Categories
อาหารนานาชาติ

Soto Betawi ซุปเนื้อรสชาตละมุนลิ้น

Soto Betawi เป็นซุปเนื้อที่ดูต่างจากที่เราเคยรู้จัก และเคยเห็นค่อนข้างมาก ด้วยเอกลักษณ์ของน้ำซุปที่สีดูข้นที่ไม่เหมือนใคร ทั้งสีสันของเมนู และรสชาติ แต่บอกได้เลยว่าอร่อยอย่างแน่นอน เพราะถ้าไม่อร่อยจริงแล้วหละก็มันคงไม่มีขายอยู่ทั่วประเทศอินโดนีเซียแน่ ๆ

Soto Betawi

ถ้าใครได้มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศอินโดนีเซียแล้วต้องห้ามลืมที่จะลองรับประทานเมนูSoto Betawi หรือ ซุปดั้งเดิมของอินโดนีเซีย โดยเด็ดขาด เพราะถ้าคุณไม่ได้ลองรับประทานแล้วหละก็ อาจจะเปรียบเสมือนว่าคุณไม่ได้มาเที่ยวที่นี่อย่างแน่นอน เพราะมันเป็นหนึ่งในอาหารอินโดนีเซียสูตรดั้งเดิมที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานเมนูหนึ่ง อีกทั้งเมนูนี้ยังเป็นที่นิยมมาก ๆ ของคนประเทศนี้อีกด้วย โดยสามารถสังเกตได้จากร้านอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะร้านเล็ก ร้านใหญ่ หรือร้านสตรีทฟู้ดทั่วไป ก็มีเมนูนี้อยู่ในรายการอาหารแน่นอน 

สูตรและขั้นตอนการทำ Soto Betawi

ควานน่าสนใจหนึ่งของSoto Betawi คงเป็นหน้าตาของเมนูที่ต่างจากซุปบ้านเรา เพราะถ้าหากเป็นซุปของไทยเรานั้นมักจะจะมีน้ำซุปใสๆ สามารถซดได้อย่างคล่องคอ อีกทั้งกลิ่นเครื่องเทศก็ไม่ได้แรงมาก แต่ในส่วนของเมนูซุปดั้งเดิมของอินโดนีเซียนี้จะต่างกันตรงที่น้ำซุปนั้นจะใส่กะทิเล็กน้อย (หรือบางสูตรอาจจะเปลี่ยนเป็นใส่นมสดแทน) จึงทำให้ได้น้ำซุปที่ค่อนข้างออกไปทางข้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้มากจนเกินไป ผสมเข้ากับเครื่องเทศที่ใส่มาในชามนี้ จึงช่วยให้ตัดความเลี่ยนของกะทิลงได้ นำทุกอย่างมาตุ๋นรวมกับเนื้อและ ผ้าขี้ริ้วรังผึ้ง จนเปื่อยนุ่ม เรียกได้ว่า เมนูSoto Betawi สมกับเป็นเมนูอาหารอินโดนีเซียที่แนะนำให้นักท่องเที่ยวได้รับประทานกันเลยทีเดียว แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ หากใครที่ยังไม่เคยไปเที่ยว หรือยังไม่มีแพลนจะไปเที่ยวที่อินโดนีเซีย วันนี้เรามีสูตร และขั้นตอนง่ายๆ ในการทำเมนูนี้มาฝากเพื่อน ๆ กัน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปเตรียมวัตถุดิบ อุปกรณ์ และลงมือทำไปพร้อมกันเลยค่ะ

Soto Betawi

วัตถุดิบในการทำแกง

  • น่องเนื้อ 1 กิโลกรัม 
  • ผ้าขี้ริ้วรังผึ้ง 500 กรัม 
  • ตะไคร้ 5 ต้น ฟกช้ำและผูกปม
  • ใบกระวานอินโดนีเซีย 3 ใบ
  • นมสด 1 ลิตร
  • น้ำ 1 ลิตร
  • กะทิ 500 มล.
  • เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ใบมะกรูด 5 ใบ 

วัตถุดิบเครื่องเครื่องแกง

  • หอมแดง 100 กรัม
  • กระเทียม 4 กลีบ 
  • ขิง 1 นิ้ว 
  • ข่า 2 นิ้ว 
  • มะกรูด 5 ลูก
  • ถั่วแคนเดิล 5 เม็ด

ขั้นตอนการเตรียมเครื่องแกง

  • ปลอกหอมแดง และกระเทียม เสร็จแล้วล้างให้สะอาด
  • นำหอมแดง กระเทียม ขิง ข่า ถั่วแคนเดิล และใบมะกรูด มาตำให้ละเอียด
  • เสร็จแล้วตั้งพักไว้

ขั้นตอนการทำ

  • นำเนื้อวัว ผ้าขี้ริ้วรังผึ้ง ตะไคร้ ใบกระวาน นม และเครื่องปรุง ใส่งไปในหมอด้วยกัน และนำขึ้นตั้งเตาด้วยไฟแรงปานกลาง
  •  เมื่อเดือดแล้วให้ลดความร้อนลง เพื่อเคี่ยวต่อโดยปิดฝาหม้อ จนกระทั่งเนื้อ และผ้าขี้ริ้วรังผึ้ง นุ่ม หรือประมาณประมาณ 2 ชั่วโมง (ขั้นตอนนี้หากใครใช้หม้ออัดแรงดัน จะใช้เวลาเพียง 30 นาที)
  • นำเนื้อ และผ้าขี้ริ้วรังผึ้ง ออกจากหม้อเพื่อให้เย็นลง
  • เมื่อวัตถุดิบเย็นพอที่จะจับแล้ว ให้หั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ หรือประมาณครึ่งนิ้ว
  • กรองน้ำซุปเพื่อเอาเครื่องเทศ และเศษวัตถุดิบออก จนได้น้ำซุปใส 
  • หลังจากนั้นนำซุปที่กรองแล้วกลับไปที่หม้อซุปตามเดิม
  • นำเนื้อ และผ้าขี้ริ้วรังผึ้ง ลงในหม้อ เติมน้ำ กะทิ เกลือ แล้วนำไปเคี่ยวต่ออีก 30 นาทีด้วยไฟกลาง
  • เมื่อครบเวลาแล้วให้ปิดไฟ ให้ใส่ตะไคร้ที่ทุบ และใบกระวาน ใบมะกรูดลงไป หลังจากนั้นก็คนอีกนิดหน่อย
Soto Betawi

เมื่อ ทำSoto Betawi  เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ตักเสิร์ฟโดยโรยหน้าน้ำซุปด้วยซอยต้นหอมซอย หอมแดงเจียว ใบมะกรูดฉีกฝอย มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้นๆ อีกทั้งเมนูซุปดั้งเดิมของอินโดนีเซียนี้นิยมรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ และเครื่องเคียงอีกหลายอย่าง แต่ที่นิยมมากที่สุดจะเป็นในส่วนของ มันฝรั่งทอด ข้าวเกรียบมันฝรั่งทอด และผักดอง เท่านี้เราก็จะได้ลิ้มรสชาตเมนูอาหารอินโดนีเซียอย่างแท้จริง นอกจากนี้แล้วหากเราอยากได้รสชาตที่จัดจ้านถูกปากเรามากขึ้น ก็สามารถเติมเครื่องปรุงลงใน ได้ ซึ่งโดยปกติแล้วเครื่องปรุงที่จะเติมลงไปก็คือน้ำมะนาว และ kecap manis  ได้อีกด้วย

สนับสนุนโดย : https://ufaball.bet

Categories
อาหารนานาชาติ

Semur Ayam Medan สตูว์ไก่ในซอสหวาน

ช่วงนี้ถ้าใครเริ่มรู้สึกเบื่อกับอาหารไทยแล้วหละก็ เราอยากแนะนำให้รู้จักกับเมนู Semur Ayam Medan เป็นหนึ่งในอาหารที่อร่อย รับประทานง่าย และน่าจะถูกปากใครหลายคนอีกด้วย เพราะเมนูนี้ดูคล้ายกับเมนูไก่ตุ๋นของบ้านเรานั่นเอง แต่อาจจะต่างกันตรงเครื่องเทศที่ใช้ และรสชาตที่แตกต่างจากเครื่องอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นเมนูที่อร่อยเช่นเดียวกัน

Semur Ayam Medan

เมนูสตูว์ไก่ในซอสหวาน ซึ่งจุดเด่นของเมนูนี้จะอยู่ตรงที่ใช้ซีอิ๊วหวานของอินโดนีเซียนั่นคือ kecap manis เป็นวัตถุดิบหลัก เพราะเมนูนี้จะมีความโดดเด่นในเรื่องของรสชาตเฉพาะตัวที่ได้จากซีอิ๊วหวานชนิดนี้ ทำให้เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะรู้ได้เลยว่าอาหารจานนี้เป็นอาหารอินโดนีเซีย นอกจากนี้แล้วยังช่วยให้อาหารมีสีสีนน่ารับประทาน ไม่ดูจืดชืดอีกด้วย

สูตรและขั้นตอนการทำ Semur Ayam Medan

ความจริงแล้ว เมนูSemur Ayam Medan นี้มีชื่อเรียกกันทั่วไปว่าSemur Ayam ซึ่งไม่ได้เจาะจงว่าเป็นสูตรที่มาจากเมืองไหน เพราะแต่ละเมืองในอินโดนีเซียก็มีเคล็ดลับการทำที่ต่างกัน วันนี้เราเลยอยากจะแนะนำสูตรเมืองเมดาน ซึ่งถือว่าเป็นเมืองหนึ่งที่กำเนิดสูตรเด็ดอย่างSemur Ayam Medan ที่มีชื่อเสียง จนใครที่เคยได้ไปเที่ยวอินโดนีเซียเป็นอันต้องได้ลองเมนูนี้กัน แต่ถ้าใครยังไม่เคยได้ลองรับประทานอาหารอินโดนีเซียจานนี้แล้วหละก็ไม่ต้องเสียดายไปนะคะ เพราะวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำเมนูจานนี้ไปพร้อมๆ กัน ถ้าพร้อมแล้วเราไปเตรียมวัตถุดิบ และลงมือทำไปพร้อมกันเลยค่ะ

Semur Ayam Medan

วัตถุดิบในการทำอาหาร

  • น่องไก่ติดหนัง 6-8 ชิ้น
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนชา
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
  • น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดงหรือหอมหัวใหญ่ หั่นเป็นแว่น 50 กรัม 
  • มะเขือเทศหั่นบางๆ 1 ลูก 
  • พริกแดงแห้งเมล็ด 3-5 เม็ด
  • กานพลู 5 ชิ้น
  • อบเชยแท่ง 1 นิ้ว 
  • ลูกจันทน์เทศบด 3/4 ช้อนชา 
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
  • kecap manis 6 ช้อนโต๊ะ 
  • กะทิ 400 มล.

วัตถุดิบในการทำเครื่องสวูตว์

  • กระเทียม 4 กลีบ
  • แคนเดิลนัท 10 กรัม (หรือถั่วแมคคาเดเมีย)
  • ขิง 1 นิ้ว 

ขั้นตอนการทำเครื่องแกง

  • นำกระเทียมมาปลอกเปลือก หลังจากนั้นก็ล้างให้สะอาด
  • เสร็จแล้วนำกระเทียม แคทเดิลนัท และขิงใส่ลงเครื่องปั่น ถ้าไม่มีเครื่องปั่นให้ใช้ครกตำแทนได้ 
  • ปั่นจนกระทั่งได้เครื่องแกงมีเนื้อเนียนละเอียดดีแล้ว
  • จากนั้นตั้งพักไว้เพื่อรอประกอบอาหาร

ขั้นตอนการทำอาหาร

  • นำน่องไก่มาหมักกับน้ำมะนาว เกลือ และพริกไทยป่นใช้เวลาประมาณ 15 นาที หรืออาจจะเกินกว่านี้ได้นิดหน่อย เพื่อให้ไก่นุ่ม และไม่จืดจนเกินไป
  • ใส่น้ำมันลงในกระทะใหญ่ หรือหม้อ และนำขึ้นตั้งเตาด้วยไฟปานกลาง 
  • เมื่อน้ำมันร้อนแล้วก็ใส่น่องไก่ที่หมักทิ้งไว้ลงไป โดยคว่ำด้านหนังลงก่อน
  • ทอดจนกระทั่งหนังไก่กรอบ และเป็นสีน้ำตาลทองทีละด้าน เมื่อด้านหนึ่งได้ที่แล้วก็ให้กลับไปอีกด้านหนึ่ง จนทั่วทั้งชิ้น 
  • นำไก่ออกมาจากกระทะ เพื่อสะเด็ดน้ำมัน
  • นำน้ำมันใส่ลงในกระทะใหม่อีกครั้ง นำขึ้นตั้งไฟกลาง 
  • ใส่หอมแดงที่ซอยบาง ๆ ไว้แล้วลงไปผัดจนเปลี่ยนเป็นสีใส
  • หลังจากนั้นใส่เครื่องแกงที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ลงไป และใส่มะเขือเทศที่หั่นชิ้นบาง ๆ ตามลงไปผัดจนหอม
  • นำไก่ที่พักไว้ใส่กลับลงไปที่กระทะ ตามด้วยกับพริก กานพลู และอบเชย 
  • ปรุงรสด้วยลูกจันทน์เทศ เกลือ พริกไทยป่น และkecap manis คลุกเคล้าผสมให้เข้ากัน
  • เทกะทิที่เตรียมไว้ลงไป คนให้เข้ากันดีอีกครั้งหนึ่ง และเพิ่มไฟให้แรงขึ้น
  • หลังจากนั้นลดไฟลงให้เหลือไฟปานกลางค่อนไปทางอ่อน เพื่อเคี่ยวต่อ
  • เคี่ยวจนนำสตูว์ลดลงครึ่งหนึ่ง และน้ำดูข้นขึ้น
  • ปิดไฟ ตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมข้าวสวย
Semur Ayam Medan

ไม่ยากเลยใช่ไหมหละคะสำหรับ เมนูSemur Ayam Medan จานนี้ เพียงแต่มันใช้เวลาในการทำสักนิดหนึ่งเท่านั้นเอง แต่ว่ารสชาตนั้นถูกปาก ถูกใจอย่างแน่นอน ยิ่งถ้าได้รับประทานตอนที่เสร็จใหม่ๆ พร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ แล้วหละก็ อาหารอินโดนีเซียจานนี้ก็จะยิ่งอร่อยมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน

สนับสนุนโดย : https://ufaball.bet/เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์

Categories
อาหารนานาชาติ

Siomay อาหารทานเล่นที่อร่อยแบบจริงจัง

Siomay ที่หน้าตาเหมือนเกี๊ยวซ่า หรือขนมจีบนั่นเอง เป็นอาหารทานเล่นยอดนิยมทั้งคนในประเทศ และ นักท่องเที่ยวอีกด้วย ยิ่งรับประทานในขณะที่ยังอุ่นๆ แล้วหละก็ยิ่งอร่อยมากขึ้นไปอีก ถึงแม้เมนูนี้จะเป็นเมนูที่เหมือนจะหารับประทานได้ง่ายๆ ทั่วไป และแต่รสชาตของมันนั้นเรียกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะทั้งตัวใส้ และตัวน้ำจิ้มมีเป็นอย่างมาก

Siomay

เอกลักษณ์ของเมนูSiomay หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของ ติ่มซำเกี๊ยวปลาอินโดนีเซีย จะอยู่ตรงที่ไส้ด้านในของมันจะไม่ใส่หมู หรือมีส่วนผสมของเนื้อหมูเลย เนื่องจากประชากรณ์ส่วนใหญ่ของที่นี่เป็นอิสลาม ดังนั้นมันจะถูกแทนที่ด้วยเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา กุ้ง เป็นต้น นอกจากนี้แล้วน้ำจิ้มของSiomay ก็เป็นน้ำจิ้มถั่วสูตรเฉพาะของที่นี่อีกด้วย ดังนั้นจึงพูดได้เต็มปากเลยว่าเมนูเป็นเมนูอาหารอินโดนีเซีย อย่างแท้จริงเลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนขนมจีบของชาวจีน หรือขนมจีบของประเทศไทยเราเองก็ตาม 

สูตรและขั้นตอนการทำ Siomay

หากใครเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศอินโดนีเซียนี้ ก็ไม่ยากที่จะหารับประทานเมนูSiomay เพราะเมนูนี้จัดว่าเป็นเมนูอาหารอินโดนีเซีย ที่อร่อย อีกทั้งยังหารับประทานได้ทั่วทั้งประเทศอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นตามร้านอาหารทั่วไป หรือร้านสตรีทฟู้ดก็ตาม จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงเป็นเมนูติ่มซำเกี๊ยวปลาอินโดนีเซีย ที่ห้ามพลาดในการไปเที่ยว แต่ถ้าใครยังไม่เคยไปเที่ยวที่อินโดนีเซีย หรือว่ายังไม่มีแพลนจะไปเที่ยวเร็วๆ นี้ แต่อยากจะลองรับประทานเมนูนี้ดูบ้าง วันนี้เราก็มี สูตรSiomay และวิธีการทำมาฝากเพื่อนๆ กัน แต่แอบบอกว่าอาจจะยุ่งยากไปสักหน่อย แต่รับรองเลยว่าอร่อยแน่นอนถ้าพร้อมแล้ว ก็ไปลงมือทำไปพร้อมกันได้เลยค่ะ

Siomay

วัตถุดิบในการทำเกี๊ยว

  • แผ่นเกี๊ยว 23 แผ่น
  • เนื้ออกไก่ 200 กรัม
  • กุ้งปอกเปลือก 75 กรัม
  • ปลาแมคเคอเรล 75 กรัม
  • หัวไชเท้า 50 กรัม 
  • กระเทียม 25 กรัม
  • ซอสหอยนางรม 10 กรัม
  • น้ำมันงา 10 กรัม
  • น้ำปลา 15 กรัม
  • ซีอิ๊วขาว 8 กรัม
  • ไข่ 1 ฟอง
  • เกลือ 5 กรัม
  • ผลปรุงรสไก่ 5 กรัม
  • ผงพริกไทยขาว 5 กรัม
  • น้ำตาล 5 กรัม
  • แป้งสาลี 40 กรัม
  • แป้งมัน 150 กรัม
  • กระเทียมดองหั่นบางๆ 50 กรัม
  • แครอทขูด 50 กรัม

 วัตถุดิบในการทำซอสถั่ว

  • หอมแดง 12 กรัม
  • กระเทียม 15 กรัม
  • ถั่วลิสง 250 กรัม
  • พริกแดงเม็ดใหญ่ 25 กรัม
  • ซอสพริก 50 กรัม
  • ซีอิ๊วหวาน 50 กรัม
  • น้ำตาลทรายแดง 50 กรัม
  • น้ำสต๊อกไก่ 5 กรัม
  • เกลือ 10 กรัม
  • ใบมะกรูด 5 ใบ
  • มะกรูด 2 ลูก
  • น้ำมันปรุงอาหารสำหรับผัด 100 มล. 
  • น้ำมันปรุงอาหาร 1 ลิตร
  • น้ำ 300 มล. 

ขั้นตอนการทำเกี๊ยว

  • เตรียมเครื่องปั่นเพื่อเนื้ออกไก่ ปลาแมคเคอเรล และกุ้ง จนได้เนื้อเนียนละเอียด และปิดเครื่อง
  • จากนั้นใส่หัวไชเท้า กระเทียม ซอสหอยนางรม น้ำมันงา น้ำปลา ซีอิ๊ว ไข่ เกลือ ผงปรุงรสไก่ ผงพริกไทยขาว และน้ำตาล ตามลงไป หลังจากนั้นเปิดเครื่องปั่นอาหารอีกครั้ง ปั่นจนวัตถุดิบด้านในเนียนเป็นเนื้อเดียวกันอีกครั้ง
  • ต่อจากนั้นนำออกมาใส่ชามผสม เพิ่มแป้งมันสำปะหลัง และกระเทียมดอง ลงไป และนวดจะเข้ากันดี
  • จากนั้นชั่งไส้ 23 กรัม วางตรงกลางแผ่นเกี๊ยว พับเกี๊ยวโดยให้ด้านบนเปิดเล็กน้อยที่ คล้ายทรงภูเขา จากนั้นโรยแครอทขูดด้านบนเล็กน้อย 
  • เมื่อจับทรงเกี๊ยวเสร็จเรียบร้อยก็ นำเกี๊ยวใส่ในที่นึ่ง และนึ่งเป็นเวลา 20 นาที

 ขั้นตอนการทำซอสถั่ว

  • นำถั่วลิสงจนลงทอดในน้ำมันจนเป็นสีน้ำตาล และพักไว้
  • ทอดหอมแดง กระเทียม และพริกแดงเม็ดใหญ่ ให้สุกได้ที่ และใส่ถั่วลิสงกลับเข้าไป 
  • ปั่นผสมส่วนผสมทั้งหมดกับน้ำ 300 มล. จนเป็นเนื้อครีมเนียน จากนั้นผัดซอสถั่วลิสง และปรุงรสด้วยซอสพริก ซีอิ๊วหวาน น้ำตาลทรายแดง ผงปรุงรสไก่ และเกลือ 
  • เคี่ยวซอสถั่วลิสงเป็นเวลา 30 นาทีด้วยไฟปานกลาง และต้องคนตลอดเวลา
  • เมื่อเคี่ยวจนข้นได้ที่แล้วก็ตั้งพักไว้เตรียมเสิร์ฟ คู่กับเกี๊ยวที่นึ่งสุกแล้ว
Siomay

นอกจากไส้ของ เมนูSiomay  จะนิยมนำมาห่อด้วยแผ่นเกี๊ยวแล้วนั้น ไส้ของมันยังนิยมนำมาห่อด้วยกะหล่ำปลีนนึ่ง หรือยัดไส้ของมะระและนำไปนึ่งจนสุก เพื่อความหลากหลายของรสชาต นอกจากนี้เวลาที่เสิร์ฟเมนูติ่มซำเกี๊ยวปลาอินโดนีเซีย นี้ก็มักจะเสิร์ฟตอนที่มันกำลังร้อนๆ และเสิร์ฟคู่กับขนมปังปิ้งกรอบ และไข่ต้มหรือไข่ลวก เพื่อเพิ่มรสชาตให้น่าสนใจมากขึ้นไปอีกด้วย บอกได้เลยว่าเมนูอาหารอินโดนีเซียจานนี้หามพลาดอย่างแน่นอน

สนับสนุนโดย : https://hilospec.com/hilo-thai/

Categories
อาหารนานาชาติ

สะเต๊ะอินโดนีเซีย อร่อยเพลินเกินห้ามใจไหว

ถ้าพูดถึงสะเต๊ะ แน่นอนว่าเป็นอาหารที่หลายคนรู้จักกัน เพราะในประเทศไทยของเราก็เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมมากๆ หรือจะที่มาเลเซียก็นิยมมากไม่แพ้กัน แต่ความเป็นจริงแล้วสะเต๊ะดั้งเดิมนั้นมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอินโดนีเซียนั่นเอง ซึ่งในแต่ละประเทศก็จะมีรสชาต และเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป โดยหนึ่งในสะเต๊ะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนั่นคือ สะเต๊ะอินโดนีเซีย เพราะด้วยรสชาต หน้าตาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นนี้ทำให้มันเป็นที่นิยมมาก สำหรับคนในประเทศ และนักท่องเที่ยวอย่างเรา เพราะเมื่อไหร่ที่ไปเที่ยวอินโดนีเซีย เป็นอันต้องจดเมนูนี้อยู่ในลิสนั่นเอง

สะเต๊ะอินโดนีเซีย

สะเต๊ะอินโดนีเซียเป็นหนึ่งในเมนูอาหารอินโดนีเซีย ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เพราะมีนักท่องเที่ยวหลายคนเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศแห่งนี้เพื่อที่ได้จะได้ลิ้มลองมัน เนื่องจากเอกลักษณ์ของน้ำจิ้มถั่วที่กลมกล่อมมีครบทุกรสชาต หรือจะเป็นในส่วนของเนื้อสัตว์ที่หมักด้วยเครื่องเทศต่างๆ ได้อย่างเข้าเนื้อ จนได้ทั้งความหอม หวาน และเนื้อที่นุ่ม เข้ากันได้ดีกับน้ำจิ้ม เรียกได้ว่าไม่แปลกใจเลยว่าทำ เมนูสะเต๊ะอินโดนีเซีย ถึงเป็นเมนูที่ได้รับความชื่นชอบมากๆ เมนูหนึ่งของนักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้

สูตรและขั้นตอนการทำ สะเต๊ะอินโดนีเซีย

สะเต๊ะอินโดนีเซียนั้น เป็นเมนูที่หารับประทานได้ทั่วทั้งประเทศอินโดนีเซีย เพราะจัดว่าเป็นเมนูอาหารอินโดนีเซียยอดนิยม โดยรสชาติของเมนูจะก็จะมีความแตกต่างกันตามแต่ละภูมิภาค แต่ความอร่อยนั้นเรียกได้ว่าอร่อยทุกสูตร ซึ่งสูตรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนั่นคือ สูตรสะเต๊ะอินโดนีเซีย จากบาหลี นั่นเอง เพราะไม่ว่าใครที่เคยได้ลองลิ้มชิมรสของสูตรนี้ก็ต่างพูดกันว่าอร่อยถูกปากมากที่สุด ซึ่งวันนี้เราก็ไม่รอช้าทีจะชวนเพื่อนๆ มาลองทำเมนูสะเต๊ะสูตรบาหลี ไว้รับประทานกันเลย เพื่อบางคนที่เคยรับประทานแล้วติดใจจะได้ทำรับประทานให้หายคิดถึง และคนที่ไม่เคยได้ลองจะได้ลองรับประทานดูว่าทำไมมันถึงเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมมากๆ ถ้าพร้อมแล้ว เราไปเตรียมอุปกรณ์ และเริ่มทำไปพร้อมๆ กันได้เลยค่ะ

สะเต๊ะอินโดนีเซีย

วัตถุดิบในการหมักเนื้อไก่

  • เนื้อน่องไก่ 500 กรัม 
  • kecap manis 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • เนยจืด 1 ช้อนโต๊ะ 
  • ไม้เสียบขนาดเล็ก 12 – 14 ท่อน

วัตถุดิบในการทำน้ำจิ้มถั่ว

  • น้ำมันปรุงอาหาร 1 ช้อนโต๊ะ 
  • กระเทียมสับ 2 กลีบ
  •  หัวหอมเล็ก หรือใหญ่หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/2 กรัม
  • พริกขี้หนู 3 เม็ด
  • เนยถั่ว 1/2 ถ้วย 
  • กะทิ 1 ถ้วยตวง 
  • kecap manis 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • ถั่วลิสงคั่วบด 1/4 ถ้วยตวง 
  • น้ำมะนาวสด 1 – 2 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการเตรียมน้ำจิ้มถั่ว

  • เริ่มทำน้ำจิ้มถั่วโดยใส่น้ำมันในกระทะนำขึ้นตั้งไฟร้อนปานกลาง ใส่กระเทียม หอมใหญ่ และพริกลงไป และผัดจนกระทั่งส่งกลิ่นหอม หรือหัวหอมสุกดี
  • ลดไฟลงจากนั้นใส่เนยถั่ว กะทิ kecap manis ซีอิ๊วขาว และเกลือ เคี่ยวเป็นเวลา 10 นาที คอยคนเป็นระยะๆ และพักไว้
  • หลังจากนั้นคั่วถั่วลิสงบดในกระทะให้หอม
  • จากนั้นนำถัวคั่วใส่ลงในกระทะที่พักน้ำจิ้มไว้ และบีบน้ำมะนาวลงไป
  • สุดท้ายเคี่ยวต่ออีก 2 นาที ก็ปิดไฟ และปล่อยให้เย็นเล็กน้อยก่อนเสิร์ฟ เพื่อที่น้ำจิ้มจะได้ข้นขึ้น

ขั้นตอนการเตรียมไก่สำหรับย่าง

  • หั่นไก่เป็นชิ้นหนาประมาณ 1.5 ซม.
  • เสียบไม้ – 4 ถึง 5 ชิ้นต่อ 1 ไม้เสียบ
  • นำ kecap manis และเนย มาผสมรวมกันเพื่อเตรียมไว้สำหรับทาตอนย่าง
  • หลังจากนั้นนำไก่มาย่างบนตะแกรงไฟหรือ ถ้าไม่มีก็สามารถย่างในกระทะได้ โดยระหว่างย่างให้ทาเนยที่ผสมกับ kecap manis ทาเรื่อย ๆ จนกระทั่งเนื้อไก่สุกดีแล้ว
  • เมื่อไก่สุกดีแล้วก็จัดใส่จานเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มถั่วได้เลย
สะเต๊ะอินโดนีเซีย

ถ้าใครมีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศอินโดนีเซียลองไปหา เมนูสะเต๊ะอินโดนีเซีย นี้รับประทานกันได้ตามร้านอาหารทั่วไป หรือตามร้านสตีทฟู๊ดได้เลยนะคะ เพราะเมนูเรียกได้ว่าเป็นเมนูอาหารอินโดนีเซียอย่างแม้จริง จึงหารับประทานได้ไม่ยากเลย แต่ถ้าใครยังไม่มีโอกาสได้เดินทางไปท่องเที่ยวก็สมารถทำเมนูนี้ตามสูตรด้านบนไว้รับประทานกันในครอบครัว หรือใครจะนำ เมนูสะเต๊ะอินโดนีเซีย มาแทนเมนูบาร์บีคิวธรรมดาในงานปาร์ตี้ หรือเพื่อใช้สำหรับรับแขกก็น่าสนใจไปอีกแบบ

สนับสนุนโดย : https://hilospec.com

Categories
อาหารนานาชาติ

Rendang เข้มข้นจัดจ้านทุกคำ

Rendang เมนูรสชาตจัดจ้าน หอมเครื่องเทศ และเนื้อสัตว์ที่ถูกเคี้ยวจนนุ่มละมุนลิ้นนี้ เป็นเมนูที่ชวนให้เจริญอาหารมาก และหลายคนที่เคยรับประทานแล้วต่างก็ยืนยันว่าเป็นเมนูที่อร่อย และเข้มข้นเป็นอย่างยิ่ง เรียกได้ว่าถูกปาก ถูกใจหลายๆ คนแน่นอน โดยเฉพาะชาวเอเชียอย่างเรา

Rendang

ถ้าใครเคยไปเที่ยวอินโดนีเซีย ต้องเคยรับประทาน เมนูRendang หรือ แกงเผ็ดแห้ง กันอย่างแน่นอน ยิ่งถ้าเป็นคนที่ชอบรับประทานอาหารเผ็ดร้อนจัดจ้านอยู่แล้ว ก็คงจะไม่พลาดเมนูนี้ในการไปเที่ยว เพราะเมนูนี้เป็นหนึ่งใน เมนูอาหารอินโดนีเซีย ที่มีเครื่องแกงอินโดนีเซียไว้หลายชนิดจึงทำให้ได้รสชาติเข้มข้น และหอมมากๆ ซึ่งทำให้หลายคนที่ได้ลองรับประทานแล้วก็รู้สึกติดอกติดใจกันไปตามๆ กันอีกด้วย แต่ก็ยังมีหลายคนเข้าใจคิดผิดว่าเมนูนี้เป็นเมนูประจำชาติของมาเลเซีย เนื่องจากที่ประเทศมาเลเซียนี้ก็เมนูRendang อยู่เช่นกัน แต่ถ้าลองพิจารณาดีๆ จะรู้ว่ารสชาตของทั้ง 2 ประเทศมีความแตกต่างกัน อีกทั้งความเป็นจริงแล้วเมนูนี้มีถิ่นกำเนิดมาจากอินโดนีเซีย และแพร่หลายไปยังมาเลเซียนั่นเอง รสชาต และวิธีการทำจึงใกล้เคียงกันมาก

สูตรและขั้นตอนการทำ Rendang

ความน่าสนใจของเมนูRendang นั้นคือเป็นการรวมตัวกันของสมุนไพรอินโดนีเซียหลายชนิด นำมาตำให้ละเอียดเป็นจนกลายมาเป็นเครื่องแกงเผ็ดอินโดนีเซียที่มีกลิ่นหอม คล้ายๆ กับพริกแกงเผ็ดของไทยเรานี่เอง อีกทั้งยังนำมาเคี่ยวกับกะทิจนได้เนื้อสัตว์ที่นุ่ม ละมุนลิ้น รวมถึงได้รสชาติที่เข้มขึ้นถึงใจ และสีสันที่สวยงามอีกด้วย เรียกได้ว่าเมื่อรับประทาน เมนูRendang จะทำให้คุณได้สัมผัสกับเมนูอาหารอินโดนีเซียแบบต้นฉบับเลยก็ว่าได้  เชื่อว่าหลายคนที่เคยรับประทานก็คงจะชอบอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าใครยังไม่เคยได้ลองรับประทานวันนี้เราก็มีสูตรเด็ด รวมถึงวิธีการทำมาฝากเพื่อนๆ กัน ถ้าอยากทำแล้วก็ไปเตรียมวัตถุดิบ อุปกรณ์ และลงมือทำไปด้วยกันเลยค่ะ

Rendang

วัตถุดิบในการปรุง

  • เนื้อวัวส่วนน่องหั่นเป็นชิ้นทรงลูกเต๋า 500 กรัม 
  • น้ำมันปรุงอาหาร ½ ถ้วย
  • โป๊ยกั๊ก 2 ฝัก (หากไม่ชอบไม่ใส่ก็ได้)
  • ผักชีฝรั่งสำหรับโรยหน้าตามชอบ

วัตถุดิบในการทำเครื่องแกง

  • กะทิ ½ กระป๋อง
  • ตะไคร้ (สับละเอียด) 2 ช้อนโต๊ะ 
  • หอมหัวใหญ่ (หั่นเต๋า) 1 หัว 
  • กระเทียม 4 กลีบ
  • ข่าหรือขิง ขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ
  • พริกแดง 1 ถึง 3 เม็ด
  • มะขามเปียก ¾ ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
  • น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
  • ขมิ้น ½ ช้อนชา
  • ผักชีป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  • ยี่หร่าป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  • อบเชยป่น 1 ½ ช้อนชา
  • ลูกจันทน์เทศบด ¼ ช้อนชา
  • กานพลูบด ¼ ช้อนชา
  • กะปิ 1 ช้อนชา (ถ้าไม่มีใช้น้ำปลาแทนประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ)

ขั้นตอนการทำเครื่องแกง

  • ใส่ส่วนผสมในการทำเครื่องแกงทั้งหมดลงเครื่องปั่น
  • หลังจากนั้นปั่นจนกระทั่งส่วนผสมเนียนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน ก็จะได้เครื่องแกงเผ็ดอินโดนีเซีย

(หากใครไม่มีเครื่องปั่นสามารถนำวัตถุดิบแห้งๆมาต้มจนนิ่มและนำมาตำให้ลเอียด หลังจากนั้นจึงผสมลงในวัตถุดิบที่เป็นน้ำ)

ขั้นตอนการทำแกง

  • เทนน้ำมันลงกระทะ และนำขึ้นตั้งไฟกลาง (หากใครไม่ใส่ก็ได้ แต่ต้องระวังเครื่องแกงติดกระทะ)
  • เทเครื่องแกงลงในกระทะหรือหม้อ หลังจากนั้นใส่เนื้อวัว และโป๊ยกั๊กลงไปผัดให้เข้ากัน 
  • หลังจากนั้นลดไฟลง เคี่ยวจนกระทั่งน้ำแกงงวดลงจนเกือบแห้ง และเนื้อวัวเปื่อยนุ่มดีแล้ว หากว่ายังไม่นุ่มให้เติมน้ำสะอาด และเคี่ยวต่อได้ โดยระหว่างเคี่ยวให้คนเป็นระยะๆ 
  • เมื่อเคี่ยวจนได้ที่แล้วก็ชิมรสชาติให้กลมกล่อมอีกครั้งก็เป็นอันเรียบร้อย
  • ตักเสิร์ฟใส่จานและโรยหน้าด้วยผักชีฝั่งซอย
Rendang

ใน สูตรRendang ด้านบนนี้จะเป็นในส่วนของเนื้อวัว แต่ความจริงแล้วเราสามารถเปลี่ยนเนื้อสัตว์เป็นชนิดอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อแพะ เนื้อแก หรือเนื้อไก่ แต่ถ้าเป็นในส่วนของเนื้อไก่ โดยปกติแล้วสูตรต้นตำหรับนั้นต้องลอกหนังไก่ออกไป เพื่อให้น้ำเครื่องแกงเผ็ดอินโดนีเซียเคลือบอยู่บนเนื้อไก่ และสามารถซึมเข้าไปในเนื้อได้ดีขึ้น เมนูRendang นั้นมักจะนิยมรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ เท่านี้คุณก็จะได้สัมผัสกับเมนูอาหารอินโดนีเซียในแบบต้นฉบับแล้ว

สนับสนุนโดย : https://hilospec.com/hilo-thai/

Categories
อาหารนานาชาติ

Rawon ซุปเนื้อตุ๋นสูตรเข้มข้นจากอินโดนีเซีย

วันนี้เราอยากจะนำเสนออาหารที่ดูหน้าตาเหมือนกับเนื้อตุ๋นของไทยเรา นั่นก็คือ Rawon รียกได้ว่าเหมือนเป็นเมนูฝาแฝดกันเลยทีเดียว แต่ถ้าลองชิมดูสักครั้งแล้วหละก็จะบอกเลยว่ารสชาตินั้นไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน เพราะทั้ง 2 เมนูนั้นก็มีรสชาตที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกัน ต้องลองชิม และเปรียบเทียบด้วยตัวเองถึงจะรู้ว่ามันอร่อยแตกต่างกันอย่างไร และรับรองได้เลยว่ามันน่าจะเป็นหนึ่งในเมนูที่อยู่ในใจอย่างแน่นอน

Rawon

Rawonหรือ ที่เรารู้จักกันในชื่อของเนื้อตุ๋นอินโดนีเซีย แน่นอนว่าเป็นหนึ่งในเมนูอาหารยอดนิยมที่หลายคนรู้จักกันดีเมื่อไปเยือนประเทศนี้ ซึ่งเมนูนี้ก็มีหลากหลายสูตร แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนั่นก็คือ สูตรที่มีถิ่นกำเนิดมาจากเมืองสุราบายา อยู่ที่เกาะชวา ทางตอนใต้ของอินโดนีเซีย เพราะด้วยความอร่อยของเมนู Rawon สูตรเมืองสุบารายานี้จึงทำให้เมนูนี้ได้รับความนิยมในการรับประทานมากทั้งกับคนในประเทศเอง และนักท่องเที่ยวอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเมนูอาหารอินโดนีเซียประจำชาติเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าใครที่มาเที่ยวก็ต้องได้ลองสักครั้งหนึ่ง แต่ถ้าใครยังไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยววันนี้เราจะทำให้คุณได้สัมผัสกับเมนูนี้ด้วยตัวเอง 

สูตรและขั้นตอนการทำ Rawon

อย่างที่บอกไว้ข้างต้นฟว่าเมนูRawonนั้นหน้าตาช่างดูคล้ายกับเนื้อตุ๋นบ้านเราเสียเหลือเกิน แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่เหมือนกันเลย เพราะเสน่ห์ของเมนูนี้คือการใส่เมล็ด keluak ซึ่งเป็นผลของต้นไม้ที่มีอยู่มากในอินโดนีเซีย เมื่อใส่ลงไปในน้ำซุปที่ใช้เคี่ยวเนื้อจะทำให้น้ำซุปมีสีน้ำตาลเข้มสวยงาม อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวอีกด้วย นอกจากนี้แล้วยังมีในส่วนของเครื่องเทศต่างๆ ที่ใส่ลงไปในขณะที่เคี่ยวเนื้อ ก็ยิ่งทำให้ได้น้ำซุปที่หอม หวาน และเข้มข้นมากอีกด้วย นับว่าเป็นหนึ่งในเมนูอาหารอินโดนีเซีย ที่มีเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก หากใครพลาดเมนูนี้ไปรับรองว่าจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน  เพื่อไม่ให้เป็นการพลาดเมนูอร่อยนี้ วันนี้เราเลยอยากจะมาชวนเพื่อนๆ ทำRawon สูตรเมืองสุบารายานี้กัน รับรองเลยว่าอร่อยไม่แพ้ต้นตำหรับอย่างแน่นอน

Rawon

วัตถุดิบในการทำ

  • เนื้อวัวส่วนน่องหั่นลูกเต๋า 500 กรัม 
  • น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 6 ½ ถ้วย
  • เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยดำ ¼ ช้อนชา
  • ใบมะกรูดซอย 6 ใบ
  • ตะไคร้ซอย 1 ช้อนชา 
  • ต้นหอมซอย 1 ต้น 
  • น้ำตาล 2 ½ ช้อนชา
  • มะขามเปียก 1 ช้อนชา (บวกกับน้ำสำหรับเจือจาง 1 ช้อนโต๊ะ)
  • หอมแดงสับ 7 หัว
  • กระเทียมสับ 3 กลีบ 
  • keluak แช่น้ำร้อน 5 ผล
  • ขมิ้นสด ½ นิ้ว
  •  ขมิ้นบด 1/4 ช้อนชา
  • ถั่วแคทเดิลสับหยาบ 4 เมล็ด

ขั้นตอนการทำ

  • เทน้ำมันใส่ลงในหม้อขนาดใหญ่ และนำขึ้นตั้งเตาด้วยไฟปานกลาน จนถึงแรง
  • เมื่อน้ำมันร้อนแล้วให้นำหอมแดงสับ กระเทียมสับ ใบมะกรูดซอย และตะไคร้ซอย ใส่ลงไปผัดจนส่วนผสมจนส่งกลิ่นหอม
  • หลังจากนั้นใส่เนื้อขาวัวหั่นเต๋าลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงต่อจนเนื้อค่อนข้างสุก
  • ใส่น้ำ keluak ขมิ้นสด ขมิ้นบด ถั่วแคทเดิลสับหยาบ เกลือ พริกไทย มะขามเปียก และน้ำตาลทราย ที่เตรียมไว้ลงไปทั้งหมด 
  • จากนั้นลดไฟลงเป็นไฟอ่อน แล้วเคี่ยวจนซุปเดือด และเนื้อเปื่อย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
  • เมื่อเคี่ยวจนได้ที่แล้วแนะนำว่าให้ลองชิมรสชาตอีกครั้งหนึ่ง หากยังไม่ถูกปากก็สามารถเติมได้ แต่ถ้าหากว่าชอบแล้วก็ปิดไฟ แล้วใส่ต้นหอมซอยลงไปในหม้อ และคนให้เข้ากันดีอีกครั้งหนึ่ง
  • หลังจากนั้นก็ตักใส่ถ้วยเตรียมรับประทานได้เลย
Rawon

อยากให้ทุกคนได้ลองทำเมนูRawon ตามสูตรด้านบนนี้กันดูนะคะ รับรองได้เลยว่าคุณจะอิ่มอร่อยกับเมนูอาหารนี้อย่างแน่นอน แต่อยากจะบอกว่าเมนูนี้ชาวอินโดนีเซียมักจะรับประทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ไข่ต้ม หอมแดงเจียว ถั่วงอก แครกเกอร์กุ้ง รวมทั้งปรุงรสด้วยพริก sambal terasi หรือ samba oelek  ซึ่งเป็นน้ำพริกพื้นเมืองของชาวอินโดนีเซียเพื่อให้ได้รสชาตเผ็ดร้อนเพิ่มขึ้นมา  อีกทั้งยังช่วยให้เมนู Rawon ของเรานั้นมีรสชาติที่เข้มข้นจนอยากรับประทานเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน เห็นไหมหละคะว่าเท่านี้เราก็จะได้รับประทานอาหารอินโดนีเซียที่เหมือนเจ้าของประเทศมาทำให้รับประทานเองถึงที่บ้านเลย

สนับสนุนโดย : https://hilospec.com

Categories
อาหารนานาชาติ

Mie Aceh ผัดหมี่อินโดนีเซียที่ต้องลอง

Mie Aceh เมนูเส้นที่โด่งดังมากของประเทศอินโดนีเซีย ที่ไม่ว่าใครที่เดินทางไปเที่ยวที่นี่ก็ต้องได้ลองรับประทานเมนูนี้กันแทบจะทุกคน เพราะด้วยรสชาตที่อร่อย อีกทั้งยังอิ่มท้องอีกด้วย นอกจากนี้แล้วยังหารับประทานได้ง่าย เพราะไม่ว่าร้านอาหารเล็ก ใหญ่ หรือร้านสรีทฟู้ดทั่วไปก็มีเมนูนี้ขายเช่นกัน

Mie Aceh

แน่นอนว่าถ้าพูดถึงเมนูMie Aceh หรือ ผัดหมี่อาเจะห์ สำหรับคนที่เคยไปเที่ยวอินโดนีเซียแล้วนั้น คงจะไม่มีใครไม่รู้จักอย่างแน่นอน เพราะเมนูนี้เปรียบเสมือนอาหารอินโดนีเซียประจำชาติไปแล้ว ยิ่งถ้าคุณไปเที่ยวที่เมืองอาเจะห์แล้วด้วยหละก็บอกได้เลยว่าเมนูนี้มีอยู่แทบจะทุกร้านอย่างแน่นอน เพราะเป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองนี้ แต่ที่เมืองอื่นก็มีให้รับประทานได้ทั่วไปไม่แพ้กัน นี่คงเป็นสิ่งที่การันตีได้ถึงความอร่อยของผัดหมี่อาเจะห์ ได้อีกเรื่องหนึ่ง

สูตรและขั้นตอนการทำ Mie Aceh

หลายคนที่เคยรับประทานเมนูMie Aceh นี้แล้วต่างก็บอกกันเป็นเสียงเดียวกันว่ามันช่างเป็นเมนูผัดหมี่ที่อร่อยต่างจากที่อื่นที่เคยรับประทานมา เพราะด้วยหมี่เส้นหนา ผัดคลุกเคล้าเข้ากับเครื่องเทศหมี่อาเจะห์ที่รสชาติเข้มข้น และเผ็ดร้อนเหล่านี้เคลือบอยู่บนเส้นหมี่ รวมทั้งเนื้อสัตว์ที่ใส่เพิ่มเข้ามาก็ได้รสชาตเข้มข้นนี้อีกด้วยเช่นกัน ถ้าใครอยากรู้ว่าเมนูนี้อร่อยขนาดไหน วันนี้เราอยากจะชวนคุณมาลองทำอาหารอินโดนีเซียจานนี้ไปพร้อมๆ กันเลย

Mie Aceh

วัตถุดิบในการทำอาหาร

  • เส้นบะหมี่ไข่เอเชีย 350 กรัม (เส้นสปาเก็ตตี้ ก็สามารถใช้แทนได้)
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ 
  • กุ้งตัวโต (แกะเปลือกแล้ว) 10-12 ตัว
  • ผงยี่หร่า 1 ช้อนชา
  • ผงกะหรี่คุณภาพดี 1 ช้อนชา
  • น้ำซุปไก่/เนื้อ 1 ถ้วยขึ้นไป
  • ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ
  • เคแคปมานิส (ซีอิ๊วหวาน) 3 ช้อนโต๊ะ
  • กะหล่ำปลี ขูดฝอย ¼ หัว
  • ถั่วงอก 2 ถ้วย

ส่วนผสมซอสผัด

  • sambal oelek(ซอสอินโดนีเซีย) 2 ช้อนโต๊ะ 
  • พริกไทย 2-3 เม็ด
  • หอมแดงปอกเปลือก 3 หัว
  • กระเทียมปอกเปลือก 3 กลีบ
  • แคทเดิลนัท 4 เมล็ด
  • มะเขือเทศลูกใหญ่ 1 ลูก
  • น้ำมันปรุงอาหาร ¼ ถ้วย

ขั้นตอนการทำซอส

  • นำหอมแดง และกระเทียมมาปอกเปลือกออก ล้างให้สะอาด
  • หลังจากนั้นใส่ลงในเครื่องปั่น หลังจากนั้นก็ใส่ส่วนผสมอื่นๆ ที่ใช้สำหรับทำซอสลงตามไป
  • ใส่น้ำมันเล็กน้อยเพื่อให้ปั่นได้ง่ายขึ้น
  • หลังจากนั้นก็ปั่นให้ละเอียด จนเนียนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน 
  • เสร็จแล้วตั้งพักไว้เพื่อนำมาประกอบอาหาร

ขั้นตอนการต้มเส้น และทำอาหาร

  • นำหม้อใส่น้ำขึ้นตั้งเตาไฟด้วยไฟกลาถึงแรงจนน้ำเดือน
  • ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อยเพื่อนไม่ให้เส้นติดกันเป็นก้อน (หรือจะไม่ใส่ก็ได้)
  • เมื่อน้ำเดือดแล้วให้นำเส้นที่เตรียมไว้ใส่ลงไปต้ม โดยถ้าเราใช้เส้นบะหมี่ไข่แบบสดก็ให้ต้ม 3 นาที และล้างด้วยน้ำสะอาดเย็นๆ เพื่อไม่ให้เส้นอืด หรือถ้าใครใช้เป็นเส้นสปาร์เก็ตตี้ให้ต้มเส้นในระดับกึ่งสุก หรือเกือบสุกจะดีที่สุด หลังจากนั้นก็รีบล้างน้ำเย็นเช่นเดียวกัน
  • นำกระทะขึ้นตั้งไฟด้วยไฟกลาง หลังจากนั้นใส่น้ำมันลงไป 1 ช้อนโต๊ะ
  • เมื่อน้ำมันร้อนแล้วให้ใส่กุ้งที่เตรียมไว้ลงไปผัดจนสุก 
  • กุ้งสุกแล้วให้รีบตักขึ้น และพักไว้
  • หลังจากนั้นเติมน้ำลงในกระทะที่ใช้ผัดกุ้งก่อนหน้านี้
  • เติมน้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะที่เหลือลงไป 
  • เมื่อน้ำร้อนแล้วให้นำกะหล่ำปลีหั่นฝอยใส่ลงไปผัดจนผักเริ่มสลดลง
  • นำกะหล่ำปลีที่ผัดเสร็จแล้วใส่ไว้ในจานเดียวกันกับกุ้ง
  • หลังจากนั้นใส่ซอสที่เตรียมไว้ลงในกระทะใบเดิม ใส่ผงยี่หร่า และผงกะหรี่ลงไปผัดจนหอม หรือประมาณ 5 นาที
  • ต่อจากนั้นใส่เส้นที่เตรียมไว้ลงไป ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว และเคคัปมานิสลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันดี
  • หากน้ำซอสแห้งเกินไป ให้เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย และผัดต่อไปประมาณ 2 นาที เพื่อให้น้ำซอสซึมเข้าไปในเส้น
  • เมื่อเส้นในกระทะเข้าที่ดีแล้วให้ใส่กุ้ง และกะหล่ำปลีที่พักไว้ลงไปคลุกให้เข้ากันดี
  • ชิมรสชาติให้ออกรสเผ็ด เปรี้ยวอมหวาน และเค็มเล็กน้อย หากยังไม่กลมกล่อมสามารถเติมเกลือและเคคัปมานิสได้
  • ตักใส่จานเตรียมเสิร์ฟได้เลย
Mie Aceh

เห็นไหมหละคะว่าวัตถุดิบ และวิธีการทำเมนูMie Aceh นี้ไม่ยากเลย เท่านี้เราก็จะได้รับประทานอาหารอินโดนีเซียแบบต้นฉบับกันแล้ว แต่ถ้าใครอยากจะเพิ่มรสชาติของเมนูนี้ให้เข้มข้นขึ้นอีกก็สามารถบีบมะนาวลงไปเพื่อตัดเลี่ยนได้ นอกจากนี้แล้วเมนู ผัดหมี่อาเจะห์ นี้ยังนิยมรับประทานคู่กับข้าวเกรียบทอดของอินโดนีเซีย เพื่อเพิ่มรสชาต และรสสัมผัสที่กรุบกรอบอีกด้วย

สนับสนุนโดย : https://gclubspecial168.com/

Categories
อาหารนานาชาติ

Malbi Sapi Palembang สตูว์เนื้อในซอสหวาน

ถ้าใครเป็นสายเนื้อชอบรับประทานเนื้อแล้วหละก็ ต้องห้ามพลาดที่จะลองเมนู Malbi Sapi Palembang บอกได้คำเดียวเลยว่าอร่อยเด็ดแน่นอน ภายนอกอาจจะมองดูเหมือนเมนูเนื้อตุ๋นแบบเดิม ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันพิเศษกว่านั้น ถ้าอยากรู้แล้วว่าทำไมมันถึงพิเศษ เราไปทำความรู้จักเมนูนี้ด้วยกันเลยค่ะ

Malbi Sapi Palembang

เป็นหนึ่งในเมนู อาหารอินโดนีเซียที่มีชื่อเสียงเมนูหนึ่งเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่านักท่องเที่ยวหลายคนที่เคยเดินทางไปเที่ยวประเทศนี้แล้ว ก็มักจะได้ลองลิ้มรสความอร่อยของอาหารจานนี้อย่างแน่นอน แถมหลายคนก็ติดอก ติดใจกันซะด้วย อาจจะเป็นเพราะว่ารสชาตของมันที่เน้นเครื่องเทศอินโดนีเซียอย่างจัดเต็ม ช่างแตกต่างจากสตูว์เนื้อธรรมดาที่เราเคยรับประทานก็เป็นได้ และเมนูก็ไม่ได้หารับประทานได้ง่ายๆ ถ้าไม่ได้เที่ยวที่นี่ 

สูตรและขั้นตอนการทำ Malbi Sapi Palembang

นอกจากเมนูMalbi Sapi Palembang จะอัดแน่นไปด้วยเครื่องเทศอินโดนีเซียที่ใส่ลงไปในขณะที่เคี่ยวจนมีกลิ่นหอมชวนรับประทานแล้วนั้น อีกจุดเด่นหนึ่งที่ดึงดูใจคือ การใส่ซีอิ๊วหวาน kecap manis ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในเครื่องปรุงสูตรพิเศษของอินโดนีเซียลงไป เพื่อให้ได้รสชาตที่มีเอกลักษณ์ และกลิ่นที่หอมมากยิ่งขึ้นอีกด้วย จึงไม่แปลกใจเลยใช่ไหมหละคะ ว่าทำไมเมนูนี้จึงถูกปาก ถูกใจใครหลายๆ คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ชอบการรับประทานเนื้อ เพราะในเมนูนี้คุณจะไม่ได้สัมผัสถึงความเหนียวของเนื้อนี้เลย เนื่องจากเนื้อต้องผ่านกระบวนการเคี่ยวเป็นเวลานานจนกว่าเนื้อจะนุ่ม และนำซอสจะเข้มข้นขึ้น นอกจากนี้แล้วเนื้อยังไม่มีกลิ่นสาบอีกด้วย เพราะกลิ่นสาบของมันจะถูกแทนที่ด้วยกลิ่นของเครื่องเทศนั่นเอง มาถึงตรงนี้หลายคนก็คงอยากจะอยากทำเมนูอาหารอินโดนีเซียจานนี้กันแล้วใช่ไหมหละคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปเตรียมวัตถุดิบ และลงมือทำไปพร้อมกันได้เลยค่ะ

Malbi Sapi Palembang

วัตถุดิบในการทำอาหาร

  • น้ำมัน 3 ช้อนโต๊ะ
  • เนื้อวัวหั่นเป็นลูกเต๋าขนาด 1 นิ้ว 800 กรัม (เลือกส่วนไหนก็ได้ที่ชอบ)
  • น้ำเปล่า 1 ลิตร
  • kecap manis 100 มล. 
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • น้ำตาล 1 ช้อนชา
  • ลูกจันทน์เทศบด 1/2 ช้อนชา
  • พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา

วัตถุดิบในการทำเครื่องแกง

  • หอมแดง 100 กรัม 
  • กระเทียม 4 กลีบ
  • ขิง 1 นิ้ว 
  • แคทเดิลนัท 5 เม็ด
  • เมล็ดผักชี 2 ช้อนชา 
  • ยี่หร่า 1/2 ช้อนชา 

ขั้นตอนการทำเครื่องแกง

  • นำหอมแดง และกระเทียมมาปลอกเปลือก หลังจากนั้นก็ล้างให้สะอาด
  • เสร็จแล้วนำหอมแดง กระเทียม แคทเดิลนัท ขิง เมล็ดผักชี และยี่หร่าใส่ลงเครื่องปั่น ถ้าไม่มีเครื่องปั่นให้ใช้การตำแทนได้ 
  • ปั่นจนกระทั่งได้เครื่องแกงที่เนื้อเนียนละเอียดดีแล้ว
  • จากนั้นตั้งพักไว้เพื่อรอประกอบอาหาร

ขั้นตอนการทำอาหาร

  • นำน้ำมันใส่ลงในกระทะ และขึ้นตั้งเตาด้วยไฟกลาง
  • นำเครื่องแกงที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในกระทะ ผัดจนกระทั่งเครื่องแกงเริ่มหอม ใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที
  • หลังจากนั้นนำเนื้อที่หั่นแล้วใส่ลงไป คลุกเคล้ากับเครื่องแกงในกระทะจนทั่วดีอีกครั้ง
  • ผัดต่อไปอีกสักระยะจนเนื้อด้านนอกเริ่มเปลี่ยนสี ไม่ใช่สีแดงแล้ว
  • เมื่อเนื้อเริ่มสุกได้ที่แล้วก็ให้เติมน้ำ ตามด้วย kecap manis เกลือ น้ำตาล ลูกจันทน์เทศบด และพริกไทยป่นลงในหม้อ คนให้เข้ากันดี
  • ลดความร้อนลง โดยใช้ความร้อนต่ำ และเคี่ยวต่อจนกระทั่งน้ำซอสเกือบแห้ง และเนื้อสุก นุ่มกำลังดีแล้ว ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง แต่ถ้าเนื้อเหนียวมากก็เพิ่มเวลาในการเคี่ยวต่อไปได้ แต่ถ้าน้ำแห้งเกินไปต้องเติมน้ำด้วย ไม่เช่นนั้นจะทำให้ไหม้ได้
  • ชิมรสชาตให้ถูกปากอีกครั้ง หากยังไม่ใช่รสชาตที่ชอบสามารถปรับได้ด้วยเกลือ และน้ำตาลได้ตามความต้องการ
Malbi Sapi Palembang

เมนูMalbi Sapi Palembang คงจะถูกปากสายเนื้อใช่ไหมหละคะ แต่ถ้าใครไม่ใช่สายเนื้อเราก็หวังว่าคงจะถูกปากเช่นเดียวกัน ยิ่งถ้าได้รับประทานอาหารอินโดนีเซียจานนี้คู่กับข้าวสวยร้อนๆ แล้วหละก็ยิ่งทำให้เจริญอาหารมากกว่าเดิมอีก และข้อดีอีกอย่างของเมนูนี้คือถ้ารับประทานครั้งเดียวไม่หมดก็สามารถเก็บใส่ตู้เย็นไว้รับประทานครั้งหน้าได้อีก ไม่ทำให้เสียรสชาต และแถมยังได้รสชาตก็จะยิ่งเข้มข้นมากขึ้นอีกด้วย

สนับสนุนโดย : https://gclubspecial168.com/