Categories
อาหารนานาชาติ

แนะนำ กุ้งดองเกาหลี เมนูยอดฮิตตลอดกาล รสชาติเค็มหวานอร่อยลงตัว

กุ้งดองเกาหลี

มาเอาใจสายอาหารเกาหลีเกาใจกันบ้าง กับเมนูอาหารเกาหลีที่ทุกคนโปรดปรานอย่าง กุ้งดองเกาหลี ถือว่าเป็นเมนูที่สามารถทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ได้อร่อยอย่างลงตัว และฟินสุดๆ อีกทั้งน้ำซอสยังเข้มข้นสามารถซึมเข้าเนื้อกุ้งได้ดี ทำให้กุ้งดองมีรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมมากขึ้น นอกจากนี้เมนูกุ้งดองซีอิ้ว เกาหลียังสามารถทำได้ง่ายมาก รับรองว่าสาวกกุ้งดองต้องทำได้แน่นอน ส่วนรสชาติอร่อยเหมือนซื้อทานที่ร้านแน่นอน 

เข้าครัวเกาหลี ชวนทำ กุ้งดองเกาหลี สุดแสนอร่อย ด้วยตัวเอง อย่างง่าย 

กุ้งดองเกาหลี

เชื่อว่าหลายคนชอบทานอาหารเกาหลีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกุ้งดองเกาหลี ซึ่งมีซอสดองเกาหลีเข้มข้น ทำให้เวลาหมักกับกุ้งจะทำให้กุ้งมีเนื้อแน่นเด่ง ที่สำคัญเนื้อกุ้งมีรสชาติกลมกกล่อมทานแล้วฟินสุดๆ ส่วนวิธีการทำกุ้งดองนั้นไม่ยาก เพียงแค่มีกุ้งสดๆ มาดองกับน้ำซอสเกาหลี เพียงแค่นี้ก็จะได้กุ้งดองสไตล์เกาหลีทีมีเนื้อสัมผัสของกุ้งที่นุ่มเด้งกลมกล่อมสุดๆ เรียกว่ามือใหม่ก็สามารถทำกุ้งดองซีอิ๊วสไตล์เกาหลีได้เองที่บ้าน สำหรับสูตรที่เราจะพาทำวันนี้เป็นสูตรกุ้งดองเกาหลี รสชาตกลมกล่อมตามสไตล์สูตรดั้งเดิม

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมล้างกุ้ง

  1. กุ้งสด 400 กรัม
  2. โชดา 1 ชวด
  3. แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
กุ้งดองเกาหลี

ส่วนผสม และวัตถุดิบที่ต้องเตรียมดองซีอิ้ว

  1. น้ำสะอาด 150 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
  3. โซยุ 150 กรัม
  4. เหล้าหวานญี่ปุ่น 2 ช้อนโต๊ะ
  5. งาขาวคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ
  6. ขิงซอย ½ ถ้วยตวง
  7. ต้นหอมซอย ½ ถ้วยตวง
  8. กระเทียมซอย 5 กลีบ
  9. พริกเขียวแดงซอย ½ ถ้วยตวง

เมื่อได้ส่วนผสมของที่เตรียมที่ต้องการแล้ว ในลำดับต่อมาเป็นขั้นตอนการทำเมนูอาหารเกาหลีง่ายๆ ตามฉบับมือใหม่ก็สามารถทำได้ด้วยตัวเอง รับรองว่ารสชาติที่ได้นั้นอร่อยเหมือนทานที่ร้านดังๆ อย่างแน่นอน 

กุ้งดองเกาหลี
  1. มาเริ่มกันที่นำกุ้งสดที่เตรียมไว้มาทำความสะอาด โดยใช้กรรไกรตัดส่วนของหัวกุ้งออก และเปลือกของกุ้งออกจนหมดให้เหลือเฉพาะส่วนหางของกุ้ง เสร็จแล้วใช้ไม้จิ้มฟันแทงหลังกุ้งใต้เส้นดำของขี้กุ้ง แล้วดึงเส้นดำของกุ้งออก หรือจะใช้วิธีการผ่าหลังกุ้งแล้วดึงเส้นดำออกก็ได้เช่นกัน
  2. หลังจากนั้น นำกุ้งที่เตรียมไว้ไปล้างด้วยน้ำสะอาด 1 ครั้ง จากนั้นนำกุ้งมาใส่ชาม ใส่เกลือ แป้งมัน คลุกเคล้าให้เข้ากัน และใส่โซดาลงไปให้ท่วมตัวกุ้ง จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากันเล็กน้อยกก่อนนำไปพักไว้ในตู้เย็น เพื่อลดความคาวของตัวกุ้งนั่นเอง ขั้นตอนต่อไป นำกุ้งที่แช่ไว้ในตู้เย็นมาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นนำไปเรียงในกล่องให้สวยงาม
  3. ขั้นตอนต่อมาทำน้ำซอส โดยเริ่มจากใส่ซอสโชยุลงไปในหม้อ จากนั้นเติมน้ำเปล่า น้ำตาลทราย ขิง และ กระเที่ยวซอย ตามด้วยมิริน นำไปตั้งหม้อที่มีส่วนผสมทั้งหมดไปตั้งเตาเคี่ยวจนน้ำตาลละลาย หลังจากนั้นใส่ต้นหอม และพริกลงไป เสร็จแล้วยกหม้อออกจากเตา เทน้ำซอสใส่ภาชนะ นำไปพักไว้ให้เย็น 
  4. เมื่อน้ำซอสเย็นแล้ว เทน้ำซอสลงในกุ้งที่เตรียมไวในกล่องให้ท่วมตัวกุ้ง ทำการดองไว้ประมาณ 5-6 ชั่วโมง หรือจะดองไว้ในตู้เย็นประมาณ 4-5 วัน ก็สามารถนำออกมาทานได้แล้ว
กุ้งดองเกาหลี

สำหรับกุ้งดองเกาหลีที่ดองเสร็จแล้วจะมีรสชาติหวานปนเค็มเล็กน้อยที่มาพร้อมกับเนื้อกุ้งเนื้อแน่น เด้ง อร่อยอย่างลงตัว อีกทั้งกุ้งไม่เหม็นคาวอีกด้วย เรียกเป็นอาหารเกาหลียอดฮิตที่สามารถทำทานเองได้แบบจัดหนักจัดเต็ม แถมประหยัดเงินในกระเป๋าไปหลายบาทเลยทีเดียว ส่วนกุ้งดองที่กินไม่หมดสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 3-5 วัน แต่ถ้าอยากเก็บไว้ได้นานกว่านี้ต้องเก็บไว้ในช่องแข็งสามารถเก็บไว้ได้นานประมาณ 1 เดือน 

เคล็ด (ไม่) ลับ เพิ่มความอร่อย กุ้งดองเกาหลี ทานได้ไม่มีเบื่อ

กุ้งดองเกาหลี

เมนูอาหารกุ้งดองเกาหลีสามารถทานกับอะไรก็อร่อยฟินทุกคำ อีกทั้งยังสามารถสามารถคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดจะยิ่งทำให้กุ้งดองมีความอร่อยเพิ่มมากขึ้น เพราะน้ำจิ้มซีฟู้ดจะมีรสชาติเปรี้ยวหวาน และเผ็ด และมีความหอมของกระเทียมช่วยเพิ่มรสชาติให้เมนูอาหารเกาหลีอย่างกุ้งดองไม่มีความเลี่ยน และยังสามารถทานกุ้งดองได้เยอะมากขึ้น

กุ้งดองเกาหลี

การทำเมนูกุ้งดองเกาหลีให้อร่อยส่วนสำคัญอยู่ที่กุ้งต้องมีความสดใหม่ เนื้อกุ้งแน่นไม่เละ และไม่มีกลิ่นเหม็น และต้องล้างกุ้งให้สะอาด เพื่อให้กุ้งมีความคาวลดลงจะช่วยให้สามารถทำให้กุ้งดองมีรสชาติ กลิ่นหอมของน้ำซอส ทำให้ทานแล้วอร่อยฟินทุกคำจนต้องทำเก็บไว้ทานทุกวัน อีกทั้งกุ้งดองยังเป็นอาหารเกาหลีในซีรีส์ที่นิยมทานกันอยู่บ่อยๆ อีกด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารนานาชาติ

แชร์เมนู ซุป กิมจิ รสชาติเปรี้ยว อร่อยกลมกล่อม ส่งตรงจากเกาหลี

ซุป กิมจิ

วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำเมนูอาหารประเภทซุปอย่าง ซุป กิมจิ อาหารสไตล์เกาหลี รสชาติกลมกล่อมอร่อยสุดๆ สำหรับเมนูนี้ยังเป็นอีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อของเกาหลีที่สามารถหาทานได้ตามร้านอาหารเกาหลีในไทย แต่ราคาค่อนข้างแพง ดังนั้นการทำอาหารเมนูนี้ทำเองถือว่าเป็นการประหยัดเงินได้ดีเลยทีเดียว ซึ่งสูตรซุปกิมจิเต้าหู้อ่อนนั้นทำตามได้ง่ายๆ มือใหม่หัดทำอาหารก็ทำได้ แถมวิธีการทำก็ง่ายมากๆ และไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด และสามารถทำทานได้ทุกวันไม่มีเบื่อ

วิธีทำอาหารเกาหลี ซุป กิมจิ แสนอร่อย ทำง่ายมากๆ มือใหม่ก็ทำได้

ซุป กิมจิ

ซุปกิมจิ เป็นเมนูอาหารเกาหลีที่มีรสชาติเปรี้ยวนำ แต่ยังมีความกลมกล่อมอร่อย และโดดเด่น และเป็นซุปที่สามารถทานได้ทุกวัน สำหรับใครที่ชอบทานอาหารเกาหลี และอยากลองทำทานเองที่บ้าน แต่คิดว่าคงทำยากแน่ๆ แท้จริงแล้วเมนูซุปสไตล์เกาหลีนี้สามารถทำทานเองได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง แถมรสชาติยังอร่อยเหมือนทานที่ร้านเลยทีเดียว ดังนั้นวันนี้เราจะมาแชร์สูตร ซุปกิมจิตามฉบับต้นตำรับของเกาหลีที่สุดแสนอร่อย เหมือนทานอยู่ร้านอาหารในเกาหลีเลยทีเดียว แต่ก่อนที่เราจะลงมือทำซุปกิมจิ เกาหลี หมูสามชั้น เต้าหู้อ่อน เราต้องมาเตรียมวัตถุดิบดังนี้

ซุป กิมจิ
  1. เต้าหู้อ่อน 1 ก้อน
  2. กิมจิ 400 กรัม
  3. หมูสามชั้น 500 กรัม
  4. น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
  5. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  6. ต้นหอมญี่ปุ่น 1 ต้น
  7. หอมหัวใหญ่ ½ หัว
  8. น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
  9. ซอสโซยุ 2 ช้อนโต๊ะ
  10. ซอสโคชูจัง 2 ช้อนโต๊ะ
  11. เกลือป่น ½ ช้อนโต๊ะ
  12. เห็ดเข็มทอง 200 กรัม
  13. ผงปรุงรส ½ ช้อนโต๊ะ

หลังจากที่เตรียมวัตถุดิบเสร็จแล้ว ในส่วนของซอสโคชูจัง ถ้าไม่ชอบสามารถไม่ใส่ก็ได้อร่อยเหมือนเดิม และซุป กิ ม จิ กิน คู่กับ อะไรก็อร่อย แถมรสชาติของน้ำซุปมีความกลมกล่อมทำให้หลายคนเลือกเป็นเมนูอาหารเกาหลีสุดโปรดกันเลยทีเดียว และในส่วนของวิธีทำนั้นง่ายๆ สามารถทำตามได้ที่บ้านดังนี้

ซุป กิมจิ
  1. มาเริ่มที่ขั้นตอนแรก โดยนำกระทะเปิดไฟปานกลาง จากนั้นใส่หมูสามชั้นลงไป ตามด้วยน้ำเปล่าเล็กน้อย ผัดหมูให้พอสุก จากนั้นตามด้วยน้ำมันงา ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง
  2. ในลำดับต่อมา ให้ใส่กระเทียมสับ ต้นหอมซอย รวมถึงหอมหัวใหญ่ ผัดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จนกว่าจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากนั้นปรุงรสด้วยซอสโคซูจัง คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ใส่กิมจิที่เตรียมไว้ลงไป ผัดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน หลังจากนั้นเติมน้ำเปล่าที่เตรียมไว้ลงไป ตามด้วยผงปรุงรส พร้อมเคี่ยวไฟอ่อนๆ เป็นเวลา 15 นาที
  3. เมื่อครบกำหนดเวลาแล้วให้ใส่ ซอสโซยุ น้ำตาลทราย เกลือป่น คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นตามด้วยเห็ดเข็มทอง พร้อมเต้าหู้อ่อนหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย ปิดฝาแล้วต้มต่อไปอีก 5 นาที เพียงแค่นี้ถือว่าเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ซุป กิมจิ

จบไปแล้วกับวิธีการทำซุป กิมจิ หนึ่งในเมนูอาหารเกาหลีง่ายๆ ที่มีขั้นตอนที่ง่ายมากๆ แถมยังใช้เวลาไม่นานอย่างที่คิด นอกจากนี้ซุปสไตล์เกาหลีที่ทำทานเองรสชาติที่ได้ยังมีความกลมกล่อม เปรี้ยวเล็กน้อย ตามสูตรซุปกิมจิเกาหลีเลยทีเดียว สำหรับใครที่ชอบอาหารไตล์เกาหลีเกาใจ แนะนำให้ทำเมนูง่ายๆ อย่าง ซุปกิมจิ ที่ไม่ว่าจะทำทานตอนไหนก็อร่อยเหมือนเดิม แถมยังสามารถทานได้ทั้งครอบครัวเลยทีเดียว

แชร์สูตรเด็ด ซุปกิมจิ หอมอร่อย รสชาติกลมกล่อม

ซุป กิมจิ

สำหรับซุป กิมจิ ซึ่งเป็นเมนูอาหารเกาหลีที่กำลังเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งเมนูอาหารเกาหลียอดฮิตนี้มีหลากหลายสูตรให้ลองทำมากมาย อย่างเช่น ซุปกิมจิเต้าหู้อ่อนทะเล ซึ่งวิธีทำก็ง่ายมากมาก เพียงทำตามสูตร และวิธีการทำที่เราได้นำมาแชร์ได้เลย จากนั้นแค่เปลี่นยจากหมูเป็นกุ้ง ปลาหมึก และหอย หรือเป็นอาหารทะเลชนิดอื่นได้ตามใจชอบ ส่วนใครที่ไม่ชอบเห็ดเข็มทองสามารถไม่ใส่เห็ดเข็มทองก็ได้เช่นกัน ส่วนรสชาติของสูตรนี้ก็อร่อยไม่แพ้สูตรดั้งเดิมเลยทีเดียว 

ซุป กิมจิ

เมนูอาหาร ซุปกิมจิเกาหลี เป็นเมนูอาหารเกาหลีในซีรีส์หลายเรื่องที่มักจะมีให้เห็นบ่อยๆ แถมหน้าตาของอาหารนั้นน่ารับประทานอีกด้วย ที่สำคัญคนเกาหลียังทานอาหารที่ดูน่าอร่อยจนอยากหาซื้อทานเลยทีเดียว แต่ถ้าใครอยากลองทำซุปสไตล์เกาหลีที่มีขึ้นตอนไม่ยุ่งยากสามารถทำตามสูตรที่เรานำมาแชร์ได้เลย รับรองว่ารสชาติอร่อย และหน้าตาน่าทานเหมือนในซีรีย์เกาหลีแน่นอน ดังนั้นถ้าใครอยากตามรอยซีรีย์ หรือชื่นชอบอาหารเกาหลี แนะนำให้ลองทำซุปสไตล์เกาหลีรสชาติเปรี้ยวเล็กน้อยที่มาพร้อมกับความอร่อยกลมกล่อมไม่เหมือน รับรองไม่ผิดหวัง

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารนานาชาติ

เผยสูตร ข้าวผัด กิมจิ สไตล์แดนกิมจิ รสชาติกลมกล่อม

ข้าวผัด กิมจิ

สำหรับใครที่ชอบเมนูข้าวผัด ต้องไม่พลาดกับเมนู ข้าวผัด กิมจิ ซึ่งถือว่าเป็นเมนูยอดนิยมของคนเกาหลีเลยก็ว่าได้ อีกทั้งรสชาติก็มีความอร่อยที่มีความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากกิมจิที่รสชาติเปรี้ยวหวานอร่อยสุดๆ แถมยังเป็นข้าวผัดสไตล์เกาหลีที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกอีกด้วย ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำข้าวผัดกิมจิ เกาหลียังมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวกลมกล่อม แถมอร่อยตามสูตรต้นฉบับเลยทีเดียว

ชวนทำ ข้าวผัด กิมจิ เมนูยอดนิยมส่งตรงจากเกาหลี ทำง่าย อร่อยด้วย

ข้าวผัด กิมจิ

เมนูข้าวผัด กิมจิ เป็นหนึ่งในเมนูข้าวผัดที่รสชาติโดดเด่น แถมรสชาติอร่อยสุดๆ ส่วนใครที่ชอบทานข้าวผัดสไตล์เกาหลี และอยากลองทำทานเองที่บ้าน วันนี้เราจะพาทำเมนูอาหารอย่างข้าวผัดจิมสูตรดั้งเดิมที่มีรสชาติอร่อยที่มาพร้อมกับความหอมของกิมจิที่มีรสชาติเปรี้ยวหวาน นอกจากนี้ยังเป็นเมนูที่กินได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่อีกด้วย ว่าแต่ข้าวผัดกิมจิ ใส่อะไรบ้าง เราไปเตรียมวัตถุดิบ และส่วนผสมของข้าวผัดกิมจิ โดยกิมจิที่เราจะทำนั้นเป็นสูตรออริจินอลแท้ส่งตรงจากเกาหลี รับรองว่าข้าวผัดที่ทำเองนั้นอร่อยตามสูตรต้นฉบับแน่นอน

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

ข้าวผัด กิมจิ
  1. กิมจิ ½ ถ้วย
  2. ข้าวญี่ปุ่นหุงสก หรือข้าวสวย 1 ถ้วย
  3. ซอสโคชูจัง หรือโซยุ 1 ช้อนโต๊ะ
  4. หอมหัวใหญ่หั่นบางๆ ½ ถ้วย
  5. กระเทียมสับ ½ ช้อนโต๊ะ
  6. แครอทซอย ½ ช้อนโต๊ะ
  7. เกลือป่น ½ ช้อนโต๊ะ
  8. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  9. น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
  10. เบคอน หรือเนื้อหมู 100 กรัม

ในส่วนของวัตถุดิบที่เป็นข้าวที่จะนำมาผัด ถ้าบ้านไหนไม่มีข้าวญี่ปุ่นสามารถใช้ข้าวสวยในการทำข้าวผัด กิมจิได้เหมือนกัน แถมยังอร่อยอีกด้วย ในส่วนของวิธีทำข้าวผัดกิมจิ ง่ายๆ สามารถทำทานได้ที่บ้านด้วยตัวเอง และขั้นตอนการทำไม่ซับช้อนสามารถทำตามได้ดังนี้

ข้าวผัด กิมจิ
  1. ขั้นตอนแรก เริ่มจากนำกระทะมาตั้งเตาใช้ไฟอ่อนๆ จากนั้นนำเบคอนไปผัดจนน้ำมันออกจากเบคอน ซึ่งจะได้เบคอนที่กรอบหอมมากขึ้น เสร็จแล้วนำกระเทียมที่สับระเอียดแล้วลงไปผัดกับเบคอนให้หอม และตามด้วหอมหัวหญ่ที่ซอยบางๆ และแครอทที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในกระทะ ผัดให้ส่วนผสมทุกอย่างสุกได้ที่
  2. เมื่อผักสุกแล้ว ปรุงรสด้วยซอสโคชูจัง น้ำตาลทราย และเกลือ ผัดให้เข้ากัน เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย จากนั้นผัดส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง 
  3. ขั้นตอนสุดท้ายใส่ข้าวญี่ปุ่น หรือข้าวสวยลงไป ผัดให้เข้ากัน เสร็จแล้วตักใส่จาน โรยด้วยต้นหอมซอย หรือสาหร่ายซอย หรือจะใส่อย่างอื่นได้ตามใจชอบ 
  4. ต่อมาเรามาทำไข่ดาว โดยนำกระทะมาตั้งไฟอ่อนๆ จากนั้นตอกไข่ไก่ลงไป ทอดให้ไข่สุก เสร็จแล้วนำไปวางบนข้าวผัดที่เตรียมไว้ เพียงเท่านี้เป็นอันเสร็จเรียบร้อย พร้อมเสิร์ฟ
ข้าวผัด กิมจิ

เสร็จแล้วสำหรับขั้นตอนการทำ ข้าวผัดกิมจิ ซึ่งเป็นอาหารเกาหลีง่ายๆ สามารถได้ด้วยตัวเอง แถมรสชาติอร่อยตามสูตรต้นดั้งเดิมของเกาหลีเลยทีเดียว และไม่ต้องจ่ายแพงก็ได้ทานข้าวผัดสไตล์เกาหลีที่มีรสชาติเปรี้ยวหวานอร่อยอย่างลงตัว และไม่เหมือนข้าวผัดทั่วไปอีกด้วย เรียกว่าเป็นเมนูข้าวผัดที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ที่มาพร้อมกับความอร่อยที่สามารถทำทานได้ทุกวันไม่มีเบื่อ อีกทั้งยังทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ 

เมนูข้าวผัดสไตล์เกาหลี ข้าวผัดกิมจิ ทานกับอะไรก็อร่อย 

ข้าวผัด กิมจิ

ข้าวผัดกิมจิเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารเกาหลีโปรดของเด็กๆ และผู้ใหญ่ เพราะรสชาติของข้าวมีความกลมกล่อม และมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย จึงทำให้เด็กๆ ชอบทานเป็นพิเศษ ที่สำคัญยังเป็นอาหารเกาหลียอดฮิตที่ทานคู่กับอะไรก็อร่อยไปหมด อย่าง ซุปกิมจิเต้าหู้อ่อน หรือจะเป็นกิมจิกรอบๆ ก็ได้เช่นกัน แถมยังช่วยเพิ่มรสชาติให้เขาผัดมีความอร่อยมากขึ้น แค่นั้นยังไม่พอ กิมจิยังมีประโยชน์มากมายที่หลายคนไม่รู้ อาทิ สร้างผิวให้กระจ่าง ชะลอความแก่ ป้องกันโรคเบาหวาน เพิ่มแบคทีเรียตัวดีให้กับร่างกาย ช่วยลดคลอเลสเตอรอล และป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหาร แถมยังดีต่อระบบลำไส้ทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น

ข้าวผัด กิมจิ

ข้าวผัด กิม จิ เมนูอาหารเกาหลีในซีรีส์สุดโปรดสไตล์เกาหลี ซึ่งมีวิธีทำที่ง่ายแสนง่ายสามารถทำทานเองได้ที่บ้าน แถมยังทานได้ทั้งครอบครัว สำหรับใครที่อยากลองทำข้าวผัดสไตล์เกาหลี สูตรดั้งเดิมสามารถลองทำทานเองได้ตามสูตร และวิธีทำตามที่เรานำมาแชร์ได้เลย รับรองว่ารสชาติที่ได้นั้นตรงตามสูตรดั้งเดิม เหมือนไปทานที่เกาหลีเลยทีเดียว อีกทั้งยังใช้ส่วนผสมไม่มาก และยังสามารถซื้อตามร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วไป ที่สำคัญยังสามารถลองทำขายได้ด้วย รับรองว่าขายดี ได้กำไรชัวร์ๆ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารนานาชาติ

แนะนำเมนู อาหารสเปน ขึ้นชื่อ บ่งบอกถึงชาติตะวันตก อร่อยสไตล์แดนกระทิงดุ

อาหารสเปน

ถ้าพูดถึงอาหารยุโรปหรืออาหารตะวันตกที่ขึ้นชื่อ นอกจากอาหารอิตาเลียนและฝรั่งเศสแล้ว อีกหนึ่งชาติที่โดดเด่นในเรื่องอาหารไม่แพ้กันก็คือสเปน เรียกว่าเป็นประเทศที่มีฝีมือการปรุงอาหารที่ไม่ธรรมดา แถมวัตถุดิบบางเมนูยังไม่เหมือนใครด้วย เช่นนี้จึงทำให้ อาหารสเปน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สำหรับใครที่ยังไม่เคยลองทานอาหารของชาตินี้ก็ควรหาโอกาสไปลองสักครั้ง หรือจะนำสูตรอาหารที่เราจะแนะนำไปทำตามก็ได้เช่นกัน 

แจกสูตรเมนู อาหารสเปน ยอดนิยม หน้าตาสวย อร่อยด้วยรสสัมผัส

อาหารสเปน

ต้องบอกเลยว่าสเปนเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีอาหารค่อนข้างหลากหลาย ซึ่งถ้าจะให้ แนะนำอาหารสเปน ก็คงต้องบอกว่ามีหลายเมนูที่น่าสนใจไม่น้อยเลย อีกทั้งเมนูอาหารสเปน ส่วนใหญ่มักจะมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายด้วย เนื่องจากอาหารเหล่านั้นจะอุดมไปด้วยวัตถุดิบที่ให้สรรพคุณ แต่รสชาติก็ยังอร่อยถึงใจ บทความนี้ขอนำเสนอ สูตรอาหารสเปน เมนูเด็ดที่ขึ้นชื่อ ไปดูกันว่าจะมีเมนูใดบ้าง 

  • ปาเอญ่า
อาหารสเปน

ปาเอญ่า หรือ Paella จัดเป็น อาหารประจำชาติสเปน ที่มีหน้าตาน่าทานมาก ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นเมนูที่ไม่ได้ทำเหมือนข้าวผัดไปซะทีเดียว แต่ด้วยความที่มีหน้าตาคล้ายกับข้าวผัดบ้านเรา คนไทยจึงเรียกว่า ข้าวผัดสเปน เมนูนี้มีแหล่งกำเนิดมาจากทะเลสาบอัลบูเฟรา ต้องบอกว่าเป็นเมนู อาหาร สเปน ที่ให้สารอาหารครบ 5 หมู่เลยก็ว่าได้ ใครสนใจอยากทำเมนูนี้ก็สามารถดูสูตรที่เราแนะนำได้เลย 

วัตถุดิบและเครื่องปรุง

  1. ข้าวอาร์โบริโอ้ 1 ถ้วย
  2. ปลาหมึกหั่น (ตามความชอบ)
  3. กุ้ง (ตามความชอบ)
  4. หอยแมลงภู่ (ตามความชอบ)
  5. โซฟริโต้ 50 กรัม
  6. ผงปาเอญ่า 2 ช้อนโต๊ะ
  7. แซฟฟรอน 1 ช้อนโต๊ะ
  8. ไวน์ 5 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำสต๊อกไก่ 1 ทัพพี
  10. พริกไทยกัมปอต 1 ช้อนชา
  11. เกลือ 1 ช้อนชา
  12. น้ำมันหัวกุ้ง 1 ทัพพี 

วิธีทำ

  1. ขั้นตอนแรกเทน้ำมันหัวกุ้งที่ได้จากการเจียวหัวกุ้งลงในกระทะ ใส่โซฟริโต้หรือสามเกลอสเปนลงไปผัด เทข้าวอาร์โบริโอ้ลงไป ผัดให้เข้ากัน 
  2. จากนั้นใส่ผงปาเอญ่า ตามด้วยแซฟฟรอน และไวน์ ผัดให้เข้ากัน วางปลาหมึก กุ้งและหอยแมลงภู่ลงในกระทะ จากนั้นเติมน้ำสต๊อกไก่ให้พอท่วม
  3. ปรุงรสด้วยพริกไทยกัมปอตและเกลือ เสร็จแล้วปิดฝาและดงไว้ 30 นาที เมื่อครบเวลาแล้วให้เปิดฝาและปิดไฟ ถือเป็นอันเสร็จ
  • หมูหันสเปน
อาหารสเปน

หมูหันสเปน หรือ Cochinillo Asado ถือเป็นอาหารท้องถิ่นของสเปนที่หาทานได้ยากในเมืองไทย โดยจะนำหมูไปหมักกับเครื่องเทศนานาชนิด จากนั้นนำไปซูวีดเป็นเวลา 1 คืน ตบท้ายด้วยการนำเข้าเตาอบ ซึ่งจะให้ทั้งกลิ่นหอมและรสสัมผัสที่อร่อยฟิน ๆ เลยทีเดียว ถ้าหากพูดถึง อาหารนานาชาติ ที่ดูใกล้เคียงกับเมนูนี้ หลายคนอาจนึกถึงหมูหันของจีน แต่จริง ๆ แล้วขั้นตอนการทำจะแตกต่างกัน 

วัตถุดิบและเครื่องปรุง

  1. หมูตัวเล็ก (อายุไม่เกิน 2-5 สัปดาห์) 1 ตัว
  2. เกลือ 6 ช้อนโต๊ะ
  3. พริกไทยดำ 6 ช้อนโต๊ะ
  4. พริกไทยสีชมพู 6 ช้อนโต๊ะ
  5. ไทม์ 5 กิ่ง
  6. โรสแมรี่ 5 กิ่ง
  7. อบเชย 3 ชิ้น
  8. ส้มซันควิก 1 ลูก
  9. เลมอน 1 ลูก
  10. กระเทียม 5 กลีบ
  11. เนย 125 กรัม
  12. น้ำมันมะกอก 6 ช้อนโต๊ะ 

วิธีทำ

  1. เตรียมหมูที่แล่เอาส่วนต่าง ๆ ออกหมดแล้ว จากนั้นหมักด้วยเครื่องเทศทั้งหมดในรายการส่วนผสม เมื่อหมักหมูเสร็จแล้วให้นำไปซูวีดไว้ 1 คืน ด้วยความร้อนอ่อน ๆ
  2. หลังจากหมักหมูไว้ 1 คืนแล้ว ให้นำไปเข้าเตาอบด้วยไฟแรง อบไว้ประมาณ 1.30 ชั่วโมง ย่างให้หอมและสุกได้ที่ เสร็จแล้วนำออกจากเตาอบ จัดเสิร์ฟ ทานคู่กับน้ำจิ้มสูตรเฉพาะ 
  • โครเกตต์แฮมแอนด์ชีส
อาหารสเปน

โครเกตต์ ถือเป็นเมนูดั้งเดิมของสเปน โดยจะใช้มันฝรั่งเป็นวัตถุดิบหลักในการปรุง เมื่อทอดจนสุกแล้วจะมีสีเหลืองทองน่าทาน จัดเป็นอาหารสเปนที่สามารถทำทานระหว่างวันได้ สำหรับ อาหารสเปนในไทย สูตรนี้เราจะนำมันฝรั่งไปนึ่งแทนการต้ม และจะเป็นการมิกซ์ด้วยแฮมและชีส เรียกว่าเป็นหนึ่งใน อาหารต่างประเทศ สัญชาติสเปนที่ทำได้ไม่ยากนัก อาจจะใช้วัตถุดิบเยอะหน่อย แต่บอกเลยว่าถ้าทำเสร็จแล้วคุ้มค่าแน่นอน

วัตถุดิบและเครื่องปรุง

  1. มันฝรั่ง 500 กรัม
  2. แฮม 80 กรัม
  3. หอมใหญ่ 80 กรัม
  4. ชีสเชดด้า 60 กรัม
  5. พาร์สลีย์ 2 ช้อนชา
  6. ลูกจันทน์ป่น 1/4 ช้อนชา
  7. เกลือ 1/2 ช้อนชา
  8. พริกไทยดำ 1/2 ช้อนชา
  9. น้ำมันพืช 2 ช้อนชา
  10. น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ 
  11. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 3 ช้อนโต๊ะ
  12. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  13. เกล็ดขนมปัง 75 กรัม 
  14. มายองเนส 3 ช้อนโต๊ะ
  15. กระเทียม 1 กลีบ
  16. น้ำมะนาวเลมอน 1 ช้อนชา
  17. เกลือ 1/8 ช้อนชา 

วิธีทำ

  1. ขั้นตอนแรกนำมันฝรั่งมาปอกเปลือกและล้างให้สะอาด จากนั้นนำไปนึ่งให้สุก โดยใช้เวลาประมาณ 12-15 นาที เสร็จแล้วนำมันฝรั่งที่นึ่งสุกแล้วมาบดให้ละเอียด
  2. หั่นหอมใหญ่เป็นชิ้น ๆ จากนั้นตั้งกระทะโดยใช้ไฟอ่อน เทน้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย ตามด้วยหอมใหญ่ที่หั่นไว้เมื่อสักครู่ ผัดไปสักพักแล้วเติมน้ำเปล่าลงไป และผัดต่อจนหอมใหญ่เป็นสีน้ำตาลอ่อน ๆ และแห้งดี
  3. นำหอมใหญ่ที่ผัดเมื่อสักครู่มาสับเล็กน้อย จากนั้นนำไปผสมกับมันฝรั่งบด ใส่พาร์สลีย์ลงไป ตามด้วยแฮมและชีสเชดด้า คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  4. เพิ่มความหอมด้วยลูกจันทน์ป่นเล็กน้อย ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยดำ จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง ปั้นส่วนผสมเป็นรูปวงกลม เสร็จแล้วนำไปชุบกับแป้ง ไข่ และเกล็ดขนมปัง จากนั้นนำไปทอดให้สุก
  5. เตรียมทำ Garlic Aioli โดยนำกระเทียมมาสับ จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย ตามด้วยน้ำเลมอนและมายองเนส ผสมให้เข้ากัน เสร็จแล้วนำโครเกตต์จัดใส่จานเสิร์ฟคู่กับ Garlic Aioli 
  • คาสปาโช่
อาหารสเปน

คาสปาโช่ เป็นซุปเย็นที่นิยมทำทานกันในฤดูร้อน เป็นเมนูที่เต็มไปด้วยเครื่องเทศนานาชนิด แน่นอนว่าซุปนี้จะต้องมีกลิ่นหอมและรสชาติอร่อย แต่บางคนอาจจะรู้สึกว่าเป็น อาหารสเปนแปลกๆ เพราะใช้เนื้อกระต่ายปรุงร่วมด้วย ทั้งนี้หากใครไม่สะดวกก็ไม่จำเป็นต้องใส่เนื้อกระต่ายก็ได้ สำหรับ ประวัติอาหารสเปน เมนูนี้ ต้องบอกว่ามีถิ่นกำเนิดจากภาคใต้ของคาบสมุทรไอบีเรีย ต่อมาก็ได้แพร่กระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของสเปนและโปรตุเกส 

วัตถุดิบและเครื่องปรุง

  1. น่องไก่ 1/2 กิโลกรัม
  2. เนื้อกระต่ายทั้งกระดูก 1/2 กิโลกรัม
  3. หอยทาก 250 กรัม
  4. เห็ดนางฟ้า 150 กรัม
  5. พริกหวานแดง 1 ลูก
  6. มะเขือเทศ 1 ลูก
  7. คาสปาโช่เค้ก 360 กรัม
  8. กระเทียม 4-5 กลีบ
  9. เม็ดพริกไทยดำ 1 ช้อนชา
  10. โรสแมรี่ 1 ช้อนชา
  11. ผงหญ้าฝรั่น 1 ช้อนโต๊ะ
  12. ผงพริกหวาน 1 ช้อนโต๊ะ
  13. ผงจันทน์เทศ 1/2 ช้อนชา
  14. ใบกระวาน 2 ใบ
  15. เกลือ 15 กรัม
  16. ซุปไก่ 1 ก้อน
  17. หัวหอมใหญ่ 1 หัว
  18. น้ำเปล่า 2 ลิตร
  19. น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ
  20. น้ำมันสำหรับทอด 

วิธีทำ

  1. ขั้นตอนแรกเตรียมหม้อต้มซุป โดยตั้งหม้อแล้วเทน้ำเปล่าลงไปต้ม รอให้เดือด ตั้งกระทะโดยใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันมะกอกลงไป จากนั้นนำน่องไก่และเนื้อกระต่ายลงไปทอดจนสุก เสร็จแล้วพักไว้
  2. เมื่อน้ำที่ต้มเดือดแล้วให้ใส่ใบกระวาน และพริกไทย นำกระเทียม หอมใหญ่ มะเขือเทศและพริกหวานมาสับ จากนั้นตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมันมะกอกลงไป ตามด้วยกระเทียบสับ ผัดจนมีกลิ่นหอม 
  3. จากนั้นใส่หอมใหญ่ มะเขือเทศ พริกหวาน โรสแมรี่ ผงพริกหวาน ผงหญ้าฝรั่น ผงลูกจันทน์เทศ หอยทาก และเห็ด ผัดให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
  4. นำน่องไก่ทอดและเนื้อกระต่ายทอดลงในกระทะ จากนั้นผัดต่ออีก 3-4 นาที กลับไปที่หม้อต้มน้ำซุป ตักน่องไก่และเนื้อกระต่ายที่อยู่ในกระทะลงหม้อน้ำซุป ตามด้วยส่วนผสมที่เหลือ
  5. เมื่อน้ำซุปเดือดแล้วใส่ซุปก้อนลงไป และคนเล็กน้อย เคี่ยวต่อด้วยไฟกลาง 45 นาที ใส่คาสปาโช่ลงไปในหม้อ คนให้เข้ากันเล็กน้อย และเคี่ยวต่ออีก 15 นาที ถือเป็นอันเสร็จ 
  • ชูโรส
อาหารสเปน

อีกหนึ่งเมนู อาหารสเปนแนะนำ ที่ขึ้นชื่อจากแดนกระทิงดุ เรียกได้ว่าเป็น เมนูอาหารสเปน ที่มีหน้าตาเป็นเอกลักษณ์มากทีเดียว โดยมีลักษณะคล้ายกับปาท่องโก๋ คนไทยจึงเรียกว่า “ปลาท่องโก๋สเปน” ทั้งนี้แต่ละพื้นที่ก็จะทำรูปทรงออกมาแตกต่างกัน หากใครกำลังนึกถึง อาหารสเปนทำง่าย ก็ต้องเป็นเมนูนี้เลย เพราะมีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนนัก หากสนใจก็สามารถทำอาหารสเปนตามสูตรนี้ได้เลย

วัตถุดิบและเครื่องปรุง

  1. ชอร์ทเทนนิ่งน้ำมันรำข้าว 50 กรัม
  2. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม
  3. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  4. ผิวส้ม 1 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำตาลทราย 180 กรัม
  6. เกลือ 1/4 ช้อนโต๊ะ
  7. ผงอบเชย 1 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำเปล่า 150 มิลลิลิตร
  9. น้ำมันรำข้าว 

วิธีทำ

1.ขั้นตอนแรกให้ตักชอร์ทเทนนิ่งน้ำมันรำข้าวใส่ลงไปในหม้อ ตามด้วยน้ำเปล่า เกลือและผิวส้ม จากนั้นนำไปต้มให้เดือด

  1. ตอกไข่ใส่ภาชนะแล้วตีไข่ให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำไปผสมกับแป้งสาลีอเนกประสงค์ โดยใช้เครื่องผสมอาหารนวดแป้งและไข่ให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  2. นำส่วนผสมที่ได้ใส่ในถุงบีบที่มีหัวบีบรูปดาว จากนั้นบีบใส่กระดาษในลักษณะม้วนเป็นรูปวงกลมบรรจบกัน เสร็จแล้วใช้กรรไกรตัด นำน้ำตาลทรายและผงอบเชยมาผสมกัน เตรียมไว้
  3. เตรียมทอดแป้งชูโรส โดยตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมันลงไป เปิดไฟกลาง จากนั้นนำชูโรสลงไปทอดจนสุกแล้วนำขึ้นสะเด็ดน้ำมัน นำชูโรสมาคลุกกับน้ำตาลทรายและผงอบเชยที่ผสมไว้ ถือเป็นอันเสร็จ 

บทสรุป

ถ้าหากพูดถึงอาหารตะวันตกที่โดดเด่นในเรื่องของขั้นตอนการทำอย่างประณีต คงต้องยกให้ฝรั่งเศส เพราะอาหารชาตินี้ได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลก แถมยังถูกยกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอีกด้วย แต่ทว่า อาหาร สเปน นั้นจะมีรสชาติที่ขึ้นชื่อและเป็นเอกลักษณ์ เพราะฉะนั้น วิธีทำอาหารสเปน จึงเน้นปรุงด้วยเครื่องเทศซะส่วนใหญ่ และนั่นก็ทำให้รสชาติของ อาหาร สเปน หลายเมนูมักจะมีความเข้มข้น หากใครที่อยากลอง ทำอาหารสเปน ก็สามารถนำสูตรที่เราแนะนำไปทำตามได้เลย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารนานาชาติ

5 สูตร อาหารจีน รสเลิศ เมนูยอดฮิตที่ให้ทั้งความอร่อยและความฟิน

อาหารจีน

อาหารถือเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถบ่งบอกถึงวัฒนธรรมการทานของประเทศนั้น ๆ ได้ สำหรับประเทศไทยก็ถือเป็นอีกหนึ่งชาติที่ขึ้นชื่อในเรื่องของอาหาร ซึ่งมีมากกว่าหนึ่งเมนูที่อร่อยจนติดอันดับโลก ไม่ว่าจะของคาวหรือของหวานเราก็เอาอยู่ แต่ทว่านอกจากอาหารไทยแล้ว อาหารจีน ก็ถือเป็นอีกหนึ่งอาหารที่คนไทยนิยมทานกัน เพราะได้รับอิทธิพลมาตั้งแต่ในอดีต อีกทั้งในประเทศไทยยังมีคนไทยเชื้อสายจีนอยู่กันเป็นจำนวนมากด้วย 

แจกสูตร 5 อาหารจีน ระดับตำนาน เมนูที่มีชื่อติดหู ใคร ๆ ก็ต้องรู้จัก

อาหารจีน

เมื่อพูดถึง อาหารนานาชาติ ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยแล้ว แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นจะต้องมี อาหาร จีน อยู่ด้วย อย่างไรก็ตามในเรื่องของรสชาติอาหารแต่ละประเทศนั้นก็จะแตกต่างกันออกไป หากเป็น เมนูอาหารจีน สูตรดั้งเดิมอาจมีบางเมนูที่รสชาตินั้นไม่ถูกปากคนไทยอยู่บ้าง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่มักจะถูกปรุงให้มีรสชาติแตกต่างไปจากต้นฉบับ วันนี้ขอแจกสูตร ทำอาหารง่ายๆ จากแดนมังกร มาดูกันว่าจะมีเมนูใดบ้าง 

  • ติ่มซำเต้าหู้ไข่หน้าหมูสับ
อาหารจีน

ติ่มซำ เป็นหนึ่งในเมนูที่คนทั่วโลกรู้จัก เรียกได้ว่าเป็น อาหารจีน ที่ขึ้นชื่อและต้องลิ้มลองสักครั้ง ซึ่งในประเทศไทยนั้นค่อนข้างหาทานได้ง่าย เพราะจัดเป็นเมนูที่ทำได้ไม่ยากนัก นอกจากนี้ยังเป็นเมนู ของว่างทานเล่น ที่ช่วยให้อิ่มท้องได้ด้วย ซึ่งนิยมทานคู่กับน้ำชา ส่วนคำว่า “ติ่มซำ” นั้นเป็น ชื่อเมนูอาหารจีน ที่เรียกรวมอาหารหลายอย่าง โดยส่วนใหญ่จะเป็นอาหารที่ผ่านกระบวนการนึ่งทั้งหมด 

วัตถุดิบและเครื่องปรุง

  1. หมูบด 250 กรัม
  2. เต้าหู้ไข่ 2 หลอด
  3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  4. กระเทียม 3-5 กลีบ
  5. รากผักชี 2-3 ต้น
  6. พริกไทย 1 ช้อนชา
  7. ซีอิ้วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำมันงา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  9. ผักสดลวก (ตามความชอบ) 

วิธีทำ

  1. ขั้นตอนการทำ อาหารจีนง่ายๆ ขั้นตอนแรกนำกระเทียมและรากผักชีมาตำในครกให้ละเอียด (แนะนำให้หั่นรากผักชีเป็นชิ้นเล็ก ๆ จะช่วยให้ตำได้ง่ายขึ้น) ใส่หมูสับลงไปแล้วตำให้เข้ากัน
  2. ปรุงรสด้วยพริกไทย ซีอิ้วขาวและน้ำมันงา จากนั้นใส่ไข่ไก่ลงไปแล้วตำให้เข้ากันอีกครั้ง เสร็จแล้วตักใส่ถ้วย และนำไปหมักไว้ในตู้เย็น 30 นาที
  3. นำเต้าหู้ไข่มาหั่นเป็นชิ้นแล้วใส่ไว้ในถ้วยขนาดเล็ก ตักหมูสับที่หมักเรียบร้อยแล้ววางบนเต้าหู้ไข่ตามปริมาณที่ต้องการ
  4. นำผักสดมาลวกและหั่นเพื่อนำมาตกแต่งหน้าติ่มซำ เสร็จแล้วนำไปนึ่ง 5 นาที เมื่อนึ่งจนครบ 5 นาทีแล้ว ให้นำน้ำราดติ่มซำมาราดด้านบน จากนั้นนำไปนึ่งอีก 2 นาที ถือเป็นอันเสร็จ 
  • บ๊ะจ่าง
อาหารจีน

เมื่อพูดถึง อาหารจีนมงคล จะขาดเมนูนี้ไปไม่ได้เลย เรียกได้ว่าเป็นอาหารที่หาทานได้ง่ายในกรุงเทพ ฯ แต่บางจังหวัดหรือบางพื้นที่อาจหาทานได้ยาก เนื่องจาก บ๊ะจ่าง เป็นขนมที่มีขั้นตอนการทำอย่างพิถีพิถัน ซึ่งในสำเนียงภาษาจีนกลางจะเรียกขนมชนิดนี้ว่า “โร่วจ้ง” ต้องบอกว่าเมนูนี้ใช้วัตถุดิบเยอะ แถมมีขั้นตอนการทำค่อนข้างนานอีกด้วย อย่างไรก็ตามหากใครอยากทาน อาหารจีนพื้นบ้าน ก็สามารถเลือกเมนูนี้ได้เลย นอจกากนี้ยังเป็นหนึ่งใน อาหารเสฉวน ที่มีรสชาติเข้มข้นและจัดจ้าน น่ารับประทานอีกด้วย 

วัตถุดิบและเครื่องปรุง

  1. ใบไผ่ 1/2 กิโลกรัม
  2. ข้าวเหนียว (แช่ 3 วัน 3 คืน) 500 กรัม
  3. พุทราจีนเชื่อม 1/2 ถ้วย
  4. กุนเชียงทอด 1/2 ถ้วย
  5. เกาลัดคั่ว 1/2 ถ้วย
  6. แปะก๊วยเชื่อม 1/2 ถ้วย
  7. ไข่แดงเค็ม 7 ฟอง
  8. เผือก 500 กรัม 
  9. เนื้อหมูสันคอ 200 กรัม
  10. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  11. เกลือ 1 ช้อนชา
  12. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
  13. ซีอิ้วขาว 1 ช้อนชา
  14. น้ำมันหอย 2 ช้อนชา 
  15. ไชโป้ว 1 ถ้วย
  16. ถั่วลิสงต้ม 1 ถ้วย
  17. เม็ดบัวต้มสุก 1 ถ้วย
  18. กุ้งแห้ง 1/2 ถ้วย
  19. พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  20. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  21. เห็ดหอมแช่น้ำ 1 ถ้วย

วิธีทำ

  1. นำใบไผ่มาแช่น้ำ 3 วัน 3 คืน โดยต้องเปลี่ยนน้ำใหม่ทุกวัน จากนั้นนำมาต้มและล้างทีละใบ แล้วนำข้าวเหนียวแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน
  2. นำเนื้อหมูสันคอมาหมักกับน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว เกลือ น้ำตาล และพริกไทยป่น หมักทิ้งไว้ 1 คืน เพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น
  3. นำเห็ดหอมมาแช่น้ำ จากนั้นนำไปทอดจนหอมและสะเด็ดน้ำมัน เสร็จแล้วนำไปผัดในกระทะอีกครั้ง ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว เกลือ และพริกไทย ผัดให้เข้ากันแล้วตักใส่จาน พักไว้
  4. นำเผือกมาหั่นเป็นชิ้นแล้วนึ่งจนสุก นำมาบี้ให้ละเอียด เสร็จแล้วนำไปกวนในกระทะพร้อมกับปรุงรสด้วยน้ำตาล เมื่อกวนเสร็จแล้วนำมาปั้นเป็นลูกวงกลมแล้วห่อด้วยเปลวมันหมู
  5. ตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมัน นำไชโป้วลงไปผัดโดยใช้ไฟอ่อน ตามด้วยข้าวเหนียว ถั่วลิสงต้ม เม็ดบัวต้มสุกและกุ้งแห้ง ปรุงรสด้วยน้ำมันหอยและซีอิ๊วขาว 
  6. ผัดให้เข้ากันไปเรื่อย ๆ ปรุงรสเพิ่มด้วยพริกไทย ตามด้วยน้ำตาลและเกลือ เมื่อผัดจนเข้ากันดีแล้วให้ตักใส่ถ้วย พักไว้
  7. นำใบไผ่มาขึ้นกรวย ใส่เผือกกวนที่เตรียมไว้ ตามด้วยข้าว พุทราจีนเชื่อม กุนเชียง เกาลัดคั่ว แปะก๊วย ไข่แดง เห็ดหอม และหมูหมักหั่นชิ้น เสร็จแล้วห่อเข้ากันแล้วมัดด้วยเชือกปอ จากนั้นนำไปนึ่ง 1 ชั่วโมง ถือเป็นอันเสร็จ 
  • เป็ดปักกิ่ง
อาหารจีน

เมื่อพูดถึงอาหารที่สะท้อนถึง วัฒนธรรมจีน ได้อย่างชัดเจน จะไม่นึกถึงเมนูนี้ก็คงไม่ได้ เพราะ เป็ดปักกิ่ง เป็นอาหารจีนที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ซึ่งถูกจัดให้เป็น เมนูอาหาร ประจำชาติจีนด้วย โดยจะเสิร์ฟหนังเป็ดที่บางกรอบ ทานคู่กับน้ำจิ้มสูตรเด็ดที่ปรุงสำหรับเป็ดปักกิ่งโดยเฉพาะ หากใครที่อยากลิ้มรส อาหารจีนโบราณ ที่ยังคงได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง เมนูนี้คือ เมนูอาหารจีนง่ายๆ ที่ใช่เลยแหละ 

วัตถุดิบและเครื่องปรุง

  1. เป็ดเชอร์รี่ 1 ตัว (น้ำหนัก 2 กิโลกรัม)
  2. น้ำเปล่า 5 ถ้วย
  3. แบะแซ 5 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำส้มสายชู 5 ช้อนโต๊ะ
  5. จิ๊กโฉ่ว 5 ช้อนโต๊ะ 
  6. น้ำเปล่า 2 ทัพพี
  7. เต้าเจี้ยว 1 ทัพพี
  8. น้ำตาลทราย 2 ทัพพี

วิธีทำ

  1. นำเป็ดมาล้างทำความสะอาด จากนั้นนำไปเป่าลมเพื่อให้หนังเป็ดและตัวเป็ดลอกออกจากกัน เสร็จแล้วสับขา สับปีก และสับคอออก
  2. ตั้งหม้อแล้วใส่น้ำเปล่าลงไป ตามด้วยแบะแซ คนให้เข้ากัน จากนั้นเติมน้ำส้มสายชูและจิ๊กโฉ่วลงไป เสร็จแล้วคนไปเรื่อย ๆ จนเดือด
  3. ตักมาราดบนตัวเป็ดที่เตรียมไว้ โดยราดให้ทั่วตัวเพื่อให้หนังตึง จากนั้นนำไปเป่าลมอีก 8 ชั่วโมง เมื่อเป่าจนแห้งแล้วนำไปอบประมาณ 15 นาที
  4. เตรียมทำน้ำจิ้มเป็ดปักกิ่ง ตั้งกระทะแล้วใส่น้ำเปล่าลงไป ตามด้วยเต้าเจี้ยว และคนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนเหนียวได้ที่
  5. นำเป็ดที่อบไว้ออกจากเตาอบ จากนั้นนำมาแล่เอาแต่หนังใส่จาน ราดด้วยน้ำจิ้ม ถือเป็นอันเสร็จ พร้อมรับประทานได้เลย 
  • บะกุ๊ดเต๋ ซี่โครงหมูตุ๋นยาจีน
อาหารจีน

หากใครที่กำลังหา สูตรอาหารจีน เพื่อทำทานเองที่บ้าน เมนูนี้ก็ดูน่าสนใจไม่น้อยเลย ซึ่งถือเป็น อาหารจีน ที่ได้รับความนิยมในมาเลเซีย สิงคโปร์ และประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง เพราะนอกจากรสชาติจะดีแล้ว ยังจัดเป็น อาหารเพื่อสุขภาพ อีกด้วย เนื่องจากในเมนูนี้จะเต็มไปด้วยวัตถุดิบที่มีประโยชน์ สำหรับผู้ที่ดูแลสุขภาพก็สามารถทำเมนูนี้ทานเองได้เลย จะเรียกว่าทาน อาหารเป็นยา ก็คงไม่ผิด

วัตถุดิบและเครื่องปรุง

  1. กระดูกซี่โครงอ่อน 1 กิโลกรัม
  2. ชุดบะกุ๊ดเต๋ 2 ชุด (110 กรัม)
  3. เห็ดหอม 10-15 ดอก
  4. รากผักชี 3-4 ราก
  5. กระเทียมทุบ 6-7 กลีบ
  6. พริกไทยดำ 1 ช้อนชา
  7. น้ำตาลกรวด 1 ช้อนชา
  8. เกลือ 1 ช้อนชา
  9. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
  10. ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
  11. เห็ดเข็มทอง (ตามความชอบ)
  12. ผักกาดขาว (ตามความชอบ)
  13. น้ำเปล่า 

วิธีทำ

  1. นำกระดูกซี่โครงอ่อนมาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด และนำกระดูกซี่โครงอ่อนลงไปต้มพอเดือด เสร็จแล้วตักออกและพักไว้
  2. ตั้งหม้อแล้วใส่เครื่องบะกุ๊ดเต๋ลงไป ตามด้วยกระดูกซี่โครงอ่อนที่ต้มเมื่อสักครู่ จากนั้นเทน้ำเปล่าลงไปให้ท่วม ต้มด้วยไฟกลางค่อนไปทางอ่อนจนเดือด
  3. เมื่อน้ำเดือดได้ที่แล้ว ให้ใส่น้ำตาลกรวด เกลือ รากผักชี กระเทียม และพริกไทย ปรุงรสเพิ่มด้วยซีอิ๊วขาว และซีอิ๊วดำ
  4. ใส่เห็ดหอมลงไปตุ๋นประมาณ 1-2 ชั่วโมง เสร็จแล้วตักใส่หม้อตุ๋นยาจีน ใส่ผักกาดขาวลงไป ตามด้วยเห็ดเข็มทอง จากนั้นต้มให้น้ำเดือดแล้วปิดแก๊ส 
  • ปลานึ่งซีอิ๊ว
อาหารจีน

เมนูเอาใจคนชอบทานปลา แถมยังเป็น อาหารจีนทำง่าย อีกด้วย สำหรับใครที่อยากทำ อาหารจีนอร่อย ทานเองที่บ้านก็สามารถนำเมนูปลานึ่งซีอิ๊วไปพิจารณาได้เลย เพราะมีขั้นตอนการทำที่ไม่ค่อยยุ่งยากนัก เรียกได้ว่าเป็น อาหารจีน ที่มีรสชาติอร่อย แถมยังเป็น อาหารมีประโยชน์ อีกด้วย ซึ่งสูตรนี้เราจะใช้ปลาทับทิมในการปรุง แต่ถ้าใครไม่สะดวกก็สามารถใช้ปลาอื่นแทนได้เลย 

วัตถุดิบและเครื่องปรุง

  1. ปลาทับทิม 1 ชิ้น (50 กรัม)
  2. ต้นหอมซอย
  3. ขึ้นฉ่ายซอย
  4. เห็ดหอมหั่น 
  5. พริกจินดาแดงหั่น 5 เม็ด
  6. ขิงซอย 50 กรัม
  7. ซอสปรุงรสฝาเขียว 1 ช้อนโต๊ะ
  8. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  10. น้ำมันงา 1 ช้อนชา
  11. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  12. ผงปรุงรสหมู/ไก่ 1 ช้อนชา
  13. น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ 

วิธีทำ

  1. ขั้นตอนแรกนำปลาทับทิมมาทำความสะอาดเพื่อลดกลิ่นคาว โดยใช้เกลือถูให้ทั่วตัวปลา และล้างน้ำให้สะอาด เสร็จแล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
  2. เตรียมทำน้ำซอส โดยใส่น้ำมันหอยลงไปในถ้วยผสม ตามด้วยซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรสฝาเขียว น้ำตาลทราย ผงปรุงรสหมูหรือไก่ น้ำมันงาและน้ำเปล่า จากนั้นคนให้เข้ากัน
  3. ขั้นตอนการนึ่งปลา เทขิงซอยลงบนจานแล้วนำปลามาวางทับไว้ จากนั้นนำไปนึ่งประมาณ 10 นาที เมื่อครบ 10 นาทีแล้วให้เปิดฝา เทน้ำคาวปลาที่อยู่ในจานออก นำปลาลงไปนึ่งอีกครั้ง เทน้ำซอสที่เตรียมไว้ลงบนเนื้อด้วย
  4. เตรียมผักที่จะใช้ราดหน้าปลา ตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมัน รอให้น้ำมันร้อนจัดแล้วใส่ต้นหอมซอย ขึ้นฉ่ายซอย เห็ดหอมหั่น และพริกจินดาแดงหั่น ผัดให้พอสุกแล้วนำไปราดบนปลานึ่งได้เลย 

บทสรุป

อาหารจีน

หากใครอยากลิ้มรสชาติ อาหาร จีน แบบขนานแท้ ต้นตำรับดั้งเดิม แต่ไม่สามารถเดินทางไปที่ประเทศจีนได้ และอยากจะลงมือ ทำอาหาร ทานเอง เรามีเคล็ดลับสำหรับการปรุง อาหารจีน ให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับ คือต้องเลือกวัตถุดิบที่นำเข้าจากประเทศจีนโดยเฉพาะ อาจไปหาซื้อได้ตามเยาวราชหรือแหล่งอื่น ๆ ที่มีสินค้าจีน แต่อย่างไรก็ตามเพราะเป็น อาหารต่างประเทศ จึงต้องศึกษา วิธีทำอาหารจีน ให้ละเอียดด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารนานาชาติ

เผยสูตร เบอร์เกอร์ เมนูยอดฮิต สไตล์โฮมเมค ทำเองได้ไม่ยาก

เบอร์เกอร์

เบอร์เกอร์ เป็นอาหารที่มีรายงานว่ามีถิ่นกำเนิดอยู่ประเทศเยอรมันนี ต่อมามีการแพร่หลายมาในประเทศอเมริกา ดังนั้นจึงเป็นอาหารสไตล์อเมริกัน ซึ่งจัดอยู่ในอาหารประเภทแซนด์วิช โดยส่วนประกอบมีเพียง เนื้อสัตว์ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อวัว เนื้อหมู หรือเนื้อปลา นำมาปรุงให้มีรสชาติกลมกล่อม ตามด้วยผักกาดหอม หอมหัวใหญ่ เพิ่มความอร่อยด้วยแผ่นชีส พร้อมขนมปังก้อนกลมประกบบนล่างนั้นเอง 

เบอร์เกอร์

เบอร์เกอร์ เป็นเมนูอาหารฝรั่งยอดฮิตที่นิยมทานกันมากที่สุด เพราะเป็นอาหารจานด่วนที่มีรสชาติเปรี้ยวของซอสมะเขือเทศตัดกับเนื้อนุ่มๆ อร่อยกลมกล่อมสุดๆ สามารถทานได้ทุกวัน แถมยังเป็นอาหารที่มีความสะดวกรวดเร็วอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นเมนูที่สามารถหาทานในร้านอาหารนานาชาติทั่วไป และมีขายตามร้านอาหารทั่วไป ดังนั้นจึงเมนูที่หาทานได้ง่าย แต่สำหรับใครที่อยากทำเมนูสไตล์อเมริกันดูสักครั้ง แต่ไม่รู้จะทำสูตรไหนดี ขอแนะนำสูตร เบอร์เกอร์ เนื้อนุ่ม รสชาติกลมกล่อม มาให้ได้ลองทำ ว่าแล้วไปดูกันเลย

วิธีทำ เบอร์เกอร์ เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ รสชาติกลมกล่อม อร่อยจัดเต็ม ฟินทุกคำ

เบอร์เกอร์

เบอร์เกอร์หนึ่งในอาหารสไตล์อเมริกันที่มีรสชาติอร่อยถูกปากทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือ ผู้ใหญ่สามารถทานเมนูเบอร์ เกอร์ ได้ทุกคน อีกทั้งยังเป็นเมนูที่ขายดีเป็นอันดับต้นๆ ของอาหารอเมริกันเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละร้านก็จะมีสูตรลับเฉพาะการหมักเนื้อที่แตกต่างกันไป จึงทำให้รสชาติของเนื้อมีความแตกต่างกันไปด้วย ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมาดู วิธีทําเบอร์เกอร์ ง่ายๆ อร่อยเหมือนทานที่ร้านอาหารระดับห้าดาวเลยทีเดียว และที่สำคัญ เบอร์เกอร์โฮมเมดที่ได้จะมีความหอมรสชาติกลมกล่อม สำหรับสูตรเบอร์เกอร์ที่จะนำมาแชร์จะเป็นหมูนุ่มฉ่ำๆ อร่อยสุดๆ 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

เบอร์เกอร์
  1. เนื้อหมูบดเกรดพรีเมียม 500 กรัม
  2. เนยเค็ม 10 กรัม
  3. หอมหัวใหญ่สับละเอียด 20 กรัม
  4. ซอสมะเขือเทศ 4 ช้อนโต๊ะ
  5. ผงโอริกาโน่ 1 ซ้อนชา
  6. ซอมหอยนางรม 1 ซ้อนโต๊ะ
  7. น้ำตาลทราย 1 ซ้อนโต๊ะ
  8. พริกไทย 1 ซ้อนชา
  9. ไข่แดง 1 ฟอง
  10. ขนมปังเบอร์เกอร์ 1 ก้อน
  11. มะเขือเทศหั่นเป็นแว่นๆ 1 ลูก
  12. หัวหอมหั่นเป็นแว่นๆ 1 หัว
  13. ผักสลัดใส่ได้ตามใจชอบ
  14. มายองเนสตามใจชอบ
  15. ชีสแผ่นใส่ตามใจชอบ

สำหรับวัตถุดิบในการทำเบอร์เกอร์ สามารถใช้ซอสมะเขือเทศแทนซอสมายองเนสได้ตามใจชอบ รวมถึงผักต่างๆ สามารถใส่ได้ตามใจชอบได้เลย และในลำดับต่อมาเราจะมาทำเบอร์เกอร์ทำเองง่ายๆ ขั้นตอนไม่ซับซ้อนว่าแล้วไปลงมือทำกันเลย

เบอร์เกอร์
  1. มาเริ่มที่ขั้นตอนแรก เตรียมหัวหอมใหญ่ที่สับละเอียดดีแล้วนำไปผัดกับเนยเค็มให้มีกลิ่นหอม และหลังจากนั้นใส่ซอสมะเขือเทศ กับผงโอริกาโน่ลงไป จากนั้นผัดต่อไปให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
  2. หลังจากที่ทำการผัดหัวหอมเสร็จแล้ว นำไปพักไว้ให้เย็น จากนั้นใส่หมูบด น้ำตาล ซอสหอยนางรม พริกไทย และไข่แดง คลุกเคล้าให้ส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน พักไว้ประมาณ 20 นาที เพื่อให้เครื่องปรุงซึมเข้าเนื้อหมูบด จากนั้นนำมาปั้นเป็นก้อน 
  3. นำหมูที่ปั้นเป็นก้อนแล้ว มาทำให้สุก โดยการนำกระทะตั้งไฟอ่อนๆ จากนั้นนำหมูวางลงไปรอให้สุก และตามด้วยขนมปังเบอร์เกอร์ที่ทำการทาเนยแล้วเรียบร้อยจี่ในกระทะให้หน้าขนมปังมีสีเหลืองสวยงาม และหลังจากที่รอหมูสุกใส่หอมหัวใหญ่ที่หั่นเป็นแว่นๆ จี่ให้สุก
  4. หลังจากหมูสุกเรียบร้อยแล้วให้นำหมูมาประกบกับเบอร์เกอร์ และใส่หอมหัวใหญ่ที่จี่ไว้ ทาซอสมายองเนส ใส่ผักสลัด มะเขือเทศแว่น ประกบด้วยขนมปังที่จี่ไว้ เสร็จพร้อมเสิร์ฟ

จบไปแล้วกับวิธีทำเบอร์เกอร์ตามสไตล์โฮเมคตามสูตรดั้งเดิม ต้องบอกเลยว่ารสชาติของแฮมเบอร์เกอร์ที่ทำเองอร่อยไม่แพ้ที่ขายในร้านระดับห้าดาวแน่นอน อีกทั้งวัตถุดิบนั้นหาซื้อได้ง่ายมาก แถมขั้นตอนการทำนั้นง่ายมากๆ หากชอบทานเมนูอาหาร อเมริกันเป็นชีวิตจิตใจ แนะนำเมนูอาหารเบอร์เกอร์แฮมสูตรดั้งนี้ได้ไม่ผิดหวัง 

วิธีทำเมนูอาหารอเมริกัน ง่ายๆ เบอร์เกอร์แฮมเนื้อนุ่มนิ่ม มือใหม่ก็ทำได้

เบอร์เกอร์

อีกหนึ่งสูตรเบอร์เกอร์ที่อยากแนะนำ นั่นคือ ดับเบิ้ลชีสเบอร์เกอร์ เป็นเมนูอาหารอเมริกันที่มีหอมกลิ่นชีส และเนื้อวัวรสชาติกลมกล่อมสุดๆ สำหรับขั้นตอนในการทำเพียงใช้เนื้อวัวบดปั้นเป็นก้อนกลมๆ จากนั้นนำไปย่างให้สุก ในระหว่างรอเนื้อให้นำหอมหัวใหญ่มาผัดใส่เนย พริกไทย เกลือ น้ำส้มสายชูบัลซามิก ผัดส่วนผสมให้สุก พักไว้ นำขนมปังทาเนยย่างให้หอม เสร็จแล้วนำเนื้อที่ย่างสุกแล้ววางบนขนมปังใส่มะเขือเทศ ชีส และหอมหัวใหญ่ และผักสลัด จากนั้นนำขนมปังอีกชิ้นประกบ เพียงแค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เบอร์เกอร์

การทำเบอร์เกอร์ให้อร่อย และรสชาติกลมกล่อม ในขั้นตอนการปรุงเนื้อควรหมักไว้ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นนำมาย่างในกระทะ ในระหว่างที่ย่างให้ใส่น้ำชุปเนื้อใส่ลงไปในกระทะเล็กน้อย เพื่อให้เนื้อนุ่มนิ่ม ไม่แห้งเกินไป และรสชาติที่กลมกล่อมหอมละมุน อร่อยอย่างลงตัว สำหรับชิสเบอร์เกอร์ เป็นเมนูอาหารอเมริกันที่นิยมทานมากในช่วงเช้า เพราะเป็นเมนูง่ายๆ สไตล์โฮมเมคที่ทำได้ไม่ยาก และขั้นตอนไม่ซับซ้อนสามารถทำได้ด้วยตัวเอง และถ้าอยากลองทำขายก็สามารถสร้างกำไรได้ดีเลยทีเดียว

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารนานาชาติ

ชวนทำเมนูยอดฮิต ขนมปังอิตาเลี่ยน Focaccia อาหารว่าง ทานได้ทุกวัน

Focaccia

หากพูดถึงเมนูอาหารว่าง หรืออาหารยามเช้าเชื่อว่าเมนูขนมปังต้องติดอยู่ในอันดับต้นๆ ในเมนูยอดนิยมอย่างแน่นอน และอีกเมนูที่หลายคนชอบทานคือ Focaccia เป็นขนมปังสไตล์อิตาเลี่ยนที่มีความโดดเด่นด้วยกลิ่นสมุนไพร และน้ำมันมะกอกอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งขนมปังยังมีเนื้อแน่นผสมสานกับรสชาติเค็มเล็กน้อย และที่สำคัญคือ ท็อปปิ้งแบบพิซซ่ายิ่งทำให้เพิ่มรสชาติขนมปังมีความอร่อย และฟินสุดๆ

Focaccia

ชาวอิตาเลี่ยนไม่ควรพลาด เพราะวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำFocaccia ขนมปังสไตล์พิซซ่า เนื้อนุ่มหนึบหนับ ไม่แข็ง สำหรับขนมปังสไตล์อิตาเลี่ยนจะมีคล้ายคลึงกับแป้งพิซซ่าที่เราทานกัน แต่เนื้อขนมปังด้านในจะมีความนุ่มกว่า ส่วนหน้าของขนมปังสามารถตกแต่งได้ตามใจชอบ แต่ยังคงกลิ่นสมุนไพรอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวนั่นเอง สำหรับวิธีทำFocacciaที่นำแชร์จะเป็บแบบโฮมเมคง่ายๆ ทำได้สบายมาก ที่สำคัญรสชาติอร่อยตามฉบับบสูตรดั้งเดิมไม่ผิดเพี้ยนแน่นอน

ขั้นตอนการทำ Focaccia ขนมยอดฮิตของชาวอิตาเลี่ยน สไตล์โฮมเมค ทำง่ายมาก 

Focaccia

สำหรับใครที่อยากทำเมนูอาหารสไตล์อิตาเลี่ยน แต่ไม่รู้จะทำเมนูไหนดี ขอแนะนำ Focacciaขนมปังจากอิตาลี เนื้อนุ่มหนึบหนับ หอมกลิ่นสมุนไพรชั้นเลิศความโดดเด่นไม่เหมือนใคร อีกทั้งอยังเป็นขนมปังที่สามารถทานได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ แต่ก่อนที่เราจะเข้าสู่กระบวนทำขนมปัง เราต้องมาทำความรู้จัก focaccia คือ เมนูขนมปังสไตล์อิตาเลี่ยนจากอิตาลี มีลักษณะแบนคล้ายแป้งพิซซ่า แต่สามารถทานแค่ขนมปังก็อร่อย หรือจะทานกับซอสต่างๆ อร่อยสุดๆ ไปเลย หรือจะแต่งหน้า focaccia คล้ายพิซซ่าก็อร่อยแปลกใหม่ ส่วนวิธีการทำฟอคคาเซีย หรือ ขนมปังอิตาลีมีรายละเอียดดังนี้ 

วัตถุดิบ และส่วนผสมของขนมปัง

  1. แป้งอเนกประสงค์ 300 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
  3. ยีสต์ 1 ช้อนชา
  4. น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
  5. น้ำมันมะกอก 20 กรัม
  6. เกลือป่น ½ ช้อนชา
Focaccia

วัตถุดิบ และส่วนผสมของหน้าขนมปัง

  1. ใบโรสแมรี่ 2 ก้าน
  2. มะกอกดำหั่นแว่น 3-5 ลูก
  3. มะเขือเทศหั่นเป็นแว่น 4-5 ลูก
  4. อิตาเลียนเอิร์บ 1 ช้อนโต๊ะ

สำหรับส่วนผสม และวัตถุดิบในการทำFocaccia ถ้าใครอยากแต่งหน้าขนมปังให้อร่อยแบบจัดเต็มสามารถนำวัตถุดิบชนิดอื่นมาแต่งหน้าได้ และในส่วนของขั้นตอนการทำอาหารอิตาลี อย่างขนมปังสามารถทำตามเราได้ดังนี้

Focaccia
  1. มาเริ่มกันที่ขั้นตอนแรก โดยการนำแป้งอเนกประสงค์ น้ำตาลทราย ยีสต์ และเกลือมาใส่ในภาชะที่เตรียมไว้ จากนั้นผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เมื่อส่วนผสมทั้งหมดเป็นเนื้อเดียวกันแล้วให้ใส่น้ำมันมะกอกลงไป ใช้มือนวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน 
  2. เมื่อนวดเสร็จแล้ว ให้นำมาปั้นเป็นทรงกลม จากนั้นพักไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง จะได้แป้งที่ฟูขึ้นอีกเท่าตัว ในระหว่างที่รอให้แป้งฟู ให้เตรียมถาดสำหรับอบขนม โดยใช้น้ำมันมะกอกที่เตรียมไว้ทาให้ทั่วถาด นำแป้งที่พักไว้มาวางไว้บนถาด จากนั้นกดแป้งให้เป็นทรงแบน และกลม 
  3. นำน้ำมันมะกอกมาทาบนหน้าขนมปัง เพื่อเพิ่มความหอมของขนมปัง และยังทำให้สีขนมมีสีเหลืองน่ารับประทาน จากนั้นตามด้วยโรสแมรี่แห้ง และเกลือให้ทั่วหน้าขนมปังอีกครั้ง พักแป้งขนมปังอักรอบประมาณ 20-30 นาที
  4. เมื่อครบกำหนดเวลาพักแป้งขนมปังแล้ว ตกแต่งหน้าด้วยมะเขือเทศหั่นเป็นแว่นๆ มะกอกดำหั่นแว่น และอิตาเลียนเอิร์บ อิตาเลียนเอิร์บ ตามด้วยใบโรสแมรี่ หลังจากนั้นให้นำถาดขนมปังเข้าเครื่องอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส เป็นเวลาประมาณ 20 นาที เสร็จแล้วเสิร์ฟ
Focaccia

ขนมปังFocacciaเป็นหนึ่งในเมนูอาหารอิตาลีที่มีส่วนผสมน้อย แต่รสชาติเค็มหน่อยๆ และเปรี้ยวเล็กน้อย อีกทั้งยังมีความหอมของน้ำมันมะกอกอ่อนๆ ทำให้เมื่อทานเข้าไปมีความฟินสุดๆ ที่สำคัญใช้เวลาในการทำขนมปังเพียงน้อยนิด รับรองว่าถ้ามีเวลาน้อยก็สามารถทำขนมปังชนิดนี้ได้แน่นอน ที่สำคัญขนมปังที่อบเสร็จใหม่จะมีความหอมน่าทานสุดๆ 

เผยวิธีขนมปังอาหารอิตาลี ง่ายๆ ฉบับคนมีเวลาน้อย

Focaccia

มาเอาใจสายไม่ค่อยมีเวลาทำอาหารกันบ้าง วิธีการทำFocaccia ขนมปังที่เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมอาหารอิตาลีที่รู้จักมาอย่างยาวนาน ให้อร่อยแบบดั้งเดิม โดยใช้สูตรที่เรานำแชร์ไว้ข้างต้น ซึ่งในขั้นตอนหลังจากนวดแป้งเสร็จแล้ว นำแป้งไปพักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นนำมานวดอีกครั้ง และแบ่งแป้งเป็นก้อนๆ นำไปพักไว้อีกครั้งประมาณ 20 นาที เสร็จแล้วนำถาดอบขนมมาทาด้วยน้ำมันมะกอก วางขนมปังลงไป จากนั้นทำเป็นแบนๆ นำเข้าอบที่อุณภูมิ 220 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที เพียงเท่านี้ก็เป็นเสร็จเรียบร้อย 

Focaccia

Focacciaเป็นเมนูอาหารอิตาเลี่ยนที่ไม่ต้องใส่ท็อปปิ้งก็จะอร่อยสุดๆ สามารถทานได้ทุกวันไม่มีเบื่อ และยังหาทานได้ตามร้านอาหารอิตาเลี่ยนทั่วไปอีกด้วย สำหรับขนมปังเป็นอาหารอิตาเลี่ยนแท้ๆ มีราคาค่อนข้างแพง แต่อร่อย และคุ้มค่าสุดๆ สำหรับใครที่อยากลองทำขนมปังสไตล์อิตาเลี่ยนนี้ดูก็สามารถทำตามสูตรที่นำมาแชร์ได้เลย ที่สำคัญขนมปังยังเป็นเมนูอาหารอิตาลี ทำเองได้ง่ายๆ ได้ที่บ้าน มือใหม่ก็ทำตามได้ ส่วนเรื่องรสชาติอร่อยตรงตามสูตรแบบดั้งเดิม และถ้าใครอยากเพิ่มความอร่อยสามารถใส่ท็อปปิ้งต่างๆ ได้ตามใจชอบอีกด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารนานาชาติ

สูตร สปาเก็ตตี้ คาโบนาร่า รสชาติไม่เลี่ยน อร่อยกลมกล่อม ทำเอง ง่ายนิดเดียว

สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า

สปาเก็ตตี้ คาโบนาร่า ถือว่าเป็นอาหารพาสตาชนิดหนึ่ง ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี ซึ่งรสชาติของเมนูอาหารอย่างสปาเก็ตตี้ซอสคาโบนาร่าสูตรโบราณจะมีความเข้มข้น อร่อยกลมกล่อม และยังเป็นเมนูยอดนิยมในช่วงสงครามโลกอีกด้วย และต่อมาได้รับการเผยแพร่เมนูสปาเก็ตตี้ครีมซอสคาโบนาร่าไปทั่วโลกเรียกได้ว่าเมนูอาหารอิตาเลี่ยนชนิดนี้ได้รับความนิยมตั้งอดีตจนถึงปัจจุบันเลยทีเดียว

สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า

สปาเก็ตตี้ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่หลายคนชอบทาน และอยากลองทำเองที่บ้าน แต่ไม่รู้จะทำสูตรไหนดี ขอแนะนำ สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า สูตรอิตาเลี่ยนแท้ๆ รสชาติกลมกล่อม หอมชีสเข้มข้น อร่อยเหมือนทานที่ร้านเลยทีเดียว และข้อดีของการทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าด้วยตัวเอง คือ ประหยัดเวลาในการเดินทางไปนั่งทานที่ร้าน และ ยังได้ทานอาหารอร่อยๆ กับครอบครัวในวันหยุดสุดสัปดาห์อีกด้วย 

ขั้นตอนการทำ สปาเก็ตตี้คา โบนาร่า อย่าง่าย มือใหม่ทำได้แน่นอน 

สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า

มีหลายคนชอบทานอาหารอิตาเลี่ยนอย่างมาก เพราะรสชาติมีกลมกล่อม ทานง่าย และยังสามารถทานได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ เรียกได้ว่า เป็นอาหารที่สามารถทานได้ทั้งครอบครัวเลยทีเดียว โดยเฉพาะเมนูสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าซอสเข้มข้น หอมกลิ่นชีสเข้มข้นสุดๆ สำหรับใครที่ไม่ชอบทานสปาเก็ตตี้ซอสครีมคาโบนาร่า วันนี้เรามีสูตรสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ไม่ใส่ครีม ไม่เลี่ยน รสชาติ มัน เค็มเล็กน้อย อร่อยอย่างลงตัว โดยสูตรที่เราจะพาทำเป็นสูตรใส่นมแทนวิปครีม ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะได้รสชาติไม่เหมือนที่ใส่วิปครีม เพราะเรามีเคล็ดลับในการทำเมนูนี้ให้ออกมาเหมือนซื้อทานที่ร้านระดับพรีเมียม ว่าแล้วไปดูกันเลย

สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

  1. เส้นสปาเก็ตตี้ 200 กรัม
  2. แฮม หรือเบคอน 200 กรัม
  3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  4. นมสด 150 กรัม
  5. หอมหัวใหญ่สับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
  6. แป้งมัน 1 ช้อนชา
  7. เกลือ ½ ช้อนชา
  8. น้ำมันมะกอก ½ ช้อนชา
  9. พริกไทย ½ ช้อนชา
  10. ออริกาโน่ 1 ช้อนชา

สปาเก็ตตี้ คาโบ นาร่า เมนูยอดฮิตอร่อยไม่มีเบื่อ สำหรับการทำเมนูสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า วัตถุดิบ และส่วนผสมที่แชร์ข้างต้น เป็น สูตรสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าไม่ใส่วิปครีม เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบวิปครีม แต่อยากทานสปาเก็ตตี้ และวัตถุดิบทุกอย่างที่ใช้ทำสปาเก็ตตี้สามารถเก็บไว้ทำอาหารในรอบต่อไปได้อีกด้วย เรียกได้ว่าอยากทานวันไหนก็สามารถทำได้เลย โดยไม่ต้องหาซื้อวัตถุดิบให้เสียเวลา สำหรับวิธีทำสปาเก็ตตี้ซอสคาโบนาร่าสามารถทำตามได้ง่ายๆ 

สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า
  1. เตรียมหม้อใส่น้ำสะอาด ตั้งไฟปานกลางรอให้น้ำเดือดใส่น้ำมันมะกอก และเกลือเล็กน้อย ตามด้วยเส้นสปาเก็ตตี้ เมื่อเส้นจมน้ำต้มต่อไปอีกประมาณ 5 นาที หลังจากนั้นตักเส้นแช่ในน้ำเย็นประมาณ 2-3 นาที เพื่อให้ลดอุณหภูมิไม่ให้เส้นเละเกินไป จากนั้นตักขึ้นมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ 
  2. ต่อมาทำการตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมันมะกอกลงไป ตามด้วยหอมหัวใหญ่สับละเอียดเจียวจนกว่าจะมีกลิ่นหอม ใส่แฮม หรือเบคอนลงไปผัดให้กรอบ และเข้ากันดี เมื่อส่วนผสมทั้งหมดมีกลิ่นหอม ใส่นมข้นจืด พริกไทย และเกลือลงไป คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน รอให้นมเดือด ใส่ออริกาโน่ เส้นสปาเก็ตตี้ที่เตรียมไว้ คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน และตามด้วยส่วนผสมสุดท้ายนั่นก็คือ ไข่แดง คนไข่แดงเร็วๆ เพื่อให้ไข่ติดเส้นสปาเก็ตตี้จนเป็นเนื้อเดียวกัน 
สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า

หลังจากที่ทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าไม่ใส่วิปครีม เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำการจัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลย สำหรับมือใหม่ฝึกทําสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ง่ายๆ ด้วยตัวเองสามารถทำตามสูตรที่แชร์ข้างต้นได้เลย รับรองว่ารสชาติอร่อยกลมกล่อมละมุนละไมสุดๆ แน่นอน อีกทั้งการทำอาหารทานเองยังสามารถปรุงรสชาติได้ตามใจชอบอีกด้วย แถมยังใส่วัถตุดิบได้แบบไม่อั้นแบบจัดหนักจัดเต็ม เรียกได้ว่านอกจากรสชาติอร่อยแล้วอิ่มท้องสุดๆ 

แชร์สูตรยอดฮิต สปาเก็ตตี้ คาโบนาร่า ทำขาย สร้างกำไร สร้างรายได้ 

สปาเก็ตตี้คาโบนาร่าเป็นเมนูอาหารอิตาเลี่ยนที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ และยังเป็นเมนูที่หาทานได้ง่ายตามร้านอาหารอิตาเลี่ยนทั่วไป สำหรับใครที่อยสกลองทำคาโบนาร่า สูตรดั้งเดิมไว้ขายสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง วันนี้เรามีสูตรสปาเก็ตตี้ซอสครีมคาโบนาร่าชีสเข้มข้นมาให้ได้ติดตาม สำหรับส่วนผสม และวัตถุจะเหมือนกับสูตรสปาเก็ตตี้ซอสคาโบนาร่าไม่ใส่วิครีม โดยเราจะใส่พาเมซานชีส 50 กรัม แทนนมสด ซึ่งขั้นตอนต่างสามารถทำตามที่เราแชร์ข้างต้นได้เลย หลังจากที่ทำเสร็จแล้วก็จะได้สปาเก็ตตี้ครีมซอสคาโบนาร่าที่เข้มข้น รสชาติ หวาน มัน เค็ม ตามสูตรโบราณ จากอิตาลี 

สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า

เกร็ดความรู้ในการทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าให้อร่อย เริ่มจากขั้นตอนการต้มเส้นควรเช็คเส้นด้วยว่าสุกดีหรือยัง โดยการหักเส้น และดูด้านในของเส้น หากมีสีเหลืองเนียนแสดงว่าเส้นสุกเรียบร้อย ส่วนขั้นตอนใส่ไข่แดง ควรคนเร็วๆ และปิดไฟ เพื่อไม่ให้ไข่แดงสุกเกินไป เพียงแค่นี้ก็จะได้เมนูสปาเก็ตตี้ครีมซอสคาโบนาร่าสุดแสนอร่อยทานได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารนานาชาติ

สูตรพิเศษสุดคลาสสิก พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน แป้งบาง กรอบ อร่อยฟินทุกคำ

พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน

อีกหนึ่งเมนูอาหารจากอิตาลียอดนิยมตลอดกาลนั่นก็คือ พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนเมนูนี้ยังคงเป็นอาหารที่ทุกคนชอบกันมากที่สุด ซึ่งเป็นเมนูที่สามารถทานได้ทุกวัย และยังถือว่าเป็นเมนูสุดโปรดของเด็กๆ อีกด้วย สำหรับเมนูนี้ชาวอิตาลีนิยมทำทานในครอบครัว หรืองานสังสรรค์ต่างๆ อีกทั้งยังนิยมทานเป็นอาหารว่างอีกด้วย

พิซซ่าอิตาเลี่ยน ของชาวอิตาลีจะมีแป้งที่กลมไม่มีความนุ่ม และมีขนาดกลม ตกแต่งหน้าด้วยซอสมะเขือเทศ หรือซอสชนิดต่างๆ ตามใจชอบ สำหรับ พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน จะอบด้วยเตาไม้ทำให้พิซซ่ามีความหอม และกรอบอร่อยโรยหน้าด้วยชีสชั้นดี ซึ่งชีสที่ดีที่สุดคือ ชีสนมควาย ซึ่งถือว่าเป็นส่วนผสมหลักที่ทำหิพิซซ่ามีความโดดเด่นเป็นเอกลักณ์เฉพาะตัวที่มีกลิ่น และรสชาติมีความพิเศษสุดๆ และแนนอนว่าวันนี้เราจะมาแชร์สูตรทำพิซซ่าสไตล์อิตาลีให้ทุกคนได้ทำตามรับรองว่าทำได้ และอร่อยสุดๆ 

เปิดขั้นตอน พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน สไตล์โฮมเมค เมนูสุดฮิตตลอดกาล แป้งบาง มือใหม่ก็ทำได้

พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน

พิซซ่า อิ ตา เลี่ยนเป็นเมนูที่หลายคนชอบทานกันเป็นประจำ เพราะพิซซ่าทานแล้วรู้สึกอิ่มนาน และเป็นอาหารจานด่วนที่เหมาะสำหรับคนไม่มีเวลาทำอาหารทานเองอีกด้วย สำหรับรสชาติของพิซซ่าอิตาเลี่ยนแท้ ชนิดนี้มักจะตกหน้าด้วยซอส และชีสเป็นหลัก จึงทำให้เมื่อทานแล้วจะได้รสชาติความเปรี้ยว และกลิ่นหอมชีสที่อร่อยอย่างลงตัวสุดๆ และที่สำคัญพิซซ่าสไตล์อิตาลียังมีวิธีการทำที่แสนง่าย มือใหม่ฝึกทำpizzaได้สบายมาก ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำเมนู พิซซ่า อิตาเลี่ยน สูตรแป้งบาง กรอบ สไตล์โฮมเมค ว่าแล้วไปลงทำพิซซ่าอิตาลีแท้กันเลย

วัตถุดิบ และส่วนผสมแป้งที่ต้องเตรียม

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 500 กรัม
  2. ยีสต์แห้ง 1 ½ ช้อนชา
  3. น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
  4. เกลือ 1 ช้อนชา
  5. น้ำมันมะกอก 2-3 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำอุ่น 1 ถ้วย
พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน

วัตถุดิบ และส่วนผสมของซอสมะเขือเทศ

  1. หอมหัวใหญ่สับละเอียด 2 ซ้อนโต๊ะ
  2. มะเขือเทศสุก 5 ลูก
  3. เกลือป่น ½ ช้อนชา
  4. น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำเปล่า 1 แก้ว
  6. ชีสมอชชาเรลล่า (แต่งหน้าพิซซ่า)
  7. ใบออริกาโน (เพิ่มความหอม)

หลังจากที่เตรียมวัตถุดิบ และส่วนผสมของพิซซ่า อิ ตา เลี่ยน เสร็จแล้ว ในขั้นตอนต่อมาจะเป็นวิธีทำอาหารอิตาลีอย่างพิซซ่าโฮเมคแป้งบางกรอบอร่อยเหมือนทานที่ร้านเลยทีเดียว ว่าแต่ขั้นตอนมีอะไรบ้างมีดูกันเลย

พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน
  1. มาเริ่มที่ขั้นตอนแรกกันเลย นำแป้งสาลีอเนกประสงค์เทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นทำแป้งให้เป็นหลุมตรงกลาง จากนั้นใส่น้ำตาล ยีสต์ ลงไปในหลุมอแป้ง คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เมื่อส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีแล้วค่อยๆ เติมน้ำมันมะกอกลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำอุ่นที่เตรียมไว้นวดส่วนผสมให้เข้ากัน
  2. เติมเกลือที่เตรียมไว้ลงไป จากนั้นค่อยๆ นวดแป้งจนแป้งเป็นเนื้อเนียน ทำการปั้นแป้งเป็นก้อนกลมๆ ใส่ไว้ในชาม จากนั้นใช้พลาสติกแรป หรือผ้าชุบน้ำแล้วบิดให้หมาดคลุมไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งในระหว่างที่พักแป้งไว้ยีสต์จะทำงานทำให้แป้งมีความนุ่มนิ่มมากขึ้น
  3. เมื่อครบกำหนดการพักแป้งพักแล้ว แป้งที่ได้จะมีความฟูมากขึ้น หลังจากนั้นนำแป้งมาแบ่ง และใช้มือนวดแป้งโดยก่อนนวดให้โรยแป้งลงไปก่อน เพื่อป้องกันไม่แป้งติดมือ หลังจากนั้นทำการนวดแป้งให้เป็นก้อนกลมๆ นำไปวางบนแผ่นไม้ ซึ่งแป้งแต่ละก้อนควรวางให้ห่างกัน ไม่เช่นเวลาแป้งขยายตัวจะทำให้แป้งติดับก้อนอื่นได้
  4. จากนั้นทำการพักแป้งต่อไป โดยการใช้ผ้าคลุมแป้งไว้เป็นเวลา 1 ชั่วโมง หรือถ้าจะให้ดีควรพักแป้งไว้ 3- 5 ชั่วโมง ทำให้แป้งนุ่มนิ่มมากขึ้น
  5. หลังจากนั้นนำแป้งที่พักไว้มาทำการรีดให้เป็นแผ่นบางๆ และทำการตกแต่งหน้าแป้งพิซซ่าได้ตามใจชอบ โดยการโรยชีสมอชชาเรลล่า และ เสร็จแล้วนำไปอบที่อุณหภูมิ 220 องศาเซลเซียส เปิดไฟบน-ล่าง เป็นเวลา 20 นาที เพียงแค่นี้ก็จะได้พิซซ่าสไตล์อิตาเลียน พร้อมเสิร์ฟ

หลังจากที่ทำ พิซซ่าอิตาเลี่ยน เสร็จเรียบร้อยแล้ว นำมาตัดเป็นชิ้นตามใจชอบ และราดด้วยซอสมะเขือเทศ และโรยใบออริกาโนจะทำให้รสชาติมีความเปรี้ยวตัดกับความเลี่ยนของพิซซ่าได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่า เมนูอาหารอิตาลียอดนิยมที่สามารถทำเองได้ง่ายๆ แถมยังทานกับอะไรก็อร่อยอีกด้วย

เพิ่มความอร่อยของพิซซ่าอาหารอิตาลี ง่ายๆ ด้วยตัวเอง

สำหรับพิซซ่า อิตาเลี่ยน เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความใส่ในการทำ เพราะวัฒนธรรมอาหารอิตาลีที่แท้จริงจะมีความใส่ใจการปรุง และละเมียดละไมในการทำอาหารให้ออกมาอร่อยที่สุดตามสไตล์อาหารอิตาเลี่ยนแท้ๆ ทำให้อาหารมีเหน่ห์มากขึ้น

พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน

ดังนั้นในขั้นตอนการนวดแป้งพิซซ่า อิ ตา เลี่ยน จะค่อนข้างเวลานวดค่อนข้างนาน และถ้าต้องการให้แป้งมีความนุ่มฟูมากขึ้นควรพักไว้นานๆ ประมาณ 3 ชั่วโมงขึ้นไป และอีกหนึ่งความอร่อยคือ การตกแต่งหน้าพิซซ่าด้วยอาหารทะเลไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย หมึก แบบจัดหนักจัดเต็มเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นอาหารอิตาลี ทำเองที่อร่อยและฟินสุดๆ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารนานาชาติ

เผยเคล็ดลับ วิธีทำ โจ๊ก ไก่ สูตรโบราณ อร่อยกลมกล่อม ส่งตรงจากแดนมังกร 

โจ๊ก ไก่ หนึ่งในอาหารยอดนิยมรับประทานเป็นอาหารมื้อหลักมากที่สุดในแถบเอเชีย และในประเทศจีน โดยอาหารประเภทโจ๊กสามารถทานได้ทุกวัน และทุกเทศกาล แต่ในเทศกาลตรุษจีจะมีข้อห้ามในการกินเมนูโจ๊ก เพราะคนจีนมีความเชื่อว่าการกินอาหารประเภทเมนูโจ๊กจะไปขัดขวางความร่ำรวย เนื่องจากในสมัยก่อนคนจนนิยมรับประทานอาหารชนิดนี้มากๆ นั่นเอง 

โจ๊ก ไก่

เมนูอาหารเช้าที่ทุกคนพูดถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้นคือ โจ๊กไก่ เป็นอาหารรสชาติที่มีกลมกล่อมที่ทานง่าย และย่อยง่าย จึงทำให้หลายคนนิยมทำทานในยามเช้า โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กนักเรียนต้องไปโรงเรียน ต้องบอกเลยว่าเมนูโจ๊กคืออาหารหลักในตอนเช้าเลยก็ว่าได้ และที่สำคัญโจ๊กถือว่าเป็นอาหารที่มีวิธีทำได้ง่ายมากๆ แถมยังประหยัดเวลาอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นการทานอาหารประเภทโจ๊กยังทำให้อิ่มท้องนาน เพราะส่วนผสมหลักเป็นแป้งในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตนั่นเอง สำหรับใครที่ชอบรับประทานเมนูโจ๊ก วันนี้เรามีสูตรการทำโจ๊ก ไก่ สูตรน้ำซุปเข้มข้นดั้งในสมัยโบราณมาให้ได้ทำตาม

เปิดสูตรทำ โจ๊ก ไก่ น้ำซุปรสชาติกลมกล่อม ข้าวนุ่ม หอม อร่อย 

โจ๊ก ไก่

วันนี้เราพาจะทุกคนมาทำเมนูเบาๆ ง่ายๆ ทานได้ทั้งวัน นั่นก็คือโจ๊ก ไก่ หนึ่งในเมนูโจ๊กที่มีรสชาติอร่อย ถูกปากคนทุกวัย สำหรับเมนูอาหารที่นำมาแชร์เป็นสูตรที่คัดมาแล้วว่าอร่อยสุดๆ ได้แก่ โจ๊ก ไก่ฉีก เป็นโจ๊กที่ทำง่ายใช้เวลาไม่นาน และ โจ๊ก ไก่สับเป็นสูตรโจ๊กไก่โบราณ น้ำซุปเข้มข้น และรสชาติกลมกล่อมสุดๆ ที่สำคัญเรามีเทคนิคการต้มข้าวให้หอมนุ่มมาให้ทุกคนได้ทำตามกันอีกด้วย แต่ก่อนที่จะเริ่มลงทำอาหาร เราต้องมาจัดเตรียมเกี่ยวกับส่วนผสม และวัตถุดิบ รวมถึงอุปกรณ์ให้พร้อมก่อน ว่าแล้วไปเตรียมกันเลย

  1. เนื้ออกไก่ 500 กรัม
  2. ซี่โครงไก่ 1 โครง
  3. พริกไทย 1 ช้อนชา
  4. ต้นหอม 2-3 ต้น
  5. ซอสปรุงรส 2 ช้อนชา
  6. ข้าวสาร 1 ถ้วยตวง
  7. เกลือ 1 ช้อนชา
  8. ผักซี 1 ต้น
  9. กระเทียม 4 กลีบ 
  10. พริกไทย 1 ช้อนชา
  11. น้ำเปล่า 2 ลิตร

สำหรับข้าวสารที่ทำเมนูโจ๊ก ไก่ แนะนำให้ใช้ปลายข้าวหอมมะลิแท้ เพราะข้าวพันธุ์นี้ถ้าต้มสุกแล้วจะมีความนุ่มนิ่ม และหอมสุดๆ แต่ถ้าบ้านไหนไม่มีข้าวหอมมะลิสามารถใช้ปลายข้าวสาร หรือข้าวสารธรรมดาทั่วไปได้ เมื่อทำอาหารออกมาก็อร่อยไม่แพ้ข้าวหอมมะลิ สำหรับใครที่ชอบทานเห็ดสามารถเพิ่มวัตถุดิบอย่างเห็ดหอมเข้าไปได้ เพียงแค่นี้ก็จะได้เมนูโจ๊กเห็ดหอมไก่สับ หรือไก่ฉีกตามที่ต้องการแล้ว และนำลำดับต่อมาเราจะมาเริ่มขั้นตอนการทำโจ๊กโบราณดังนี้

โจ๊ก ไก่
  1. ขั้นตอนเริ่มจาก นำข้าวสารใส่ในหม้อหุงข้าวมาล้างน้ำสะอาด 1-2 ครั้ง จากนั้นเติมน้ำให้มากกว่าเดิม 1 เท่า จากปกติ นำไปหุงให้ข้าวสุก เมื่อสุกข้าวสุกแล้วจะมีความแฉะเล็กน้อย
  2. ต่อมาทำการหมักอกไก่ โดยการนำกระเทียม รากผักชี พริกไทย มาโขลกนำละเอียด ใส่ลงไปในภาชนะ จากนั้นใส่ไก่ลงไปตามด้วยซอสน้ำมันหอย น้ำปลา น้ำตาล ซีอิ้วขาว คลุกเคล้าให้ส่วนผสมให้เข้ากันหมักไว้ประมาณ 15-20 นาที
  3. นำน้ำใส่หม้อนำไปตั้งไฟให้น้ำเดือด จากนั้นใส่ไก่ที่หมัก และโครงไก่ลงไป เมื่ออกไก่สุกแล้วนำออกมาพักไว้ และต้มโครงไก่ต่อไป 20 นาที นำอกไก่มาฉีกเป็นชิ้นๆ 
  4. หลังจากนั้นนำน้ำซุปที่ต้มเสร็จแล้วใส่ในหม้อ และใส่ข้าวหุงเสร็จแล้ว ต้มต่อไปอีก 5 นาที เมื่อข้าวละเอียดเป็นเนื้อเนียน ทำการปรุงรสได้ตามใจชอบ เสร็จแล้วตักใส่ถ้วย ใส่ไก่ฉีกลงไป โรยหน้าด้วยต้นหอม และผักชีชอย ตามด้วยกระเทียมเจียว 
โจ๊ก ไก่

สำหรับโจ๊กไก่ที่ทำเสร็จแล้วจะมีความหอมของกระเทียมเจียว และรสชาติกลมกล่อมอร่อยสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นอาหารเช้าระดับตำนานอาหารจีนที่สามารถทานได้ทั้งครอบครัว สำหรับสูตรโจ๊กไก่สับ เพียงแค่นำไก่มาสับให้ละเอียดจากนำไปต้มในน้ำชุป ใส่ข้าวหุงสุกลงไปต้มจนสุกปรุงรสชาติตามใจชอบ หากใครอยากเพิ่มความอร่อยสามารถเติมไข่ลวก พริก และน้ำมะนาวก็อร่อยเช่นกัน

แนะนำเมนูอาหารจีนง่ายๆ โจ๊กหมูสับ อร่อยจนต้องทานเพิ่ม

นอกจากโจ๊ก ไก่แล้ว ยังมีหนึ่งสูตรที่อร่อยไม่แพ้กัน สำหรับโจ๊กหมู ถือว่าเป็นอาหารจีนพื้นบ้านที่คนจีนชอบทำทาน เพราะเป็นอาหารที่เหมาะกับช่วงเวลาเร่งรีบที่สุด และอิ่มนานที่สุดด้วย สำหรับขั้นตอนการทำโจ๊กหมู เพียงแค่นำกระดูกหมูมาต้ม และตามด้วยรากผักชี ต้มจนเดือด หลังจากนั้นตักน้ำซุปกระดูกใส่ในหม้อนำไปต้มให้น้ำเดือก ใส่หมูสับลงไปต้มต่อให้หมูสุก ใส่ข้าวหุงลงไปรอให้ข้าวมีความเป็นเนื้อเนียน เสร็จแล้วตักใส่ถ้วยใส่เห็ดหอมเพื่อความอร่อย โรยด้วยผักชี พร้อมเสิร์ฟ 

โจ๊ก ไก่

เทคนิคในการทำโจ๊ก ไก่และโจ๊กหมูเมนูอาหารจีนโบราณให้อร่อย คือ ในขั้นตอนการต้มข้าว ควรหมั่นคนข้าวให้เป็นเนียน และเติมน้ำเพื่อไม่ให้ข้าวไหม้ เมื่อข้าวเนียนแล้วสามารถเพิ่มความหอมด้วยกระเทียวเจียว และหอมเจียวใหม่ๆ จะทำให้อาหารน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เมนูโจ๊กมีอีกหลายสูตรที่น่าสนใจ อาทิ โจ๊กปลา โจ๊กทะเลรวมมิตร หรือจะเป็นโจ๊กต้มยำทะเลอร่อยจนต้องขอเพิ่มอีกด้วยเลยทีเดียว

อ่านบทความอื่นๆ: