
ขนม หม้อแกง ในสมัยก่อนเรียกว่า ขนมกุมภมาศ หรือขนมหม้อทอง คาดว่ามีมาตั้งแต่ในสมัยพระนารายณ์มหาราช โดยท้าวทองกับม้าเป็นผู้เริ่มคิดค้นสูตรหม้อแกง ขนมหวานของไทย และถูกถ่ายทอดให้กับกลุ่มแม่ครัวในห้องเครื่องที่จะทำถวายเป็นเมนูขนมหวานให้กับขุนนางชั้นสูงได้ทานพร้อมกับอาหารชนิดอื่นๆ ต่อมาเมื่อแม่ครัวห้องเครื่องได้ย้ายออกจากวังได้มีการเผยแพร่สูตรหม้อแกง ขนมชาววังให้กับชาวบ้านได้ทำทานกัน ซึ่งในสมัยก่อนจะใช้หม้อดินในการทำขนมหม้อแกง ทำให้ขนมมีเนื้อเนียนสีน้ำตาล รสชาติหวานจัดจ้าน และหอมกลิ่นหอมเจียว น่าทานสุดๆ

ขนมหม้อแกง หรือขนมหม้อทอง เป็นขนมที่ใช้ ไข่ แป้ง น้ำตาล และกะทิ เป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้เมื่ออบเสร็จแล้วเนื้อขนมมีความนุ่มฟู และมีกลิ่นหอมละมุนละไม รสชาติกลมกล่อม และยิ่งใช้เตาถ่านอบขนมจะยิ่งทำให้ขนมมีกลิ่นหอมมากขึ้น ปัจจุบันวิธีการทำ ขนม หม้อแกง มีความสะดวกสบายมากขึ้น โดยมีการใช้เตาอบขนม จึงทำให้ง่ายต่อการขนมมากขึ้น แถมรสชาติหอมอร่อยตามแบบต้นตำรับ หากใครอยากลองทำขนมหวานชนิดนี้สามารทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง เพียงทำตามสูตรที่เราจะนำมาแชร์ก็สามารทำได้แล้ว
ขั้นตอนการทำ ขนม หม้อแกง ตามแบบต้นตำรับชาววัง หอมอบอวล จนอดใจไม่ไหว

วันนี้เราจะชวนทุกคนมาทำ ขนมหม้อแกง เมนูขนมหวานระดับตำนานที่มีความโดดเด่นด้วยรสชาติที่หวาน หอมกรุ่น เนื้อแป้งถั่วเหลืองเนียนนุ่ม และที่ขาดไม่ได้คือ หอมเจียว โรยหน้าบนขนมหม้อแกงอันเป็นเอกลักษณ์ แถมยังเป็นขนมที่ทานยังไงก็ไม่มีวันเบื่อ สำหรับสูตรหม้อแกงโบราณที่จะนำมาแชร์นั้นเป็นสูตรแบบนึ่งอย่างง่าย เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเตาอบ และ ชอบเนื้อขนมแบบชุ่มฉ่ำ ไม่แห้งจนเกินไป โดยวิธีทำ หม้อแกง แบบ นึ่งจะมีขั้นตอนที่ไม่ซับช้อน และทำง่ายมากๆ ว่าแล้วไปดูกันเลย

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่เตรียม
- ถั่วเหลืองซีก 200 กรัม
- หัวกะทิ 300 กรัม
- น้ำตาลปิ๊บ 150 กรัม
- ไข่เป็ด 5 ฟอง
- ใบเตย 2-3 ใบ
- หอมชอย 20 กรัม
เมื่อได้ส่วนผสม และวัตถุในการทำ ขนม หม้อแกง แล้ว ในขั้นตอนต่อมาจะเป็ยวิธีทำขนมหม้อแกงอย่างง่าย สำหรับมือใหม่สามารถทำตามได้ดังนี้

- ในขั้นตอนแรก เรามาเริ่มที่การนำถั่วเหลืองซีกมาล้างด้วยน้ำสะอาดประมาณ 1-2 ครั้ง จากนั้นนำไปนึ่งให้สุก เป็นเวลา 2-3 ชั่วโมง โดยวิธีสังเกตคือ ถ้าถั่วเหลืองสุกเนื้อจะนิ่มนุ่ม
- ในระหว่างที่รอถั่วเหลืองสุก ให้นำไข่เป็ดตอกลงในภาชนะสำหรับผสม จากนั้นตามด้วยน้ำตาลปิ๊บ เกลือ และใบเตยมัดเป็นจุก ใช้มือเขยำให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน และคนจนกว่าน้ำตาลจะละลาย เมื่อได้ถั่วเหลืองสุกแล้ว ต่อมาให้นำถั่วเหลืองใส่ในโถปั่น ใส่กะทิลงไป ทำการปั่นให้ละเอียด เสร็จแล้วนำไปผสมกับส่วนผสมทั้งหมดที่เตรียมไว้ หลังจากนั้นนำไปกรองด้วยตะแกรงอีกครั้ง เพื่อให้เนื้อขนมเนียนน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น
- จากนั้นนำขนมที่เตรียมไว้เทใส่ในพิมพ์ เสร็จแล้วนำไปนึ่ง ใช้ไฟปานกลางจนกว่าขนมจะฟู และสุกดี เสร็ลแล้วยอกออกจากเตา พักไว้ให้เย็น ในระหว่างที่รอขนมเย็น ขั้นตอนสุดท้ายนำกระทะมาตั้งเตาเปิดไฟปานกลาง เมื่อน้ำมันเดือด ใส่หอมชอยลงไปเจียวจนกว่าจนจะมีกลิ่นหอม เสร็จแล้วตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน

เมื่อได้ขนม หม้อแกง สูตรนึ่งแล้ว นำมาตักใส่จานโรยหน้าด้วยหอมเจียว พร้อมทานได้เลย สำหรับขนมหม้อแกง ทำเองจะมีรสชาติที่หวานอร่อยกำลังดี ที่มาพร้อมกลิ่นหอมเจียวทอดใหม่ๆ กรุบกรอบ ตัดกับเนื้อขนมที่นุ่มนิ่มเข้ากันสุดๆ สำหรับมือใหม่ฝึกทำขนมไทยครั้งแรกสามารถดูวิธีการทำหม้อแกงขนม โบราณที่กล่าวมาข้างต้นได้ โดยไม่ต้องไปเรียนทำขนมให้เสียเวลา อีกทั้งถ้าบ้านไหนไม่มีเตาอบสามารถทำตามสูตร และขั้นตอนขนมหม้อแกงสูตรนึ่งที่เรานำมาแชร์ได้เลย รับรองว่าอร่อยเหมือนใช้เตาอบเลยทีเดียว
เปิดสูตรขนมไทยโบราณ หม้อแกง แบบอบ ทำง่ายๆ ด้วยตัวเอง

สำหรับใครที่ชอบขนมหม้อแกงแบบอบ ต้องไม่พลาด เพราะเรามีวิธีทำขนม หวาน ไทย อย่างหม้อแกง มาให้ได้ลองทำตาม แถมะยังเป็นขนม ไทย ทำ ง่ายนิดเดียว สำหรับสูตรหม้อแกงสามารถใช้ตามที่กล่าวมาข้างต้นได้เลย สำหรับขั้นตอนแรกนำถั่วเหลืองซีกล้างให้สะอาด และนำไปนึ่งให้สุก จากนั้นนำมาปั่นผสมกับน้ำกะทิ ปั่นให้ละเอียด จากนำเกลือ น้ำตาล ไข่เป็ด และกะทิใส่ลงไปในภาชนะผสมทุกอย่างให้เข้ากัน จากนั้นใส่เหลืองปั่นลงไป ผสมให้เข้ากันแล้วนำกรองด้วยตะแกรง นำไปตักใส่พิมพ์ เข้าอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที เสร็จแล้วนำออกมาพักไว้ให้เย็น พร้อมทาน

ขนมหม้อแกงเป็นขนมหวานชาววังที่มีรสชาติหวานฉ่ำ แบบจัดเต็ม ถ้าอยากให้ทานขนมอร่อยมากขึ้นสามารถหาเครื่องดื้มจำพวกชา หรือกาแฟมารับประทาน เพื่อลดความหวานของขนมลงได้ หากใครอยู่บ้านไม่มีอะไรทำในวันว่าง แนะนำให้ลองทำเมนูขนมหวานหม้อแกงไว้ทานเล่นๆ ซึ่งวิธีทำขนม ไทย ง่ายๆ ไม่ยากแน่นอน อีกทั้งขนมไทย ทำเองที่บ้านยังมีความหอมละมุนลิ้นสุดๆ ส่วนสูตร ขนม ไทย ที่ใช้ในข้างต้นเป็นแบบต้นตำรับส่งตรงจากท้าวทองกีบม้าเลยทีเดียว
อ่านบทความอื่นๆ: