Categories
อาหารอินเดีย

เมนูตามใจคอซีรีย์ ไก่ทอดซอสเกาหลี ที่ไม่ว่าจะเปิดดูเรื่องไหน ก็ชวนหิว ชวนให้อยากลิ้มลอง

ไก่ทอดซอสเกาหลี

ต้องยอมรับเลยว่า ไก่ทอดซอสเกาหลี เป็นหนึ่งในเมนูอาหารเกาหลีที่หลายคนชื่นชอบ ด้วยรสชาติที่อร่อย เน้นความเปรี้ยวอมหวาน เผ็ดแบบกำลังดี แป้งกรอบ เนื้อไก่นุ่ม ทานง่าย ถูกปากถูกใจคนไทย ยิ่งยุคปัจจุบันการจะออกไปข้างนอกเป็นเรื่องที่ควรหลีกเลี่ยง ทั้งมลภาวะและโรคระบาด ทำให้เราพลาดการเรียนรู้ประสบการณ์ไปหลายอย่าง แต่ก็ไม่ใช่กับทุกเรื่อง เมนูอร่อยเด็ดแบบนี้ ก็มาทดลองทำทานเองกันไปเลยสิคะ นอกจากจะได้ทานของอร่อย ยังช่วยแก้เบื่อ แถมยังสร้างการเรียนรู้เป็นทักษะใหม่ให้กับชีวิตได้ด้วย

จุดเริ่มต้นของเมนูสุดฮอต ไก่ทอดซอสเกาหลี ราดซอสสูตรเด็ด ไก่ทอดแสนอร่อยถูกใจสายกิน อร่อยเป็นเอกลักษณ์

ไก่ทอดซอสเกาหลี

ไก่ทอดซอสเกาหลีเป็นเมนูคู่ใจของชาวเกาหลีที่เราพบเห็นได้บ่อยในซีรีย์ ซึ่งจะมีอยู่ 2 สูตรยอดฮิตด้วยกัน คือ ไก่ทอด ธรรมดาสไตล์อเมริกัน และแบบที่คลุกซอสเกาหลี นิยมทาน ไก่ทอดกับเบียร์ ซึ่งก่อนจะมาเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก ก็ได้รับการปรับปรุงและคิดค้นสูตรใหม่ตามยุคสมัยมาตั้งแต่ช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1940 มาจนถึงปัจจุบัน

อยากกิน ไก่ทอดซอสเกาหลี ไม่ต้องไปถึงที่ร้าน ทำเองที่บ้านได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน อร่อยไม่แพ้กัน

ไก่ทอดซอสเกาหลีเป็น อาหารเกาหลี ที่นำไก่มาทอดด้วยเทคนิคพิเศษ ให้ได้ไก่สีสวย กรอบ ไม่อมน้ำมัน ทาด้วยซอสแบบต้นตำรับเกาหลี ซึ่งสูตรที่เรานำมาฝากกันในวันนี้เป็นสูตรทำง่าย ที่สามารถเก็บไปทานได้ถึง 2 สัปดาห์ด้วยกัน จะมีอะไรน่าตื่นเต้นรอให้เราได้เข้าไปลองด้วยตัวเองบ้าง ตามไปดูขั้นตอนการ ทำไก่ทอดซอสเกาหลี กันได้เลย

ไก่ทอดซอสเกาหลี

วัตถุดิบในการหมักไก่ 

– ปีกกลาง 500 กรัม 

– ผงปรุงรสไก่ 10 กรัม

– พริกไทยป่น 5 กรัม 

– เกลือ 3 กรัม

– น้ำตาลทราย 5 กรัม

– ผงปาปริก้า 6 กรัม 

วัตถุดิบในการทำซอสเกาหลี 

– โคชูจัง 60 กรัม 

– น้ำส้มสายชู 50 กรัม 

– เนยสดเค็ม 30 กรัม

– น้ำมัน 5 กรัม 

– กระเทียมสับ 30 กรัม 

– น้ำตาล 25 กรัม 

– ซอสมะเขือเทศ 100 กรัม 

– น้ำผึ้ง 100 กรัม 

– น้ำเปล่า 50 กรัม 

– งาขาว ต้นหอมซอย ตามชอบ

ไก่ทอดซอสเกาหลี

ขั้นตอนและวิธีการทำ วุ้นเส้นเกาหลี

– ขั้นตอนแรกหลังจากล้างทำความสะอาดเนื้อไก่เรียบร้อยแล้ว เริ่มทำการผสมผงปาปริก้า ผงปรุงรสไก่ พริกไทยขาว น้ำตาลทราย และเกลือ จากนั้นนวดขยำให้เข้ากัน นำไปใส่ถุงแล้วหมักแช่ไว้ในตู้ประมาณ 5-6 ชั่วโมง

– ขั้นตอนต่อไปเป็นการทำซอสราด ด้วยการตั้งไฟบนกระทะ โดยใส่เนยสดเค็มลงไปตามด้วยกระเทียมสับ ผัดให้หอม แล้วตามด้วยชูจังและน้ำเปล่า แล้วผัดต่อ 

ไก่ทอดซอสเกาหลี

– ใส่ซอสมะเขือเทศ น้ำผึ้ง น้ำสายชู และน้ำตาลทรายลงไปคนในหม้อจนส่วนผสมเดือด จากนั้นปิดแสได้ทัน พักไว้ให้หายร้อน

– ต่อไปให้เตรียมกะละมังน้ำ 1 ใบ และกระมะคลุกแป้งอีก 1 ใบ จากนั้นตั้งนำมันรอ นำไก่ไปคลุกกับแป้ง จากนั้นนำไปแช่ในกะละมังน้ำ แล้วกลับเทกะละมังแป้งอีกครั้ง แล้วน้ำมาชุบแป้งก่อนลงทอด เสร็จแล้วราดซอส โดยงาขาว และต้นหอมซอยตามภาพ

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย:

https://sa-game.bet SAgame แหล่งรวมพนันออนไลน์ทั้งหมด 

Categories
อาหารนานาชาติ อาหารอินเดีย

กระแสความนิยมรับประทานอาหารอินเดียในไทย

ในปัจจุบันคนไทยนั้นให้ความสนใจ และอยากที่จะเรียนรู้เรื่องราวเมนูอาหารอินเดียมากมายเลยทีเดียว อาหารอินเดียนั้นมีเมนูทั้งอาหารคาวอาหารหวานต่าง ๆ โดยเฉพาะชื่อเสียงของอาหารอินเดียที่เราได้ยินมาคือมีประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นอาหารที่กินแล้วดีต่อสุขภาพ คนไทยก็ยิ่งสนใจอาหารอินเดีย และมีคนไทยไม่น้อยนั้นเดินทางไปลิ้มรสอาหารอินเดียถึงถิ่นพี่น้องชาวอินเดีย ถึงย่านพาหุรัด เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์ของย่านนั้นเลยทีเดียว 

หลายคนที่ได้ไปเที่ยวย่านพาหุรัดมาแล้วบอกต่อมาว่าเดินเข้าไปแล้วให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นความสวยงามทางวัฒนธรรมอย่างมากเลยทีเดียว และทำให้เราได้เรียนรู้ข้อมูลใหม่ว่าเมนูโรตีสไตล์ไทย ที่ใส่นมใส่น้ำตาล คนไทยชอบอย่างมากนั้น โรตีของคนอินเดียอีกแบบจะเป็นโรตีที่รับประทานเป็นอาหารคาว จิ้มกับแกงต่าง ๆนั่นเอง

แหล่งอาหารอินเดียในประเทศไทย 

สำหรับในประเทศไทยแล้ว ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศไทยนั้นเป็นคนไทย ในส่วนของต่างชาติก็สามารถพบเห็นได้ทั่วไปทุกจังหวัดในประเทศไทย ทั้งคนชาติตะวันออก และตะวันตก ทำให้วัฒนธรรมอาหารของประเทศไทยเรานั้นมีความเข้มแข็ง และเป็นที่นิยมบริโภคของคนไทยมาก อาหารที่ได้รับความนิยมรองลงมาจากอาหารไทยได้แก่อาหารจากชาติตะวันตก เป็นอาหารที่แทรกซึมเข้ามาแบบไม่รู้ตัว 

และยังมีอาหารอีกประเภทหนึ่งนั่นก็คืออาหารอินเดีย เป็นอาหารที่มีเสน่ห์อย่างมาก ซึ่งคนไทยเองแม้จะมีอาหารประจำชาติที่อร่อยอยู่แล้ว แต่คนไทยในก็อยากจะเปิดประสบการณ์เรียนรู้ อยากลองชิมเมนูอาหารอินเดียจากประเทศต่าง ๆ โดยอาหารอินเดียในประเทศไทยนั้นไม่ใช่อาหารที่หารับประทานได้เลย ในกรุงเทพจะสามารถหารับประทานได้ที่ย่านพาหุรัด และอาหารอินเดีย นานา เพราะสถานที่ทั้งสองแห่งนี้เป็นสถานที่มีชาวอินเดียมาอาศัยอยู่ค่อนข้างมาก 

เอกลักษณ์ความโดดเด่นของ อาหารอินเดีย

ในสมัยก่อนนั้น คนไทยอาจยังไม่คุ้นชินกับอาหารอินเดีย แต่ในปัจจุบันในยุคที่มีสื่อมากมายเช่นนี้ สื่อมากมายนำเสนอเสน่ห์ อาหารอินเดีย รีวิวมากมาย ทำให้คนไทยนั้นหลงรัก และอยากที่ลองลิ้มชิมรสอาหารอินเดียกันอย่างมาก เพราะเป็นอาหารที่มีเอกลักษณ์ และมีความโดดเด่นทั้งหน้าตา และรสชาติไม่เหมือนใคร เป็นรสชาติแบบฉบับของตัวเอง โดยเฉพาะอาหารอินเดียที่มีส่วนผสมของผงการัมมาซาล่า เรียกได้ว่าเป็นเครื่องเทศพระเอก เพิ่มทั้งรสชาติอาหาร เพิ่มความหอม เป็นตัวชูรสอาหารอินเดียเลยก็ว่าได้

ประชากรของคนอินเดียส่วนใหญ่นั้นนิยมรับประทานอาหารแบบมังสวิรัติ และอาหารมังสวิรัติแบบอินเดียนั้นยังแตกยิบย่อยออกอีกหลายประเภท แต่โดยรวมอาหารมังสวิรัตินั้นจะไม่รับประทานเนื้อสัตว์ ไข่ โดยอาหารจะเน้นรับประทานผัก เครื่องเทศ ถั่วชนิดต่าง ๆ และแป้ง โดยเมนูของอาหารอินเดียนั้นจะเน้นอาหารเพื่อสุขภาพ โดยการรับประทานนั้น จะมีส่วนของแป้งโรตีที่ทำจากแป้ง รับประทานคู่กับแกงต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นแกงถั่ว ที่ใส่เครื่องเทศหลายชนิด และจะมีแกงมากมายชนิดในการรับประทานกับแป้งโรตี เสมือนอาหารอินเดีย บุฟเฟ่ต์ เลยก็ว่าได้ เพราะเยอะจนเลือกรับประทานไม่ถูกเลย

Categories
อาหารนานาชาติ อาหารอินเดีย

วิธีทำ ขนมปานีปูรี อาหารอินเดีย วัฒนธรรมการกินของคนอินเดียที่คนไทยอยากสัมผัส

อาหารอินเดียนั้น เป็นอาหารที่มีเสน่ห์มาก โดยเฉพาะกระบวนการขั้นตอนในการทำที่มีหลายมิติ หลายขั้นตอน รวมไปถึงวิธีในการรับประทานอาหารอินเดียนั้นก็มีความเป็นเอกลักณ์เฉพาะตัว สำหรับอาหารอินเดียในประเทศนั้น เท่าที่พบเจอจะมีในจังหวัดกรุงเทพฯ ย่านค้าขายของคนอินเดียชื่อย่านพาหุรัด มีอาหารอินเดียทั้งคาวหวานมากมายจำหน่าย 

ในส่วนของภูมิภาคอื่นนอกเหนือจากกรุงเทพฯ ถ้าอยากรับประทานอาหารอินเดีย ก็ค่อนข้างจะหารับประทานยากพอสมควร วันนี้เว็บไซต์ mykitchencook ได้รวบรวมวัตถุดิบ ขั้นตอนวิธีการทำ ไปตลอดจนถึงวิธีการรับประทานขนมอินเดียปานีปูรีเพื่อเป็นประโยชน์ของผู้ที่ต้องการสัมผัสรสชาติแปลกใหม่ของขนมอินเดีย

วัตถุดิบ ขั้นตอนวิธีการทำ วิธีการรับประทานเมนูอาหารอินเดียปานีปูรี 

อาหารอินเดียปานีปูรีจะมีหลายส่วนประกอบ ได้แก่ส่วนของแป้งปานีปูรี ไส้มันฝรั่ง น้ำซอสมะขาม น้ำราดปานีปูรี ส่วนของแป้งกรอบบูนดี้ และมีส่วนของเครื่องเคียงปานีปูรี 

วัตถุดิบและขั้นตอนการทำแป้งปานีปูรี

  1. แป้งซูจี 3 ช้อนโต๊ะ
  2. เกลือป่น 1 ช้อนชา
  3. แป้งสาลี 3/4 ถ้วยตวง
  4. น้ำที่มีความเย็น 120 มล.
  5. น้ำมันพืชสำหรับทอด 1000 มล.

ขั้นตอนการทำแป้งปานีปูรี

  1. ร่อนแป้งสาลี แป้งซูจี และเกลือลงในภาชนะ จากนั้นใช้น้ำเย็นจัดค่อยทยอยหยอดลงในแป้ง แล้วนวดไปเรื่อย ๆ จนเป็นก้อนหนึบเหนียว
  2. จากนั้นให้รีดแป้งแผ่นบางด้วยไม้รีดแป้ง แล้วใช้พิมพ์วงกลมตามขนาดที่ต้องการกดลงในแป้ง 
  3. จากนั้นให้พักแป้งไว้ 40 – 50 นาทีโดยใช้ผ้าสะอาด หรือผ้าขาวบางคลุมไว้
  4. เมื่อพักแป้งได้ที่ตามเวลาที่กำหนดไว้ ให้ตั้งกระทะปรับระดับไฟอ่อน ใส่น้ำมันในปริมาณที่เยอะ และน้ำมันร้อนจัดสุด ๆ (ไฟอ่อน) จึงจะใส่แป้งปานีปูรีลงไปทอด ถ้าน้ำมันไม่ร้อนจะไม่ฟู (หัวใจของการกินอาหารอินเดียเมนูขนมปารีปูนี แป้งต้องกรอบ)

วัตถุดิบทำไส้มันฝรั่งปานีปุรี

  1. มันฝรั่งนึ่งแล้วบดให้ละเอียด 3 ผล
  2. หอมแดงซอยละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
  3. ผงยี่หร่า 2 ช้อนชา
  4. ผงลูกผักชี 2 ช้อนชา
  5. พริกป่น 3 ช้อนชา (ถ้าชอบรสเผ็ดก็ใส่เพิ่ม)

ขั้นตอนการทำไส้มันฝรั่ง

ใส่มันฝรั่งลงในภาชนะ แล้วใส่ส่วนผสม หอมแดงซอย ผงยี่หร่า ผงลูกผักชี พริกป่น ใส่ทุกอย่างลงไป แล้วคลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จกาทำไส้มันฝรั่ง

วัตถุดิบการทำซอสมะขามปานีปูรี

  1. น้ำมะขามเปียกคั้น 200 มล. (เมนูอาหารอินเดียปานีปูรีขาดวัตถุดิบมะขามเปียกไม่ได้)
  2. น้ำตาลทราย 7 ช้อนโต๊ะ
  3. ผงยี่หร่า 1 ช้อนชา
  4. ผงลูกผักชี 1 ช้อนชา
  5. พริกป่น 2 ช้อนชา

ขั้นตอนการทำซอสมะขามปานีปูรี

ตั้งกระทะบนเตา ปรับไฟระดับอ่อน ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำตาลทราย ผงยี่หร่า ผงลูกผักชี พริกป่น จากนั้นเคี่ยวให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน บกลงตักใส่ภาชนะ

วัตถุดิบน้ำราดปานีปูรี

  1. พริกสดเม็ดใหญ่ 5 เม็ด
  2. ผักชีซอย 1 ต้น
  3. น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ 
  4. น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ 
  5. ขิงหั่นชิ้น 2 ชิ้น 
  6. ผงลูกผักชี 1 ช้อนชา
  7. ใบสะระแหน่ 1 ถ้วยตวง
  8. ผงยี่หร่า 2 ช้อนชา
  9. เกลือ 2 ช้อนชา 
  10. น้ำสะอาด 400 มล.

ขั้นตอนการทำน้ำราดปานีปูรี

เตรียมเครื่องปั่นให้พร้อม ใส่น้ำสะอาด และส่วนผสมทุกอย่างลงไปได้แก่ พริกเม็ดใหญ่ ใบสาระแหน่ ผักชี มะนาว น้ำตาลทราย ผงยี่หร่า ผงลูกผักชี เกลือป่น ขิงหั่น แล้วปั่นจนส่วนผสมละเอียด เทมส่ภาชนะ 

วัตถุดิบแป้งกรอบบูนดี้

  1. แป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ
  2. แป้งเบซัน 3 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำเย็น 100 มล.
  4. ตั้งเตาใช้ระดับไฟอ่อน ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งจนกระทะร้อนจัด
  5. ใช้แป้งเหลวที่ผสมไว้ร่อนผ่านกระชอนให้กระจายเป็นเม็ด 
  6. ใช้เวลาทอดไม่นาน ใช้กระชอนตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน

เครื่องเคียงเพิ่มรสชาติของขนมปานีปูรี

  1. หอมแดงซอยละเอียด
  2. พริกจินดาซอยละเอียด 

วิธีการรับประทานขนมปานีปูรี

การกินอาหารอินเดียนั้น มีองค์ประกอบ ได้แก่น้ำแป้งปานีปูรีที่เป็นรูปวงกลมเจาะรูด้านบน จากนั้นใส่ไส้มันบด ใส่แป้งกรอบบูนดี้ ใส่ซอสมะขาม ราดด้วยน้ำปานีปูรี ใส่พริกจินดาซอย หอมแดงซอย 

จากนั้นอ้าปากให้กว้างที่สุดใส่ก้อนปานีปูรีเข้าไปไปทีเดียวทั้งชิ้น เหตุผลที่ต้องใส่ไปทั้งชิ้นเพราะถ้ากัดทีละครึ่งคำน้ำซอสมะขาม และน้ำปานีปูรีจะหกเลอะเปื้อนทำให้ขาดอรรถรสในการรับประทานมาก รสชาติจะกลมกล่อมมีความกรอบของแป้ง ผสมความมันของไส้มันบด และความเปรี้ยวซ่าของซอสมะขาม และน้ำราดปานีปูรี