Categories
อาหารไทย

เปิดเมนูเด็ดยอดนิยม แกงส้มชะอมกุ้ง รสจัดจ้าน หอมกลิ่นชะอมทอด

แกงส้มชะอมกุ้ง

แกงส้มชะอมกุ้ง ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารสุดคลาสสิกที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจุจบัน โดยเมนูนี้จะมีความพิเศษตรงที่มีการนำไข่ชะอมทอดมาเป็นส่วนประกอบหลักของแกงส้ม และใช้พริกแกงที่สดใหม่มีกลิ่มหอมเข้มข้น ทำให้รสชาติแกงส้ม ชะอม ทอดมีความกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำสูตรของแกงส้มชะอมให้แม่บ้านมือใหม่ได้ทำตามที่บ้าน หรือจะทำขายก็ขายดีได้กำไรตั้งแต่วันแรกแน่นอน 

ชวนมาดู! ขั้นตอนการทำ แกงส้มชะอมกุ้ง สูตรโบราณ ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน 

แกงส้มชะอมกุ้ง

เชื่อว่าหลายคนคงคิดว่าเมนูอาหารพื้นบ้านอย่าง แกงส้ม ชะอมกุ้ง เป็นเมนูที่ทำยากอย่างนอน แต่แท้จริงแล้วแกงส้ม ชะอม ไข่ทอดทำไม่ยากอย่างที่คิด อีกทั้งเครื่องพริกแกงส้มยังสามารถทำได้เองด้วย แถมยังใช้วัตถุดิบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สำหรับคนที่ชอบทานแกงส้มเป็นพิเศษ เรามีสูตรการทำแกงส้ม ชะอมมาให้ได้ลองทำทานเล่นๆ ที่บ้านในช่วงวันหยุด โดยสูตรนี้ถือว่าเป็นสูตรที่ทำง่าย และรสชาติอร่อยกลมกล่อมตามฉบับอาหาร ไทยโบราณอีกด้วย 

วัตถุดิบ และส่วนผสมของพริกแกงส้ม

  1. พริกจินดาแห้ง 7-8 เม็ด
  2. พริกชี้ฟ้าแห้งเม็ดใหญ่ 15 เม็ด
  3. กระชาย 5 หัว
  4. หอมแดง 10 หัว
  5. เกลือ ½ ช้อนชา
  6. กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
  7. เนื้อปลานิล 100 กรัม
แกงส้มชะอมกุ้ง

ส่วนผสมของแกงส้มที่ต้องเตรียม

  1. ชะอมเด็ดใบ 1 ถ้วยตวง
  2. พริกแกงส้ม ½ ถ้วยตวง
  3. ไข่ไก่ 3 ฟอง
  4. น้ำเปล่า 5 ถ้วยตวง
  5. น้ำมันพืช 1 ขวด
  6. น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำตาลปิ๊บ ½ ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำมะขามเปียก 1 ถ้วยตวง
  9. กุ้งสด 15 ตัว

เมื่อได้วัตถุดิบ และส่วนผสมของแกงส้มชะอมกุ้งเรียบร้อยแล้ว ในลำดับต่อมาจะเป็นวิธีการทำแกงส้ม หนึ่งในอาหาร ไทย ยอด นิยมฉบับมือใหม่ฝึกทำอาหาร โดยจะเริ่มจากเตรียมพริกแกงก่อนเพราะเป็นส่วนผสมแรกที่จะใช้ทำน้ำแกงนั่นเอง หากใครไม่อยากทำพริกแกงเองสามารถใช้แบบสำเร็จรูปก็ได้เช่นกัน

แกงส้มชะอมกุ้ง
  1. ขั้นตอนเตรียมพริกแกง เริ่มจากนำพริกชี้ฟ้าแดงแห้ง พริกจินดาแห้ง มาแกะเอาเม็ดพริกออก นำไปแช่น้ำทิ้งไว้ให้นิ่ม จากนั้นนำมาโขลกให้ละเอียด ใส่หอมแดง กระชาย กะปิ และเนื้อปลานิลตำให้แหลกละเอียดจนเป็นเนื้อเดียวกัน ตักใส่ถ้วยพักไว้ก่อน
  2. ในลำดับต่อมาจะเป็นการทำไข่เจียว โดยนำไข่มาตอกใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ ใส่ผักชะอม ปรุงรสด้วยน้ำปลาเล็กน้อย นำกระทะมาตั้งเตา ใส่น้ำมันพืช รอให้น้ำมันร้อน ใส่ไข่ลงไป เจียวให้สุก เสร็จแล้วมาหั่นเป็นชิ้นๆ 
  3. นำหม้อแกงมาตั้งเตา ใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำเปล่าลงไป รอให้น้ำเดือด ใส่พริกแกงส้ม คนให้ละลาย ปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ น้ำปลา และน้ำมะขามเปียก ใส่กุ้ง ต้มพอให้สุก ใส่ไข่เจียวลงไป รอให้น้ำเดือด ยกออกจากเตาได้เลย 
แกงส้มชะอมกุ้ง

เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วกับเมนูแกงส้มชะอมกุ้งสูตรโบราณที่มีรสชาติ เปรี้ยว หวาน เค็ม อร่อยครบรส แถมยังมีกลิ่นหอมอบอวลของชะอมไข่ทอดนุ่มๆ ทานแล้วละมุนละไมสุดๆ ดังนั้นหากใครไม่อยากพลาดสูตรแกงส้มเมนู อาหาร ไทย ยอด นิยมแสนอร่อยก็สามารถนำสูตรของเราไปทำทานได้เลย

รวมเคล็ด (ไม่) ลับ แกงส้มชะอมกุ้ง สูตรกลมกล่อม กำลังดี

แกงส้มชะอมกุ้ง

การทำแกงส้มชะอมกุ้งจะต้องใช้พริกแกงที่มีคุณภาพ และถ้าหากทำพริกแกงเองควรใช้เนื้อปลา อย่างเช่น ปลานิล ปลาซ่อน หรือจะเป็นเนื้อกุ้ง เพื่อต้องการให้น้ำแกงมีความเข้มข้น และรสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น อีกทั้งในขั้นตอนใส่น้ำเปล่าไม่ควรใส่เยอะเกินไปเพราะจะทำให้น้ำแกงใส รสชาติไม่อร่อย อีกทั้งไม่เป็นไปตามสูตรเมนู อาหาร ไทยโบราณอีกด้วย นอกจากนี้เมนูแกงส้มสูตรชะอมทอดยังเป็นอาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบทานกันมากที่สุด ดังนั้นหากทำขายก็สามารถขายได้กำไรดี และลูกค้าเต็มร้านจนทำอาหารไม่ทันเลยทีเดียว

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

ขนมชาววัง หมี่กรอบ สามรส กรอบอร่อย รสชาติเข้มข้น ไม่อมน้ำมัน

หมี่กรอบ สามรส

เส้นหมี่นอกจากจะนำมาทำเป็นเมนูอาหารแล้วยังมีการนำมาแปรรูปเป็นขนมได้ด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ หมี่กรอบ สามรส ที่มีความหอมกลิ่นน้ำมะขามเปียก รสชาติเข้มข้น และทานได้ทุกวันไม่มีเบื่อ นอกจากนี้หมี่กรอบยังเป็นเมนูขนมไทยโบราณที่ได้รับความนิยมมากๆ โดยเฉพาะสูตรหมี่กรอบทรงเครื่องโบราณจะมีความโดดเด่นของรสสัมผัสที่อร่อยครบรส และไม่อมน้ำมันอีกด้วย อีกทั้งหมี่กรอบยังสามารถพกพาไปทานตามสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย เพราะเป็นขนมที่มีน้ำหนักเบา และทานง่าย แถมยังทานได้ตลอดเวลา เรียกได้ว่าเป็นขนมทานรองท้องในระหว่างวันได้ดีเลยทีเดียว 

วิธีทำ หมี่กรอบ สามรส สไตล์โฮมเมค ทำง่าย ไม่อมน้ำมัน กลิ่นหอมชวนทาน 

หมี่กรอบ สามรส

หมี่กรอบสามรส เป็นเมนูขนมไทยที่กำลังมาแรง และเป็นนิยมในกลุ่มคนชอบทานขนมกรุบกรอบเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยรสชาติที่อร่อยครบรส และกลิ่นหอมของเส้นหมี่เหนียวกรุบกรอบอร่อยโดนใจทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ สำหรับบ้านไหนที่มีเส้นหมี่เป็นจำนวนมาก และไม่รู้จะทำเมนูอะไรทานดีที่สามารถทานได้ทุกวันแบบไม่มีเบื่อ วันนี้เรามีอีกหนึ่งสูตรเมนูขนมเส้นหมี่ที่สามารถทำทานได้ง่ายๆ อย่าง สูตรหมี่กรอบมะขามเปียกที่มีวิธีทำที่ง่ายๆ และไม่ซับซ้อน ว่าแล้วไปดูขั้นตอนการทำขนมเส้นหมี่ กรอบกันเลย

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

หมี่กรอบ สามรส
  1. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  2. น้ำตาลทราย 130 กรัม
  3. น้ำตาลมะพร้าว 300 กรัม
  4. หอมแขกสับ 50 กรัม
  5. น้ำปลา 60 กรัม
  6. น้ำกระเทียมดอง 50 กรัม
  7. น้ำมะนาว 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  8. ซอสพริก 100 กรัม
  9. น้ำมะขามเปียก 100 กรัม
  10. เส้นหมี่แห้ง 1 ห่อ
  11. ใบมะกรูดทอด ½ ถ้วยตวง
  12. เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด ½ ถ้วยตวง

เส้นหมี่ที่ใช้ทำขนมหมี่กรอบ สามรสสามารถใช้ยี่ห้อไหนก็ได้ และสามารถเพิ่มปริมาณเส้นหมี่ได้ตามความต้องการ ในส่วนของวัตถุดิบที่เป็นใบมะกรูดทอดหากไม่ชอบสามารถตัดออกได้เลย สำหรับขั้นตอนการทำหมี่กรอบให้อร่อยนั้น เรามีวิธีทำหมี่กรอบ ให้กรอบนานๆ โดยสามารถทำตามได้ดังนี้

หมี่กรอบ สามรส
  1. มาเริ่มที่ขั้นตอนแรกด้วยการทำน้ำซอสหมี่กรอบกันเลย โดยเริ่มจากนำกระทะมาตั้งเตา และเปิดแก๊สใช้ไฟปานกลางใส่น้ำมันพืชลง รอให้น้ำมันร้อนก่อน ตามด้วยหอมแขกสับ ผัดให้หอมสุก ใส่ไข่ไก่ลงไป จากนั้นคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ใส่น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทราย น้ำกระเทียมดอง น้ำปลา ซอสพริก น้ำมะนาว และน้ำมะขามเปียก คนส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากนั้นทำการเคี่ยวต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าน้ำซอสจะเป็นฟองขึ้น ปิดเตา นำมาพักไว้ให้เย็น 
  2. นำกระทะมาตั้งเตา และใส่น้ำมันพืชลงไปในปริมาณที่พอเหมาะ ใช้ไฟอ่อนๆ รอให้น้ำมันร้อนจัดใส่เส้นหมี่แห้งลงไปทอดให้กรอบ ตักออกพักไว้ นำน้ำซอสใส่กระทะ เปิดแก๊สใช้ไฟอ่อนๆ รอให้น้ำซอสเดือด ใส่ใบมะกรูดทอด เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด คลุกเคล้าให้เข้ากันรอให้อุ่น และแพ็คใส่กล่องได้เลย
หมี่กรอบ สามรส

ในที่สุดเราก็ทำหมี่กรอบ สามรสเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหมี่กรอบที่ได้ถือว่าเป็นของว่างที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว เค็มเล็กน้อย และยังมีกลิ่นหอมมะขามเปียกอ่อนๆ ที่มีความกลมกล่อมอย่างลงตัว และก่อนที่จะตักใส่กล่องต้องนำมาพักไว้ให้อุ่นๆ หรือรอให้เย็นก่อน จากนั้นตักขนมใส่กล่อง หรือถุงพลาสติกมัดปากถุงให้แน่นก็เป็นเสร็จเรียบร้อย

เทคนิค (ไม่) ลับ ทำหมี่กรอบ สามรส สีสวย น่าทาน ไม่จำเจ 

หมี่กรอบ สามรส

หมี่กรอบ สามรส ถือว่าเป็นเมนูขนมไทย ง่ายๆ ที่สามารทำทานได้เอง และยังทำขายได้กำไรดีสุดๆ ที่สำคัญเป็นขนมที่ขายได้ทั้งออนไลน์ และหน้าร้านอีกด้วย และแน่นอนว่านอกจากรสชาติขนมจะอร่อยแล้วสีของขนมต้องสวยด้วยเช่นกัน ซึ่งสูตรหมี่กรอบ ทำขายง่ายๆ เพียงทำตามสูตรที่เรานำมาแชร์ได้เลย นอกจากนี้การทำหมี่ให้มีสีสวยสามารถใส่สีผสมอาหารเข้าไป เพื่อให้สีของเส้นหมี่น่าทาน และดูมีความอร่อยมากขึ้น 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

อาหารชาววัง ต้มกะทิ สายบัว ใส่ปลาทู สูตรโบราณ กลิ่นหอมชวนชิม

ต้มกะทิ สายบัว

อีกหนึ่งเมนูอาหารของไทยที่หาทานยากมากในปัจจุบัน อย่าง ต้มกะทิ สายบัว ใส่ปลาทูเนื้อแน่น รสชาติเข้มข้นหอมอร่อย ทานง่าย ไม่เผ็ดด้วย ดังนั้นเมนูต้ม สายบัวใส่ปลาทูจึงเป็นอาหารที่สามารถทานได้ทั้งครอบครัว และยังเป็นเมนูสุดโปรดของปู่ย่า ตายาย อีกด้วย อย่างไรก็ตามถึงแม้เมนูนี้จะไม่ค่อยมีขายตามร้านอาหารทั่วไป แต่ก็ใช่ว่าจะทำทานเองไม่ได้ โดยสูตร และวิธีการทำแกง สายบัว ใส่ ปลา ทูนั้นง่ายมากๆ คนชอบทานเมนูไทยๆ ทำได้สบายมาก

วิธีทำ ต้มกะทิ สายบัว ใส่ปลาทู สูตรชาววัง รสชาติเข้มข้น หอมละมุน

ต้มกะทิ สายบัว

หากใครกำลังหาเมนูอาหารที่สามารถทำทานได้ทั้งครอบครัว และทานได้ทั้งวัน ขอแนะนำ ต้มกะทิสายบัว หนึ่งในอาหาร ไทยที่มีรสชาติเข้มข้น และมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งวิธี แกง สายบัว ใส่ ปลา ทูยังทำได้ด้วยตัวเอง ไม่ซับซ้อน และยังใช้เวลาทำไม่นาน เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาน้อยแต่อยากทำอาหารทานเองสุดๆ นอกจากนี้ยังใช้วัตถุดิบเพียงน้อยนิดดังนี้

ต้มกะทิ สายบัว
  1. สายบัว 100 กรัม
  2. ปลาทูนึ่ง 3 ตัว
  3. หัวกะทิ 1 ½ ถ้วยตวง
  4. หางกะทิ 2 ถ้วยตวง
  5. หอมแดง 5 หัว
  6. พริกไทยขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  7. เกลือ 1 ช้อนชา
  8. น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำตาลปิ๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  10. กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ

จากวัตถุดิบที่กล่าวมาข้างต้นนั้นสามารถหาได้ตามร้านขายของสดทั่วไป โดยเฉพาะสายบัวจะมีขายตามตลาดสด หรือถ้าบ้านไหนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติมีสายบัวที่ขึ้นตามหนอง บึง ก็สามารถเก็บมาทำต้มกะทิ สายบัวได้แบบไม่อั้น ในส่วนขั้นตอนการทำเมนู อาหาร ไทย ยอด นิยมอย่างแกงกะทิสายบัวจะง่ายเพียงใดไปดูกันเลย

ต้มกะทิ สายบัว
  1. ในขั้นตอนแรกนำปลาทูนึ่งมาแล่เอาก้างปลาออก เตรียมใส่ถ้วยไว้ ต่อมาให้นำสายบัวมาหักเป็นท่อนๆ เอาเส้นใยออกให้หมด หลังจากนั้นต้มน้ำให้เดือดใส่มะนาว 2 ช้อนโต๊ะ คนให้ละลาย ใส่สายบัวลงไป ทำการลวกให้สายบัวมีสีสวย แล้วตักออกพักไว้ก่อน
  2. จากนั้นมาเตรียมเครื่องแกง โดยนำหอมแดง กะปิ ใส่พริกไทยขาว มาใส่ในครกโขลกให้แหลกละเอียด นำหม้อสำหรับแกงมาตั้งเตา ใส่หางกะทิที่เตรียมไว้ลงไป เปิดไฟปานกลาง รอให้น้ำกะทิเดือด ใส่เครื่องแกงคนให้เข้ากัน ลดไฟให้อ่อนลง และใส่หัวกะทิลงไป คนให้เข้ากัน เสร็จแล้วตามด้วยเครื่องปรุงรสอย่าง น้ำมะขามเปียก เกลือ น้ำตาลปิ๊บ และใส่สายบัวลงไป จากนั้นใส่เนื้อปลาทูที่เตรียมไว้ คนให้ส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน รอให้เดือด และปิดไฟ พร้อมยกหม้อออกจากเตา ตักแกงใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อนๆ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ต้มกะทิ สายบัว

ต้มกะทิ สายบัวที่ทำเสร็จใหม่ๆ จะมีกลิ่นหอมของกะปิอ่อนๆ และหากทานแกงที่ยังร้อนๆ กับข้าวสวยยิ่งเพิ่มความอร่อยฟินทุกคำ อีกทั้งแกงสายบัวยังเป็นเมนูอาหาร ไทย ยอด นิยมที่สามารถทานได้ทุกวัย เรียกได้ว่าทำแกงสายบัวใส่ปลาทูนึ่งแค่เมนูเดียวสามารถทานได้ทั้งบ้านเลยทีเดียว นอกจากนี้หากทานไม่หมดสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นไว้ทานในมื้อต่อไปได้อีกด้วย 

ประโยชน์ของเมนูต้มกะทิ สายบัว อาหารไทยโบราณ รสชาติอร่อยไม่มีเบื่อ 

ต้มกะทิ สายบัว

ต้มกะทิสายบัว เป็นเมนูที่ทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง โดยก่อนนำสายบัวมาทำอาหารจะต้องลอกเปลือก แล้วนำไปแช่ในน้ำเกลือสักพักจะช่วยให้สายบัวไม่ดำ และหากใช้ปลาทูสดควรล้างด้วยน้ำมะขามเปียกจะช่วยดับกลิ่นคาวได้เป็นอย่างดี เพียงเท่านี้ก็จะได้แกงสายบัวที่แสนอร่อยไม่เหม็นคาว สำหรับแกงสายบัวไม่เพียงแค่คนไทยนิยมทานเท่านั้น แต่ยังเป็นเมนูอาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบทานเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นอาหารที่มีรสชาติอร่อยแล้วยังมีประโยชน์ดีต่อสุขภาพอีกด้วย โดยเฉพาะสายบัวมีส่วนช่วยลดอาการเกร็งของลำไส้ และกระเพาะ ลดความเครียด แถมยังบรรเทาอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

ขนมหวานโบราณ อร่อยบอกต่อ! ข้าวแต๋น กรุบกรอบ หอมกลิ่นน้ำตาลเคี่ยว

ข้าวแต๋น

มาต่อกันที่เมนู ข้าวแต๋น หนึ่งในขนมที่ทำจากข้าวเหนียวนึ่งทอดกรอบ ผสมผสานกับน้ำตาลอ้อยเคี่ยวจนเข้มข้น และราดให้เป็นวงกลม ปัจจุบันขนมข้าว แต๋นมีหลากหลายสูตร และหลากหลายสีสันมากขึ้น อีกทั้งยังมีขนาดที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย แต่สิ่งสำคัญของขนมชนิดนี้คือ แต่ละสูตรมีความหวาน หอม กรอบอร่อยตามสูตรข้าวแต๋นโบราณไม่เปลี่ยนแปลง อีกทั้งวิธีทำง่ายๆ และวัตถุดิบมีเพียงข้าวเหนียวนึ่ง กับน้ำตาลอ้อยก็สามารถทำได้แล้ว เรียกได้ว่าเป็นขนมที่สามารถเปลี่ยนจากข้าวเหนียวธรรมดา มาเป็นขนมทอดกรอบที่แสนอร่อยได้ไม่ยาก

ชวนทำ ข้าวแต๋น ขนมทอดกรอบ แสนอร่อย ทำง่าย ทำขายได้ด้วย 

ข้าวแต๋น

ขนมข้าวแต๋น ถือว่าเป็นขนมในวัยเด็กที่ได้ทานบ่อยที่สุด และมีขายในตลาดทุกวัน เพราะคนไทยในสมัยก่อนจะชอบทานขนมที่แปรรูปมาจากข้าวเหนียวเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งยังเป็นขนมที่สามารถทำได้ง่าย และรสชาติอร่อยด้วย สำหรับขนมชนิดนี้มีหลายคนสงสัยว่าเป็นขนมชนิดเดียวกันกับข้าวแต๋น นางเล็ดหรือไม่ ซึ่งแท้จริงแล้วขนมทั้งสองชื่อ คือขนมชนิดเดียวกัน โดยภาคเหนือจะเรียกว่าข้าวแต๋ว แต่ภาคอื่นๆ จะรู้จักในขนมนางเล็ดนั่นเอง ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมาย้อนรอยทำขนมข้าวแต๋นจิ๋วสุดน่ารัก ทำง่าย และทำอร่อยด้วย

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมข้าวเหนียว

  1. ข้าวเหนียว 400 กรัม
  2. น้ำแตงโมงปั่น 150 กรัม
  3. งาขาวคั่ว 1 ช้อนชา
  4. น้ำตาลทราย 15 กรัม
ข้าวแต๋น

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมของน้ำเชื่อม

  1. น้ำตาลทรายแดง 150 กรัม
  2. เกลือป่น ½ ช้อนชา
  3. น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำตาลทรายแดง 40 กรัม

ในส่วนของน้ำเชื่อมที่ใช้ทำข้าวแต๋นแสนอร่อยจะใช้น้ำตาลมะพร้าว แต่บ้านไหนอยากลองใช้น้ำตาลอ้อยก้อนกลมก็สามารถเปลี่ยนได้ตามใจชอบ และสูตรนี้จะใช้น้ำแตงโมปั่น เพื่อให้ขนมมีกลิ่นหอม เพิ่มความอร่อยมากขึ้น ต่อมาจะเป็นวิธีทํา ข้าวแต๋นดังนี้

ข้าวแต๋น
  1. ในขั้นตอนแรกให้นำข้าวเหนียวมาล้างทำความสะอาดในน้ำเปล่าประมาณ 2-3 รอบ หลังจากนั้นนำไปแช่น้ำประมาณ 6 ชั่วโมง ทำการซาวน์ข้าว พักให้สะเด็ดน้ำ
  2. นำข้าวเหนียวมานึ่งให้สุก โดยใช้ไฟแรง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในระหว่างที่รอข้าวเหนียวสุก ให้มาเตรียมน้ำแตงโมปั่น เริ่มจากนำแตงโมมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นนำมาใส่ในเครื่องปั่น ทำการปั่นให้ละเอียด กรองด้วยผ้าขาวบางเอาแต่น้ำแตงโม จากนั้นใส่เกลือ และน้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากัน 
  3. เมื่อข้าวเหนียวสุกแล้ว ให้นำมาผสมกับน้ำแตงโม ทำการคลุกเคล้าให้เข้ากัน พักทิ้งไว้ให้ข้าวเหนียวดูดน้ำ ประมาณ 3 นาที โรยด้วยงาคั่ว นำข้าวเหนียวตักใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ นำไปตากแดด 1 วัน 
  4. นำกระทะใส่น้ำมัน ใช้ไฟปานกลาง หลังจากนั้นใส่ข้าวแต๋นลงไปทอดให้กรอบ ตักขึ้นมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน ต่อมาจะเป็นการทำน้ำเชื่อม โดยนำหม้อมาตั้งเตา ใส่น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทรายแดง เกลือ และน้ำเปล่า เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ จนเข้มข้น พร้อมราดบนข้าวแต๋นได้เลย
ข้าวแต๋น

สำหรับขนมข้าวแต๋นที่เรานำมาแชร์ เป็นสูตรข้าวแต๋น น้ำแตงโมที่มีสีชมพูสวยสดใส รสชาติหวาน กรอบอร่อย หลังทำข้าวแต๋นเสร็จแล้วสามารถเก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดสนิท เก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง และไม่มีความชื้นจะทำให้สามารถเก็บรักษาความกรอบของขนมได้นานมากขึ้น 

อีกหนึ่งความอร่อย ข้าวแต๋น ใบเตย กรอบอร่อย สีสันสวยงามแปลกตา

ข้าวแต๋น

หลังจากทำข้าวแต๋น สูตรน้ำแตงโมหวานไปแล้ว ต่อมาเราจะมาลองทำข้าวแต๋นน้ำใบเตยสีเขียวสดใสกันบ้าง โดยขั้นตอนวิธีทำสามารถทำตามสูตรน้ำแตงโม ซึ่งเป็นวิธีทำขนมไทย ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก จากนั้นเปลี่ยนจากน้ำแตงโมมาเป็นน้ำใบเตยผสมกับข้าวเหนียวนึ่ง ใส่ส่วนผสมต่างๆ คลุกเคล้าให้เข้ากัน นำไปตากแดดให้แห้ง และนำมาทอดในน้ำมันที่ร้อนให้ข้าวกรอบฟู เสร็จแล้วตักพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน ราดด้วยน้ำเชื่อมเป็นอันเสร็จเรียบร้อย จากนั้นจะได้ขนมข้าวแต๋นที่มีสีเขียวสวยงามน่าทานเป็นอย่างมาก 

อ่านบทความอื่นๆ: