่อยในราคาสุดคุ้มอีกด้วยนะ 

วิธีการทำขนม ครอฟเฟิล แป้งนุ่มหนึบหนับ รสกลมกล่อม ทำง่าย อร่อยด้วย 

ครอฟเฟิล

เชื่อว่าหลายคนที่ชอบทานขนมอร่อยๆ เป็นประจำจะต้องเคยทาน ครอฟ เฟิล ขนมยอดนิยมอย่างแน่นอน ซึ่งครอฟเฟิล คือ ขนมที่มีรูปร่างหน้าตาแปลกใหม่ ที่มาพร้อมกับเนื้อขนมนุ่มนิ่ม และหากราดด้วยน้ำซอสซ็อกโกแลต คาราเมล หรือน้ำผึ้งจะยิ่งเพิ่มรสชาติขนมให้มีความหวานละมุนทานง่าย และทานได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อ ที่สำคัญขนมครอฟเฟิลทำง่ายๆ สะดวกสบาย และไม่ต้องปั้นแป้งเองให้เสียเวลา 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

ครอฟเฟิล
  1. แป้งครัวซองค์สำเสร็จรูป 5 ชิ้น
  2. เนยสด 1 ก้อนเล็ก
  3. น้ำตาลไอซิ่ง 1 ขวด

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมทำน้ำซอสคาราเมล

  1. น้ำตาลทราย 350 กรัม
  2. น้ำสะอาด 100 กรัม

ครอฟเฟิลในสูตรเบเกอรี่ทำเองสามารถใส่ท็อปปิ้งต่างๆ ได้ตามใจชอบ แต่วันนี้เราจะทำน้ำซอสคารา เมลทานเอง เพื่อเพิ่มรสชาติให้ขนมมีกลิ่นหอมกรุ่นๆ อบอวลชวนทานมากขึ้น อีกทั้งจะใช้แป้งครัวซองค์สำเร็จรูปที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านชุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ต่อมาจะเริ่มทำขนมโดยใช้เตาวาฟเฟิลกันเลย 

ครอฟเฟิล
  1. นำแป้งครัวซองค์สำเร็จรูปมาออกจากช่องแช่แข็ง นำมาละลายน้ำแข็งทิ้งไว้สักพักจนกว่าแป้งจะนุ่มนิ่ม จากนั้นนำเตาวาฟเฟิลมาอุ่นไว้ที่ระดับ 2-3 ประมาณ 10 นาที เสร็จแล้วนำเนยสดมาทาบนเตาวาฟเฟิลจากนั้นนำแป้งครัวซองค์ใส่ลงไป ปิดฝา กดให้แน่น รอประมาณ 5 นาที เปิดฝาออก จัดใส่จาน 
  2. ต่อมาจะเป็นการทำน้ำซอสคาราเมล โดยเริ่มจากเทน้ำตาล และน้ำเปล่าลงไปในหม้อ จากนั้นนำไปตั้งเตา ใช้ไฟอ่อนๆ คนให้เรื่อยๆ จนกว่าน้ำตาลละลายหมด และมีน้ำตาลเข้มข้น เป็นอันเสร็จเรียบร้อย จากนั้นนำมาราดบนขนมวาฟเฟิล โรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง เรียบร้อยพร้อมทานได้เลย 
ครอฟเฟิล

ครอฟเฟิลเป็นขนมเบเกอรี่ง่าย ๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเองใช้เวลาเพียงแค่สิบนาทีก็จะได้ขนมครอฟเฟิลครัวซองต์อุ่นๆ แป้งนุ่มๆ กลิ่นหอมละมุนทานคู่กับกาแฟร้อนๆ ในยามเช้าอร่อยเข้มข้น และอิ่มท้องอีกด้วย นอกจากนี้ครอฟเฟิลที่เหลือสามารถเก็บไว้ทานได้ในวันถัดไปรสชาติอร่อยเหมือนเดิม 

แชร์ไอเดียสูตร ครอฟเฟิล รสชาติอร่อย ไม่จำเจ ทานได้ตลอดทั้งวัน 

ครอฟเฟิล

ครอฟเฟิลสูตรครัวซองค์สำเร็จรูปมีหลากหลายหน้าให้เลือกทานได้แบบไม่อั้น แถมขนมครอฟเฟิลยังสามารถเพิ่มท็อปปิ้งต่างๆ ได้ตามใจชอบ ดังนั้นวันนี้เรามีไอเดียตกแต่งหน้าขนมครอฟเฟิลให้น่าทานสไตล์เบเกอรี่โฮมเมด โดยเริ่มจากนำแป้งครัวซองค์เข้าเตาอบวาฟเฟิลอบให้กรอบ นำมาจัดใส่จาน ราดด้วยราคาเมล และซอส ซ็อกโกแลต ตามด้วยผลไม้ต่างๆ อย่าง สตรอเบอร์รี่ บลูเบอรี่ กี่วี และวิปปิ้งครีม เป็นอันเสร็จเรียบร้อยกับขนม ครอฟเฟิลหน้าผลไม้หลากรสชาติแสนอร่อย 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

แจกสูตรขนม กล้วยทอด โบราณ แป้งกรอบ กล้วยเนื้อนุ่มนิ่มกำลังดี

กล้วยทอด

กล้วยนอกจากจะสามารถทานได้เลยแล้ว ยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นขนมหวานได้ด้วย และเมนูกล้วยที่ได้รับความนิยมคือ กล้วยทอด แป้งกรุบกรอบ เคี้ยวมัน เคี้ยวเพลิน ทานได้ทั้งวัน ซึ่งการทอดกล้วยให้กรอบนั้นขึ้นอยู่กับการผสมแป้งให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสมจะทำให้แป้งกรอบนานขึ้น ว่าแต่ขนมกล้วยทอดใช้แป้งอะไรดี แนะนำให้ใช้แป้งทอดกรอบโกกิจะช่วยให้กล้วยกรอบนาน ที่สำคัญแป้งยี่ห้อนี้สามารถหาซื้อได้ง่ายและราคาไม่แพงอีกด้วย ดังนั้นหากบ้านไหนที่กำลังหาสูตรขนม ไทย ทำ ง่ายๆ ต้องลองทำขนมกล้วยทอดรับรองว่าอร่อยติดใจอย่างแน่นอน 

เผยขั้นตอนทำขนม กล้วยทอด สูตรโบราณ แป้งกรอบนาน ไม่อมน้ำมัน 

กล้วยทอด

กล้วยสามารถนำมาทำขนมหวานได้หลากหลายเมนู แต่มีหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมตลอดกาลอย่างกล้วยทอด เป็นขนม หวาน ไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีรสชาติหวานที่ออกมาจากกล้วย และมีแป้งกรุบกรอบ หอมกลิ่นงาละมุนละไม หากได้ลองทานเคี้ยวมันจนหยุดทานไม่ได้เลยทีเดียว ในส่วนของวิธีทำขนมชนิดนี้ค่อนข้างทำได้ง่ายๆ โดยวัตถุดิบ และส่วนผสมกล้วยทอดมีเพียง กล้วย กับแป้งก็สามารถทำได้แล้ว ดังนั้นหากใครมีกล้วยเหลือทานสามารถนำมาทำกล้วยทอดได้สบายมาก 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม 

กล้วยทอด
  1. กล้วยน้ำว้าห่าม 1 หวี
  2. น้ำตาลทราย 120 กรัม
  3. แป้งทอดกรอบ 120 กรัม
  4. งาขาว 30 กรัม
  5. หัวกะทิ 150 กรัม
  6. น้ำปูนใส 1 ช้อนโต๊ะ
  7. ใบเตย ¼ ช้อนโต๊ะ
  8. เนื้อมะพร้าวขูด 60 กรัม
  9. ใบเตย 2 ใบ

ขนมกล้วยทอด เป็นขนมที่ใช้กล้วยน้ำว้าห่ามๆ จะทำให้รสชาติของขนมมีความอร่อยกำลังพอดี ผสมผสานกับมะพร้าวขูดกรุบกรอบเข้ากันได้เป็นอย่างดี ส่วนวิธี ทํา กล้วยทอด สูตรโบราณสามารถทำตามได้ดังนี้

กล้วยทอด
  1. ขั้นตอนนำกล้วยน้ำว้ามาปอกเปลือก หั่นเป็นแนวยาว ให้ได้ความหนาพอดีประมาณ 1 เซนติเมตร ใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ พักไว้ก่อน
  2. ต่อมานำแป้งทอดกรอบ และหัวกะทิใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นใช้ตะกร้อคนส่วนผสมที่เตรียมไว้ ใส่น้ำปูนใสลงไปตีแป้งให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ตามด้วยน้ำตาลทราย และเกลือ คนจนกว่าน้ำตาลจะลายดี สุดท้ายใส่งาขาว มะพร้าวขูด คนส่วนผสมให้เข้ากัน
  3. เมื่อเตรียมส่วนผสมต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ต่อมาจะเป็นการทอดกล้วย โดยเริ่มจากนำหม้อกระทะมาตั้งเตา ใส่น้ำมันพืชลงไป ใช้ไฟปานกลาง นำกล้วยที่หั่นเตรียมไว้มาชุปแป้งที่เตรียมไว้ นำมาทอดทีละชิ้น เสร็จแล้วใส่ใบเตยลงไป ทอดกล้วยให้เหลืองกรอบ ใช้กระชอนตักกล้วยขึ้นมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานแล้วทานได้
กล้วยทอด

ขนมกล้วยทอดหากใส่มะพร้าวขูดลงไปด้วยจะทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่อร่อยกรุบกรอบ และหอมกลิ่นมะพร้าวอ่อนๆ ด้วย แต่เนื้อมะพร้าวที่ใช้ต้องเป็นมะพร้าวทึนทึกที่มีความหอมมันกำลังดี นอกจากนี้สูตร กล้วยทอดไม่อมน้ำมันในขั้นตอนการทอดกล้วยตามแบบฉบับขนมไทย ทำเองที่บ้านจะต้องรอให้น้ำมันร้อนจัดจะทำให้กล้วยทอดที่ได้ไม่อมน้ำมันนั่นเอง 

รู้หรือไม่! กล้วยทอดโบราณ กรุบกรอบ แสนอร่อย มีประโยชน์มากมาย 

กล้วยทอด

กล้วย ทอด ขึ้นชื่อว่าเป็นสูตร ขนม ไทยชาววังที่มีเนื้อสัมผัสกรุบกรอบหวานละมุนชวนทาน อีกทั้งขนมกล้วยทอดยังเป็นอีกหนึ่งเมนูขนมแปรรูปที่มีความอร่อยทานซ้ำได้แบบไม่มีเบื่อ แถมขั้นตอนการทำขนม ไทย ง่ายๆ อย่าง ขนมกล้วยทอด ถือว่าทำง่ายสุดๆ และใช้เวลาไม่นานอีกด้วย ที่สำคัญกล้วยน้ำว้ายังมีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก โพแทสเซียม คาร์ไบไฮเดรต โปรตีน วิตามินบี 6, 12 มีส่วนช่วยให้ร่างกายสุขภาพแข็งแรง ช่วยรักษาโรคโลหิตจาง และลดความดันโลหิตสูง เป็นต้น 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
เบเกอรี่

เมนูสุดฮิต ทอฟฟี่เค้ก เนื้อแน่นนุ่มฟู รสชาติหวานนุ่มลิ้น หอมกลิ่นกาแฟ

ทอฟฟี่เค้ก

มาต่อกันที่ขนมเค้กแป้งนุ่มแสนอร่อยอย่าง ทอฟฟี่เค้ก เป็นขนมที่มีกลิ่นกาแฟหอมโดดเด่นเฉพาะตัว รสชาติหวานเข้มข้นตัดกับกลิ่นกาแฟได้เข้ากันสุดๆ สำหรับ Toffee Cake สามารถหาทานได้ตามร้านคาเฟ่ทั่วไป แต่ถ้าใครชอบเที่ยวทะเลแถวชลบุรีอยากได้ของฝากติดไม้ติอมือกลับบ้าน แนะนำร้านทอฟฟี่เค้ก ชลบุรีที่มีขนมเค้กทอฟฟี่ ราดด้วยซอสคาราเมล โรยด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์แสนอร่อยฉ่ำๆ ในราคาสุดคุ้ม หรือถ้าจะทำทานเองก็สามารถทำได้ง่ายๆ ว่าแต่เมนูทอฟฟี่เค้ก สูตรไหนอร่อยไปดูกันเลย 

ขั้นตอนทำ ทอฟฟี่เค้ก เนื้อนุ่มละมุน ราดด้วยน้ำซอสคาราเมลเข้มข้น 

ทอฟฟี่เค้ก

สายหวาน สายขนมคาเฟ่ต้องห้ามพลาดกับเมนูสุดฮิต ทอฟฟี่ เค้ก ขนมเบเกอรี่ยอดนิยมรสชาติหวานฉ่ำ หอมกลิ่นคาราเมลผสมกับกลิ่นกาแฟได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังมีเนื้อเค้กนุ่มนิ่มทานแล้วฟินทุกคำ สำหรับใครที่สนใจอยากลองทำขนมเค้กทอฟฟี่ทานเอง หรืออยากลองทำขายดูบ้าง วันนี้มีสูตร ทอฟฟี่เค้ก เนื้อเค้กแน่นนุ่มละมุน น้ำซอสคาราเมลเข้มข้น ตามฉบับสูตรออริจินอล และขั้นตอนการทำง่ายๆ ไม่ซับซ้อน คนมือใหม่หัดทำขนมสามารถทำตามได้ง่ายๆ 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมทำแป้งเค้ก

  1. แป้งเค้ก 400 กรัม
  2. ผงโกโก้ 2 ½ ช้อนโต๊ะ
  3. ไข่ไก่ 9 ฟอง
  4. น้ำตาลทราย 400 กรัม
  5. ผงกาแฟ 5 ช้อนชา
  6. ผงฟู 5 ช้อนชา
  7. เกลือ ½ ช้อนชา
  8. เนยจืด 350 กรัม
  9. ผงนม 2 ½ กรัม
ทอฟฟี่เค้ก

ส่วนผสม และวัตถุดิบน้ำซอสคาราเมล

  1. เนยจืด 300 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 150 กรัม
  3. ผงกาแฟ 2 ½ กรัม
  4. แป้งเค้ก 5 ช้อนชา
  5. นมข้นจืด 130 กรัม
  6. เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 300 กรัม
  7. เกลือ ½ ช้อนชา

ทอฟฟี่เค้กสูตรต้นตำรับจะมีส่วนผสมของผงกาแฟ และผงโกโก้ผสมกันจะช่วยให้ขนมมีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การทำขนมฉบับเบเกอรี่โฮมเมดสามารถปรับลดความหวานลงได้ หรือเพิ่มเม็ดมะม่วงหิมพานต์ได้ตามใจชอบอีกด้วย 

  1. นำแป้ง ผงฟู ผงโกโก้ ผงนม และผงกาแฟ มาใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน นำถาดอบขนมมาปูด้วยกระดาษไข เตรียมไว้
  2. นำเนยเข้าเตาไมโครเวฟใชไฟปานกลาง รอให้เนยละลายแล้วนำออกมา พักไว้ให้อุ่น เสร็จแล้วนำไข่ใส่ในอ่างผสม ใส่เกลือลงไป ตีส่วนผสมให้ขึ้นฟูเป็นสีขาวเนียน นำส่วนผสมที่เป็นแป้งเทลงไป ตะล่อมให้เข้ากัน เทเนยใส่ลงไป คนให้เข้ากัน เทใส่ถาดอบขนมที่เตรียมไว้ นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที
  3. ต่อมาจะมาทำน้ำซอสด้วยการนำเนยสด น้ำตาล นมข้นจืด และเกลือใส่ลงไปในหม้อใช้ไฟอ่อนๆ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ใส่ผงกาแฟ เติมแป้งลงไปคนให้แป้งสุก ปิดไฟ ใส้เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ราดบนเค้ก นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที นำมาออกมาตัดเป็นชิ้นๆ ได้เลย
ทอฟฟี่เค้ก

ทอฟฟี่ เค้ก ขนมเค้กสไตล์เบเกอรี่ทำเองจะเน้นทำให้เนื้อเค้กนุ่มฟู และมีกลิ่นหอมของกาแฟเข้มข้น นอกจากนี้น้ำซอสข้นหนืดซึมเข้าเนื้อเค้กได้ดีสุด เมื่อลองทานแล้วจะได้เนื้อสัมผัสนุ่มหนึบหนับ หวาน มันกรุบกรอบอร่อยจนต้องทานเพิ่มจนลืมเรื่องน้ำหนักเพิ่มเลยทีเดียว

เทคนิคการทำ ทอฟฟี่เค้ก เนื้อฟูนุ่ม น้ำซอสเข้มข้น หวาน อร่อยฉ่ำๆ 

ทอฟฟี่เค้ก

สำหรับวิธีการทำทอฟฟี่เค้ก ตามสูตรเบเกอรี่ง่าย ๆ ทำเองที่บ้าน หากอยากให้แป้งนุ่มฟูเนื้อเนียนละเอียดจะต้องนำแป้ง ผงฟู ผงนม มาร่อนเพื่อเอาก้อนตะกอนออก จากนั้นนำมาตีกับส่วนผสมที่เป็นไข่เนื้อฟูตั้งยอดเรียบแล้ว ตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เมื่อนำไปอบจะได้เนื้อเค้กฟูนุ่ม และเนื้อเนียน พร้อมราดด้วยน้ำซอสคาราเมลข้นหนืดส่งกลิ่นหอมอบอวบทั่วครัวชวนทาน อีกทั้งหน้าขนมยังสวยงามไม่แพ้ที่ขายตามร้านขนมอีกด้วย 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

บอกสูตรลับ มันเชื่อม เนื้อแน่น รสชาติหวานฉ่ำ หอมกลิ่นกะทิสด

มันเชื่อม

มันเชื่อม เป็นเมนูขนมไทยที่ชาวบ้านชอบทานกันมากที่สุด เพราะวัตถุดิบในการทำขนมนั้นสามารถหาได้ตามสวนหลังบ้าน ซึ่งสูตรของมันเชื่อมที่ทานกันจะเป็นสูตรมันสำปะหลังเชื่อม และมันเทศเชื่อมเนื้อนิ่ม หวานฉ่ำ อร่อยกำลังดี แต่สำหรับสูตรขนมที่นิยมอยู่ตอนนี้จะเป็นมันเทศเชื่อม โดยส่วนใหญ่จะทำเป็นเมนูมันเชื่อมลูกเต๋าทานคู่กับน้ำแข็งใสขนมหวานคลายร้อนอร่อยชื่นใจ ที่สำคัญขนมมันเทศเชื่อมสามารถทำทานเองที่บ้านได้อีกต่างหาก

วิธีทำเมนูขนมหวาน มันเชื่อม สูตรมันเทศ หวานจัดจ้าน อร่อยชื่นใจ 

มันเชื่อม

หากพูดถึงขนมหวานที่สามารถทานคู่กับขนมชนิดอื่นๆ ได้ต้องยกให้มันเชื่อม เป็นขนมหวาน ขนมไทย โบราณชาววังที่มาพร้อมกับความหวานละมุน ราดด้วยน้ำกะทิสดหน้าตาน่าทานมากเลยทีเดียว แถมยังสามารถทานคู่กับเมนูเย็นๆ อย่างไอศครีมได้อร่อยอย่างลงตัวสุดๆ สำหรับขนมมันเชื่อมราดกะทิมีหลากหลายสูตร แต่วันนี้เราจะมาทำสูตรมันเทศเชื่อมหวานฉ่ำๆ แสนอร่อย ในส่วนวัตถุดิบสามารถหาซื้อได้ดังนี้

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมมันเทศเชื่อม

มันเชื่อม
  1. มันเทศ 500 กรัม
  2. น้ำตาลปิ๊บ 100 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 100 กรัม
  4. น้ำมะนาว ½ ช้อนชา
  5. เกลือ ½ ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำปูนใส 1 ลิตร
  7. ใบเตย 2 ใบ
  8. น้ำสะอาด 500 กรัม

ส่วนผสม และวัตถุดิบของน้ำกะทิราดขนม

  1. แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
  2. เกลือ 1 ช้อนชา
  3. กะทิ 300 กรัม

การทำขนมมันเชื่อม สูตรมันเทศจะใช้น้ำปูนใสในการแช่มันเทศ เพื่อให้มันเทศมีเนื้อสัมผัสกรุบกรอบ พร้อมทำให้มันเทศคงรูปร่างสวยงามน่าทานมากยิ่งขึ้น ในลำดับต่อมาจะเป็นการเชื่อมมันเทศง่ายๆ ในแบบขนมไทย ทำเองที่บ้านดังต่อไปนี้ 

มันเชื่อม
  1. นำมันเทศที่ซื้อมาจากตลาดมาล้างทำความสะอาด จากนั้นปอกเปลือกออก และล้างทำความสะอาดอีกครั้ง เสร็จแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ ตามใจชอบ 
  2. นำมันเทศที่หั่นเรียบร้อยแล้วมาแช่ในน้ำเกลือประมาณ 10 นาที จากนั้นล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง เสร็จแล้วนำมาแช่ในน้ำปูนใสใช้เวลาประมาณ 25-30 นาที เสร็จแล้วนำมาล้างน้ำสะอาดให้เรียบร้อย 
  3. นำหม้อมาตั้งเตา ใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำตาลปิ๊บ น้ำตาลทราย น้ำสะอาด และใบเตย คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ตามด้วยมันเทศที่เตรียมไว้ เคี่ยวไปเรื่อยๆ พร้อมใส่น้ำมะนาวลงไปด้วย เมื่อน้ำตาลงวดลงไป ปิดเตาได้เลย
  4. ในลำดับถัดมาจะเป็นการทำน้ำกะทิราด โดยเริ่มแรกนำกะทิเทใส่หม้อ ตามด้วยแป้งข้าวเจ้า คนให้เข้ากัน ใส่เกลือ คนสักพัก ปิดไฟได้เลย จากนั้นตักมันเชื่อมใส่ถ้วย ราดด้วยกะทิ พร้อมทานได้
มันเชื่อม

สำหรับมันเชื่อม สูตรมันเทศเป็นขนม ไทย ทำ ง่ายๆ ใช้เวลาทำไม่นาน และที่สำคัญทำออกมาแล้วหน้าตาสวยงามชวนทาน ในส่วนของรสชาติต้องบอกเลยว่าอร่อย หวานมัน หอมกลิ่นกะทิสดละมุนละไม จนต้องตักทานอีกสักถ้วยเลยทีเดียว

แนะนำขนม มันเชื่อม มันสำปะหลัง 5 นาที รสชาติหวาน มัน 

มันเชื่อม

มาต่อด้วยสูตรขนมหาทานยากอย่าง มัน เชื่อม สูตรมันสำปะหลัง 5 นาที ซึ่งต้องบอกเลยว่าสูตร ขนม ไทยอย่างมันสำปะหลัง 5 นาที ค่อนข้างหาซื้อทานยากมาก แต่ใช่ว่าจะทำทานเองไม่ได้ ซึ่งส่วนผสม และวัตถุดิบจะใช้เหมือนกับสูตรมันเทศเชื่อม แต่จะมีการเปลี่ยนจากมันเทศเป็นมันสำปะหลัง 5 นาที จากนั้นเข้าสู่วิธีทำขนม ไทย ง่ายๆ โดยนำส่วนผสมทั้งหมดใส่หม้อเคี่ยวจนกว่าน้ำตาลจะงวดลง เสร็จแล้วตักขนมใส่ถ้วย ราดด้วยน้ำกะทิ พร้อมชิมความอร่อยได้แบบไม่อั้น 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

ข้าวคลุกกะปิ สูตรโบราณ อาหารไทยชาววัง รสเลิศ กลิ่นหอมรัญจวนใจ

ข้าวคลุกกะปิ

อาหารภาคกลางถูกจัดว่าเป็นเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ โดยเฉพาะ ข้าวคลุกกะปิ ที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีกลิ่นหอมอบอวล และอัดแน่นไปด้วยเครื่องเคียงหลากหลายชนิดให้ทานได้แบบไม่อั้น อีกทั้งยังมีความอร่อยฟินทุกคำไม่จำเจ และยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอาหารครบถ้วนในเมนูเดียว เท่านั้นยังไม่พอเมนูหมูหวาน ข้าวคลุกกะปิยังสามารถทำทานได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องออกไปซื้อทานให้เสียเวลา แถมอร่อยสะอาดถูกหลักอนามัยอีกต่างหาก 

วิธีทำ ข้าวคลุกกะปิ สูตรต้นตำรับ รสเด็ด เครื่องเคียงอร่อยจัดเต็ม 

ข้าวคลุกกะปิ

ข้าว คลุกกะปิ เป็นเมนูอาหารเย็นที่ทานคู่กับเครื่องเคียงได้หลากหลายชนิด รสชาติกลมกล่อมอร่อยถูกปากทานได้แบบไม่อั้น และยังสามารถรับประทานได้ทั้งครอบครัว นอกจากนี้ข้าวคลุกกะปิยังสามารถทำทานเองได้ด้วย ซึ่งวิธีทํา ข้าวคลุกกะปิง่ายๆ แถมไม่ต้องใช้ความประณีต และยังใช้เวลาทำไม่นานก็ได้ทานข้าวคลุกกะปิแสนอร่อยจุกจุกอิ่มท้องไม่หิวตอนกลางคืนอีกด้วย ส่วนสูตรที่เราจะมาทำในวันนี้เป็นสูตร ข้าว คลุก กะปิ ชาววัง รสชาติอร่อยถึงเครื่อง ใครทานก็บอกอร่อยเหมือนซื้อมาจากร้านดังๆ เลยทีเดียว

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

  1. ข้าวหุงสุก 3 ถ้วยตวง
  2. กะปิ 2 ½ ช้อนโต๊ะ
  3. กุ้งแห้งทอด ½ ถ้วยตวง
  4. กุนเชียงทอด ½ ถ้วยตวง
  5. พริกทอด 3 เม็ด
  6. ไข่เจียวหั่นฝอน ½ ถ้วยตวง
  7. ถั่วฝักยาวซอย ½ ถ้วยตวง
  8. มะม่วงดิบสับเส้นยาว ½ ถ้วยตวง
  9. มะนาว 1 ลูก
  10. แตงกวา 2 ลูก
  11. ผักชี 1 ต้น
  12. น้ำมันพืช 1 ขวด
ข้าวคลุกกะปิ

วัตถุดิบ และส่วนผสมหมูหวาน

  1. หมูสามชั้น 600 กรัม
  2. น้ำปลา 3 ½ ช้อนโต๊ะ
  3. ซีอิ้วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
  4. ซอสหอยนางรม 4 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำสะอาด 1 ถ้วยตวง
  7. น้ำตาลปิ๊บ 80 กรัม

สำหรับเครื่องเคียงข้าวคลุกกะปิ สูตรต้นตำรับชาววังจะมีหลากหลายชนิด ดังนั้นก่อนจะเข้าสู่วิธีทำข้าวคลุกกะปิ ง่ายๆ เราต้องเตรียมเครื่องเคียงต่างๆ ให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นไปลงมือทำข้าวคลุกกะปิกันได้เลย 

ข้าวคลุกกะปิ
  1. ขั้นตอนแรกเราจะมาทำหมูหวานกันก่อน โดยนำกระทะมาตั้งเตาจากนั้นใส่น้ำมันพืช ตามด้วยหอมแดงไปผัดให้สุก ใส่หมูสามชั้นหั่นลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา และซีอิ้วดำ ผัดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เคี่ยวต่อไปประมาณ 10 นาที ใส่น้ำตาลปิ๊บลง คนส่วนผสมให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยพักไว้ก่อน
  2. ต่อมาจะเป็นการทำข้าวคลุกกะปิ โดยเริ่มจากนำกะทะมาตั้งเตา ใส่น้ำมัน กะปิ ผัดให้หอม ใส่น้ำ ผัดต่อให้ได้น้ำกะปิเนื้อเดียวกัน ใส่ข้าวลงผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่จาน จัดเสริฟด้วยเครื่องเคียงที่เตรียมไว้
ข้าวคลุกกะปิ

เสร็จแล้วเรียบร้อยกับเมนูข้าวคลุกกะปิ ฉบับสูตรชาววังที่มีรสชาติกลมกล่อม ข้าวนุ่มนิ่ม หอมกลิ่นกะปิอบอวลทั่วครัว และที่ขาดไม่ได้เลยกับเครื่องเคียงหลากหลายชนิด ทานคู่กันแล้วอร่อยกลมกล่อม ในส่วนวิธีทำข้าวคลุกกะปิ แบบ ง่ายๆ คนมือใหม่ก็สามารถทำตามได้สบายมาก 

ชวนมาดู ข้าวคลุกกะปิ อาหารจานเดียว แสนอร่อย มีประโยชน์มากมาย 

ข้าวคลุกกะปิ

ข้าวคลุกกะปิถือว่าเป็นอาหารจานเดียวที่อัดแน่นไปด้วยเครื่องเคียงหลากหลายชนิด ทำให้อาหารมีรสชาติที่หลากหลายเช่นกัน และอร่อยทานได้ไม่มีเบื่อ นอกจากนี้ข้าวคลุกกะปิยังเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับทำเป็นข้าวกล่องห่อไปทานที่ทำงานได้อีกด้วย สำหรับสูตร ข้าวคลุกกะปิที่เรามาแชร์นั้น นอกจากรสชาติอร่อยแล้วยังอุดมไปด้วยประโยชน์มากมาย อาทิ กะปิ มีแคลเซียมสูง ช่วยบำรุงกระดูก และฟันให้แข็งแรง ส่วนมะม่วงมีสารต้านอนุมูลอิสระ และถั่วฝักยาวสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินไป เป็นต้น 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
เบเกอรี่

สูตรขนมสุดคิ้วท์ พิซซ่า มินิ เมนูโฮมเมด แป้งกรุบกรอบ รสชาติอร่อย

พิซซ่า มินิ

มาเอาใจสาวกอาหารอิตาเลี่ยนกันบ้างกับ พิซซ่า มินิ หนึ่งในเมนูเบเกอรี่ยอดนิยมสไตล์อิตาเลี่ยนที่มีขนาดเล็กน่ารัก และมีรสชาติอร่อยทานได้หลายชิ้นไม่เลี่ยน ไม่จำเจ นอกจากนี้ขนมมินิพิซซ่ายังเป็นเมนูอาหารที่หลายๆ คนชอบทานเป็นอย่างมาก และสามารถพกพาสะดวกทานง่ายไม่เลอะมือจะทานที่ไหนก็อร่อยฟินเต็มคำ อีกทั้งขนมชนิดนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูสุดโปรดของเด็กๆ อีกด้วย ที่สำคัญขนมมินิพิซซ่ายังสามารถทำทานได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องผสมแป้งเองอีกต่างหาก 

วิธีทำเมนู พิซซ่า มินิ สไตล์โฮมเมด อย่างง่าย ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาน้อย 

พิซซ่า มินิ

วันนี้จะพาทุกคนมาทำพิซซ่า มินิขนาดพอดีคำ แป้งกรอบนอกนุ่มใน พร้อมใส่ท็อปปิ้งต่างๆ ได้แบบไม่อั้น ซึ่งสูตรที่จะพาทำนั้นเป็นสูตรสไตล์พิซซ่ามินิ 10 บาท สุดคุ้ม และอิ่มอร่อยทานได้ทั้งครอบครัว โดยเฉพาะเด็กๆ จะชอบเมนูนี้เป็นพิเศษเพราะมีซอสมะเขือเทศทำให้ขนมกลมกล่อมได้อย่างลงตัว และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เรามาเตรียมวัตถุดิบ และส่วนผสมกันก่อนเลย

พิซซ่า มินิ
  1. ขนมปังแผ่น 5 แผ่น
  2. แฮม 5 ชิ้น
  3. ปูอัด 5 ชิ้น
  4. ซอสมะเขือเทศ 1 ขวด
  5. มายองเนส 1 ขวด
  6. ซีสมอสซาเรลล่า ½ ถ้วยตวง
  7. สับปะรด ½ ถ้วยตวง
  8. ออริกาโน ½ ถ้วยตวง
  9. ใบพาสลีย์ ½ ถ้วยตวง
  10. พริกหยวกหวาน ½ ถ้วยตวง

พิซซ่ามินิ สไตล์เบเกอรี่ทำเองจะใช้ขนมปังแผ่นธรรดาที่มีขายตามร้านซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป สำหรับข้อดีของการใช้ขนมปังแผ่นจะมีหลายชิ้นในห่อเดียว และราคาไม่แพง ในลำดับต่อไปจะเป็นวิธีทำขนมมินิพิซซ่าแฮมชีส สไตล์ มินิพิซซ่า 10 บาท ดังต่อไปนี้ 

พิซซ่า มินิ
  1. ในขั้นตอนแรกนำแฮม และปูอัดมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ขนาดพอดีคำ พักไว้ก่อน เสร็จแล้วนำสับปะรดมาปลอกเปลือกหั่นเป็นชิ้นเล็ก ตามด้วยพริกหยวกหวานหั่นให้เรียบร้อย จากนั้นนำขนมปังแผ่นมาทาด้วยซอสมะเขือเทศให้ทั่วทั้งแผ่น ใส่แฮม ปูอัด พริกหยวก สับปะรด ทาทับด้วยซอสมายองเนส และโรยด้วยซีสมอสซาเรลล่า 
  2. นำขนมปังมาเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส ใช้ไฟกลางบน-ล่าง เวลาประมาณ 5 นาที จากนั้นนำออกมา โรยออริกาโน่ และใบพาสลีย์ พร้อมทานได้เลย
พิซซ่า มินิ

พิซซ่ามินิ สูตรขนมปังแผ่นเบเกอรี่โฮมเมดที่อบเสร็จแล้วสามารถนำมารับประทานได้เลย เพราะหากทานตอนที่พิซซ่ายังร้อนอยู่จะเพิ่มความอร่อย ซีสยืดๆ ได้แบบเต็มคำฟินสุดๆ อีกทั้งสูตรมินิพิซซ่าขนมปังแผ่นยังสามารถทำขายได้ในราคาถูก และยังได้กำไรต่อชิ้นหลายบาทเลยทีเดียว ดังนั้นหากอยากมีรายได้เสริมในวันว่างๆ สามารถทำขนมปังหน้าพิซซ่าขายได้กำไรชัวร์แน่นอน 

แจกเมนูอาหารเช้า พิซซ่ามินิ สูตรขนมปังโฮลวีตใส่ไข่ อิ่มอร่อย ฟินเต็มแผ่น 

พิซซ่า มินิ

หากใครคิดไม่ออกว่าเช้านี้จะทำเมนูอะไรทานดีที่ง่ายๆ สะดวก และรวดเร็ว ขอแนะนำพิซซ่า มินิ สูตรขนมปังโฮลวีตเพิ่มไข่ สไตล์เบเกอรี่โฮมเมด รสชาติอร่อยกลมกล่อม อิ่มท้องทั้งวัน โดยวิธีทำเบเกอรี่ง่าย ๆ อย่างมินิพิซซ่าขนมปังโฮลวีตสามารถใช้ส่วนผสมตามสูตรพิซซ่าแฮมซีสได้เลย แต่เปลี่ยนจากขนมปังธรรมดามาเป็นขนมปังโฮลวีต จากนั้นเพิ่มไข่ลงไปด้วย หลังจากใส่ส่วนผสมทั้งหมดเรียบร้อยแล้วนำไปอบให้ซีสละลาย เสร็จแล้วก็จะได้พิซซ่าขนมปังที่มีชีสยืดๆ ไส้ล้นทะลัก หอมละมุนชวนทาน และหากใครชอบทานผักสามารถทานพิซซ่าคู่กับผักสลัดสดกรอบๆ อร่อยดีได้ประโยชน์อีกด้วย 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

สูตรขนม ตะโก้เผือก โบราณ แป้งนุ่ม หวานอร่อย หอมกลิ่นเผือก

ตะโก้เผือก

ในสมัยเด็กๆ คุณยายมักชอบทำขนมให้ทานอยู่บ่อยครั้ง และหนึ่งในนั้นคือ ตะโก้เผือก ใส่กระทงใบตองขนาดเล็กที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อขนมส่งกลิ่นหอมเย้ายวนใจ ซึ่งขนมตะโก้เผือก ประวัติมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยามีการคิดค้นสูตรขนมตะโก้ที่มีส่วนประกอบสำคัญอย่าง แป้งข้าวเหนียว น้ำตาลทราย น้ำกะทิ เผือก นอกจากนี้ยังเพิ่มส่วนผสมเพิ่มเติมอย่าง ถั่วแดง มะพร้าวอ่อน เพื่อเพิ่มความหวานหอมให้ตะโก้ขนม โบราณชวนทานมากยิ่งขึ้น 

ขั้นตอนทำขนม ตะโก้เผือก กระทงใบตอง เนื้อแน่น หอมนุ่ม ละลายในปาก 

ตะโก้เผือก

วันนี้เราจะมาเอาใจสายหวานที่ชอบทานขนมโบราณชาววังกันบ้าง รับรองว่าหากทุกคนได้เห็นแล้วต้องตามหามาทานอย่างแน่นอน นั่นก็คือ ตะโก้ เผือก ขนมที่มีความโดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ว่าจะเป็นรสชาติที่หวานนุ่มลิ้น แป้งเหนียวหนับละลายในปากที่มาพร้อมกับกลิ่นเผือกหอมอบอวล นอกจากนี้ขนมตะโก้เผือกโบราณมีรูปลักษณ์สื่อถึงขนม หวาน ไทยได้เป็นอย่างดี แถมวิธีทำก็สามารถทำได้ง่ายๆ ขั้นตอนไม่ซับซ้อน ดังนั้น ใครที่อยากลองทำขนมทานเอง เรามีสูตรตะโก้เผือกชาววังมาให้ได้ทำตามด้วย

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

ตะโก้เผือก
  1. แป้งข้าวเจ้า 500 กรัม
  2. แป้งมัน 1 ถ้วยต้วง
  3. น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง
  4. เผือก 1 ถ้วยตวง
  5. แป้งข้าวโพด 1 ถ้วยตวง
  6. เกลือ 1 ช้อนชา
  7. หางกะทิ 1 ถ้วยตวง
  8. หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
  9. น้ำเปล่า 1 ลิตร

ในส่วนการทำขนมตะโก้เผือกตามสูตร ขนม ไทยต้องใช้น้ำกะทิคั้นสดเข้มข้นจะทำให้ขนมมีกลิ่นหอมละมุนมากขึ้น หลังจากที่ได้วัตถุดิบครบแล้ว เราจะลงมือทำขนม ไทย ง่ายๆ อย่างตะโก้เผือกได้เลย

ตะโก้เผือก
  1. ขั้นตอนแรกนำเผือกมาล้างทำความสะอาดปอกเปลือกออก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นนำไปนึ่งให้สุก ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ยกออกจากเตาพักไว้ก่อน
  2. นำหม้อมาตั้งเตาใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และน้ำเปล่า ลงไปกวนให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำตาลทราย กวนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จนได้เนื้อแป้งที่ใสข้นหนืด จากนั้นใส่เผือกลงไป ผสมกับแป้ง กวนให้เป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อทุกอย่างได้ที่แล้วนำ เปิดไฟ ยกออกจากเตา ตักขนมใส่กระทงใบตองที่เตรียมไว้
  3. ต่อมาทำน้ำราดขนม โดยเริ่มจากนำหัวกะทิ หางกะทิ เกลือ แป้งข้าวโพด น้ำตาลทราย และแป้งมันผสมให้เข้ากันให้ละลาย นำไปตั้งเตาใช้ไฟอ่อนๆ คนจนส่วนผสมทั้งหมดจะละลายเป็นเนื้อเดียวกัน หลังที่ส่วนผสมหนืดเหนียวแล้ว ปิดเตา ได้เลย 
  4. นำน้ำกะทิที่เตรียมไว้มาราดบนหน้าขนมที่เตรียมไว้ รอให้ขนมเซตตัวสักพัก พร้อมนำมาเสิร์ฟให้คนในครอบครัวลองทานได้
ตะโก้เผือก

เป็นอันเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการแล้วกับฝือมือการทำขนมตะโก้เผือก รสชาติหวาน มัน พร้อมเนื้อเผือกหนึบหนับแบบจัดเต็ม สำหรับคนไหนชอบขายขนมไทยอยู่แล้ว อยากให้ลองทำขนมตะโต้แสนอร่อยขาย เพราะนอกจากจะอร่อยแล้ว วิธีทำก็ง่ายๆ ใช้เวลาไม่นานอีกด้วย หรือหากอยากเพิ่มส่วนผสมให้ขนมชวนทานกว่านี้แนะนำให้ใส่มะพร้าวอ่อนลงไปด้วย จะได้สูตรตะโก้เผือกมะพร้าวอ่อน เนื้อกรุบกรอบขายดิบขายดีเลยทีเดียว

เทคนิคทำตะโก้เผือก เนื้อแป้งเหนียวหนึบ เนียนใส สีสวย ชวนทาน

ตะโก้เผือก

ถึงแม้ว่าขนมตะโก้เผือกจะเป็นขนม ไทย ทำ ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก แต่การทำขนมตะโก้ฉบับขนมไทย ทำเองจะต้องทำแป้งขนมให้เนียนใส เหนียวหนึบ ซึ่งเรามีเทคนิคเล็กน้อย โดยขั้นตอนการต้มแป้งจะต้องกวนเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้แป้งติดก้นหม้อ ส่งผลให้แป้งไหม้ และเหม็นกลิ่นไหม้อีกด้วย และถ้าอยากให้เนื้อแป้งหอมสามารถใช้น้ำลอยดอกมะลิแทนน้ำเปล่าได้เลย อีกหนึ่งเทคนิคที่จะช่วยให้ขนมอร่อย นั่นก็คือ ขั้นตอนการกวนน้ำราดกะทิอย่าใช้ไฟแรง แต่ควรใช้ไฟอ่อนเคี่ยวไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมทั้งหมดเริ่มเหนียวหนืดก็สามารถใช้ได้แล้ว 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

เมนู ข้าวผัดไข่ อาหารจานด่วน สุดคลาสสิก ข้าวนุ่มนิ่ม รสกลมกล่อม

ข้าวผัดไข่

อีกหนึ่งเมนูอาหารจานเดียวที่ได้รับความนิยมมีขายตามร้านอาหารตามสั่ง นั่นก็คือ ข้าวผัดไข่ รสชาติกลมกล่อม ข้าวนุ่มๆ สีสวยชวนทาน และหากบีบมะนาม พริกน้ำปลา ลงไปนิดหน่อยจะทำให้รสชาติข้าวผัดมีความเปรี้ยว เผ็ดเล็กน้อยอร่อยลงตัวเข้ากันเป็นอย่างดี นอกจากนี้ข้าว ผัดไข่ยังเป็นอาหารเช้าสุดโปรดของเด็กๆ ทานก่อนไปโรงเรียนอีกด้วย ดังนั้น แม่บ้านคนไหนที่ต้องการอยากทำข้าวผัดไข่ ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก เรามีสูตร ข้าวผัดไข่ รสกลมกล่อม ข้าวนุ่ม และไม่อมน้ำมันมาฝากให้ทำตามกัน

วิธีทำอาหารเช้าจานเดียว ข้าวผัดไข่ ข้าวนุ่มนิ่ม หอมละมุน ไม่อมน้ำมัน 

ข้าวผัดไข่

ข้าวผัด ไข่ ถือว่าเป็นอาหารจานด่วนที่สามารถทำได้ง่ายๆ สะดวก และรวดเร็ว จึงทำให้แม่บ้านส่วนใหญ่จะนิยมทำเป็นอาหารเช้าให้กับคนในครอบครัวได้ทานกันเป็นประจำ แถมรสชาติกลมกล่อม อร่อยถูกใจทุกครั้งที่ได้ทาน อย่างไรก็ตาม เมนูข้าวผัดเป็นเมนูที่ทำทานเองง่ายๆ ก็จริง แต่การทำให้อร่อยนั้นถือว่ายากพอสมควร เพราะจะต้องใช้ส่วนผสมที่พอดี ส่วนข้าวต้องไม่อมน้ำมัน ดังนั้น เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เรามีสูตรลับในการทำข้าวผัดให้อร่อยมาฝากแม่บ้านมือใหม่ด้วยนะ แต่ก่อนอื่นต้องตามหาวัตถุดิบใช้ปรุงกันก่อนเลย ว่าแต่ข้าวผัดใส่อะไรบ้างตามไปดูกันได้เลย 

ข้าวผัดไข่
  1. ข้าวสวย 300 กรัม
  2. หมูสับ 100 กรัม
  3. คะน้า 2 ต้น
  4. มะเขือเทศ 1 ลูก
  5. น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
  6. ซอสปรุงรส ½ ช้อนโต๊ะ
  7. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  8. น้ำปลา ½ ช้อนโต๊ะ
  9. ซีอิ้วดำ ½ ช้อนโต๊ะ
  10. ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  11. พริกไทย 1 ช้อนชา
  12. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ

เป็นอันเสร็จเรียบร้อยกับการเตรียมวัตถุดิบทำข้าวผัดไข่ง่ายๆ ซึ่งหัวใจสำคัญของการทำข้าวผัดให้อร่อยจะต้องใช้ข้าวสวยเรียงเม็ดนุ่มนิ่ม อย่าง ข้าวหอมมะลิเกรดพรีเมี่ยม ส่วนในขั้นตอนต่อมาจะเป็นวิธี ทำข้าวผัดไข่ ง่ายๆ ดังต่อไปนี้ 

ข้าวผัดไข่
  1. ขั้นตอนแรก นำข้าวหอมมะลิมาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นใส่น้ำลงไปให้ได้ 1 ข้อมือ นำไปหุงให้สุก ในระหว่างรอข้าวสุก มาเตรียมหั่นมะเขื่อเทศ และหอมหัวใหญ่มาเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า และนำคะน้ามาล้างให้สะอาดหั่นเป็นชิ้นๆ ให้เรียบร้อย 
  2. ต่อมาให้นำกระทะมาตั้งไฟปานกลาง ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย รอให้น้ำมันเดือด ใส่กระเทียม เจียวให้หอม ตามด้วยหมูสับ มะเขือเทศ และหอมหัวใหญ่ ผัดให้เข้ากัน จากนั้นใส่ไข่ลงไป ผัดให้เข้ากัน ใส่ข้าวสวย และผักคะน้า ใส่ลงไปผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่จานได้เลย 
ข้าวผัดไข่

การทำข้าวผัดไข่ด้วยตัวเองสามารถเพิ่มหมูสับได้ตามใจชอบ และผักคะน้าต้องไม่สุกมาก เพียงเท่านี้ก็จะได้ข้าวผัดรสชาติกลมกล่อม หอมละมุน เม็ดข้าวเรียงกันสวยงามไม่อมน้ำมันอีกด้วย สำหรับข้าวผัดไข่โบราณที่ทำเสร็จแล้วจะต้องรับประทานเลยไม่ควรเก็บไว้นานเกินไป เพราะข้าวผัดเป็นเมนูที่เสียง่ายนั่นเอง 

ข้าวผัดไข่สูตรโบราณ ทำง่าย คุณค่าทางโภชนาการครบ 5 หมู่ 

ข้าวผัดไข่

ข้าวผัดไข่เมนูอาหารจานโปรดที่อร่อยทานได้ไม่มีเบื่อ และยังทานได้ทุกวันอีกด้วย แถมวิธีทำข้าวผัดไข่ ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่มีข้าวสวยก็ทำได้แล้ว ซึ่งเคล็บลับวิธีทําข้าวผัดไข่ ให้อร่อยนั้นง่ายนิดเดียว เพียงแค่ใช้ข้าวสวยนุ่มๆ พร้อมปรุงรสให้กลมกล่อม อย่าใส่น้ำมันเยอะเกินไปก็จะได้ข้าวผัดสีเหลืองสวยงามหน้าตาน่าทานสุดๆ ที่สำคัญเมนูข้าวผัดยังเป็นเมนูที่อุดมไปด้วย โปรตีนที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง และยังมีวิตามิน โอเมก้าที่ช่วยบำรุงระบบประสาท และสมอง พร้อมทั้งยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย 

อ่านบทความอื่นๆ: