Categories
อาหารนานาชาติ

เมนูอร่อยต้องแชร์ ผัดโป๊ยเซียน รสชาติครบเครื่อง ส่งตรงจากแดนมังกร

ผัดโป๊ยเซียน

หากใครชอบทานอาหารสไตล์จีน แนะนำให้ลองเมนู ผัดโป๊ยเซียน อาหารชื่อดังยอดฮิตสุดปังที่มีรสชาตินุ่มลิ้น ส่งกลิ่นหอมชวนยั่วน้ำลายสุดๆ แถมยังเป็นอาหารมงคลที่ทานได้แบบไม่มีเบื่อ สำหรับผัด โป๊ยเซียน มีส่วนประกอบหลักเป็น วุ้นเส้น กะหล่ำม่วง กะหล่ำเขียว พุทราจีน ดอกไม้จีน เห็ดหูหนู ต้นหอม เห็ดหอม เป็นต้น แต่หากอยากทำผัดโป๊ยเซียนเองที่บ้านตามสไตล์อาหารจีน อาหารจีนง่ายๆ สามารถนำวัตถุดิบที่มีอยู่ในตู้เย็นจำนวน 8 อย่างมาผัดรวมกันก็ได้เช่นกัน 

ขั้นตอนง่ายๆ ทำ ผัดโป๊ยเซียน อาหารมงคล รสกลมกล่อม ทานเองที่บ้าน

ผัดโป๊ยเซียน

หลังจากที่หลายๆ คนเรียกร้องให้มาลองทำอาหารประเภทผัดแบบจีนง่ายๆ บ้าง วันนี้เราขอเสนอเมนูมงคลอย่าง ผัด โป๊ยเซียน วุ้นเส้นนุ่มหนึบ ผักกรอบๆ รสชาติอร่อยไม่จำเจ ที่มาพร้อมกับวิธีการทำอย่างง่าย ไม่ซับซ้อนตามสไตล์อาหารจีนทำเองที่บ้าน โดยก่อนอื่นต้องมาเตรียมส่วนผสมกันให้พร้อมก่อน ซึ่งวัตถุดิบสามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดใกล้บ้าน หรือซื้อตามร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป

  1. กะหล่ำปลีเขียว 30 กรัม
  2. กะหล่ำม่วง 30 กรัม
  3. วุ้นเส้น 1 ห่อ
  4. เห็ดหูหนู 15 กรัม
  5. เห็ดหอม 15 กรัม
  6. ต้นหอม 15 กรัม
  7. พุทราจีน 15 กรัม
  8. ดอกไม้จีน 15 กรัม
  9. พริกจินดา 15 กรัม
  10. แป๊ะก๊วย 15 กรัม
ผัดโป๊ยเซียน

วัตถุดิบ และส่วนผสมของเนื้อสัตว์

  1. กุ้งสด 100 กรัม
  2. ปลาหมึก 100 กรัม
  3. ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  5. เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ
  6. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
  7. นำมันพืช 2 ช้อนชา
  8. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

เป็นอันเสร็จเรียบร้อยกับการเตรียมส่วนผสมของผัดโป๊ยเซียน สูตรทะเลรวม ซึ่งอาหารทะเลที่เราใช้จะเป็นกุ้งตัวโต และปลาหมึกเนื้อเด้งสดใหม่ที่หาซื้อได้ง่าย ในส่วนวัตถุดิบที่เป็นผักหากบ้านไหนมีผักในสวนหลังบ้านสามารถเปลี่ยนตามผักที่มีในบ้านได้เลย และในลำดับถัดมาจะเป็นวิธีการทำโป๊ยเซียนผัดวุ้นเส้นง่ายๆ 

ผัดโป๊ยเซียน
  1. ขั้นตอนแรกนำปลาหมึก และกุ้งมาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นหั่นปลาหมึกเป็นชิ้นๆ เตรียมไว้ ต่อมานำกระทะมาตั้งเตา ใส่น้ำมันพืชลงไป ตามด้วยกระเทียมสับ ผัดให้หอม ใส่กุ้ง หมึกให้ และเหล้าจีน ผัดให้กลิ่นเหล้าจีนหายไปก่อน
  2. จากนั้นใส่กะหล่ำเขียว กะหล่ำม่วง ดอกไม้จีน เห็ดหูหนู เห็ดหอม แปะก๊วย พุทราจีน วุ้นเส้น พร้อมปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย ซีอิ้วทราย ซอสหอยนางรม และพริกไทยขาวป่น ผัดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน พอผักสุกแล้ว ทำการปิดเตา โรยหน้าอาหารด้วยต้นหอมซอย ขึ้นฉ่าย และพริกจินดาให้สวยงาม เสร็จแล้วตักใส่จานพร้อมทานกันเลย
ผัดโป๊ยเซียน

สำหรับผัดโป๊ยเซียนทะเลรวมทำง่ายๆ และรสชาติกลมกล่อม ที่สำคัญทานแล้วยังได้สุขภาพ และยังเป็น เมนูอาหารจีนที่เสริมมงคลให้กับชีวิตอีกด้วย เพราะวัตถุดิบที่เป็นพุทราจีนหมายถึงการสื่อถึงความร่ำรวย กะหล่ำปลี หมายถึงความสมหวังทุกประการ ส่วนดอกไม้จีนนั้นสื่อถึงจิตใจเบิกบาน และอีกหนึ่งวัตถุดิบที่มีความหมายดีมากอย่างวุ้นเส้นหมายถึงชีวิตที่ยืนยาวนั่นเอง

เปิดเมนูอาหารมงคล ผัดโป๊ยเซียนสูตรเจ อาหารของคนรักสุขภาพ

ผัดโป๊ยเซียน

ผัด โป๊ยเซียน เป็นเมนูอาหารมงคลมีทั้งสูตรธรรมดาทั่วไป และสูตรเจอาหารสุขภาพ โดยคนรักสุขภาพสามารถทำสูตรเจทานได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเราสามารถเลือกใช้วัตถุดิบจากในสูตรโป๊ยเซียนผัดทะเลรวมได้เลย เพียงแค่ตัดเหล้าจีน และวัตถุดิบทะเลออกก็ได้เช่นกัน เมื่อได้ส่วนผสมที่ต้องการแล้วนำมาผัดให้เข้ากันปรุงรสชาติได้ตามใจชอบ หลังจากที่ผักสุกได้ที่ ปิดเตา นำมาตักใส่จาน โรยหน้าด้วยต้นหอม พร้อมทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ จะทำให้ความอร่อยของอาหารเพิ่มขึ้นหลายเท่า นอกจากเมนูผัดโป๊ยเซียนจะอิ่มท้องแล้วยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะผักกะหล่ำม่วงสามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารนานาชาติ

แนะนำเมนูติ่มซำ ก๋วยเตี๋ยว หลอด รสเด็ด อาหารจีนยอดนิยม

ก๋วยเตี๋ยว หลอด

ก๋วยเตี๋ยว หลอด เป็นอาหารจีนที่ชาวจีนกวางตุ้งเรียกว่ากวยเตียวกะหรือกวยเตี่ยวเก่า มีลักษณะเป็นแผ่นแป้งก๋วยเตี๋ยวสดใหม่มาห่อไส้รสชาติกลมกล่อม และทำการม้วนเข้าหากันเป็นหลอด พร้อมนึ่งให้สุก ตัดเป็นชิ้นๆ ราดด้วยน้ำซอสเข้มข้นแบบฉ่ำๆ ยั่วต่อมความหิวสุดๆ และแน่นอนว่าเมนูก๋วยเตี๋ยวหลอดนอกจากจะเป็นอาหารประจำชาวจีนแล้วยังเป็นเมนูยอดนิยมในไทยที่สามารถหาทานได้ตามร้านอาหารจีนแถวเยาวราชอีกด้วย 

วิธีทำ ก๋วยเตี๋ยว หลอด แป้งหนึบ น้ำซอสเข้มข้น ทำง่าย อร่อยฉ่ำ 

ก๋วยเตี๋ยว หลอด

เส้นก๋วยเตี๋ยวเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด และหนึ่งในนั้นก็คือ ก๋วยเตี๋ยวหลอด อาหารติ่มซำสไตล์จีนที่คนทั่วไปสามารถซื้อทานได้ และยังเป็นเมนูยอดฮิตตลอดกาล เพราะรสชาติกลมกล่อมของน้ำซอสทำให้ไม่ต้องปรุ่งเพิ่มให้เสียเวลาอีกด้วย สำหรับอาหารสไตล์จีนชนิดนี้มีหลายคนคิดว่าทำทานเองที่บ้านค่อนข้างยาก แต่แท้จริงแล้วก๋วยเตี๋ยว หลอด โบราณ รสเด็ดมีวิธีทำง่ายมาก และไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด คนที่ไม่เคยทำอาหารก็ทำได้ 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

  1. หมูสับ 80 กรัม
  2. เส้นใหญ่แบบไม่ตัด 400 กรัม
  3. ซีอิ้วขาว 5 กรัม
  4. กุ้งแห้งฝอย 8 กรัม
  5. เห็ดหอมแห้ง 8 กรัม
  6. แครอทหั่นลูกเต๋า 10 กรัม
  7. เต้าหู้แข็ง 10 กรัม
  8. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  9. ไซโป๊วสับ 40 กรัม
  10. ต้นหอมซอย 20 กรัม
  11. ถั่วงอกลวก 400 กรัม
  12. กระเทียมสับ 10 กรัม
  13. น้ำมันหอย 10 กรัม
  14. ซีอิ้วขาว 5 กรัม
  15. น้ำตาลทราย 5 กรัม
  16. ผักซี 1 ต้น
  17. เกลือ 2 กรัม
  18. น้ำมันหมู 50 กรัม
ก๋วยเตี๋ยว หลอด

ส่วนผสมที่ต้องเตรียมของน้ำซอส

  1. น้ำส้มสายชู 40 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 50 กรัม
  3. ซีอิ้วดำ 10 กรัม
  4. เกลือ 1 กรัม
  5. น้ำสะอาด 40 กรัม

ก๋วยเตี๋ยว หลอดมีหลากหลายสูตร แต่วันนี้จะทำสูตรก๋ ว ย เตียว หลอด ทรงเครื่อง รสเด็ด ราดด้วยน้ำซอสหอมๆ เข้มข้น ซึ่งวิธี ทำ ก๋ ว ย เตียว หลอดอย่างง่ายมีดังนี้

ก๋วยเตี๋ยว หลอด
  1. นำกระทะมาตั้งเตา ใส่น้ำมันเล็กน้อย ใส่กระเทียมลงไป เจียวให้เหลืองกรอบ ตักใส่ถ้วยพักไว้ก่อน จากนั้นมาทำไข่ฝอย ด้วยการนำไข่ไก่ ผสมกับซีอิ้วขาว ตีให้เข้ากัน นำมาเจียวให้เป็นแผ่น พอสุกแล้วนำมาหั่นเป็นเส้นๆ ใส่ถ้วยเตรียมไว้
  2. ต่อมาตั่งกระทะใส่น้ำมันลงไป ใช้ไฟปานกลาง ใส่กระเทียมสับผัดให้หอม ตามด้วยหมูสับ แครอท เห็ดหอม ไซโปว์สับ และเต้าหู้ จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย และกุ้งแห้งฝอย ผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ โรยหน้าด้วยผักซี คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จาน
  3. นำแผ่นก๋วยเตี๋ยวที่เตรียมไว้มาวางไว้ ตักส่วนผสมที่ผัดไว้ลงวางบนแผ่นก๋วยเตี๋ยว ตามด้วยถั่วงอก จากนั้นม้วนแป้งให้แน่น พับปลายปลายแป้งมาและม้วนต่อให้เสร็จ หลังจากนั้นนำไปนึ่งให้สุกที่เป็นเวลา 15 นาที ตักใส่จาน
  4. ขั้นตอนต่อมาจะเป็นการทำน้ำซอส เริ่มจากนำน้ำใส่กระทะ ตามด้วยน้ำส้มสายชู ซีอิ้วดำ น้ำตาลทราย เกลือ คนส่วนผสมให้เข้ากัน ต้มให้เดือด เคี่ยวจนกว่าน้ำซอสจะข้น พอได้ที่แล้ว ปิดไฟนำมาราดลงก๋วยเตี๋ยวหลอด โรยหน้าด้วยไข่เจียวฝอย และผักซีให้สวยงาม
ก๋วยเตี๋ยว หลอด

ก๋วยเตี๋ยว หลอดทรงเครื่องที่ทำเองจะมีข้อดีคือ เราสามารถใส่วัตถุดิบต่างๆ ได้แบบไม่อั้น และสามารถทำได้ในปริมาณเพียงพอกับคนในครอบครัวได้ทานอิ่มท้องอีกด้วย ดังนั้นหากใครชอบทานอาหารสไตล์จีนต้องลองทำสูตร ก๋วยเตี๋ยว หลอด โบราณทรงเครื่อง รสเด็ดอร่อยฉ่ำๆ ทำง่ายๆ ได้ตัวเอง

เคล็ดลับที่ควรรู้! การทำก๋วยเตี๋ยว หลอดทรงเครื่องอย่างง่ายๆ ให้อร่อย 

ก๋วยเตี๋ยว หลอด

ในขั้นตอนการทำ ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง สไตล์อาหารจีนทำเองให้อร่อยแบบฟินๆ จะต้องใส่กากหมูด้วย ซึ่งวิธีการเจียวกากหมูจะต้องนำมันหมูแข็งมาเจียวให้เหลืองกรอบ โดยระหว่างเจียวหากน้ำมันมีฟองให้ใส่เกลือลงไปจะช่วยให้กากหมูกรอบนานมากขึ้น เสร็จแล้วนำไปโรยหน้าก๋วยเตี๋ยวให้สวยงาม พร้อมทานฉ่ำๆ ฟินกำลังดี สำหรับคนไหนกำลังหาเมนูติ่มซำทำทานเอง ขอแนะนำอาหารจีนทำง่ายๆ อย่างก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่องรสชาติกลมกล่อม อร่อยเด็ด ไม่จำเจ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

ปักหมุด! สูตรขนม เต้าส่วน ขนมหวาน แป้งใส เหนียวหนืด น้ำกะทิเข้มข้น

เต้าส่วน

สำหรับขนมวัยเด็กที่มีขายตามงานเทศกาลต่างๆ มากที่สุดคงต้องยกให้ขนม เต้าส่วน ขนมอร่อย และราคาไม่แพงสามารถหาซื้อทานได้ง่าย นอกจากนี้ขนมเต้าส่วนถั่วเหลืองยังเป็นขนมที่มีให้เห็นตามงานบวช งานขึ้นบ้านใหม่ในสมัยอดีตอีกด้วย เพราะว่าขนมไทย โบราณชนิดนี้ทำง่าย และมีส่วนปะกอบเพียงน้อยนิด ใช้เวลาไม่นานจึงเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นขนมที่สามารถทำทานได้ด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาไปทานที่ร้านก็สามารถทานขนมแสนอร่อยได้ง่ายๆ ที่บ้าน 

วิธีทำขนมหวาน เต้าส่วน ขนมวัยเด็ก น้ำแป้งข้นหนืด หวานอร่อย

เต้าส่วน

เต้า ส่วน เป็นขนมไทยที่ทานมาตั้งแต่สมัยวัยเด็ก และยังเป็นขนมที่มีรสชาติอร่อยไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งในปัจจุบันขนมชนิดนี้มีหลากหลายสูตร และสูตรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ เต้าส่วนทรงเครื่องที่มีการใส่เผือก เม็ดบัว เม็ดแปะก๊วย เพื่อเพิ่มรสชาติของขนมให้มีความหลากหลายน่าทานมากยิ่งขึ้น ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมาย้อนวัยเด็กด้วยการทำขนมเต้าส่วนถั่วเหลืองสูตรขนมไทย ทำเองง่ายๆ ไม่ยาก แถมทำออกมารสชาติเหมือนที่ทานในวัยเด็กเลยทีเดียว 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

เต้าส่วน
  1. แป้วท้าวยายม่อม 5 ช้อนโต๊ะ
  2. ถั่วเขียวซีกเลาะเปลือก 400 กรัม
  3. กะทิกล่องสำเร็จรูป 400 กรัม
  4. แป้งข้าวเจ้าผสมน้ำกะทิ ½ ช้อนโต๊ะ
  5. เกลือ 2 ช้อนชา
  6. ใบเตย 4 ใบ
  7. น้ำเปล่า 2 ลิตร

ขนมหวานเต้าส่วน ถือว่าเป็นขนมที่สามารถใส่ส่วนผสมที่เป็นวัตถุดิบกะทิกล่องสำเร็จรูปแทนกะทิสดได้ เพราะกะทิกล่องมีความหอมอร่อยเหมือนกะทิคั้นสดใหม่เลยทีเดียว แถมยังสะดวกสบายไม่ต้องมานั่งปอกมะพร้าวเองด้วย และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาทำขนมเต้าส่วน กะทิกล่องหอมอร่อยกันเลย 

เต้าส่วน
  1. นำถั่วเขียวซีกเลาะเปลือกมาล้างทำความสะอาดประมาณ 2- 3 รอบ จากนั้นแช่ทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากที่ครบกำหนดเวลาให้ทำการเทน้ำออก นำหม้อมาตั้งเตาใส่น้ำเปล่าที่เตรียมไว้ ใช้ไฟแรง รอให้น้ำเดือด นำถั่วเขียวที่เตรียมไว้มานึ่งให้สุก ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
  2. นำแป้งท้าวยายม่อมเทลงไปภาชนะที่เตรียมไว้ ตามด้วยน้ำเปล่า คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน นำหม้อมาตั้งเตา ใส่น้ำเปล่า ใช้ไฟปานกลาง รอให้น้ำเดือด ใส่น้ำตาล คนให้ละลายประมาณ 3 นาที ใส่ใบเตยลงไป รอให้น้ำเดือด จากนั้นเทแป้งลงไป คนเรื่อยๆ อย่าให้แป้งติดก้นหม้อ จนกว่าน้ำแป้งจะข้นหนืด ใส่ถั่วเขียวซีกนึ่งลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน ปิดไฟ พักไว้ก่อน
  3. นำน้ำกะทิ ใส่หม้อนำ ตามด้วยเกลือ นำไปเคี่ยวให้ร้อน แต่ไม่เดือด จากนั้นใส่แป้งที่ผสมกับน้ำกะทิเทลงไปในหม้อ เพื่อให้กะทิมีความหนืดมากขึ้น พอส่วนผสมเดือดดีแล้วให้ยกหม้อออกจากเตา ต่อมาให้ตักเต้าส่วนใส่ถ้วย ราดด้วยน้ำกะทิ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
เต้าส่วน

สำหรับขนมเต้าส่วน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งขนม ไทย ง่ายๆ ทำได้เองที่บ้าน และวิธีทำเต้าส่วนไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด อีกทั้งวัตถุดิบยังสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าใกล้บ้าน อีกทั้งขนมเต้าส่วนโบราณ รสชาติหวานอร่อย ยังสามารถทำได้ในปริมาณที่ต้องการของคนในครอบครัวอีกด้วย หรือจะทำไปฝากเพื่อนบ้านเพื่อสร้างมิตรภาพให้แก่กันก็ได้เช่นกัน

รวมเทคนิคลับทำ เต้าส่วนรสชาติหวานละมุน ถั่วเขียวซีกนุ่มนิ่มกำลังดี 

เต้าส่วน

สำหรับขนมเต้าส่วน เมนูขนม ไทย ทำ ง่ายๆ ให้อร่อย เนื้อถั่วเขียวนุ่มนิ่มตามสูตร ขนม ไทยโบราณจะต้องนำถั่วเชียวซีกไปล้างทำความสะอาดจนกว่าน้ำจะใส จากนั้นทำการแช่ถั่วเขียวไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ถั่วนุ่มนิ่มขึ้น หากใช้เวลาแช่ถั่วน้อยไปถั่วจะแข็ง จากนั้นนำไปนึ่งให้สุกประมาณ 30 นาที จะได้ถั่วเขียวซีกที่นุ่มหนึบหนับ เมื่อนำมาผสมกับน้ำแป้งจะทำให้ขนมเต้าส่วนมีความนุ่มละมุนกำลังดีตามฉบับขนม หวาน ไทยชาววัง 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

เผยสูตร ไข่พะโล้ หมูเนื้อนุ่มละลายในปาก หอมกลิ่นเครื่องเทศ น้ำพะโล้เข้มข้น

ไข่พะโล้

ไข่พะโล้ เป็นเมนูยอดฮิตของคนไทย ไม่ว่าจะเดินทางไปจังหวัดไหน หรือภาคไหนของประเทศไทย เชื่อว่าจะต้องมีไข่ต้ม พะโล้หมูนุ่มๆ ขายตามตลาดนัด และร้านขายข้าวแกงอย่างแน่นอน สำหรับเมนูพะโล้ส่วนใหญ่นิยมใส่ไข่ต้ม และเนื้อหมูสามชั้นเคี่ยวจนเนื้อหมูเปื่อยนุ่ม และน้ำซุปเข้มข้นหอมกลิ่นเครื่องพะโล้อร่อยโดนใจชาวไทยทุกคน นอกจากนี้วิธี ทำ พะโล้ก็ง่ายมากๆ เพียงแค่มีเครื่องพะโล้ก็สามารถทำพะโล้ไข่ต้มทานอร่อยๆ เองที่บ้านได้แบบไม่อั้น

วิธีทำ ไข่พะโล้ หมูเนื้อนุ่ม น้ำพะโล้เข้มข้น หอมละมุน ทำง่ายๆ ด้วยตัวเอง

ไข่พะโล้

มาต่อกันที่เมนูไข่พะโล้ที่หลายบ้านนิยมทำทานกันเป็นประจำ และยังเป็นเมนูสุดโปรดของแม่บ้านหลายคนที่มักจะทำทานกันในช่วงวันหยุด เพราะทำพะโล้เพียงหม้อเดียวก็สามารถทานได้ทั้งวัน แถมยังสามารถเอาไปฝากเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างมิตรภาพดีๆ ในหมู่บ้านได้อีกด้วย สำหรับใครที่กำลังหาสูตรพะโล้ทำเองที่บ้านอยู่ตอนนี้ ต้องไม่พลาดกับสูตรพะโล้ หมูสามชั้นนุ่มละลายในปาก และน้ำพะโล้เข้มข้นอร่อยโดนใจ ในส่วนของวิธี ทํา ไข่ พะโล้ ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากทำได้สบายมาก 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

ไข่พะโล้
  1. หมูสามชั้น 500 กรัม
  2. ไข่ไก่ 5 ฟอง
  3. กระเทียม 20 กลีบ
  4. เต้าหู้แข็ง 1 ก้อน
  5. พริกไทย ½ ช้อนชา
  6. รากผักซี 5 ราก
  7. น้ำตาลปิ๊บ 4 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำปลา 2 ½ ทัพพี
  9. ซีอิ้วดำ 1 ถ้วยตวง
  10. น้ำเปล่า 1 ลิตร

สำหรับใครที่ไม่ชอบน้ำซุปไข่พะโล้เข้มข้นเกินไปสามารถลดปริมาณซีอิ้วดำได้ตามใจชอบ และหากไม่ชอบเต้าหู้ก็ไม่ต้องใส่ได้เช่นกัน หลังจากที่เตรียมส่วนผสมของพะโล้เมนู อาหาร ไทย ยอด นิยมเสร็จแล้ว ต่อมาจะเป็นวิธี ทำ ไข่ พะโล้อย่างง่ายๆ ทำตามได้ไม่ยาก

ไข่พะโล้
  1. ก่อนอื่นต้องนำไข่ไก่มาล้างทำความสะอาด เสร็จแล้วนำไปใส่ในหม้อต้มในน้ำเดือด รอประมาณ 5 นาที นำไปแช่ในน้ำสะอาดให้เย็น นำไข่มาปอกเปลือกออกให้เรียบร้อย
  2. นำหมูสามชั้นมาหั่นเป็นชิ้นๆ ต้องความต้องการได้เลย ต่อมาให้หม้อตั้งเตา นำเครื่องพะโล้อย่าง รากผักชี กระเทียม พริกไทย มาโขลกให้ละเอียด 
  3. ตั้งหม้อ และนำเครื่องพะโล้ลงไปผัดในน้ำมันจนหอม โดยใช้ไฟอ่อนๆ เสร็จแล้วตักออกมาพักไว้ก่อน ต่อมาให้น้ำเปล่าใส่หม้อแล้วนำไปตั้งไฟปานแรง ใส่น้ำตาลปิ๊บ ใส่เครื่องพะโล้ ใส่หมูสามชั้นที่เตรียมไว้ ทำการต้มไปเรื่อยๆ จนกว่าหมูจะสุก หลังจากนั้นลดไฟลงปานกลาง เคี่ยวหมูไปจนกว่าเนื้อหมูจะนุ่ม 
  4. นำเต้าหู้มาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า จากนั้นนำไปทอดให้กรอบ ตักใส่หม้อพะโล้ ใส่ไข่ต้ม ตามด้วยซีอิ้วดำ ต้มต่อไปรอให้น้ำเดือด ปิดไฟได้เลย
ไข่พะโล้

หลังจากที่ได้ไข่พะโล้ หมูนุ่มเรียบร้อยแล้วให้นำผักชีโรยหน้าเพื่อความหอมมากขึ้น จากนั้นตักใส่ถ้วยพร้อมทานได้เลย ซึ่งต้องบอกเลยว่าพะโล้อาหาร ไทยสูตรนี้น้ำพะโล้จะมีความเข้มข้น และหวาน เค็ม รสชาติกลมกล่อม เมื่อนำมาทานกับข้าวสวยร้อนๆ จะยิ่งอร่อยลงตัวสุดๆ ดังนั้นหากใครชอบเมนู อาหาร ไทยอย่างพะโล้ไข่หมูนุ่มต้องลองทำทานเองสักครั้ง รับรองจะติดใจ 

เปิดเทคนิคต้มไข่พะโล้ ให้อร่อย ตามสูตรโบราณ มือใหม่ก็ทำได้ 

ไข่พะโล้

ถึงแม้ว่าไข่พะโล้จะเป็นอาหาร ไทย ยอด นิยมที่ทำง่ายก็จริง แต่จะทำให้อร่อยต้องมีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ อย่างเครื่องพะโล้จะต้องนำมาผัด และเคี่ยวกับน้ำตาลปิ๊บ เพื่อให้น้ำตาลมีกลิ่นหอม ในส่วนหมูสามชั้นต้องเป็นหมูที่มีเนื้อมากกว่ามันหมูถึงจะอร่อย และในขั้นตอนต้มพะโล้จะต้องตุ๋นหมูประมาณ 45 นาที เพื่อให้เนื้อหมูมีความนุ่มมากขึ้นนั่นเอง เพียงเท่านี้ก็จะได้เมนูพะโล้สุดแสนอร่อยน่าทานสุดๆ และที่สำคัญเมนูนี้ยังเป็นอาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบทานกันเป็นประจำ เพราะรสชาติหวานละมุน ทำให้คนต่างชาติทานได้ และอิ่มอร่อยตลอดทั้งวัน

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

ที่สุดของความอร่อย! สูตรขนม ไข่นกกระทา หลากสี กรอบนอกนุ่มใน

ขนม ไข่นกกระทา

ขนม ไข่นกกระทา เรียกได้ว่าเป็นขนมที่ส่วนผสมเพียงน้อยนิด แต่มีรสชาติที่โดดเด่น อีกทั้งเนื้อสัมผัสของขนมมีความนุ่มกรุบกรอบ หากได้ลองทานสักชิ้นรับรองว่าอร่อยติดใจอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีหลายคนสงสัยว่าขนมไข่นกกระทาใช้แป้งอะไรถึงจะอร่อย สำหรับขนมไข่นกระทาจะใช้แป้งมัน ผสมกับแป้งสาลี หรือบางสูตรจะใช้แป้งข้าวเหนียวผสมกับมันเทศ ทำให้ขนมมีกลิ่นขนมมันเทศอ่อนๆ เมื่อนำไปทอดเนื้อแป้งจะเบาบางน่าทานสุดๆ อีกทั้งขนมไข่นกกระทายังสามารถคงความกรอบได้นาน และรสชาติยังคงความอร่อยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

เปิดขั้นตอนการทำ ขนม ไข่นกกระทา ทอดกรอบ ทำง่ายๆ สไตล์มือใหม่ 

ขนม ไข่นกกระทา

อีกหนึ่งเมนูขนมหวานที่อยากแนะนำให้ทานอย่างขนม ไข่นกกระทา คือขนมไทยโบราณที่สามารถหาทานได้ง่ายๆ แถมราคายังไม่แพงอีกด้วย นอกจากนี้รสชาติอร่อยสามารถทานได้ตลอดเวลา หากใครเป็นคนที่ทานข้าวไม่เป็นเวลาสามารถทานขนมชนิดนี้รองท้องทำให้อิ่มนานไม่หิวระหว่างวัน นอกจากนี้ขนมไข่นกกระทาทอดยังมีขั้นตอนการทำที่ง่ายๆ แต่มาพร้อมกับความอร่อยไม่มีเบื่อ สำหรับคนที่อยากลองทำไข่นกกระทาขนมแสนอร่อยไว้ขายออนไลน์ เรามีสูตรทอดไข่นกกระทาขายง่ายๆ สามารถทำตามได้สบายมาก

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

ขนม ไข่นกกระทา
  1. มันเทศ 400 กรัม
  2. แป้งสาลี 150 กรัม
  3. แป้งมัน 40 กรัม
  4. เกลือป่น ½ ช้อนชา
  5. ผงฟู ½ ช้อนชา
  6. น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ

ในสูตรขนม ไข่นกกระทาที่กล่าวมาข้างต้นนี้จะใช้มันเทศเป็นผสมกับแป้ง ทำให้ขนมมีสีเหลืองสวยงาม แต่ถ้าใครชอบสีม่วงสามารถใส่มันม่วงแทนมันเทศได้เลย หรือจะทำทั้งสองสีก็ได้ตามใจชอบ และต่อมาจะเป็นวิธีทำไข่นกกระทา โบราณตามฉบับมือใหม่ทำได้แน่นอน

ขนม ไข่นกกระทา
  1. เริ่มแรกจะเป็นขั้นตอนการนำมันเทศมาล้างทำความสะอาด และปลอกเปลือกออก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปนึ่งให้สุกด้วยไฟแรงประมาณ 20 นาที เสร็จแล้วให้มันนึ่งมาบดผ่านตะแกรงให้ละเอียดจนเป็นเนื้อเนียนสวย 
  2. ขั้นตอนต่อมา ให้นำแป้งมัน และแป้งสาลีอเนกประสงค์มาเทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นตามด้วยผงฟู น้ำตาลทราย และเกลือป่น พร้อมด้วยมันบดละเอียด ทำการนวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ใข้มือปั้นแป้งให้เป็นก้อนกลมๆ ขนาดเท่ากัน นำมาพักไว้ในถาดขนม
  3. นำกระทะมาตั้งเตาใส่น้ำมันพืชที่เตรียมไว้ลงไปในกระทะ ใช้ไฟปานกลาง หลังจากที่น้ำมันร้อนให้ใส่แป้งที่เตรียมไว้ลงไป ทอดจนกว่าแป้งมีสีเหลืองกรอบ เสร็จแล้วตักขึ้นมาพักไว้ให้เย็น จัดใส่จานให้สวยงาม นำไปเสิร์ฟ หรือขายได้เลย
ขนม ไข่นกกระทา

ขนม ไข่นกกระทาทอดกรอบเสร็จใหม่จะยังร้อนๆ ต้องรอให้ขนมเย็นก่อนแล้วค่อยรับประทาน ซึ่งรสชาติของขนมต้องบอกเลยอร่อยมาก ส่วนเนื้อแป้งกรุบกรอบ และบางเบาเหมือนซื้อทานที่ร้านเลยทีเดียว ดังนั้นหากทำขนมไข่นกกระทาขายรับรองว่าขายดีแน่นอน

แชร์เคล็ดลับการทอดขนม ไข่นกกระทา แป้งฟูแน่น ไม่กลวง เคี้ยวเพลิน 

ขนม ไข่นกกระทา

การทำขนม ไข่นกกระทาให้อร่อยตามฉบับขนมไทยสูตรดั้งเดิมสามารถทำได้ง่าย โดยก่อนที่จะนำแป้งลงทอดในน้ำมันควรใส่ใบเตยลงไปทอดในน้ำมันก่อน เพื่อให้ขนมมีกลิ่นหอมลดกลิ่นของน้ำมันได้เป็นอย่างดี และอีกหนึ่งเคล็ดในการทอดขนมไทย ง่ายๆ ไม่อมน้ำมัน ในขั้นการทอดเริ่มแรกจะต้องใช้ไฟอ่อนๆ และในระหว่างที่ทอดควรใช้กระชอนกดขนมแรงๆ เพื่อให้แป้งสุก และกรุบกรอบ จากนั้นเร่งไฟตอนท้าย เพื่อไล่น้ำมันออก เพียงแค่นี้ก็จะได้ขนมที่อร่อยไม่อมน้ำมัน และมีกลิ่นหอมยั่วยวนใจ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

สูตรลับ ข้าวเหนียวปิ้ง รสกลมกล่อม ข้าวเหนียวนุ่มละมุน หอมกลิ่นใบตอง

ข้าวเหนียวปิ้ง

ข้าวเหนียวปิ้ง ขึ้นชื่อว่าเป็นขนมที่ชาวบ้านในสมัยก่อนนิยมทำทานในครอบครัวประจำ เพราะเป็นขนมที่ทำจากข้าวเหนียวเป็นส่วนประกอบหลัก จึงมักจะทำไว้ทานเป็นเมนูรองท้องก่อนออกไปทำไร่ทำนา นอกจากนี้ยังมีทำขายตามท้องตลาดอีกด้วย ที่สำคัญข้าวเหนียว ปิ้งยังเป็นขนม ไทย ทำ ง่ายๆ เหมาะสำหรับทำทานในช่วงหน้าหนาวช่วยให้คลายหนาวได้เป็นอย่างดี แถมยังได้ผิงไฟเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย และเป็นการทำขนมที่สร้างบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความสุขของคนในครอบครัวอีกด้วย 

วิธีทำ ข้าวเหนียวปิ้ง สูตรโบราณ หวานกำลังดี มือใหม่ทำได้ง่ายๆ 

ข้าวเหนียวปิ้ง

สำหรับใครที่กำลังมองหาขนมทานเล่นอยู่ตอนนี้ ต้องไม่พลาดกับขนมหวานข้าวเหนียวปิ้ง หวาน มัน เค็ม อร่อยกลมกล่อม หอมกลิ่นใบตองปิ้งอ่อนๆ กำลังดี ส่วนเนื้อขนมมีความเหนียวนุ่มเคี้ยวเพลิน โดยขนมชนิดนี้มีหลากหลายสูตร แต่ที่นิยมกันมากที่สุดจะเป็นข้าวเหนียวปิ้งไส้กล้วย และข้าวเหนียวปิ้งไส้เผือกที่มีกลิ่นหอมอบอวลชวนทานไม่น้อย เรียกได้ว่าขนมปิ้งอร่อยจนต้องทำทานเองเลยทีเดียว ในส่วนของวิธีทำขนมข้าวเหนียวปิ้งสูตร ขนม ไทยโบราณได้อย่างง่าย ไม่ซับซ้อน คนไหนสนใจทำทานเองก็สามารถทำตามได้ดังนี้

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมขนมปิ้งไส้เผือก

ข้าวเหนียวปิ้ง
  1. ข้าวเหนียวขาว 500 กรัม
  2. น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง
  3. กะทิ 2 ถ้วยตวง
  4. กล้วยน้ำว้าสุก 4-5 ลูก
  5. ใบตอง 5 ใบ
  6. เกลือป่น ½ ช้อนชา

วัตถุดิบ และส่วนผสมของไส้เผือก

ข้าวเหนียวปิ้ง
  1. เผือกนึ่งสุก 1 หัวใหญ่
  2. นมข้นจืด ¼ ถ้วยตวง
  3. เกลือป่น ½ ช้อนชา
  4. ข้าวเหนียวขาว 400 กรัม
  5. น้ำตาลปิ๊บ 1 ถ้วยตวง

สำหรับสูตรข้าวเหนียวปิ้งที่ทำในวันนี้จะเป็นสูตรไส้เผือก และกล้วยน้ำว้า ซึ่งวัตถุดิบทั้งสองชนิดสามารถหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป และที่สำคัญเป็นไส้ที่นำมาผสมกับข้าวเหนียวได้อร่อยลงตัวที่สุด ในส่วนข้าวเหนียวปิ้งขนมไทย ทำเองนั่นไม่ยาก เพียงแค่ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ข้าวเหนียวปิ้ง
  1. นำข้าวเหนียวมาล้างด้วยน้ำสะอาดประมาณ 2-3 รอบ จากนั้นนำมาแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน เสร็จแล้วนำข้าวมานึ่งให้สุกโดยใช้ไฟปานกลาง ต่อมาให้มาเตรียมน้ำกะทิ น้ำตาลทราย และเกลือป่น คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน หรือจนกว่าน้ำตาลจะละลายดี 
  2. นำข้าวที่นึ่งสุกแล้วมาใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้จากนั้นตามด้วยส่วนผสมของน้ำกะทิ ทำการมูลส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน นำมาพักทิ้งไว้ให้ข้าวดูน้ำประมาณ 30 นาที
  3. จากนั้นตักข้าวเหนียวมูนวางบนใบตอง ตามด้วยกล้วย หรือเผือกบด จากนั้นวางทับด้วยข้าวเหนียวมูนอีกครั้ง ม้วนใบตองเข้าหากันให้สวยงาม และใช้ไม้จิ้มฟันกลัดหัว และท้ายใบตอง นำไปปิ้งบนเตาถ่านให้มีกลิ่นหอม เสร็จเรียบร้อย
ข้าวเหนียวปิ้ง

ข้าวเหนียวปิ้ง สูตรขนมไทย โบราณที่ทำเสร็จแล้วหากทานตอนยังร้อนๆ อยู่จะมีรสชาติหวานละมุน หอมกลิ่นไส้เผือก และกล้วยน้ำว้าอร่อยฟินทุกคำ เรียกได้ว่าขนมข้าวเหนียวปิ้ง เป็นขนมที่ทำง่ายๆ มือใหม่ทำตามได้โดยไม่ต้องไปเรียนให้เสียเวลา แถมยังได้ทานขนมแสนอร่อยได้ตามใจชอบแบบไม่อั้น

แจกเคล็ดลับความอร่อย ข้าวเหนียวปิ้ง โบราณ ให้อร่อย ถูกใจทั้งครอบครัว

ข้าวเหนียวปิ้ง

ข้าวเหนียวปิ้งที่เราทำเองจะให้รสชาติอร่อย ข้าวนุ่มหอมละมุนตามสูตรขนมหวาน ขนม ไทย ง่ายๆ ทำได้ไม่ยากอย่างที่คิด โดยในขั้นตอนการทำข้าวเหนียวมูนจะต้องนำข้าวเหนียวนึ่งสุกแล้วมาผสมกับน้ำกะทิให้เข้ากัน จากนั้นพักข้าวเหนียวมูนไว้ประมาณ 30-40 นาที เพื่อให้น้ำกะทิซึมเข้าสู่เมล็ดข้าว ทำให้ข้าวมีความหอมและเม็ดเงางามมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้ข้าวเหนียวนุ่ม เมื่อนำไปปิ้งเม็ดข้าวจะไม่แข็ง และเรียงเม็ดสวยงาม แถมยังส่งกลิ่นหอมอบอวลน่าทานสุดๆ ไปเลย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารไทย

ทอดมันกุ้ง เมนูสุดปัง อาหารทานเล่น เนื้อกุ้งแน่นเด้ง กรอบนอกนุ่มใน

ทอดมันกุ้ง

หากพูดถึงเมนูอาหารเรียกน้ำย่อยที่อร่อย และได้รับความนิยมที่สุดตลอดกาลต้องยกให้ ทอดมันกุ้ง ที่มาพร้อมกับความนุ่มกรุบกรอบหอมอร่อยทานได้แบบไม่อั้น อีกทั้งยังเป็นเมนูอาหาร ไทยที่น้องๆ หนูๆ ชอบทานอีกด้วย เพราะไม่ว่าจะทานคู่กับซอส หรือทานแบบไม่ราดน้ำจิ้มก็อร่อยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ที่สำคัญเป็นเมนูอาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบทานบ่อยๆ และขายดีมาก เรียกได้ว่าทำขายแทบไม่ทันเลยทีเดียว ส่วนใครที่สนใจอยากลองทำให้คนในครอบครัวทาน เรามีวิธี ทำ ทอดมัน กุ้งให้เหลืองกรอบ และไม่อมน้ำมันมาให้ได้ลองทำตามด้วยนะ

ขอนำเสนอวิธีทำ ทอดมันกุ้ง เนื้อแป้งเหลืองกรอบ ไม่อมน้ำมัน กลิ่นหอมชวนทาน

ทอดมันกุ้ง

กลับมาตามคำเรียกร้องกับการทำอาหารอย่างง่ายๆ ฉบับมือใหม่ และวันนี้ขอเสนอเมนูง่ายๆ อย่าง ทอดมัน กุ้ง เมนูอาหาร ไทย ยอด นิยมเนื้อแป้งกรุบกรอบสอดไส้กุ้งตัวโตๆ เนื้อหวานอร่อยเต็มคำ นอกจากนี้เรายังมีเคล็ดลับการทอดแป้งไม่อมน้ำมันมาฝากอีกด้วย ในส่วนของสูตร ทอดมัน กุ้งที่จะมาแชร์เป็นอย่างง่ายรับรองว่าทำตามได้อย่างแน่นอน โดยขั้นแรกจะต้องเตรียมวัตถุดิบ และอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนดังนี้

ทอดมันกุ้ง
  1. กุ้งสับละเอียด 400 กรัม
  2. มันหมูบด 100 กรัม
  3. กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
  4. รากผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
  5. มันกุ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
  6. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  7. พริกไทยป่น ½ ช้อนโต๊ะ
  8. เกล็ดขนมปัง 2 ถ้วยตวง
  9. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
  10. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  11. ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

สำหรับวัตถุดิบมันกุ้งหากไม่ชอบทานสามารถไม่ใส่เป็นส่วนผสมของทอดมันกุ้งได้ตามใจชอบ ต่อมาจะเป็นวิธี ทํา ทอดมัน กุ้ง ง่ายๆ และใช้เวลาทำไม่นาน เมื่อพร้อมแล้วไปลุยกันเลย

ทอดมันกุ้ง
  1. นำกระเทียม รากผักชีมาโขลกให้เข้ากัน พักไว้ก่อน ต่อมานำกุ้งสับ และมันหมูสับละเอียดใส่ลงไปในภาชนะที่เตรียมไว้ ใส่ส่วนผสมที่โขลกไว้ใส่ลงไปเรียบร้อยแล้วลงไป ตามด้วยมันกุ้ง และพริกไทยป่น ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ้วขาว นวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เสร็จแล้วนำพลาสติกแรปคลุมภาชนะไว้ และนำเข้าตู้เย็นใช้เวลาประมาณ 20 นาที 
  2. ต่อมาให้นำแป้งทอดกรอบเทใส่ถ้วย และตอกไข่ใส่ถ้วยตีให้พอแตก จากนั้นเตรียมเกร็ดขนมปังใส่ถาด พร้อมกับเตรียมน้ำสะอาดสำหรับไว้ชุบมือ และเตรียมภาชนะสำหรับวางวัตถุดิบที่ชุบเกร็ดขนมปังเสร็จแล้ว 
  3. นำเนื้อกุ้งมันหมูสับออกจากตู้เย็น นำมาปั้นเป็นก้อนแบนๆ หรือกลมๆ ก็ได้ตามใจชอบ จากนั้นนำมาคลุกใส่ในแป้งทอดกรอบ ชุบเกร็ดขนมปัง เสร็จแล้วนำมาวางในถาดที่เตรียมไว้
  4. นำกระทะมาตั้งเตา ใส่น้ำมันพืชลงไป เปิดไฟปานกลาง รอให้น้ำมันเดือด แล้วนำกุ้งชุบแป้งทอดใส่ลงไปทอดให้เหลืองกรอบ จากนั้นตักขึ้นมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน จัดวางใส่จานให้สวยงาม
ทอดมันกุ้ง

เมนูทอดมันกุ้ง ถือว่าเป็นเมนู อาหาร ไทย ยอด นิยมที่สามารถทำทานได้ทุกวัน และยังสามารถทำไปฝากเพื่อนๆ ได้อีกด้วย ในส่วนของการทอดมัน กุ้ง สูตร โบราณจะต้องรอให้น้ำมันเดือดก่อน และไม่ควรใช้ไฟแรง เพราะจะทำให้แป้งไหม้ได้ แถมยังทำให้แป้งอมน้ำมันอีกด้วย สำหรับเคล็ดลับความอร่อยควรทานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วยหวานอมเปรี้ยวจะช่วยเพิ่มรสชาติให้อร่อยมากขึ้น

เมนูแนะนำแฮมห่อทอดมันกุ้ง รสชาติเข้มข้น กรอบอร่อย

ทอดมันกุ้ง

อีกหนึ่งเมนูที่อยากแนะนำคือ แฮมห่อทอดมันกุ้ง เป็นเมนู อาหาร ไทยที่ทานง่าย และทำง่ายมากๆ โดยส่วนผสม และวัตถุดิบสามารถใช้ร่วมกับสูตรมันกุ้งทอดสูตรโบราณได้เลย จากนั้นนำมันหมู และกุ้งบดใส่เครื่องปรุงนวดให้เข้ากัน นำไปทอดให้กรอบ หลังจากนั้นเอาแฮมวางบนกระดาษไขตามด้วยทอดมันกุ้ง ม้วนเข้าหากันนำไปย่างให้สุก เสร็จแล้วนำมารับประทานได้ โดยรสชาติจะกลมกล่อมและหอมกลิ่นแฮมอร่อยสุดๆ 

อ่านบทความอื่นๆ: