
ขนม หยก มณี เป็นขนมหวานของไทยยอดฮิตในสมัยอดีต แต่ในปัจจุบันค่อนข้างหาทานได้ยาก สำหรับขนมชนิดนี้ทำมาจากสาคูต้มรวมกับน้ำเชื่อม โดยสีเขียวของขนมมาจากสีของใบเตย จึงทำให้ขนมมีความคล้ายกับสีหินที่มีสีเขียวสดใส จึงเรียก ขนมชนิดนี้ว่า หยกมณี เมื่อรับประทานขนมแล้วจะให้ความรู้สึกเหนียวนุ่ม และหอมกลิ่นใบเตย ที่มาพร้อมกับความกรุบกรอบของเนื้อมะพร้าวได้อย่างลงตัว ปัจจุบันของชนิดนี้มีหลากหลายสีสัน ไม่ว่าจะเป็น สีชมพู เหลือง ม่วง เป็นต้น

ขนมหยกมณี เมนูขนมมงคลของไทย ซึ่งในสมัยก่อนจะทำขนมชนิดนี้ในงานมงคลต่างๆ ไม่ว่าเป็นงานบวช งานแต่ง เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้อยู่เย็นเป็นสุข สำหรับใครที่อยากลองทำขนมชนิดนี้ไว้ทานในช่วงในหยุดสุดสัปดาห์ ขอแนะนำสูตร ขนม หยก มณีชาววัง รสชาติหอมกลิ่นใบเตยแบบดั้งเดิม เนื้อนุ่มนิ่ม ก้อนกลม เคี้ยวเพลินไม่มีเบื่อ
วิธีทำ ขนม หยก มณี เมนูขนมหวานมงคล แสนอร่อย ทำทานได้ง่ายๆ
ขนม หยกมณี เป็นหนึ่งในขนมมงคลที่มีรสชาติหวานอร่อยกลมกล่อม และขนาดพอดีคำทานง่าย แถมยังอิ่มท้อง สำหรับขนมชนิดนี้มีการปรับปรุงสูตรให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น หยกมณีอัญชัน มีสีน้ำเงิน ที่ได้จากดอกอัญชัน ส่วนสูตรขนมหยกมณี มีสีเขียวของน้ำใบเตย และสุดท้ายสูตรหยกมณีสามสี คือ สีน้ำเงิน สีแดง และสีขาว เป็นต้น เรียกว่าเป็นขนมที่มีหลากหลายสูตร แถมขนมหยกมณี ความหมายเป็นมงคล ซึ่งสีของขนมมีลักษณะคล้ายหยกหินสีเขียวสดใส โดยมีความเชื่อว่าขนม ไทยมงคลที่นำพาความเจริญ ร่ำรวยมาสู่ผู้รับประทานอีกด้วย ในส่วนวิธีการทำขนมไทยชนิดนี้ง่ายมากๆ โดยเริ่มจากเตรียมวัตถุ และส่วนผสมดังนี้

- แป้งสาคูล 1 ½ ถ้วย
- น้ำใบเตย 150 มิลลิลิตร
- น้ำมะพร้าว 500 มิลลิลิตร
- เนื้อมะพร้าว 100 กรัม
- น้ำตาลทราย 100 กรัม
- เกลือ ½ ช้อนชา
ในการทำขนม หยก มณีให้อร่อย ในส่วนแป้งสาคู แนะนำให้ใช้เม็ดสาคูแท้ ที่ทำจากแป้งต้นสาคู เพราะแป้งจะมีความหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และในลำดับต่อมาจะเป็นวิธีทำขนม โบราณสูตรขนมหยก ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

- ขั้นตอนแรกให้นำ เม็ดสาคูมาล้างน้ำให้สะอาด เพื่อเอาผงแป้งออกจากเม็ดสาคู จากนั้นใช้กระชอนตักขึ้นมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
- ต่อมาใส่น้ำมะพร้าวลงไปในหม้อต้ม นำไปตั้งไฟปานกลาง รอให้น้ำมะพร้าวเดือดใส่เม็ดสาคูลงไป จากนั้นคนเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เม็ดสาคูติดก้นหม้อ เพราะจะทำให้เม็ดสาคูไหม้ก่อนสุกได้
- คนอย่างสม่ำเสมอจนกว่าน้ำจะแห้ง จากนั้นใส่น้ำใบเตยปั่นลงไป คนส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวกันจนกว่าเม็ดสาคูลจะสุก โดยวิธีสังเกตว่าสาคูสุกหรือยัง ให้ดูจากความใส และมีจุดสีขาวด้านใน เรียกว่า ตากบ แสดงว่าเม็ดสาคูสุกเรียบร้อย
- ใส่น้ำตาลทรายคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นปิดไฟ พร้อมยกออกจากเตา และนำมาเทใส่ถาดที่เตรียมไว้ รอให้เย็น เมื่อขนมสาคูเย็นแล้วใช้ช้อนตักเป็นก้อนเล็กๆ
- ทำการขูดมะพร้าวเป็นเส้นเล็กๆ นำไปนึ่งใช้ไฟปานกลาง ประมาณ 5-7 นาที นำขนมสาคูที่ตักเป็นก้อนเล็กมาคลุกเคล้ากับมะพร้าวขูดที่นึ่งไว้ จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
ถ้าอยากให้ ขนมหยกมณี น่าทานมากยิ่งขึ้น แนะนำให้นำใบตองมาทำกระทง จากนั้นนำขนมที่ทำเสร็จมาใส่ในกระทงที่เตรียมไว้ และโรยหน้าด้วยมะพร้าวขูด พร้อมทานได้เลย สำหรับขนมไทย โบราณที่ทำเองจะมีรสชาติหวานละมุน และเนื้อเหนียวหนึบของเม็ดสาคู เคี้ยวเพลินสุดๆ นอกจากนี้ถ้าใครไม่ชอบเม็ดสาคูสุกมากเกินไป แนะนำสาคูแบบตากบ คือ เม็ดสาคูจะมีสีขาวด้านใน และด้านนอกจะมีความใส และเติมน้ำตาลได้เลย
เผยสูตรขนม หวาน ไทย หยกมณี สามสี หวาน หอม ชวนทาน

มาต่อกันที่วิธีทำขนมหยกมณีสามสี หนึ่งในขนมหวานหมกมณีที่มีการปรับปรุงสูตรให้มีสีสันมากยิ่งขึ้น สำหรับขั้นตอนขนม ไทย ทำ ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดสามารถทำตามที่กล่าวมาข้างต้นได้เลย แต่จะเพิ่มสีสันของขนมมากขึ้น โดยสีที่ใช้ทำหยกมณีสามสีเป็นสีจากธรรมชาติ ได้แก่ สีเขียวใบเตย สีน้ำเงินจากดอกอัญชัน และสีเหลืองจากข้าวโพดหวาน จากนั้นนำวัตถุดิบที่เตรียมไว้มีปั่นให้ละเอียดกรองเอาน้ำใส่ในถ้วย ต่อมาต้มสาคูให้สุกใส่สีธรรมชาติที่เตรียมไว้ ทำทั้งหมดสามสี ตามด้วยน้ำตาล คนให้เข้ากันเสร็จแล้วนำไปพักไว้ให้เย็น และใช้ช้อนตักขนมให้ก้อนเล็กๆ นำไปคลุกเคล้ากับมะพร้าวขูด จัดใส่จานให้สวยงาม

สำหรับ ขนม หยกมณีสามสี เป็นสูตรขนม ไทย ง่ายๆ ที่มีส่วนเพียงน้อยนิด และที่สำคัญยังเป็นขนมไทย ทำเองที่มีรสชาติหอมอร่อยละมุนสุดๆ แถมไม่ต้องไปหาซื้อทานให้เสียเวลา อีกทั้งขนมชนิดนี้ยังหาซื้อได้ยากอีกด้วย หากใครกำลังมองสูตร ขนม ไทยแบบขนมไทยชาววังสามารถลองทำเมนูขนมหวาน หยกมณีที่นำมาแชร์ได้เลย รับรองว่าทำได้แน่นอน พร้อมทั้งยังสามารถทำขายสร้างเป็นอาชีพให้ตัวเองได้อีกด้วย
อ่านบทความอื่นๆ: