Categories
เบเกอรี่

แจกสูตรความอร่อย ขนม คุกกี้ สับปะรด หวานอมเปรี้ยม เนื้อสับปะรดเต็มคำ 

คุกกี้ สับปะรด

ใครที่ชอบทานสับปะรดต้องไม่พลาด เพราะวันนี้เราจะมาแจกสูตร คุกกี้ สับปะรด รสชาติหวานอมเปรี้ยว แป้งน้อย แต่ไส้เยอะ และขนาดพอดีคำ รวมถึงเทคนิคการทำไส้สับปะรดอย่างง่ายๆ ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องซื้อสำเร็จรูป รวมถึงขั้นตอนการทำคุกกี้ สับปะรดด้วยตัวเอง มือใหม่ทำได้ ไม่ว่าจะทำขาย หรือทำทานเองก็อร่อยแน่อนอน หรือจะทำเป็นของขวัญมอบให้กับเพื่อน หรือญาติผู้ใหญ่ก็ปังสุดๆ แถมยังเป็นขนมที่ใช้ต้นทุนต่ำอีกด้วย เรียกได้ว่า ซื้อวัตถุดิบมาครั้งเดียวสามารถทำขนมคุกกี้ สูตรสับปะรดได้หลายชิ้นมากๆ 

คุกกี้ สับปะรด

คุกกี้ สับปะรดเป็นอีกหนึ่งเมนูขนมหวานที่มีความโดดเด่น และแปลกใหม่ต่างจากคุกกี้ทั่วไปที่เคยทาน เพราะสูตรนี้จะเป็นการนำสับปะรดที่เราทานกันทุกวันมาทำเป็นไส้ขนมคุกกี้ จึงทำให้รสชาติที่ได้มีความหวานอมเปรี้ยว และมีกลิ่นเนยอ่อนๆ เข้ากันได้ดีเลยทีเดียว หากใครชอบขนมที่มีรสชาติเปรี้ยวนิดๆ ขนมคุกกี้ สูตรสับปะรดเป็นอีกหนึ่งขนมหวานที่ตอบโจทย์ ไม่ผิดหวังแน่นอน

เผยขั้นตอนการทำ คุกกี้ สับปะรด ไส้แน่นๆ ทำง่ายนิดเดียว แถมอร่อยด้วย

คุกกี้ สับปะรด

กลับมาอีกครั้งกับการทำขนมคุกกี้แสนอร่อย โดยวันนี้จะพาทำสูตร คุกกี้สับปะรด เนื้อไส้สับปะรดแบบจัดเต็ม เพราะเราเน้นไส้ แต่ไม้เน้นแป้ง หากใครชอบทานสับปะรดต้องบอกเลยว่า คุกกี้ ไส้ สับปะรด คือหนึ่งในเมนูคุกกี้ที่ตอบโจทย์อย่างแน่นอน นอกจากนี้คนที่ทานเจ หรือกำลังทานเจอยู่ตอนนี้สามารถทานคุกกี้ชนิดได้ด้วย เพราะมีสูตรคุกกี้สับปะรดเจ ซึ่งจะใช้มาการีนแทนเนยสด และส่วนผสม และวัตถุดิบเป็นของเจทั้งหมด ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องเจไม่เจเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นขนมคุกกี้สับปะรดที่สามารถทานได้ทั้งคนทั่วไป และคนที่ทานเจเลยอีกด้วย

วัตถุดิบ และส่วนผสมของแป้งคุกกี้

  1. แป้งข้าวโพด 100 กรัม
  2. แป้งเค้ก หรือแป้งอเนกประสงค์ 500 กรัม
  3. นมผง 50 กรัม
  4. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  5. เกลือ ½ ช้อนชา
  6. น้ำตาลไอซิ่ง 200 กรัม
  7. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
คุกกี้ สับปะรด

ส่วนผสม และวัตถุดิบของไส้สับปะรด

  1. สับปะรดสด 1000 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 100 กรัม
  3. น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ
  4. เกลือ ½ ช้อนชา
  5. น้ำมันพืช 1 ช้อนชา

หลังจากที่เตรียมวัตถุดิบ และส่วนผสมของขนมคุกกี้ สับปะรดเรียบร้อยแล้ว ในขั้นตอนต่อมาเราจะพามาดูขั้นตอนการทำคุกกี้สอดไส้สับปะรด สำหรับสูตรคุกกี้สับปะรดที่ใช้ทำนั้นง่ายมากๆ ไมยุ่งยาก และไม่ซับช้อนอีกด้วย เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปลงมากันเลย

คุกกี้ สับปะรด
  1. นำสับปะรดมาปอกเปลือกให้หมด และหั่นสับปะรดเป็นชิ้นเล็กๆ ให้ละเอียด จากนั้นตั้งกระทะ เปิดไฟปานกลาง หลังจากนั้นใส่สับปะรดที่เตรียมไว้ลงไป ใส่น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู เกลือ ลงไป คนส่วนผสมของสับปะรดไปเรื่อยๆ จนกว่าสับปะรดจะแห้ง เหนียวหนึบหนับ เมื่อได้สับปะรดกวนเรียบร้อยแล้ว ให้นำออกจากเตา พักไว้ให้เย็น
  2. หลังจากที่เตรียมสับปะรดกวนเรียบร้อย ต่อมาจะเป็นขั้นตอนการเตรียมแป้ง โดยเริ่มแรกใส่เนยชนิดจืด และน้ำตาลไอเลงไป นำเข้าเครื่องตีขนม เมื่อเนยกระจายตัวเรียบร้อยแล้ว ใส่ไข่ไก่ลงไปแล้วตีอีกรอบ เมื่อส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกันแล้วให้ใส่แป้งข้าวโพด และแป้งเค้กที่ร่อนไว้เรียบร้อยแล้วลงไป ตามด้วยนมผง และเกลือ ทำการตีส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  3. นำสับปะรดกวนมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ นำแป้งขนมที่เตรียมไว้มาห่อไส้สับปะรดให้เป็นรูปทรงกลม เสร็จแล้วนำมากดในพิมพ์ที่เตรียมไว้ จากนั้นนำขนมที่ได้เข้าตู้เย็นประมาณ 10 นาที เพื่อให้แป้งเซตตัว 
  4. นำขนมออกจากตู้เย็น มาวางในถาดอบขนม แล้วนำเข้าตู้อบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เปิดไฟบน-ล่าง เป็นเวลา 15 นาที เสร็จแล้วนำออกมาพักไว้ให้เย็น
คุกกี้ สับปะรด

หลังจากที่ทำคุกกี้ สับปะรด เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้นำมาจัดใส่จานให้สวยงาม โดยรสชาติของขนมที่ได้จะมีความหอมของสับปะรด และกลิ่นเนยอร่อยอย่างลงตัว นอกจากนี้หากทานขนมเบเกอรี่ อย่างคุกกี้สอดไส้สับปะรดคู่กับเครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้วจะยิ่งทำให้รสชาติของขนมอร่อยมายิ่งขึ้น 

ขนมคุกกี้สอดไส้สับปะรดเบเกอรี่ยอดนิยม ทำขายสร้างรายได้ 

สำหรับใครที่อยากลองทำคุกกี้ สับปะรด เนื้อแน่นจัดเต็ม รสชาติหวานอร่อยกำลังดี วันนี้เรามีเคล็ดลับการทำเบเกอรี่ง่ายๆ อย่างคุกกี้สอดไส้สับปะรดมาให้คนที่สนใจได้ลองทำขายดูบ้าง โดยขั้นตอนเตรียมแป้งขนม ถ้าอยากแป้งมีความนุ่มนิ่ม ควรนำแป้งที่เตรียมเสร็จแล้วไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 5-10 นาที ก่อนนำมาห่อด้วนไส้สับปะรด เพียงแค่ก็จะได้ขนมคุกกี้เนื้อแป้งนุ่ม และอร่อย สำหรับขนมคุกกี้สอดไว้สับปะรดสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น คุกกี้สอดไส้สับปะรดรูปหอยแครง รูปหมูน้อย หรือจะเป็นรูปตัวหนอนที่มีหน้าตา และสีสันสวยงาม 

คุกกี้ สับปะรด

สำหรับขนม คุกกี้ สับปะรด เป็นขนมเบเกอรี่ทำเองง่ายนิดเดียว แถมยังสามารถทำทานได้ทั้งครอบครัว และนำเป็นของฝากให้คนพิเศษได้ด้วย และแน่นอนว่าขนมเบเกอรี่โฮมเมดอย่าง คุกกี้สอดไส้สับปะรดยังสามารถนำมาขาย เพื่อสร้างรายได้ และสร้างอาชีพได้อีกทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเปิดร้าน และขายทางออนไลน์รายได้ปังแน่นอน อีกข้อดีของคุกกี้สูตรนี้สามารถเก็บไว้ทานได้นานเป็นอาทิตย์ โดยที่รสชาติขนมยังคงมีความอร่อยเหมือนเดิม

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
เบเกอรี่

เปิดครัวชวนทำ ซอ ฟ คุกกี้ ในตำนาน รสชาติหวานละมุนลิ้น แป้งนุ่มอร่อยฟินทุกคำ 

ซอ ฟ คุกกี้

มาต่อกันที่ขนมหวานในตำนานอย่าง ซอ ฟ คุกกี้ เป็นขนมเนื้อนุ่ม กรอบเล็กน้อย รสชาติหวานละมุน ที่มาพร้อมกับความกลิ่นช็อกโกแลตอ่อนๆ นอกจากนี้ยังมีกลิ่นของคาราเมลอ่อนอีกด้วย สำหรับขนมชนิดนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูคุกกี้ที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญยังเป็นขนมสุดฮิตของกลุ่มเด็กๆ อีกด้วย เพราะเป็นมที่สามารถทานกับอะไรก็อร่อย โดยเฉพาะนมสด หากทานคู่กันจะทำให้รสชาติของขนมมีความอร่อย และฟินคำ และที่สำคัญยังเป็นขนมที่สามารถทานได้ทั้งครอบครัว และทานได้ทุกเทศกาล 

ซอ ฟ คุกกี้

วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำซอ ฟ คุกกี้ เมนูขนมหวานยอดนิยมที่มีรสชาติที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร สำหรับสูตรซอฟ คุกกี้ที่จะแชร์ให้ได้ติดตามนั้น เป็นสูตรที่สามารถทำทานได้ง่ายๆ ขั้นตอนต่างๆ ไม่ซับช้อน และไม่ต้องมีอุปกรณ์มากมาย เพียงแค่มีเตาอบขนมก็สามารถขนมชนิดนี้ได้แล้ว นอกจากนี้ขนมทำเองยังสามารถนำไปเป็นของฝากให้กับคนพิเศษในวันพิเศษอีกด้วย หรือจะทำเป็นอาชีพก็ปังสุดๆ 

วิธีทำ ขนม ซอ ฟ คุกกี้ ซ็อคโกแลต หวานนุ่มนิ่ม ทานได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ 

ซอ ฟ คุกกี้

เมนูขนมหวานคุกกี้มีหลากหลายสูตรมากมาย โดยแต่ละสูตรจะมีความแตกกันอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นรสชาติ สี กลิ่น รูปร่างหน้าตาขนม เป็นต้น ดังนั้นหากใครเป็นสายคุกกี้ต้องไม่พลาด เพราะเราได้คัดสรรค์สูตรขนมหวานที่กำลังมาแรงอยู่ตอนนี้ นั่นก็คือ ซอฟ คุกกี้ มาให้ติดตามกัน โดยเฉพาะเมนูซอฟคุกกี้เนยสด เป็นยอดฮิตตลอดกาลที่มีลักษณะเนื้อแป้งเป็นสีน้ำตาลอ่อนของซ็อกโกแลต รสชาติหวานละมุนกำลังดี ส่วนเนื้อแป้งนุ่มนิ่ม และกรุบกรอบเล็กน้อย อีกทั้งยังมีความหอมกลิ่นหอมเนยสดอร่อยทานได้ทุกเวลาไม่มีเบื่อ ในส่วนของวิธีการทำซอฟคุกกี้ก็ง่ายนิดเดียว แถมยังสามารถปรับรสชาติได้ตามใจชอบอีกด้วย 

ซอ ฟ คุกกี้

ส่วนผสม และวัตถุดิบที่เตรียม

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 250 กรัม
  2. เนยสดชนืดจืด 150 กรัม
  3. น้ำตาลทรายแดง 140 กรัม
  4. น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม
  5. ซ็อกโกแลต 180 กรัม
  6. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  7. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  8. เกลือป่น ½ ช้อนชา

สำหรับการทำซอฟคุกกี้ หากใครไม่ชอบความหากใครไม่ชอบรสชาติหวานเกินไปสามารถลดน้ำตาลลงได้ แต่สำหรับสูตรคุกกี้ที่เรานำมาแชร์นั้นเป็นสูตร ซอ ฟ คุกกี้ หวานน้อย ดังนั้นไม่ต้องกังวลใจว่าเรื่องความอ้วน เพราะคุกกี้ สูตรหวานน้อยไม่ทำให้อ้วนแน่นอน และวิธีการทำนั้นสามารถทำตามได้ดังต่อไปนี้

ซอ ฟ คุกกี้
  1. มาเริ่มกันที่นำแป้งมาร่อนในภาชนะที่เตรียมไว้ เพื่อเอาตะกอนออก จากนั้นพักไว้ก่อน ต่อมาให้เตรียมละลายเนย โดยการนำเนยสดชนิดจืดมาใส่ในหม้อ เปิดไฟอ่อนๆ คนเนยเรื่อยๆ จนกว่าเนยจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล จากนั้นนำมากรองด้วยกระชอน แนะนำให้ใช้ตาถี่ เพื่อกรองตะกอนที่ไม่ละลายออกจากเนย จากนั้นนำภาชะที่มีเนยอยู่มาวางบนอ่างน้ำร้อน เพื่อไม่ให้แข็งกลับมาเซตตัว
  2. หลังจากนั้นใส่น้ำตาลทรายแดง และน้ำตาลทรายขาวลงไปในภาชนะที่มีเนยอยู่ ตามด้วยไขไก่ และกลิ่นวานิลลาลงไปด้วย ตีส่วนผสมทั้งหมดจนกว่าน้ำตาลจะละลายด้วยตะกร้อไฟฟ้า ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ที่เตรียมไว้ เกลือ และเบกกิ้งโซดา หลังจากนั้นใช้ไม้พายตะล่อมส่วนผสมทั้งให้เข้ากัน และเป็นเนื้อเดียวกัน 
  3. เพื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ให้ใส่ซ็อกโกแลตลงไป ทำการตะล่อมส่วนผสมทั้งหมดอีกครั้ง เสร็จแล้วนำมาตักใส่ถาดอบขนม โดยการนำกระดาษไขมาลองถาดก่อน แล้วค่อยใช้ช้อน หรือสคูปตักไอศกรีม และใช้พายปาดส่วนที่เกินออก นำมาวางบนถาดอบขนม โดยวางขนมแต่ละชิ้นให้ห่างกันประมาณ 2 เชนติเมตร 
  4. จากนั้นนำถาดขนมเข้าอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที จากนั้นนำออกมาพักไว้ให้เย็น จัดขนมใส่จานให้สวยงาม เตรียมตั้งโต๊ะรับประทาน
ซอ ฟ คุกกี้

ขนมซอฟคุกกี้หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า คุกกี้นิ่ม เมื่อทำเสร็จแล้วจะมีเนื้อแป้งนุ่มนิ่ม หนึบหนับ หอมกรุ่นเนยสด และกลิ่นซ็อกโกแลตอ่อนๆ รสชาติหวานนุ่มนวลพอดี เหมาะสำหรับคนที่กำลังลดความอ้วน แต่อยากทานขนมสักชิ้นให้ชื่นใจ แต่ถ้าใครต้องรสชาติที่หวานกว่านี้สามารถเพิ่มน้ำตาลได้เลยอร่อยหวานจัดจ้านแน่นอน 

แนะนำวิธีทำขนม คุกกี้ปีใหม่ ของขวัญสุดพิเศษ เพื่อคนพิเศษ

สำหรับใครที่กำลังมองหาของขัวญปีใหม่อยู่ตอนนี้ แต่ไม่รู้ว่าจะมอบอะไรเป็นของขวัญกับญาติผู้ใหญ่ ขอแนะนำ เมนูเบเกอรี่ อย่างซอฟ คุกกี้ หรือ Soft Cookie สูตร มัทฉะไวท์ซ็อกโกแลต เป็น เบเกอรี่ยอดนิยม มีรสชาติโดดเด่นด้วยกลิ่นชาเขียวมัทฉะ หอมอบอวลอร่อยฟินทุกชิ้น แต่ถ้าไม่อยากซื้อคุกกี้เป็นของขวัญสามารถทำเบเกอรี่ง่ายๆ ได้ด้วยตัวเอง เพียงใช้สูตร และขั้นตอนตามที่กล่าวมาข้างต้น จากนั้นเพิ่มเติมชาเขียวมัทฉะ 20 กรัม และ เปลี่ยนจากดาร์กซ็อกโกแลตเป็นไวท์ซ็อกโกแลตแทน จากนั้นคนส่วนผสมทั้งมหดให้เข้ากัน และเป็นเนื้อเดียวกัน นำมาตักใส่ถาดอบขนมและนำไปอบ เมื่ออบเร็จแล้วจะได้ขนมคุกกี้ที่มีสีเขียวอ่อน ที่มาพร้อมกับความของกลิ่นมัทฉะ จากนั้นบรรจุใส่ขวดโหลตกแต่งให้สวยงาม

ซอ ฟ คุกกี้

เป็นอย่างไรบ้างกับซอฟคุกกี้ ซึ่งเป็นสูตรเบเกอรี่ทำเองอย่างง่ายๆ ที่นำแชร์ในวันนี้ หวังว่าทุกคนจะมีความสุขกับการทำคุกกี้ สูตรนุ่มนิ่ม หนึ่งในเมนูเบเกอรี่โฮมเมด เพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับคนพิเศษในวันพิเศษ หรือทำไว้ทานกับครอบครัวก็ได้เช่นกัน

อ่านบทความอื่นๆ:

  • “ราดหน้าหมี่กรอบ” หมี่เหลืองกรอบ อร่อย ฉ่ำน้ำสต๊อกง
Categories
เบเกอรี่

เปิดความอร่อย สูตร คุกกี้ บ ราว นี่ รสชาติเข้มข้น กรอบนอก นุ่มใน หวานกำลังดี

คุกกี้ บ ราว นี่

อีกหนึ่งเมนูขนมหวานแสนอร่อยโดนใจที่อยากแนะนำ นั่นก็คือ สูตร คุกกี้ บ ราว นี่ รูปร่างกลม หรือสี่เหลี่ยม สีน้ำตาล มีกลิ่นหอมของวานิลลา รสชาติหวาน ตัดกับรสขมของซ็อคโกแลตเข้ากันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เนื้อแป้งยังมีความกรอบนอก และนุ่มในโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ สำหรับขนมชนิดนี้สามารถหาทานได้ตามร้านขายขนมทั่วไป และร้านคาเฟ่ใกล้บบ้านที่มักจะมีบราวนี่วางขายคู่กับเครื่องดื่มมากมายให้เลือกทานอย่างจุใจ และแน่นอนว่าบราวนี่เป็นขนมหวานสุดคลาสสิกที่คนทั่วไปชอบทานเป็นประจำ

คุกกี้ บ ราว นี่

สำหรับเชฟมือใหม่อยากลองทำขนมไว้ทำขาย แต่ไม่รู้จะทำขนมหวานเมนูไหนดี วันนี้เรามีขนมสูตรพิเศษที่คนทั่วไปนิยมทานมากที่สุดในร้านคาเฟ่ นั่นก็คือ คุกกี้ บราว นี่ ขนมสายซ็อคโกแลต เนื้อแป้งเหนียวนุ่ม กรอบนอก รสชาติหวานอร่อย หอมกลิ่นช็อคโกแลตเข้มข้น เรียกได้ว่า ใครได้ลองทานบราวนี่ต้องติดใจทุกคน ส่วนวิธีทำขนม คุกกี้ บ ราว นี่ ก็ง่าย แสนง่าย รับรองว่าทำขายได้กำไร แถมลูกค้าแน่นร้านทุกวันแน่นอน 

สูตร คุกกี้ บ ราว นี่ สุดคลาสสิก เนื้อแป้งเข้มข้น ทำง่าย มือใหม่ก็ทำได้ 

ขนมคุกกี้ บ ราว นี่ มีความโดดเด่นด้วยหน้านอกกรุบกรอบ เนื้อในนุ่มนิ่ม รสชาติหวาน หอมกลิ่นซ็อคโกแลตเข้มข้นอร่อยกำลังดี นอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว สีของบ ราว นี่ คุกกี้มีสีน้ำตาลเข้มข้นยิ่งความน่ารับประทานของขนมมากยิ่งขึ้นอีกด้วย สำหรับใครที่ชอบคุกกี้บราวนี่โกโก้เข้มข้น วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำขนมสูตรคุกกี้ บ ราว นี่ กรอบนอก นุ่ม ใน รสชาติโดดเด่น จากต้นตำรับ และอัดแน่นไปด้วยซ็อคโกแลตแบบจัดหนักจัดเต็ม พร้อมแชร์เคล็ดลับการทำแป้งให้กรอบ นุ่ม เหมือนซื้อทานที่ร้าน 

คุกกี้ บ ราว นี่

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

  1. แป้งอเนกประสงค์ 100 กรัม
  2. ดาร์กซ็อกโกแลต 90 กรัม
  3. เนยจืด 30 กรัม
  4. น้ำตาลทรายขาว 50 กรัม
  5. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  6. ผงโกโก้ 10 กรัม
  7. ดาร์กซ็อกโกแลตชิพ 90 กรัม
  8. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  9. ผงฟู 1 กรัม
  10. เกลือ ½ ช้อนชา

ขนม คุกกี้บราวนี่ มีส่วนผสมค่อนข้างเยอะ แต่วัตถุดิบที่เหลือสามารเก็บไว้ทำคุกกี้ได้อีกในครั้งต่อไป โดยวันนี้เราจะพาทำสูตร คุกกี้ บ ราว นี่อย่างง่าย ไม่ยุ่งยาก หากใครยังเป็นมือใหม่สามารถทำตามวิธีทำขนมคุกกี้ สูตรบราวนี่ ได้ดังนี้

คุกกี้ บ ราว นี่
  • ในขั้นตอนแรก ให้เตรียมซ็อกโกแลตสำหรับทำขนม เริ่มจากนำดาร์กซ็อกโกแลต และเนยวจืดที่เตรียมใส่ในภาชนะ จากนั้นนำไปละลาย โดยนำไปวางไว้บนหม้อน้ำร้อน
  • ต่อมาให้ไข่ไก่ตอกใส่ภาชนะ ตามด้วยน้ำตาลทรายขาว และน้ำตาลทรายแดง ตามด้วยกลิ่นวานิลลา จากนั้นตีส่วนผสมให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ ควรตีส่วนผสมไปเรื่อยๆ ประมาฯ 3-4 นาที เพื่อให้นน้ำตาลละลาย
  • น้ำดาร์กซ็อกโกแลตที่ลายแล้วมาใส่ในภาชนะที่มีส่วนผสมที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ ตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน นำแป้งอเนกประสงค์ ผงโกโก้ ผงฟู และเกลือมาร่อนที่แล้วใส่ลงไป หลังจากนั้นตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดี
  • ใส่ดาร็กซ็อกโกแลตชีพลง คนจนกว่าจะส่วนผสมจะเป็นเดียวกัน หลังจากนั้นตักใส่ถาดอบขนมให้เป็นรูปร่างทรงกลมเท่าๆ กัน โดยให้ขนมแต่ละชิ้นห่างกัน 1 เซนติเมตร จากนั้นกดแป้งให้แบนเล็กน้อย
  • นำถาดขนมเข้าอบที่อุณภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที นำออกมาพักไว้ให้เย็น เพียงเท่านี้ก็จะได้ขนมคุกกี้ สูตรซ็อคโกแลต ที่น่าตาน่ารับประทานสุดๆ 
คุกกี้ บ ราว นี่

ขนม คุกกี้ บราวนี่ มีหลากรูปร่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปสี่เหลี่ยม ทรงกลม ดังนั้นหากใครที่ไม่ชอบทรงกลมสามารถเทขนมลงในถาดอบขนม โดยนำกระดาษไขลองก้นถาด จากนั้นเทคุกกี้ลงไป และเกลี่ยหน้าขนมให้เรียบ จากนำเข้าอบได้เลย เพียงเท่านี้เราก็จะได้ขนมคุกกี้บราวนี่ หน้าฟิล์ม รสชาติหวาน กรอบนอก นุ่มใน แล้ว วิธีสังเกตขนมสุกหรือยัง ให้นำไม้จิ้มฟันจิ้มขนม หากไม่มีแป้งขนมติดไม้จิ้มฟันแสดงว่าขนมคุกกี้สุกดีแล้ว 

แชร์สูตรลับ ขนมคุกกี้ สูตรบราวนี่ เมนูเบเกอรี่ แสนอร่อย

คุกกี้ บ ราว นี่

คุกกี้บราวนี่คือขนมหวานที่เรียกว่าเป็นเมนูเบเกอรี่ยอดนิยมสุดคลาสสิกที่คนชอบทาน เพราะรสชาติหวาน ตัดขม แถมยังกลิ่นหอมของวานิลลา ผสมกับกลิ่นซ็อกโกแลตเข้ากันสุดๆ สำหรับเคล็บลับทำเบเกอรี่ง่ายให้อร่อยง่ายนิดเดียว โดยขั้นตอนการละลายซ็อกโกแลตต้องหมั่นคนสม่ำเสมอ หลังจากที่ซ็อกโกแลตละลายแล้วจะมีลักษณะมันวาว และสิ่งสำคัญต้องพยายามสังเกตไม่ให้ซ็อกโกแลตกลับมาเซตตัว เพราะจะทำให้ขนมคุกกี้ไม่เป็นหน้าฟิล์มนั่นเอง ดังนั้นควรวางภาชนะที่ละลายซ็อกโกแลตบนหม้อน้ำอุ่นตลอดเวลาจนกว่าจะนำไปผสมกับแป้งทำขนม เพียงเท่านี้ก็จะได้ขนมคุกกี้ สูตรบราวนี่หน้าฟิล์ม เหมือนสูตรต้นตำรับ

คุกกี้ บ ราว นี่

คุกกี้ บ ราว นี่สูตรหน้าฟิล์ม เนื้อแป้งซ็อกโกแลตเข้มข้น กรอบนอก นุ่มใน รสชาติหวานละมุน ตามฉบับต้นตำรับ ดังนั้นถ้าอยากทำขนมทานเองที่บ้าน หรือทำให้เพื่อนทานต้องลองทำคุกกี้ สูตรบราวนี่เบเกอรี่ทำเองง่ายๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่เบเกอรี่โฮมเมด แต่รับรองว่าอร่อยเมมือนสูตรดั้งเดิมแน่นอน

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
เบเกอรี่

สายคลีนไม่ควรพลาด! สูตร คุกกี้ ธัญพืช กรอบอร่อย อัดแน่นด้วยประโยชน์มากมาย 

คุกกี้ ธัญพืช

ปัจจุบันเทรนสุขภาพกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยทำงานอย่างมาก เนื่องจากทำงานอย่างหนักจนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ส่งผลให้หลายคนเริ่มรู้สึกว่าสุขภาพของตัวเองเริ่มย่ำแย่ลงเรื่อยๆ จนทำให้ร่างกายเจ็บป่วย และโรครุมเร้ามากมาย และนี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ผู้คนเริ่มออกกำลังกายมากขึ้น เพื่อให้ร่างกายมีสุภาพที่ดี แต่อีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้สุขภาพดี นั่นก็คือ การรับประทานอาหาร โดยเฉพาะอาหารคลีน และขนมคลีน สำหรับใครที่กำลังมาหาขนมคลีนทานมื้อย่อยๆ ขอแนะนำ คุกกี้ ธัญพืช ขนมที่มีการรวมเอาธัญพืชหลากหลายชนิดมาทำเป็นคุกกี้ กรอบอร่อย และยังมีประโยชน์มากที่คาดไม่ถึง

คุกกี้ ธัญพืช

สายคลีมต้องไม่พลาด กับเมนูสุดฮิต คุกกี้ธัญพืช ขนมทานเล่น รสชาติหวาน หอมกลิ่นธัญพืชนานาชนิด เนื้อกรอบอร่อยเคี้ยวเพลิน และทานแล้วไม่อ้วน ได้รับประโยชน์เต็มๆ แถมยังอิ่มท้องอีกด้วย เรียกได้เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทานแล้วได้ทั้งสุขภาพ และหุ่นดีอีกด้วย สำหรับขนมคุกกี้ สูตรธัญพืชมีขายทั่วในร้านคาเฟ่ หรือร้านขายเบเกอรี่ทั่วไป แต่ราคาค่อนข้างแพง ดังนั้นวันนี้เราจะพาสายคลีนมาลองทำขนม คุกกี้ธัญพืช สูตรไร้แป้ง ไร้น้ำตาล ไว้ทานระหว่างวันแบบจุใจไปเลย

เปิดเมนูเพื่อสุขภาพ คุกกี้ ธัญพืช สูตรไร้แป้ง ไร้น้ำตาล ไม่อ้วน แถมดีต่อสุขภาพ 

คุกกี้ ธัญพืช

เมนูเพื่อสุขภาพมีหลากหลายเมนูให้เราได้เลือกทานมากมาย ไม่ว่าเป็น อาหาร เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ แต่มีหนึ่งเมนูที่อยากแนะนำคุกกี้ธัญพืช ขนมเพื่อสุภาพ ทานแล้วได้ประโยชน์ดีต่อสุขภาพ และไม่อ้วนอีกด้วย สำหรับใครกำลังลดน้ำหนักแต่อยากขนมต้องลองทาน คุกกี้ธัญพืช ไร้แป้ง ไร้น้ำมัน กรอบ หวานธรรมชาติ ไร้น้ำตาล ทานยังก็ไม่อ้วน และที่สำคัญยังเป็นเมนูขนมคลีนที่สามารทำทานได้ด้วย โดยสูตร คุกกี้ ธัญพืชจะเน้นเพื่อสาพ ไม่มีแป้ง และน้ำตาล ส่วนขั้นตอนการทำขนมคุกกี้ธัญพืชนั้นไม่ยุ่งยาก มือใหม่สายคลีนทำได้ แต่ก่อนที่ลงทำเมนูคุกกี้ ธัญพืช ไร้ แป้ง ไร้ น้ำตาล ต้องเตรียมส่วนผสมกันก่อน

คุกกี้ ธัญพืช
  1. มะม่วงหิมพานต์อบแห้ง 25 กรัม
  2. อัลมอนด์ไลด์ 25 กรัม
  3. เมล็ดทานตะวัน 25 กรัม
  4. ลูกเกด 25 กรัม
  5. งาดำ 20 กรัม
  6. งาขาว 20 กรัม
  7. เมล็ดฟักทอง 20 กรัม
  8. น้ำผึ้ง 5 ช้อนโต๊ะ
  9. ไข่ไก่ (เฉพาะไข่ขาว) 2 ฟอง

สำหรับส่วนผสมของ คุกกี้ ธัญพืชรวมมิตร หากบ้านไหนไม่มีธัญพืชที่กล่าวมาข้างต้นสามารถเปลี่ยนวัตถุดิบได้ เพราะการทำคุกกี้คลีนทำทานเองจะเน้นวัตถุดิบที่มีอยู่ในครัว และสามารถหาซื้อได้จากร้านค้าใกล้บ้าน เมื่อเตรียมวัตถุดิบครบแล้ว ในขั้นตอนต่อมาจะเป็นวิธี ทํา คุกกี้ ธัญพืช ไร้ แป้งไร้น้ำมัน ใช้ความหวานจากธรรมชาติไม่อ้วน 

คุกกี้ ธัญพืช
  1. นำอัลมอนด์ไลด์ มะม่วงหิมพานต์อบแห้ง เมล็ดทานตะวัน ลูกเกด งำดำ งาขาว เมล็ดฟักทอง ใส่ลงไปในภาชนะที่เตรียมไว้ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ตามด้วยเกลือ คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกรอบ ใส่น้ำผึ้งลงไป คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันอีกรอบ
  2. หลังจากนั้นใส่ไข่ขาว โดยค่อยเททีละนิด เพื่อให้ไข่ขาวสามารถซึมเข้าธัญพืชได้ดี ต่อให้เตรียมพิมพ์ใส่ขนมวางบนถาดอบขนม จากนั้นตักธัญพืชใส่ในพิมพ์ ทำการกดขนมให้แน่น โดยขนมแต่ละชิ้นให้มีความห่างกันชิ้นละ 1 เซนติเมตร
  3. ต่อมาเป็นการอบขนม โดยก่อนที่จะอบต้องทำการวอมตู้ก่อน 5 นาที จากนั้นนำถาดขนมเข้าอบที่อุณหภูมิ 140 องศาเซลเซียส เปิดไฟบน- ล่าง เป็นเวลา 15 นาที เมื่ออบเสร็จแล้วนำออกมาพักไว้ให้เย็น จากนั้นจัดใส่จาน ให้สวยงาม
คุกกี้ ธัญพืช

คุกกี้ธัญพืชรวมมิตร ที่อบเสร็จแล้วจะมีเหลืองสวยงาม เนื้อขนมมีความกรุบกรอบ รสชาติหวานหอมน้ำผึ้งละมุนละไมอร่อยโดนใจ สำหรับวิธีการเก็บคุกกี้ให้นำขวดโหลมาทำความสะอาด จากนั้นบรรจุคุกกี้ลงไปพร้อมปิดฝาให้แน่น ขนมคุกกี้ธัญพืชสามารถพกพาไปทานในที่ทำงานได้ และอิ่มท้องนานอักด้วย หากใครที่ไม่ชอบขนมคุกกี้ สูตรธัญพืช ขอแนะนำ คุกกี้ธัญพืชข้าวโอ๊ต เพียงใช้แค่ข้าวโอ๊ตผสมกับไข่ขาว ตามด้วยสารให้ความหวาน และเกลือเล็กน้อย นำเข้าอบ เสร็จแล้วจะคุกกี้ข้าวโอ๊ตสีเหลืองน่าทาน

ขนม คุกกี้ธัญพืชคลีน หอมอร่อย สุขภาพดี มีประโยชน์

คุกกี้ ธัญพืช

สำใครที่ไม่ชอบขนมที่มีแป้งเยอะ แนะนำคุกกี้ ธัญพืชเป็นหนึ่งในขนมคลีนสูตร คุกกี้ธัญพืชไร้แป้ง และไม่มีน้ำตาล ทานแล้วไม่อ้วน และสุขภาพดี และร่างกายแข็งแรง จึงทำให้ขนมสูตรนี้สามารถทานได้ทุกวัย และยังสามารถทานในระหว่างวันสำหรับคนที่ไม่มีเวลาทานข้าวอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็น เบเกอรี่คลีนที่รสชาติอร่อย ไม่มีแป้ง ไม่มีน้ำตาล และยังมีประโยชน์อย่างมากมาย เพราะในธัญพืชมีกรดไขมันจำเป็นกลุ่มโอเมก้า 3 ไม่ว่าจะเป็น ช่วยบำรุงระบบประสาท ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และ ช่วยลดโรคหลอดเลือดตีบ ได้อีกด้วย แถมเบเกอรี่ยอดนิยมอย่าง ขนมคุกกี้ สูตรธัญพืชยังมีปริมาณแคลน้อย เพียงประมาณ 80 แคลลอรี่ต่อชิ้น รับรองว่าทานแล้วไม่อ้วนแน่นอน 

คุกกี้ ธัญพืช

คุกกี้ธัญพืช ถือว่าเป็นเมนูคลีนยอดนิยมที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกสบาย และยังสามารถทานได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ อีกทั้งยังมีวิธีทำเบเกอรี่ง่ายๆ มือใหม่ก็ทำได้ แถมขนมคุกกี้ สูตรธัญพืชรวมมิตรเป็นเบเกอรี่ทำเองได้ที่บ้าน และยังใช้เวลาทำเพียงน้อยนิด คนมีเวลาน้อยก็ทำได้สามารทำเบเกอรี่โฮมเมดแสนอร่อยได้ แถมคุกกี้ สูตรธัญพืชยังสามารถไว้ได้นานอีกด้วยนะ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
เบเกอรี่

แชร์สูตร คุกกี้ เนย สด หอมกลิ่นเนยสด รสชาติหวาน กรอบ ส่งตรงจากเดนมาร์ก 

คุกกี้ เนย สด

คุกกี้ เนย สด หรือ เดนิช บิสกิต หนึ่งในขนมยอดนิยมตลอดกาล โดยมีต้นกำเนิดมาจากประเทศเดนมาร์ก สำหรับคุกกี้จะมีส่วนประหลักเป็น แป้ง น้ำตาล และที่ขาดไม่ได้เลยคือ เนยสด เท่านั้น แต่ในปัจจุบันมีพัฒนาปรับปรุงสูตรขนมให้มีกลิ่นที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น กลิ่นวานิลลา ซ็อกโกแลต เป็นต้น ขนมคุกกี้มีความโดดเด่นในเรื่องความเรียบง่ายแบบคลาสสิก คือขนมมีลักษณะเรียบไม่มีการตกแต่ง หรือทำให้มีสีสันเหมือนขนมชนิดอื่น แต่มีความหลากหลายในเรื่องของรูปทรง เช่น ทรงกลม วงรี วงแหวน และสี่เหลี่ยม หรือบางครั้งเราเห็นขนมคุกกี้ในรูปทรงคล้ายเพรทเซล รวมไปถึงรูปทรงเกลียว 

คุกกี้ เนย สด

มาเอาใจสายคุกกี้กับบ้าง กับขนม คุกกี้เนยสด เป็นขนมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะรสชาติของขนมมีความหวานนุ่มนวล ส่วนเนื้อขนมมีความกรุบกรอบ ตัดกับกลิ่นเนยสดเข้ากันที่สุด อีกทั้งขนมคุกกี้ยังเป็นขนมที่ไม่ว่าจะเวลาจะผ่านมากี่ทศวรรษรสชาติยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เรียกได้ว่า ขนมคุกกี้ที่มีความคลาสสิกสุดๆ สำหรับวิธีทำที่หลายคิดว่าทำง่าย แต่แท้จริงแล้วไม่ยากอย่างที่คิด อีกทั้งรสชาติของขนมคุกกี้ เนย สดยังมาความอร่อยเหมือนส่งตรงจากต้นตำรับเลยทีเดียว

วิธีทำขนมสุดคลาสสิก คุกกี้ เนย สด เนื้อกรุบกรอบ อบอวลด้วยเนยสด หวานละมุน

หากใครเป็นชอบทำขนม และกำลังหาเมนูขนมหวานไว้ทำทานในช่วงวันหยุด ต้องไม่พลาดกับคุกกี้เนยสด ขนมที่หลายคนชอบทานเป็นของว่าง และทานลองท้องก่อนออกไปทำงาน อีกทั้งยังสามารถทำเป็นของขวัญในเทศกาลต่างๆ หรือมอบเป็นของขวัญในกับญาติผู้ใหญ่ได้ด้วย สำหรับวิธี ทํา คุกกี้ เนยสด ง่ายๆ มือใหม่ก็สามารถทำได้ไม่ยาก และในวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูวิธีทำคุกกี้แบบใหม่นั่นก็คือ วิธี ทํา คุกกี้ เนยสด ด้วย ไมโครเวฟ เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเตาอบขนมอย่างมาก ส่วนสูตรคุกกี้เนยสด ง่ายๆ ใช้ส่วนผสมเพียงเล็กน้อยดังนี้

คุกกี้ เนย สด
  1. แป้งอเนกประสงค์ 200 กรัม
  2. น้ำตาลไอซิ่งซ์ 50 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 60 กรัม
  4. เกลือ ½ ช้อนชา
  5. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  6. เนยสด 150 กรัม
  7. ผงฟู ½ ช้อนชา
  8. เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ

สำหรับสูตรคุกกี้ เนยสด ที่กล่าวมมาข้างต้นเป็นสูตรต้นตำรับของเดนมาร์ก ดังนั้นถึงแม้ว่าจะอบด้วยไมโครเวฟ ขนมคุกกี้ยังคงมีรสชาติหวาน หอม และกรุบกรอบเหมือนสูตรต้นตำรับแน่นอน ส่วนวิธีทำคุกกี้เนยสด ด้วยเตาไมโครเวฟสามารถทำตามได้ดังนี้

คุกกี้ เนย สด
  1. มาเริ่มกันที่ขั้นตอนแรกกันเลย นำไข่ เกลือ ผงฟู เบคกิ้งโซดา และน้ำตาลไอซิ่งใส่ลงไปในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นตีส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวกัน 
  2. เตรียมแป้งขนม โดยนำแป้งอเนกประสงค์มาร่อนในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นตะล่อมๆ แป้งใส่ในส่วนผสมปียกที่เตรียมไว้ในขั้นตอนแรก ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวกันอีกครั้ง ใส่น้ำตาทรายที่ละลายกับเนยสดลงไป ตีส่วนผสมทั้งหมดอีกรอบ
  3. เมื่อได้แป้งขนมคุกกี้แล้ว ให้นำมาตักใส่ถุงบีบขนมลงในจานจานกระเบื้อง จากนั้นนำเข้าเตาอบไมโครเวฟที่ 600 วัตต์ เป็นเวลา 50-60 นาที หรือจนกว่าแป้งคุกกี้จะเป็นสีเหลือง เสร็จแล้วนำออกจากเตา พักไว้ให้เย็น 

ขนม คุกกี้เนย สด สไตล์โฮมเมคที่ทำเสร็จแล้วจะมีรสชาติหวานละมุน และกรุบกรอบเคี้ยวอร่อยฟินทุกคำ และหากเสิร์ฟพร้อมกับชาร้อน หรือนมสักแก้วยจะยิ่งทำให้อร่อยมากขึ้น อีกทั้งขนมคุกกี้ยั้งเป็นเมนูเบเกอรี่ที่สามารถทานได้ทั้งครอบครัวไม่จะเป็นเด็ก และผู้ใหญ่ สำหรับขนมที่ทานไม่หมดสามารถนำไปเก็บไว้ในขวดโหลได้นานเป็นอาทิตย์เลยทีเดียว 

เผยสูตร ขนมคุกกี้ ด้วยเตาอบ เมนูเบเกอรี่ยอดนิยม ส่งมอบได้ทุกเทศกาล

คุกกี้ เนย สด

มาต่อกันที่ วิธีทำคุกกี้ เนย สดด้วยเตาอบเบเกอรี่ง่ายๆ กัน โดยใช้สูตรเดียวกับคุกกี้ด้วยไมโครเวฟ เริ่มจากนำแป้งเค้กมาร่อนเอาตะกอนออก จานั้นใส่ไข่ เนยสด น้ำตาลทราย ผงฟู และเบคกิ้งโซดาลงไป ตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ต่อมาให้ใส่เกลือ ตามด้วยกลิ่นวานิลลาเพียงเล็กน้อย ตีส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง เสร็จแล้วตักใส่ถุงบีบขนม ทำการบีบขนมลงไปในถาดอบขนม จากนั้นนำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 20 นาที หลังจากที่อบเสร็จแล้วให้นำออกมาพักไว้ให้เย็น ซึ่งขนมคุกกี้ที่อบเสร็จจะมีสีเหลือง และรสชาติหอม กรอบ หวานละมุนสุดๆ 

คุกกี้ เนย สด

ถ้าอยากเพิ่มรสชาติให้กับขนมคุกกี้ เนย สด แนะนำให้เติมแยมผลไม้ตรงกลางจะทำให้คุกกี้มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวอร่อยได้อย่างลงตัว เรียกว่าเป็นเบเกอรี่ทำเองง่ายๆ ทำสูตรไหนก็อร่อยทานได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ นอกจากนี้ขนมเบเกอรี่โฮมเมดยังสามารถทำเป็นของขวัญในวันพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น วันปีใหม่ ขึ้นบ้านใหม่ วันเกิด เป็นต้น อีกทั้งยังสามารถให้ได้ทั้งเด็ก และผู้ใหม่อีกด้วย แถมยังเป็นขนมสุดคลาสสิกที่นิยมทานในงานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ ตลอดจนงานบวช และงานแต่งกันเลยทีเดียว หากใครที่สนใจเมนูขนมหวานแสนอร่อยไว้ทำทาน หรือทำขาย แนะนำ ขนมคุกกี้ สูตรเนยสดทำง่ายๆ แถมอร่อยตามสูตรต้นตำรับขนานแท้ ไม่มีผิดเพี้ยน 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
เบเกอรี่

เมนูสร้างความสุข ขนมหวานยอดนิยม โดนัทจิ๋ว แต่อร่อย รสชาติหวานฉ่ำ โดนใจ 

โดนัทจิ๋ว

โดนัทจิ๋ว ขนมหวานสุดคิ้วท์ที่รู้จักกันทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย และกำลังเป็นที่นิยมกันมากที่สุดในตอนนี้ สำหรับขนมโดนัทถูกค้นพบมาตั้งสมัยก่อนยุคประยุคประวัติศาสตร์ หรือประมาณ 600 ปีมาแล้ว ในสมัยก่อนโดยนัทจะมีรูปร่างกลมไม่มีรูตรงกลางทำให้อมน้ำมัน และต่อมาผู้คิดค้นได้ดัดแปลงขนมโดนัทให้มีรูตรงกลาง เพื่อไม่ให้ขนมอมน้ำมันในขณะทอดนั่นเอง แต่ด้วยขนมโดนัทจะต้องใช้น้ำมันในการทอดค่อนข้างมาพอสมควร อีกทั้งยังอมน้ำมันอีกด้วย จึงทำให้ปัจจุบันมีการประยุกต์สูตรทำขนมโดนัทที่ใช้น้ำมันน้อย จนกลายมาเป็นโดนัทจิ๋ว เพียงแค่มีเครื่องทำขนมสามารถทำได้แล้ว 

โดนัทจิ๋ว

โดนัทจิ๋วเป็นขนมที่ประยุกต์มาจากขนมโดนัทสูตรออริจินัล แต่จะมีรูปร่างที่เล็กกว่า และไม่อมน้ำมัน เพราะใช้เครื่องทำขนมโดยเฉพาะ อีกทั้งรสชาติมีความหวานละมุน อบอวลไปด้วยกลิ่นเนยหอมอร่อยจนต้องเพิ่มอีกชิ้นเลยทีเดียว ส่วนขั้นตอนของการทำขนมก็ทำง่ายมากๆ หากใครอยากทำขนมโดนัทขนาดจิ๋วไว้ทานในครอบครัว หรือจะทำขายก็ทำได้ และสร้างกำไรตั้งวันแรกที่ขายเลยทีเดียว

สูตร โดนัทจิ๋ว รสชาติหวาน เนื้อนุ่มนิ่ม ไม่อมน้ำมัน ไม่อันตรายต่อสุขภาพ

โดนัทจิ๋ว

สำหรับผู้ที่ชอบขนมโดนัทเป็นชีวิตจิตใจ และอยากลองทำให้คนในครอบครัวทาน แต่ทำยังไงขนมโดนัทก็อมน้ำมันทุกครั้ง และไม่อร่อยเหมือนซื้อทานที่ร้าน ขอแนะนำ โดนัท จิ๋ว ขนมสุดน่ารัก รสชาติหวานละมุน หอมกลิ่นเนยสดอ่อนๆ ส่วนเนื้อแป้ง โดนัท จิ๋วมีความนุ่มนิ่ม และไม่อมน้ำมันอีกด้วย อีกทั้งยังมีให้ทำหลากสูตร ไม่ว่าจะเป็นสูตรออริจินอล และสูตรโดนัท จิ๋ว แฟนซีที่มีสีสันสดใส และที่สำคัญเป็นขนมโดนัทที่ใช้ทุนต่ำ หากทำโดนัท จิ๋ว 5 บาท ยังได้กำไรตั้งวันแรกเลยทีเดียว สำหรับวิธีทํา โดนัทจิ๋ว ขายง่ายนิดเดียว เพียงแค่มีเครื่องทำขนมโดนัทก็สามารถทำได้ ว่าแต่โดนัทจิ๋วสูตรไหนอร่อย และทำง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ไปดูกันเลย

โดนัทจิ๋ว

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

  1. แป้งอเนกประสงค์ 200 กรัม
  2. เนยสด 80 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 150 กรัม
  4. ผงฟู ½ ช้อนชา
  5. เบคกิ้งโซดา ½ ช้อนชา
  6. เกลือ ½ ช้อนชา
  7. น้ำมันรำข้าว 100 กรัม
  8. กลิ่นวนิลลา 3 ช้อนชา
  9. ผลไม่แช่อิ่ม 30 กรัม
  10. ลูกเกด 20 กรัม
  11. อัลมอนสไลด์ 10 กรัม
  12. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  13. สีผสมอาหารตามใจชอบ
  14. น้ำตาลไอซ์ซิ่ง 150 กรัม

วัตถุดิบของโดนัทจิ๋วที่กล่าวมาข้างต้นเป็นสูตร โดนัทจิ๋วแฟนซี สีสันสดใส เหมาะสำหรับเด็กๆ ที่ชอบทานขนมเป็นอยากมาก สำหรับส่วนผสมที่เป็นน้ำมันหากในครัวไม่มีน้ำมันรำข้าวสามารถใช้น้ำมันพืชแทนได้ แต่ถ้าใช้น้ำมันรำข้าวจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า และในลำดับต่อมาจะเป็นวิธีการทำขนมโดนัท ขนาดจิ๋ว มีลายละเอียดดังต่อไปนี้

โดนัทจิ๋ว
  1. มาเริ่มที่ขั้นตอนแรก เตรียมแป้งอเนกประสงค์ เบคกิ้งโซดา และผงฟู มาร่อนลงในภาชนะที่เตรียมไว้ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน พักไว้
  2. ต่อมาเตรียมน้ำตาล เนยสดที่ละลาย และตามด้วยไข่ไก่ และน้ำมันรำข้าวลงไปในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นใช้เครื่องตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นนำแป้งที่เตรียมไว้ใส่ลไปทีละครึ่ง ใช้เครื่องตีส่วนผสมด้วยความเร็วปานกลาง 
  3. นำแป้งโดนัทตักใส่ถุงบีบขนม จากนั้นนำไปบีบลงไปในหลุมเครื่องทำขนม ตกแต่งหน้าโดนัทด้วยอัลมอนสไลด์ ลูกเกด และผลไม้แช่อิ่ม นำถาดเข้าอบเป็นเวลา 10 นาที เสร็จแล้วนำขนมโดนัทออกมาพักไว้ให้เย็น
  4. ต่อมาเราบจะมาทำน้ำตาลราดหน้าโดนัท โดยเริ่มจากนำน้ำตาลไอซ์ซิ่งใส่ลงไปในภาชนะ จากนั้นใส่สีผสมอาหารที่เตรียมไว้ลงไปคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เสร็จแล้วเทส่วนผสมที่ได้ราดลงไปบนโดนัท รอให้น้ำตาลเซตตัว เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
โดนัทจิ๋ว

ขนมโดนัทจิ๋วที่ทำเสร็จแล้วจะมีความหอมกรุ่น หวานละมุน และสีสันสดใส และยังอร่อยกว่าที่ขายในท้องตลาด อีกทั้งยังสามารถตกแต่งหน้าโดนัทได้ตามใจชอบ อีกทั้งยังเป็นเบเกอรี่ที่สามารถคู่กับเครื่องดื่มอย่างชาเขียว หรือจะเป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติหวานอมเปรี่ยวอย่างบลูเบอรี่โซดาจะยิ่งเพิ่มความอร่อยอย่างลงตัว 

เทคนิคทำ เบเกอรี่ง่ายๆ โดนัทจิ๋ว ให้สวยงาม อร่อยพร้อมทาน

โดนัทจิ๋วเป็นขนมเบเกอรี่ทำเองได้ง่าย และมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก สำหรับขั้นตอนการอบอย่างโดนัทให้สุกดีนั้น ให้ใช้นิ้วจิ้มโดนัทหากเนื้อแป้งเด้งกลับแสดงว่าสุกเรียบร้อย สำหรับสีผสมอาหารสามารถเลือกได้ตามใจชอบ หากยากเพิ่มอร่อยให้กับโดนัท ขนมเบเกอรี่ยอดนิยมสามารถนำช็อกโกแลตหลากสีมาโรยหน้าโดนัทให้ดูสวยงาม เพียงเท่านี้ก็จะได้โดนัทสีสันสดใส แลน่ารับประทานสุดๆ ไปเลย 

โดนัทจิ๋ว

สำหรับใครที่อยากทำโดนัทจิ๋วสไตล์เบเกอรี่โฮมเมดสามารถทำตามสูตรที่กล่าวมาข้างต้น รับรองว่าโดนัทที่ทำออกมามีรสชาติหวานละมุนละไมทานแล้วติดใจทั้งเด็ก และผู้ใหญ่เลยทีเดียว และแน่นอนว่า หากอยากทำโดนัทสุดน่ารักไว้ขายในช่วงเลิกงานก็สามารถทำได้ แถมมีลูกค้าประจำตั้งแต่วันแรกที่ขายอีกด้วย หรือจะขายออนไลน์ก็มีออร์เดอร์ปังสุดๆ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
เบเกอรี่

เค้กไข่ไต้หวัน นุ่ม ละลายในปาก สูตรเด็ดต้องลอง

เค้กที่เห็นในรูป ลักษณะเป็นเค้กฟู ๆ เนื้อนุ่ม ๆ ที่ใครกิน ต่างเป็นต้องรู้ว่าคือ เค้กไข่ไต้หวัน และยังต้องติดใจ เรียกได้ว่า คอเบเกอรี่ ทั้งหลายล้วนรู้จักขนมอบชนิดนี้กันเป็นอย่างดีว่าอร่อยเพียงใด อันเกิดมาจาก กระแสตอบรับที่ดีจนมีการนำวิธีทำขนมดังกล่าวข้างต้น ลงในสื่อหลักอย่างยูทู้ป ให้เราได้ลองประลองฝึกทำกัน ซึ่งไรเตอร์เองก็ไม่รอช้า รีบไปสรรหาสูตรรวมถึงวิธีทำมาให้เพื่อน ๆ ได้ลองอบมากินกันเองภายในครอบครัวค่ะ

เค้กไข่ไต้หวัน ส่วนผสม/วัตถุดิบ

เค้กไข่ไต้หวัน

ความที่เค้กชนิดนี้ ไม่ได้มีรสหวานจัด ดังนั้น ถึงเป็นที่นิยมนำมากินกับชาหรือกาแฟในช่วงเบรค เป็นอีกหนึ่ง ของหวาน ที่คนส่วนใหญ่เริ่มทำ เพื่อนำมาวางจำหน่ายให้ลูกค้าได้ซื้อหา นำมากินค่ะ แต่สำหรับคนที่อยากทำกินเอง เรามีวิธีทำเค้กง่ายๆ ให้เพื่อน ๆ ได้ลองทำดูค่ะ ใช้วัตถุดิบเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น ก็ทำได้แล้ว

ส่วนผสม ไข่แดง

  • ไข่แดง เบอร์ 2 จำนวน 7 ฟอง
  • แป้งเค้ก 150 กรัม
  • เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
  • นมข้นจืด 145 กรัม
  • กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา
  • น้ำมันพืช 100 กรัม

ส่วนผสม ไข่ขาว

  • ไข่ขาว เบอร์ 2 จำนวน 7 ฟอง
  • ครีมออฟทาร์ทาร์ หรือน้ำมะนาว 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 100-120 กรัม เราสามารถไปเพิ่มหรือลดน้ำตาลลงมาได้ค่ะ
  • แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา

อุปกรณ์

เค้กไข่ไต้หวัน

การเตรียมความพร้อมก่อนลงมือทำ สำหรับเมนูเบเกอรี่มือใหม่ ทั้งหลาย อุปกรณ์จำเป็นที่จะนำมาใช้ทำนั้น มีเพียงไม่กี่อย่างค่ะ

  • เครื่องปั่นพร้อมหัวตีตะกร้อ
  • เตาอบ
  • อุปกรณ์เกี่ยวกับชั่ง ตวง วัด เช่น ช้อนตวง ถ้วยตวง บีกเกอร์ ตะแกรงร่อนแป้ง 
  • แม่พิมพ์
  • กระดาษไข
  • กระดาษทิชชู

วิธีทำ

เค้กไข่ไต้หวัน

ใครที่กำลังตั้งหน้าตั้งตารอคอยขอสูตรทำเค้กไข่ไต้หวัน แสนอร่อยให้กับตัวเองรวมถึงบุคคลอื่น ๆ ที่เราอยากมอบเค้กด้วยหัวใจ รับประกัน สูตรนี้ไม่ผิดหวัง ดีต่อใจ แน่นอนค่ะ

ขั้นตอนที่ 1 เค้กไข่ไต้หวันแสนอร่อย ให้เริ่มจาก การนำไข่แดงกับไข่ขาวมาแยกออกจากกัน จากนั้น นำแป้งเค้กกับเกลือป่นมาร่อนให้ได้ประมาณ 2 ครั้ง ทั้งนี้เป็นไปเพื่อทำให้เนื้อเค้กละเอียดและฟูขึ้นมาได้ค่ะ พักไว้ ระหว่างนั้น ตวงส่วนผสมที่เป็นของเหลว ได้แก่   นมข้นจืด น้ำมันพืช น้ำตาลทรายและไข่ แยกไว้  ในส่วนของน้ำมันพืช ให้นำไปอุ่นในกะทะ จากนั้น ให้ใส่ส่วนผสมแป้งลงในน้ำมันพืชที่เตรียมไว้แล้วตะล่อมคนให้เข้ากัน ตามด้วยนมข้นจืด เป็นไปเพื่อรสชาติที่กลมกล่อมอีกทั้งยังมีความหอมขึ้นมาอีกด้วยค่ะแล้วใส่ไข่แดง วานิลลา คนให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จในขั้นตอนแรก

ขั้นตอนที่ 2 เค้กไข่ไต้หวัน มาถึงขั้นตอนการทำในส่วนของส่วนผสมไข่ขาวโดยมีวิธีทำเค้กไข่ไต้หวัน ดังนี้ นำไข่ขาวมาตี ใช้ความแรงที่เบอร์ 3 เพื่อตีให้เนื้อไข่เป็นฟองหยาบก่อน ตามด้วยครีมออฟทาร์ทา เพื่อทำให้เนื้อเค้กขึ้นฟู จากนั่นค่อยไปเพิ่มความเร็ว ตีให้เข้ากันแล้วใส่แป้งข้าวโพดลงไป 

จากนั้นให้ทยอยแบ่งน้ำตาลออกเป็น 3 ครั้ง ให้ค่อย ๆ ใส่กระทั่งน้ำตาลทรายหมดจนไข่ขาวตั้งยอด แบ่งไข่ขาวหรือเมอแลงออกเป็น 3 ส่วน นำมาใส่ในส่วนผสมของแป้งและไข่แดงที่เราเตรียมไว้ก่อนหน้าได้เลยค่ะ ค่อย ๆ ตะล่อมคนเบา ๆ กระทั่งไข่ขาวหมด พักไว้

ขั้นตอนที่ 3 ในการทำเค้กไข่ไต้หวัน ขั้นตอนสุดท้ายให้เทส่วนผสมทั้งหมดลงในแม่พิมพ์ จากนั้น นำแม่พิมพ์ดังกล่าวมาวางในถาดรองน้ำ และไม่ลืมวางทิชชูแผ่นหนารองก้นแม่พิมพ์ ในส่วนของอุณหภูมิ ใช้อุณหภูมิในการอบประมาณ 160-180 องศาเซลเซียส เวลาที่เหมาะสมเมื่อ ต้องการจะอบ ใช้ประมาณ 40 นาที ตั้งค่าเป็นไฟบนไฟล่าง แล้วปิดพัดลม พอครบตามเวลาที่กำหนดไว้ ก็ให้นำเค้กออกมาจากเตาอบได้เลย พักให้เย็น แล้วตัดเป็นชิ้น ๆ นำมารับประทาน กินคู่กับชากาแฟได้ค่ะ

เค้กไข่ไต้หวัน เมนูขนมอบแสนอร่อย ที่ใครก็อยากกินไปจนถึงจะลองทำด้วยตัวเองซึ่งทางไรเตอร์ก็ได้ให้สูตรวิธีทำเค้กง่ายๆ ให้กับผู้ที่สนใจได้ลองนำสูตรดังกล่าวไปปรับใช้ดูนะคะ

เค้กไข่ไต้หวัน
Categories
เบเกอรี่

เค้กกล้วยหอม ขนมอบกล้วย ๆ ทำแล้วอร่อย ใครกินก็ติดใจ

เค้กกล้วยหอม

เค้กกล้วยหอม ขึ้นชื่อที่ใครต่างก็รู้จักเจ้า เบเกอรี่ ชนิดนี้กันเป็นอย่างดีนะคะ โดยใช้วัตถุดิบง่าย ๆ อย่างกล้วยหอมหง่อม ๆ รับประทานไม่ทัน มาใช้เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับขนมที่ใครต่างก็สามารถรับประทานได้ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือคนทำงาน การนำขนมชนิดนี้มากินคู่กับชากาแฟในผู้ใหญ่ ดูเหมือนเป็นการสร้างรูปแบบการกินที่ทำให้การดื่มในช่วงสาย ๆ หรือในช่วงเบรคค่อนข้างได้อรรถรสมากขึ้นค่ะ

เค้กกล้วยหอม วัตถุดิบ

เค้กกล้วยหอม

ถ้าพูดถึงวัตถุดิบ กล้วยหอมเป็นผลไม้ที่หาซื้อง่าย หรือจะปลูกเองก็ได้ และโดยส่วนใหญ่แล้ว มักจะกินไม่ทัน เลยมีการนำมาทำของหวานกินกันค่ะ ซึ่งเป็นอะไรที่ง่ายมาก ใครก็ทำได้ ดังนั้น เรามาเตรียมวัตถุดิบกันให้พร้อมดีกว่าค่ะ

ส่วนผสม

  • กล้วยหอมสุกบด 1+1/2 ถ้วย 
  • นมสด 4 ช้อนโต๊ะ
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ประมาณ 2 ถ้วย
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
  • เนยเค็มประมาณ 250 กรัม ให้นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 
  • น้ำตาลทรายชนิดละเอียด สำหรับทำขนมอบ ประมาณ 1+1/2 ถ้วย 
  • ไข่ไก่สดเบอร์ 2 จำนวน 4 ฟอง
  • พิมพ์มัฟฟิน

เค้กกล้ายหอมอุปกรณ์

เค้กกล้วยหอม

อุปกรณ์พื้นฐานในการทำเมนูเบเกอรี่มือใหม่ มีเพียงไม่กี่อย่างและดูเหมือนเมนูขนมชนิดนี้ จะเป็นเมนูพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้นจะทำขนมอบดูด้วยตนเองก่อนจะก้าวกระโดดเพื่อไปทำขนมที่มีความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้น  เรามาเตรียมความพร้อมให้กับอุปกรณ์ของเรากันดีกว่าค่ะ

  • เตาอบ 
  • แม่พิมพ์มัฟฟิน
  • เครื่องตีไข่ เตรียมหัวตีตะกร้อ
  • อุปกรณ์ช่วงตวงวัด เช่น ช้อนตวง ถ้วยตวง 

เค้กกล้วยหอมวิธีทำ

เค้กกล้วยหอม

ขั้นตอนการทำเค้กดังกล่าวที่เรากำลังจะพาเพื่อน ๆ ไปลองนั้นเป็นการทำเค้กง่ายๆ ที่บรรดามือใหม่ทั้งหลายสามารถทำได้เลยค่ะ

ขั้นตอนที่ 1 การทำเค้กกล้วยหอม ในขั้นตอนแรก ให้วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส จากนั้นนำกล้วยหอมมาบดไปพร้อมกับนมสดและกลิ่นวานิลลา แล้วให้ผสมแป้งเอนกประสงค์ ผงฟู เบกกิ้งโซดา เตรียมไว้ให้พร้อมก่อนได้เลย โดยส่วนผสมดังกล่าวควรร่อนผ่านตะแกรงประมาณ 1 ครั้ง 

ขั้นตอนที่ 2 ในส่วนของการเตรียมความพร้อมให้กับเค้กกล้วยหอม ขั้นตอนนี้ได้บอก

วิธีทำเค้กกล้วยหอม เอาไว้ว่า ให้นำเนยเค็มที่เราเตรียมไว้มาตีกับหัวตีตะกร้อจนขึ้นฟู ทยอยใส่น้ำตาลทราย โดยการแบ่งใส่ประมาณ 3 ครั้ง 

ขั้นตอนที่ 3 มาถึงขั้นตอนสุดท้ายในการทำเค้กกล้วยหอม ให้นำไข่ไก่ใส่ลงไปในโถ ตีทีละฟองจนครบ จากนั้นใส่ส่วนผสมกล้วยบดลงไป ผสมให้เข้ากัน ตามด้วยการนำส่วนผสมแป้งทยอยใส่ลงไปจนหมด ซึ่งถ้าใครได้ทำตามสูตรทำเค้กกล้วยหอม เราก็จะได้ส่วนผสมที่พอดีและลงตัวค่ะ จากนั้น ตักใส่พิมพ์มัฟฟินแล้วนำเข้าเตาอบ ใช้เวลาอบ 15-20 นาที ก็สามารถนำออกมาจากเตาอบ พักไว้ให้เย็น แล้วนำมารับประทานได้เลย

เค้กกล้วยหอม มีประโยชน์ทั้งโปรตีนจากไข่และเพลังงานจากกล้วยรวมถึงเนย เมื่อเรานำวิธีทำเค้กง่ายๆ มาปรับใช้และหมั่นฝึกทำจนคล่อง เชื่อเถอะค่ะ บางครั้งอร่อย จนสามารถใช้ต่อยอดสร้างอาชีพได้ค่ะ

Categories
เบเกอรี่

แจกสูตร ชีสเค้ก หน้าไหม้ ง่าย ๆ ด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน

แจกสูตรขนมเบเกอรี่เอาใจสาวกผู้ที่ชื่นชอบขนมหวานกันเสียหน่อย ซึ่งเรียกได้ว่าสายขนมหวานทุกคนจะต้องรู้จักและชื่นชอบกันอย่างแน่นอน สำหรับขนมเบเกอรี่ที่มีรสชาติที่อร่อย เนื้อนุ่มละมุนลิ้น กลิ่นหอมเย้ายวนใจน่ารับประทาน ต้องขอบอกก่อนว่าขนมเบเกอรี่ที่เราจะมาแจกสูตรความอร่อยให้ได้ฟินกันในบทความนี้ เรียกได้ว่าเป็นสูตรขนมที่มีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นั่นก็คือ ชีสเค้ก หน้าไหม้ ซึ่งความโดดเด่นจะอยู่ที่ตัวเค้กที่มีหน้าไหม้ ผสมกับความหอมของชีสที่ยิ่งเพิ่มความน่าหลงใหล

 

ชีสเค้ก หน้าไหม้ เนียนนุ่ม ต้นตำรับจากสเปน

ก่อนจะไปดู สูตรทำชีสเค้ก ไปดูต้นกำเนิดของขนมชนิดนี้กันก่อนเลยดีกว่า ซึ่งขนมเบเกอรี่ชนิดนี้นั้นมีต้นกำเนิดมาจากประเทศสเปน ที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยด้วย เนื่องจากรูปร่างหน้าตาที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัวจากชีสที่ไหม้ พร้อมทั้งกลิ่นความไหม้ของชีสที่มีกลิ่นหอม เชิญชวนให้ต้องลิ้มลองให้ได้ แต่อย่างที่ทราบกันดีว่า เบเกอรี่ ส่วนใหญ่มักจะต้องใช้เตาอบ แต่ในบทความนี้ เราจะมาชวนทุกคนไปทำตามสูตรง่าย ๆ และสะดวก จากการใช้หม้อทอดไร้น้ำมันนั่นเอง

วัตถุดิบเมนูขนม ชีสเค้ก หน้าไหม้

ใครที่ชอบเนื้อเค้กแบบนุ่มๆ ฟูๆ ต้องไม่พลาดขนมชีสเค้กหน้าไหม้ ที่เรียกได้ว่าเป็น ของหวาน ที่ใช้วัตถุดิบหลักในการทำเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น และสามารถหาซื้อมาได้ง่าย เมื่อเทียบกับขนมเค้กหรือเบเกอรี่ชนิดอื่น ๆ แล้ว ทำให้กลายเป็นเมนูขนมที่กำลังฮิตเป็นอย่างมากในปัจจุบันนี้ ทำทานเองที่บ้านหรือทำขาย ก็เรียกได้ว่าขายดิบขายดีกันเลย ตามไปดูวัตถุดิบในการ ทำเค้กง่าย ๆ กันดีกว่า

  1. ไข่ไก่ 3 ฟอง
  2. ครีมชีส 500 กรัม
  3. แป้งข้าวโพด 15 กรัม
  4. น้ำตาลทราย 140 กรัม
  5. วานิลลา 1 ช้อนชา
  6. วิปปิ้มครีม 250 กรัม

วิธีทำชีสเค้ก ง่าย ๆ ด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน

สำหรับสูตรขนมเค้กหน้าไหม้ ที่เรานำมาแบ่งปันในบทความนี้ ถือว่าเป็นมีขั้นตอนการทำง่าย ๆ ที่เรียกได้ว่าเป็น เมนูเบเกอรี่มือใหม่ ก็สามารถทำตามได้ง่ายและไม่ยุ่งยาก อีกทั้งที่สำคัญยังไม่ต้องหาซื้อเตาอบที่มีขั้นตอนการทำเยอะวุ่นวายกันอีกด้วย เนื่องจากสูตรนี้จะเป็น วิธีทำเค้กง่ายๆ ไม่ใช้เตาอบ เพียงความสะดวกในการสร้างสรรค์เมนูเค้ก เนื้อนุ่ม ละมุนลิ้นกัน อย่ามัวรีรอกันอยู่เลย ตามไปจดสูตรกันดีกว่า 

  1. ขั้นตอนแรกให้เตรียมชามผสม แล้วนำครีมชีส น้ำตาลทราย แป้งข้าวโพด ใส่ลงไปในชามผสมแล้วตีให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเนียนละเอียด จากนั้นให้ใส่วิปปิ้มครีม วานิลลา ไข่ไก่ ลงไปแล้วตีให้เข้ากันอีกรอบ
  2. เมื่อตีส่วนผสมจนเข้ากันเป็นเนื้อเนียนละเอียดแล้ว ให้นำส่วนผสมเทลงให้แม่พิมพ์เค้ก จากนั้นเคาะเพื่อไล่ฟองอากาศ
  3. เอาเข้าหม้อทอดไร้น้ำมัน โดยจะอบด้วยกัน 2 ครั้ง ซึ่งครั้งแรกก็จะใช้ไฟ 190 องศาเซลเซียส ประมาณ 20-25 นาที และครั้งที่สองใช้ไฟ 200 องศา เวลา 10 นาที
  4. เมื่อเค้กสุกฟูอย่างสวยงามแล้ว ให้นำออกจากหม้อทอดไร้น้ำมันมาพักทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นให้นำแช่ตู้เย็นอีก 2 ชั่วโมง เมื่อครบแล้วนำออกมาจัดใส่จาน เพิ่มท็อปปิ้งด้วยผลไม้ เพียงเท่านี้ก็พร้อมทานได้แล้ว

ชีสเค้ก หน้าไหม้ ทำทานง่าย ทำขายก็ดี

สำหรับสูตรที่เรานำมาแบ่งปันกันนั้น เรียกได้ว่าเป็นขนมเบเกอรี่ที่สามารถทำทานที่บ้านได้ง่าย ๆ หรือจะทำขายก็กำไรดีอย่างล้นหลาม อีกทั้งส่วนผสมก็มีเพียงแค่ไม่กี่อย่าง พร้อมทั้งขั้นตอนการทำก็สะดวกรวดเร็ว ใช้เวลาไม่นานด้วยการใช้หม้อทอดไร้น้ำมัน นอกจากนี้สำหรับใครที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ ก็สามารถทำทานได้ไม่ต้องกลัวอ้วน อาจจะนำสูตรไปดัดแปลง แล้วเพิ่มวัตถุดิบและตกแต่งด้วยผลไม้ให้คลีนมากยิ่งขึ้น ก็สามารถทำได้ตามใจชอบกันเลย

Categories
เบเกอรี่

คุ้กกี้กรอบมัน อาหารว่างเคี้ยวเพลิน สาวกสายหวานห้ามพลาด

คุ้กกี้จัดได้ว่าเป็นขนมที่มีต้นกำเนิดมาจากชาติตะวันตกชนิดหนึ่ง มีรสชาติอร่อย ยิ่งเคี้ยวยิ่งมัน มีส่วนผสมหลักเป็นแป้ง เนย น้ำตาล ช็อกโกแลต และวัตถุดิบต่าง ๆ อีกมากมาย อีกทั้งขนมคุ้กกี้นั้นยังเป็นขนมที่มีทั้งแบบซอร์ฟ และแบบชนิดแข็ง

เรียกได้ว่าใครชอบรับประทานแบบเคี้ยวเพลินก็สามารถเลือกรับประทานแบบแข็งได้ ยิ่งเคี้ยวก็ยิ่งเพลิน และสำหรับใครที่ชอบรับประทานคุ้กกี้แบบซอฟต์ช็อกโกแลตเยิ้ม หรือเนื้อแป้งเยิ้ม ๆ ก็ต้องรับประทานคุ้กกี้แบบซอฟต์ได้เลย สามารถรับประทานเป็นอาหารรองท้องมื้อเช้า รับประทานกับนมก็อร่อย หรือใครจะรับประทานเป็นอาหารว่างคู่กับเครื่องดื่มชา กาแฟ หรือน้ำผลไม้ก็เข้ากันทีเดียว 

ขอบคุณภาพจาก pixabay

คุ้กกี้รวมมิตรถั่ว เตรียมวัตถุดิบในการทำง่าย ๆ หาซื้อไม่ยาก 

1.แป้งสาลีอเนกปประสงค์ 300 กรัม 

2.นมผง 50 – 70 กรัม (เลือกใช้แบรนด์ไหนก็ได้) 

3.น้ำตาลทราย 40 กรัม 

4.ไอซิ่ง 20 กรัม (ช่วยเพิ่มความกรอบให้คุกกี้)

5.เกลือป่น 1 ช้อนชา 

6.ผงฟู 1 ช้อนชา 

7.เนยสดจืด 250 กรัม (ปริมาณเท่ากับสูตรคุ้กกี้เนยสด

8.ไข่ไก่ 1 ฟอง (เบอร์ใหญ่) 

9.อัลมอลด์ 3 ช้อนโต๊ะ 

10.เม็ดมะม่วงหิมะพานต์ 1 ช้อนโต๊ะ 

11.ถั่วลิสง 1 ช้อนโต๊ะ 

ขอบคุณภาพจาก pixabay

ขั้นตอน และวิธีการทำคุ้กกี้รวมมิตรถั่ว 

1.ขั้นตอนแรกในการทคุ้กกี้รวมมิตรถั่ว เริ่มจากการที่นำถั่วทั้งสามชนิด ถั่วอัลมอลด์ ถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหิมะพานต์ มาคั่วในไฟอ่อนจนกรอบ จากนั้นนำมาทุบพอหยาบ ไม่ทุบละเอียด 

2.ผสมวัตถุดิบส่วนผสมที่เป็นของแข็ง แป้งอเนกประสงค์ ผงฟู เกลือป่น น้ำตาลทราย ไอซิ่ง จากนั้นทำการร่อนด้วยตะแกรง 1 รอบ 

3.ใส่เนยจืดที่ยังคงมีความเย็นผสมลงไป ตามด้วยนมผง จากนั้นตั้งค่าเครื่องตีแป้งความแรงระดับ 1 ใช้เวลาตีประมาณ 3 – 5 นาที ระหว่างนั้นทยอยใส่ไข่ไก่ลงไป 

4.เมื่อส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันได้พอดี ไม่แข็ง และไม่เหลวจนเกินไป ให้นำถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหิมะพานต์ ถั่วอัลมอลด์ที่ตำหยาบแล้วลงไปผสม 

5.จากนั้นมาถึงขั้นตอนของการเตรียมอบ เตรียมกระดาษไขวางรองถาดอบไว้ จากนั้นใช้มาการีนทาทับเพื่อป้องกันคุ้กกี้ติดถาด จากนั้นวอร์มเตาอบทั้งไว้ 10 – 15 นาที (วิธีการอบจะคล้ายกับ วิธีทำซอฟต์คุ้กกี้)

  1. เริ่มตักเนื้อแป้งคุ้กกี้วงลงบนถาด โดยใช้ช้อนกรวยตักให้เป็นก้อน เว้นระยะห่างระหว่างก้อนพอสมควร ในการอบใช้ไฟบนล่าง ไม่เปิดพัดลม อบด้วยอุณหภูมิ 150 – 160 องศาสเซลเซียส ใช้เวลาอบ 20 นาที 

7.เมื่ออบเสร็จตักใส่ในจาน รับประทานคู่กับชา กาแฟ และเครื่องดื่มได้ทุกชนิด หรือหากต้องการเก็บไว้รับประทานในวันหลัง สามารถพักให้เย็นแล้วเก็บใส่โหลแก้วที่มีฝาปิดมิดชิด จะสามารถเก็บคุ้กกี้รวมมิตรถั่วไว้รับประทานได้นานหลายเดือนเลยทีเดียว

ขอบคุณภาพจาก unsplash