Categories
เบเกอรี่

ขนมปังเนยสด สอนทำเมนูเบเกอรี่ยอดฮิตของคนไทย

https://mykitchencook.com/wp-content/uploads/2021/06/ขนมปังเนยสด-สอนทำเมนูเบเกอรี่ยอดฮิตของคนไทย.jpg

คนไทยสว่นใหญ่ชื่นชอบรับประทานขนมหวาน โดยเฉพาะขนมประเภทเบเกอรี่ ถึงแม้ว่าไม่ใช่ขนมประจำชาติ แต่ก็เป็นขนมฮอตฮิตติดลมบนของคนไทย ความชอบมีมากขนาดไหนสังเกตุได้จากมีร้านเบเกอรี่มากมายทั่วประเทศไทยทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด 

เมนูขนมปังเนยสดก็เป็นเมนูที่คนนิยมรับประทานกันมากเมนูหนึ่งเลยทีเดียว อาจจะเป็นเพราะว่ารับประทานง่าย อิ่มอยู่ท้อง รสชาติของกลิ่นเนย นม ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนใจ อีกทั้งยังสามารถรับประทานได้ทุกมื้อ ทำให้คนไทยทุกเพศทุกวัยนั้นชอบรับประทานขนมนี้มาอย่างยาวนาน

สามารถหาซื้อได้ที่ร้านเบเกอรี่ และร้านกาแฟ เครื่องดื่ม หรือถ้าอยากรับประทานแบบสดใหม่จากเตาอบ ก็สามารถที่จะทำรับประทานเองได้เลยไม่ยาก หรือแม้กระทั่งต่อยอดทำขายก็เป็นอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียว 

เว็บไซต์ mykitchencook จึงได้รวบรวมข้อมูลการสอนทำขนมปังเนยสดไว้เพื่อเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจหาข้อมูล ศึกษาเรียนรู้การทำขนมปังเนยสดไว้ดังนี้

วัตถุดิบ ส่วนผสมเมนูขนมปังเนยสด 

  • แป้งขนมปัง 450 กรัม
  • แป้งสาลี (แป้งอเนกประสงค์) 50 กรัม
  • เนยสด 50 กรัม
  • นมสด 240 มล.
  • ยีสต์แห้ง 1 ช้อนโต๊ะ 
  • เกลือป่น 0.5 ช้อนชา 
  • นมข้นหวาน 60 กรัม 
  • น้ำตาลทราย 90 กรัม 
  • งาขาว 1 ช้อนโต๊ะ (ปริมาณตามความชอบ)

ขั้นตอน เคล็ดลับ ไอเดียต่อยอดในการทำขนมปังเนยสด 

(ผู้ศึกษาทำตามทุกขั้นตอน จะเข้าใจ และได้คำตอบว่าอะไรทำให้แป้งนุ่ม)

  1. เทแป้งขนมปัง แป้งสาลี น้ำตาลทราย ยีสแห้ง เกลือป่น รวมในภชนะเดียวกัน 
  2. จากนั้นใช้ตะแกรงสำหรับร่อนแป้ง ร่อนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
  3. เทส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อนวดแป้ง จากนั้นใส่นมข้นหวาน นมสด เนยสด ตามลงไป 
  4. นวดส่วนผสมทั้งหมดโดยใช้ใบพัดชนิดใบไม้ ปรับระดับความแรงของเครื่องนวดที่เบอร์ 2 นวดเป็นเวลา 20 นาที 
  5. เมื่อนวดแป้งขนมปังได้จับตัวกันเป็นก้อนเหนียวแล้ว ให้ตักก้อนแป้งขึ้นมานวดนิดหน่อยให้เป็นทรงกลม จากนั้นนำก้อนแป้งไปพัก 1 ชั่วโมง โดยใช้ผ้าขาวบางคลุมไว้ 
  6. เมื่อพักแป้งครบ 1 ชั่วโมง จากนั้นนำมาตัดด้วยอุปกรณ์สำหรับตัดขนมปัง แบ่งเป็นก้อน ก้อนละ 40 – 50 กรัม
  1. ใช้มือคลึงแป้งที่ตัดเรียบร้อยแล้วทีละก้อนเป็นรูปทรงกลม จากนั้นเรียงใส่ถาดให้เป็นระเบียบ พักแป้งไว้อีกประมาณ 1 ชั่วโมง
  1. เมื่อพักแป้งไปแล้ว 1 ชั่วโมงให้เอาก้อนแป้งออกมารีดอากาศออกทีละก้อนโดยไม้รีดแป้ง เมื่อรีดเสร็จก็ใช้มือคลึงแป้งให้กลม แล้วนำไปพักต่อในถาด สามารถเรียงให้ก้อนแป้งขนมปังติดกันได้ 
  2. ก่อนวางขนมปังรอบสุดท้ายนี้ ให้ใช้แปรงทาเนยสดบาง ๆ แล้วทาลงในถาดเพื่อป้องกันแป้งเหนียวติดถาด
  3. พักแป้งไว้ต่ออีก 30 นาที ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาน้อยหรือมากขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ถ้าอากาศเย็น หรือฤดูหนาวเวลาพักแป้งนานกว่า 30 นาที แต่ถ้าเป็นช่วงอากาศปกติ หรือฤดูร้อนเวลาพักแป้งก็จะอยู่ไม่เกิน 30 นาที หรือระหว่างพักแป้งให้คอยหมั่นสังเกตถ้าแป้งขยายตัว แป้งเป็นโดสวยงามก็เตรียมนำมาอบได้ 
  4. ก่อนอบ นำเนยสดละลายความร้อนให้เหลวนิดหน่อย ผสมงาขาวลงไปในเนยเหลว จากนั้นใช้แปรงจุ่มเนยสดงาขาวทาบนขนมปัง แล้วนำเข้าตู้อบ 
  5. ก่อนนำขนมปังอบ ให้ทำการวอร์มตู้อบไว้ก่อน 10 นาที แล้วนำถาดขนมปังวางชั้นล่างสุดที่อยู่ติดกับไฟล่าง ปรับระดับการใช้งานตู้อบ โดยเปิดทั้งไฟบน – ไฟล่าง เปิดพัดลมตู้อบด้วย อบด้วยอุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส นาน 15 – 20 นาที 
  6. พักขนมปังไว้ในอุณหภูมิปกติจนหายร้อนจัด เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยได้ขนมปังเนยสดหอมอร่อยสดใหม่ไว้รับประทานกันแล้ว

บอกเคล็ดลับอะไรทำให้แป้งนุ่ม

เคล็ดลับง่าย ๆ ที่ช่วยให้แป้งนุ่มนั่นก็คือการร่อนแป้งขนมปัง และแป้งสาลีก่อนที่จะนำแป้งเข้าหม้อนวด การร่อนแป้งนั้นทำให้เพิ่มช่องอากาศในมากมากขึ้นทำให้ขนมปังเนยสดที่ได้นุ่มดุจปุยนุ่นเลย 

ไอเดียการต่อยอดจากการเรียนรู้ทำเมนูขนมปังเนยสด 

สามารถนำความรู้นี้ไปประกอบเป็นอาชีพสร้างรายได้ เปิดร้านขายเบเกอรี่ และพัฒนาต่อยอดเพิ่มลูกเล่น เพิ่มไส้ เพิ่มความน่าสนใจ สร้างความแตกต่างให้เมนูขนมปังเนยสดได้ 

Categories
อาหารไทย

ตะโก้ข้าวโพด เมนูขนมไทยหอมหวานมันอร่อย

https://mykitchencook.com/wp-content/uploads/2021/06/ตะโก้ข้าวโพด-เมนูขนมไทยหอมหวานมันอร่อย.jpg

เมนูขนมไทยจะว่าไปแล้วนั้นมีมากมายหลายชนิด และคนไทยเองนั้นก็ชื่นชอบของหวาน ชื่นชอบการกินขนมกันเป็นชีวิตจิตใจ จะสังเกตได้ว่า ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็จะพบเห็นของกินมากมายขาย โดยเฉพาะขนมหวานต่าง ๆ โดยเฉพาะตลาดนัดตลาดสด จะเป็นแหล่งจำหน่ายขนมหวาน ขนมไทยที่อร่อย ๆ มากมาย 

ใครที่เป็นสาวกขนมไทย อยากเลือกซื้อขนมหลากหลายชนิดรับประทานก็ต้องไปตลาด รับรองได้ว่ามีขนมอร่อยมากมายให้เลือกรับประทานกันอย่างจุใจแน่นอน และหนึ่งในขนมที่คนนิยมรับประทานมากนั่นก็คือขนมตะโก้ข้าวโพด เพราะด้วยความที่รสชาติหอมหวานมัน เหนียวหนึบ และปัจจุบันขนมตะโก้นั้นถูกออกแบบให้มีอันเล็กกะทัดรัดพอดีคำ น่ารับประทานมาก

นอกเหนือจากความอร่อยแล้ว ขนมตะโก้ข้าวโพดยังสามารถนำไปต่อยอดพัฒนาเป็นอาชีพสร้างได้เสริมได้แบบน่าสนใจมาก เพราะเป็นขนมที่คนไทยชอบรับประทาน ยิ่งถ้ามีความคิดสร้างสรรค์ ไอเดียดี พัฒนาสูตร พัฒนารูปแบบการขายให้น่าสนใจรับรองได้ว่าขนมตะโก้ข้าวโพดสามารถสร้างรายได้อย่างงามทีเดียว

เป็นขนมที่สามารถนำไปต่อยอดสร้างอาชีพสร้างรายได้ เว็บไซต์ mykichencook ได้รวบรวมขั้นตอนการทำไปขนถึงไอเดียต่อยอดอาชีพของเมนูขนมตะโก้ข้าวโพดเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่สนใจ และคนที่กำลังมองหารายได้เสริม

วัตถุดิบการทำเมนูขนมไทยตะโก้ข้าวโพด

  1. ใบเตย 10 ใบ สำหรับเป็นส่วนผสมของขนมตะโก้ข้าวโพด (ตัวช่วยให้ขนมไทยหอมละมุนขึ้น)
  2. ใบเตย 20 ใบสำหรับทำเป็นกระทงใส่ขนมตะโก้ข้าวโพด 
  3. ข้าวโพดสีเหลืองหั่น 2 ถ้วย
  4. แป้งมัน 15 กรัม 
  5. น้ำสะอาด 750 กรัม 
  6. น้ำตาลทราย 160 กรัม
  7. แป้งข้าวเจ้า 110 กรัม (ถ้าเป็นวิธีทำขนมแบบโบราณจะใส่แป้งข้าวเจ้า)

วัตถุดิบสำหรับทำหน้าขนม

  1. ข้าวโพดต้มสุก 1/2 ถ้วย 
  2. เกลือป่น 1ช้อนชา
  3. แป้งมัน 12 กรัม
  4. น้ำตาลทราย 80 กรัม
  5. หัวกะทิ 400 กรัม (ขนมไทยตะโก้ข้าวโพดขาดหัวกะทิห้ามขาดสิ่งนี้)
  6. น้ำสะอาด 180 กรัม 

ขั้นตอนและวิธีการทำเมนูขนมไทยตะโก้ข้าวโพด 

  1. ตั้งน้ำสะอาดให้เดือด จากนั้นนำใบเตยลงไปต้ม 5 นาที (ถ้าใช้เวลาต้มนานกว่านี้รสชาติจะเฝื่อน) จากนั้นตักใบเตยออกทิ้ง (เป็นวิธีทำขนมที่ช่วยให้ขนมหอมละมุนมาก)
  2. กรองน้ำใบเตยอีกครั้งด้วยตะแกรง เพื่อกรองเศษใบเตยออก 
  3. จากนั้นผสมแป้งมัน แป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย เข้าด้วยกันโดยใช้ช้อนคลุกเคล้า 
  4. เปิดไฟระดับเบา ตั้งภาชนะจากนั้นใส่น้ำใบเตยลงไป พร้อมส่วนผสมของแห้งที่ผสมกันเรียบร้อยแล้วลงไปคนในหม้อ
  5. จากนั้นใส่ข้าวโพดสีเหลืองที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ลงไปผสมกับส่วนผสมทั้งหมดบนเตา
  6. ใช้ไม้พายคนไปเรื่อย ๆ ห้ามพักมือ เพราะถ้าไม่คนจะไหม้ได้ เมื่อคนจนส่วนผสมทุกอย่างเริ่มเหนียวเซ็ตตัวก็ยกลงจากเตาตั้งพักไว้
  7. ทำกระทงสำหรับใส่ตะโก้โดยใช้ใบเตยพันเป็นรูปสี่เหลี่ยมแล้วกลัดด้วยไม่จิ้มแหลม จากนั้นใช้ช้อนตักส่วนผสมของแป้งตะโก้ที่เพิ่งทำเสร็จลงในกระทงใบเตย โยใส่ในระดับ 3/4 ของกระทง
  8. จากนั้นผสมแป้งมัน เกลือป่น น้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน 
  9. ตั้งภาชนะบนเตา เปิดไฟระดับเบา จากนั้นใส่หัวกะทิลงไป แล้วใส่ส่วนผสมของแห้งแป้งมัน เกลือป่น น้ำตาลลงไป คนให้เข้ากัน เมื่อร้อนได้ที่ส่วนผสมละลายให้ยกลง 
  10. นำส่วนผสมทั้งหมดราดลงบนขนมบนกระทง แล้วเต่งหน้าเล็กน้อยด้วยข้าวโพดสุกต้ม เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนขนมไทยเมนูตะโก้ข้าวโพด

เคล็ดลับในการทำเมนูขนมไทยขนมตะโก้ข้าวโพดให้อ่อนละมุน กลิ่นหอมชวนรับประทาน 

  1. ในขั้นตอนของการทำตัวแป้งตะโก้ ให้ใช้น้ำต้มใบเตย แทนการใช้น้ำธรรมดา จะทำให้ส่วนของตัวแป้งตะโก้นั้นหอมละมุนอย่างมาก
  2. ใช้ใบเตยทำเป็นกระทงแทนภาชนะพลาสติก เพราะกลิ่นใบเตยนั้นเมื่อมารวมตัวกับกลิ่นความหอมมันของกะทิแล้ว จะทำให้ขนมนั้นมีความน่ารับประทานเป็นอย่างยิ่ง เป็นสัมผัสที่หอมละมุนมาก 
  3. ขนมชนิดนี้มีกะทิเป็นพระเอก และมีข้าวโพดเป็นพระรอง ดังนั้นความหอมมันของขนมจะอร่อยทวีคูณถ้าใช้กะทิที่คั้นสด ๆ ไม่ใช้กะทิกล่อง เพราะกะทิกล่องสามารถใช้ได้เหมือนกันแต่ความอร่อยจะไม่เท่ากะทิสด 

ไอเดียการต่อยอดจากเมนูตะโก้ข้าวโพด 

  1. สามารถพัฒนาฝีมือและทำเป็นอาชีพขายขนมสร้างรายได้อย่างงาม
  2. แตกไลน์เรียนรู้ขนมไทยชนิดอื่น และพัฒนาสูตรให้มีความโดดเด่นเฉพาะตัว จากนั้นทำหลักสูตรสอนออนไลน์สร้างรายได้ในระยะยาว