Categories
ขนมไทย

น้ำมะพร้าว อ่อน วัตถุดิบชั้นเลิศทำอะไรก็อร่อย

มะพร้าวเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศไทย ไม่เพียงแต่เนื้อมะพร้าวที่มีประโยชน์ และทำเงินได้เท่านั้น ทุกส่วนของมะพร้าวนั้นมีประโยชน์ โดยเฉพาะ น้ำมะพร้าว แค่ดื่มเปล่า ๆ ไม่ต้องปรุงรสชาติอะไรก็อร่อยชื่นใจ สามารถนำมาทำเป็นวัตถุดิบผสมเครื่องดื่มสร้างรสชาติความแปลกใหม่เพิ่มมูลค่าให้กับเครื่องดื่มมากมาย และปัจจุบันขนมหวานหลายชนิดก็นิยมใส่วัตถุดิบน้ำมะพร้าวในกระบวนการทำ 

อาทิขนมบัวลอยมะพร้าวอ่อน ไข่หวาน จะใส่น้ำมะพร้าวผสมกับหัวกะทิเพื่อให้เกิดความหอมของกะทิบวกกับความหอมของน้ำมะพร้าวอ่อนแท้ ทำให้รสชาติขิงขนมนั้นมีรสชาติที่อร่อยละมุนแบบธรรมชาติ มีความแตกต่างจากขนมบัวลอยทั่วไปที่ไม่ใส่น้ำมะพร้าว เรียกได้ว่าตอนนี้เทรนด์ของ น้ำมะพร้าว ในอาหาร ขนมนั้นฮิตติดลมบนอย่างมาก โดยเฉพาะในเครื่องดื่มกาแฟก็มีเมนูของกาแฟออกมาใหม่มากมายใหคนได้ตื่นเต้นกับรสชาติแปลกใหม่ของกาแฟ 

ขอบคุณภาพจาก pixabay

วัตถุดิบ ส่วนผสมการทำเมนูกาแฟลาเต้ น้ำมะพร้าว อ่อน

  1. กาแฟผง 4 ช้อนชา
  2. น้ำร้อน 120 มล.
  3. นมสดรสจืด 40 มล.
  4. น้ำมะพร้าว อ่อน 100 มล.
  5. ไซรัปน้ำมะพร้าว 20 มล
  6. น้ำแข็ง

ขั้นตอนการทำเมนู กาแฟลาเต้ น้ำมะพร้าว อ่อน

เครื่องดื่มกาแฟเมนูนี้สามารถเพิ่มผลไม้ชนิดอื่น ๆ ได้ตามความชอบ อาทิน้ำมะพร้าวใส่มะนาว เป็นต้น ก็จะได้เมนูกาแฟรถชาติใหม่ ๆ อีกหนึ่งเมนู

  1. สำหรับใครที่ไม่มีเครื่องชงกาแฟ สามารถชงแบบธรรมดาได้โดยการใส่น้ำร้อนลงในกาแฟตามต้องการ
  2. ผสมนมสดรสจืด กับไซรัปน้ำมะพร้าว ตามด้วยน้ำมะพร้าวอ่อน คนให้เข้ากัน 
  3. เสิร์ฟให้สวยงามโดยการใส่ส่วนผสมของนมสด ไซรัป น้ำมะพร้าวอ่อนลงไป ใส่น้ำแข็งลงไปจนท่วมแก้ว
  4. จากนั้นจึงใส่กาแฟช็อตลง จะเห็นเป็นชั้นแยกสวยงามระหว่างชั้นของมะพร้าวอ่อน และส่วนของกาแฟช็อต เพียงเท่านี้ก็ได้กาแฟลาเต้รสชาติแปลกใหม่รสละมุนไว้ดื่มกันแล้ว 

ขอบคุณภาพจาก unsplash

วัตถุดิบ ส่วนผสมเมนูอเมริกาโน่ น้ำมะพร้าว อ่อน

  1. กาแฟผง 3 ช้อนชา (ชอบเข้มข้นใส่ 4 ช้อนชา)
  2. น้ำร้อน 100 มล.
  3. น้ำมะพร้าวอ่อน 120 มล. (ถ้าอยากได้รสชาติความหวานที่มากกว่ารสชาติน้ำมะพร้าวปกติให้ผสมไซรัปน้ำมะพร้าวลงไปด้วยจะได้รสชาติที่หวานแบบชื่นใจทีเดียว)
  4. น้ำแข็ง

ขั้นตอน และวิธีการทำเมนูอเมริกาโน่ น้ำมะพร้าว อ่อน

  1. ขั้นตอนแรกชงกาแฟผงกับน้ำร้อน คนให้ส่วนผสมเข้ากัน พักไว้จนเย็น 
  2. เพื่อความสวยงามการแยกชั้นของกาแฟ และน้ำมะพร้าวอ่อน เริ่มต้นการใส่น้ำมะพร้าวอ่อนลงไปในแก้วก่อน จากนั้นจึงค่อย ๆ ใส่น้ำแข็งลงไปจนเต็มแก้ว ตามด้วยใส่กาแฟช็อตเป็นอย่างสุดท้าย
  3. เพียงเท่านี้ก็ได้เครื่องดื่มอเมริกาโน่น้ำมะพร้าวอ่อนไว้ดื่ม ให้ความรู้สึกเหมือนกินน้ำมะพร้าวสด สำหรับใครที่ไม่สามารถหาน้ำมะพร้าวอ่อนได้ สามารถใช้น้ำมะพร้าวแก่แทนได้ รสชาติอร่อยไม่แพ้กัน 

ขอบคุณภาพจาก pixabay

Categories
ขนมไทย

ขนมไทย กับวัตถุดิบยอดนิยม กล้วย ฟักทอง เผือก มัน

ขอบคุณภาพจาก pixabay

คนไทยทุกคนโดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ต่างจังหวัด เราคุ้นชินกับการรับประทาน ขนมไทย มาตั้งเเต่เด็ก ขนมไทยนั้นมีมากมายหลายชนิด ถ้านับกันจริงจังก็มีเป็นร้อย ๆ ชนิดกันเลยก็ว่าได้ แต่ก็จะมีเพียงไม่กี่เมนูขนมไทยที่รับประทานกันบ่อยเป็นประจำ อาทิเมนูกล้วยบวชชี ขนมกล้วยโขลก กล้วยกวน กล้วยเชื่อม ข้าวต้มมัด ขนมบวชกะทิเผือก บวชกะทิหัวมันมัน หัวมันฉาบ หัวมันเชื่อมราดกะทิ บวชกะทิกล้วย บวชกะทิฟักทอง สังขยาฟักทอง ฟักทองเชื่อม เป็นต้น 

เมนูขนมไทยเหล่านี้เรามีโอกาสได้รับประทานเป็นประจำโดยส่วนใหญ่จะมีกล้วย เผือก มัน ฟักทอง เป็นวัตถุดิบหลักที่คนนิยมนำมาทำ ทั้งหาง่าย มีอยู่ทั่วไปในท้องถิ่น โดยเฉพาะต่างจังหวัดนั้นยิ่งหาง่ายมาก อีกทั้งเป็นวัตถุดิบที่เอามาทำขนมไทยแล้วให้ความรู้สึกถึงความอร่อยได้อรรถรสถึง ขนมไทย โดยแท้จริง มีทั้งหวาน มัน รสละมุน ผสมผสานรสชาติของน้ำตาลมะพร้าวแท้ กะทิสด ๆ ทำให้เมนูขนมไทยที่ดูเหมือนเมนูบ้าน ๆ ธรรมดานั้นเป็นเมนู่อยู่คู่คนไทย

ขอบคุณภาพจาก pixabay

หลากหลายเมนู ขนมไทย ที่มีกล้วย และฟักทอง เป็นวัตถุดิบหลัก 

กล้วยนั้นเป็นผลไม้ไทยชนิดหนึ่งที่คนไทยรู้จักกันดีโดยเฉพาะกล้วยน้ำว้า กล้วยน้ำว้านั้นสามารถนำมาทำ ขนมไทย มากมายหลายเมนู แต่ละเมนูนั้นก็ไม่ธรรมดาเป็นเมนูยอดนิยมที่คนถูกปากกันมาก อาทิ กล้วยบวชชี กล้วยกวน กล้วยฉาบ กล้วยเชื่อม กล้วยกวน ขนมกล้วยโขลก ขนมข้าวต้มมัด ขนมข้าวเหนียวปิ้งไส้กล้วย ขนมกล้วยทอด ขนมกล้วยนึ่ง กล้วยตาก กล้วยหยี และ เมนูของหวานไทยโบราณ อีกหลายเมนู

สำหรับฟักทองนั้นเป็นพืชที่มีสารอาหารประเภทโปรตีนอย่างมาก ปลูกก็ง่าย นำมาทำขนมไทยก็อร่อยจนหยุดไม่ได้ ขนมที่ทำจากฟักทองนั้นมีมากมายส่วนใหญ่จะเป็น ของหวานไทยง่ายๆ ได้แก่บัวลอยฟักทอง ฟักทองนึ่งโรยมะพร้าวขูด แกงบวชฟักทอง ฟักทองเชื่อม ฟักทองฉาบ ขนมฟักทองโขลก สังขยาฟักทอง ข้าวเหนียวไส้ฟักทอง เป็นต้นซึ่งรสชาติของขนมฟักทองนั้นจะมีจุดเด่นอยู่ที่ความหอมมัน และรสชาติที่หวานแบบธรรมชาติของฟักทอง 

ขอบคุณภาพจาก pixabay

เมนูขนมไทย ขนมหวาน เผือก มัน รับบทพระเอก 

เผือก มัน เป็นพืชชนิดประเภทหัว เป็นพืชที่ให้พลังงานสูง สามารถหารับประทานง่ายในโซนต่างจังหวัด นิยมนำมาทำเป็นเมนู ขนมไทย เรียกได้ว่าทั้งเผือก ทั้งมันนั้นเป็นพระเอกแถวหน้าเลยก็ว่าได้ เพราะรสชาติของทั้งเผือก และมันนั้นมีรสชาติหวานมันเป็นธรรมชาติ เมื่อนำไปดัดแปลง ปรับวิธีการ วิธีทำขนม ให้เป็นเมนูขนมไทยจึงมีรสชาติที่อร่อย อีกทั้งทุกเมนูขนมไทยส่วนใหญ่นิยมใส่กะทิลงไป เป็น เคล็ดลับทำขนมไทยให้อร่อย มีหลากลายเมนู อาทิ เผือกกวน มันกวน แกงบวชหัวเผือกหัวมัน ข้าวเหนียวปิ้งไส้เผือก เผือกฉาบ มันฉาบ เผือกกวน มันกวน เผือกเชื่อม มันเชื่อม เผือกรากน้ำกะทิ เผือกทอด มันทอด เป็นต้น 

Categories
ขนมไทย

มะพร้าววัตถุดิบหลักของตัวชูโรงรสชาติ ขนมไทย เกือบทุกชนิด

ขอบคุณภาพจาก unsplash

ส่วนประกอบหลักของขนมไทยนั้นไม่ได้มีเพียงแค่แป้งมัน แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวโพด หรือน้ำตาลเท่านั้น ขนมไทยส่วนใหญ่แทบจะทุกชนิดเลยก็ว่าได้มีส่วนประกอบของผลไม้ต่าง ๆ มากมาย ทั้งใช้เป็นวัตถุดิบใส่ลงในส่วนผสมของขนมอาทิน้ำกะทิของมะพร้าว ทั้งรับประทานคู่ขนมไทย อาทิข้าวเหนียมมูนที่รับประทานคู่ผลไม้ต่าง มะม่วง ทุเรียน ขนุน เป็นต้น แต่ที่พบเห็นบ่อยที่สุด และเรียกได้ว่าเป็นส่วนประกอบหลักตัวชูโรงเลยนั่นก็คือมะพร้าว

บาง ขนมไทย ใช้เฉพาะเนื้อมะพร้าว บางขนมใช้เฉพาะน้ำกะทิที่คั้นออกมาจากกากมะพร้าว บางขนมใช้ทุกส่วนของมะพร้าว เรียกได้ว่ามีความสำคัญระดับที่ว่าไม่สามารถขาดวัตถุดิบมะพร้าวไม่ได้อย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะประเทศไทยขึ้นชื่อได้ว่าเป็นแหล่งที่มีมะพร้าวที่มีคุณภาพ ความมัน ความหวานของมะพร้าวนั้นอันดับหนึ่ง ดังนั้นขนมไทยก็ต้องจัดเต็มในเรื่องของความหวานมันของมะพร้าวเต็มที่ 

ขอบคุณภาพจาก pixabay

เมนู ขนมไทย ใส่กะทิ คั้นจากมะพร้าวสด ๆ หอม หวานมัน อร่อย 

เมนู ขนมไทย ตระกูลข้าวเหนียวมูนต่าง ๆ การมูนข้าวเหนียวนั้นถ้าขาดกะทิไปจะไม่เรียกว่าข้าวเหนียวมูน เพราะข้าวเหนียวนั้นเมื่อนำมามูนกับกะทิแล้วจะช่วยให้รสชาติของข้าวเหนียวหอม หวาน มัน กลมกล่อม ข้าวเหนียวมีความแวววาวเรียงเม็ดสวย เมื่อรับประทานข้าวเหนียวมูนที่ผ่านการมูนอย่างพิถีพิถันคู่กับผลไม้รสชาติอมเปรี้ยวอมหวานอย่างเช่นมะม่วงสุกทำให้เข้าถึงรสชาติ และอรรถรสของข้าวเหนียวมูลมะม่วง เมนูของหวานไทยโบราณ อย่างแท้จริง 

เมนูขนมหวานตระกูลแกงบวชต่าง ๆ นั้น เป็นเมนูที่นำผลไม้ประเภทหัวเผือก หัวมัน กล้วยฟักทอง ขนุนทั้งหลายมาทำการต้มกับส่วนของกะทิเรียกว่า วิธีทำขนม แบบการบวชนั้น เป็นขนมไทยโบราณยอดนิยมของคนทุกรุ่นทุกสมัย ขนมแกงบวชจะเป็นขนมไม่ได้ถ้าขาดวัตถุดิบกะทิ จะกลายเป็นขนมประเภทเชื่อมในทันที ส่วนมากจะนำผลไม่ที่มีรสชาติหวานมัน และเป็นประเภทหัวมาบวชกับน้ำกะทิ เมื่อทำการบวชเข้ากันแล้วรสชาติที่ได้นั้นหอมกะทิแท้ ๆ บวกกับความหวานมันของผลไม่ธรรมชาติ ให้ความรู้สึกชื่นใจ รับประทานแล้วรู้สึกสดชื่น และเข้าถึงรสชาติของขนมไทยแกงบวชอย่างแท้จริง 

ขอบคุณภาพจาก pixabay

เมนูขนมไทยที่ใช้เนื้อมะพร้าวสด ๆ วัตถุดิบเพิ่มเนื้อสัมผัส และรสชาติหวานมันอร่อย 

เมนู ขนมไทย มงคลที่ใช้ในพิธีสำคัญทุกพิธี อาทิแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ไหว้ศาลพระภูมิ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ จะต้องมีขนมโคร่วมด้วยแทบทุกงาน ขนมโคนั้นเป็นเมนู ของหวานไทยง่ายๆ ที่ใช้ทั้งส่วนของเนื้อมะพร้าว และส่วนของน้ำกะทิเป็นส่วนประกอบหลักเลยก็ว่าได้ เริ่มตั้งแต่การใช้น้ำกะทิเป็นส่วนประกอบในการนวดแป้ง และใช้ส่วนผสมของเนื้อมะพร้าวทึนทึกในการนำมาผัดกับน้ำตาลมะพร้าวในการทำไส้ขนมโค และเมนูนี้ยังใช้เนื้อมะพร้าวขูดตกแต่งขนมโคให้มีความน่ารับประทาน เรียกได้ว่าขนมโคนั้นใช้ส่วนประกอบของมะพร้าวเกิน 50 เปอร์เซ็นและเป็น เคล็ดลับทำขนมไทยให้อร่อย ถูกใจคนทั่วโลก

Categories
เบเกอรี่

มาการองช็อกโกแลต ง่าย ๆ ขนมหวานสัญชาติฝรั่งเศส ราคาไม่ธรรมดา

ขอบคุณภาพจาก unsplash

มาการองเป็นขนมหวานยอดนิยมโดยเฉพาะวัยรุ่น เป็นขนมสัญชาติฝรั่งเศสมีสีสันสดใสสวยงาม น่ารักน่ารับประทาน มีหลากหลายรสหลากหลายรสชาติ มีลักษณะเป็นขนมแผ่นกลม ๆ ข้างในมีไส้ต่าง ๆ ในส่วนของราคานั้นบอกเลยว่าไม่ธรรมดา อาจจะเป็นเพราะวัตถุดิบที่พรีเมี่ยม และกระบวนการทำหลายขั้นตอน จึงทำให้มีราคาสูง 

สำหรับรสชาติยอดนิยมนั้นมีหลายรสชาติที่คนไทยนิยมรับประทาน แต่รสชาติที่คุ้นชิน และได้รับความนิยมอย่างมากได้แก่ มาการองช็อกโกแลต สำหรับใครที่อยากลองลิ้มชิมรสมาการองแต่หวั่นใจเรื่องราคา ก็สามารถทำมาการองรับประทานเองได้ไม่ยากเลยค่ะ 

วัตถุดิบ ส่วนผสมการทำส่วนของไส้ และส่วนของแป้ง มาการองช็อกโกแลต 

  1. แป้งอัลมอนด์ป่น 90 กรัม
  2. น้ำตาลไอซิ่ง 200 กรัม
  3. ไข่ขาว 90 กรัม (ใช้ไข่ขาวจากไข่ 2 ใบ)
  4. ครีมออฟทาร์ทาร์ 1 ช้อนชา
  5. น้ำตาลทรายขาวเกล็ดเล็ก 20 กรัม
  6. เกลือ 1/2 ช้อนชา 
  7. ผงโกโก้ 20 กรัม (สามารถใช้ผง ช็อกโกแลต แทนได้)
  8. เนยสด 70 มล. (ส่วนผสมทำไส้)
  9. ครีมชีส 40 มล. (ส่วนผสมทำไส้)
  10. ช็อกโกแลตคอมพราวด์ 120 กรัม (ส่วนผสมทำไส้) (ถ้าอยากได้ไส้มาการองละมุนก็ใช้ ช็อกโกแลตลินด์ หรือสามารถใช้แบบ ช็อกโกเลตชิพ ก็ได้เช่นกัน 

ขั้นตอน และวิธีการทำส่วนของไส้ และส่วนของแป้ง มาการองช็อกโกแลต 

  1. เริ่มทำแป้ง มาการองช็อกโกแลต ด้วยการร่อนแป้งอัลมอนด์ป่น น้ำตาลไอซิ่ง ผงโกโก้ เกลือป่นลงในหม้อผสมแป้ง เปิดเครื่องผสมแป้งให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน ตักขึ้นมาพักไว้ 
  2. ใส่ไข่ขาวครีมออฟทาร์ทาร์ น้ำตาลทรายขาวใส่ในเครื่องตีไข่ ตีจนขึ้นยอดเป็นโดว์
  3. แบ่งส่วนของแห้งที่ผสมเรียบร้อยแล้วออกมาครึ่งหนึ่ง เทส่วนผสมของฟองไข่ขาวกับน้ำตาลทรายค่อย ๆ ผสมจนเข้ากัน แล้วผสมส่วนของแห้งที่เหลือลงไป คนให้เข้ากันอีกหนึ่งรอบ
  4. ใส่เนื้อที่ผสมเรียบร้อยแล้วลงที่บีบครีม หัวบีบเบอร์ 8 หรือ 10 แล้วบีบลงถาด ลองถาดด้วยกระดาษไข
  5. นำเข้าตู้อบ อบไฟ 140 องศาเซลเซียส เวลา40 – 60 นาที เปิดไฟบน ไฟล่าง พัดลม เพื่อความร้อนในตู้อบกระจายทั่วทิศทาง อบเสร็จพักไว้ให้เย็นรอใส่ไส้

หมายเหตุ : ส่วนของทำให้เนื้อแป้งมาการองให้มีความเป็นช็อกโกแลตนั้น สามารถใช้ ช็อกโกแลตยี่ห้อ อะไรก็ได้ที่สามารถหาได้ หรือจะเป็น ช็อกโกแลตเซเว่น ที่เป็นแบบผงชงก็ใช้ได้เช่นเดียวกัน 

ขอบคุณภาพจาก unsplash

  1. เริ่มวิธีทำไส้มาการอง ละลายช็อกโกแลตคอพราวด์แบบตุ๋น หรือเข้าไมรโครเวฟประมาณ 3 – 5 นาที 
  2. ตีเนยสดกับครีมชีสด้วยเครื่องตีไข่ ใส่ช็อกโกแลตคอมพราวด์ลงไปตีให้เข้ากัน 
  3. ตักไส้ช็อกโกแลตใส่ถุงบีบใช้หัวบีบ เบอร์ 8 หรือ 10 ก็ได้ 
  4. บีบไส้ช็อกโกแลตใส่มาการองที่เย็นแล้ว ประกบด้วยแป้งมาการองอีกอัน ออกแรงกดนิดหน่อยเพื่อให้ไส้ขายออกทั่วมาการอง รอให้ไส้เซ็ตตัวแข็งก็รับประทานขนมมาการองแสนอร่อยได้แล้ว 

ขอบคุณภาพจาก unsplash

Categories
เบเกอรี่

โดนัท ช็อกโกแลต ขนมยอดฮิตของคนไทย

ขอบคุณภาพจาก pixabay

โดนัทเป็นขนมที่มีลักษณะทรงกลม เนื้อของโดนัทเป็นเนื้อแป้งทอด รสสัมผัสคล้ายขนมปังมาก แต่จะมีความนุ่มหนืด หนึบหนับกว่าขนมปัง ปัจจุบันโดนัทมีหลายรสชาติ หลายรูปแบบมาก โดนัทที่คนไทยคุ้นชินก็จะเป็นโดนัทคลุกน้ำตาล โดนัทเคลือบน้ำตาล 

สำหรับประเทศไทยสามารถหาซื้อโดนัทได้ง่าย เพราะมีจำหน่ายทุกที่ทั้งร้านเบเกอรรี่ ร้านกาแฟ ห้างสรรพสินค้า สี่แยกไฟแดง ตลาดนัด ตลาดสดก็สามารถหาซื้อ โดนัท รับประทานได้ไม่ยาก สำหรับใครที่อยากทำรับประทานเองก็สามารถทำได้ แต่อาจจะมีขั้นตอนหลายขั้นตอน แต่ถ้ามีความตั้งใจ และฝึกทำบ่อย ๆ สามารถทำได้อย่างแน่นอน

ขอบคุณภาพจาก pixabay

วัตถุดิบ ส่วนผสมการทำโดนัทช็อกโกแลต

  1. แป้งอเนกประสงค์ (แป้งสาลี) 500 กรัม
  2. ไข่ไก่ 2 ใบ ( เบอร์ 2 )
  3. น้ำตาลทราย 70 กรัม (
  4. สารเสริมคุณภาพแป้ง 1 ช้อนชา (มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความนุ่มให้เนื้อ โดนัท นุ่มละมุน)
  5. ผงฟู 1 ช้อนชา 
  6. นมรสจืด 130 มล.
  7. ยีสต์แห้ง 8 กรัม
  8. น้ำสะอาด 70 มล.
  9. เนยสด 90 กรัม
  10. 10.เกลือป่น 1 ช้อนชา
  11. น้ำมันปาล์มสำหรับทอด 3 ลิตร 
  12. ช็อกโกแลตคอมพราวด์ 400 กรัม 

ขอบคุณภาพจาก pixabay

ขั้นตอน วิธีการทำ พร้อมวิธีการเคลือบ โดนัท ช็อกโกแลต 

  1. ร่อนแป้งสาลี ผงฟู สารเสริมคุณภาพแป้ง เกลือป่น และน้ำตาลทรายลงในเครื่องนวดแป้ง
  2. ละลายยีสต์แห้งกับน้ำสะอาดเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของยีสต์ ถ้ามีเสียงซู่ซ่าเมื่อยีสต์แห้งโดนน้ำถือว่ายีสต์ใช้งานได้ปกติ จากนั้นใส่ลงในหม้อของส่วนผสม
  3. ใส่เนยสด นมจืด ไข่ไก่ น้ำสะอาด ลงไปในส่วนผสมที่ร่อนเรียบร้อยแล้ว
  4. เปิดเครื่องนวด ใช้ความแรงปานกลาง นวด 15 – 20 นาที (การนวดแป้งทำโดนัทถ้าทำรับประทานเองสามารถนวดมือได้แต่จะใช้เวลานานมาก แต่ถ้าเปิดขายเป็นร้านโดนัทแนะนำให้ใช้เครื่องนวดจะเหมาะสมกว่า)
  5. เมื่อได้แป้งได้ที่แล้วนำมานวดอีกครั้งให้แป้งเป็นเนื้อเดียวกัน ตัดแบ่งแป้งเป็นก้อนแล้วแต่ความชอบ 50 – 60 กรัม (แต่ละร้าน สูตรโดนัท มีวิธีทำต่างกัน)
  6. ใช้มือคลึงแป้งให้เป็นวงกลม เจาะรูโดนัทโดยการใช้นิ้วชี้จิ้มลงตรงกลางของแป้ง แล้วม้วนแป้งโดนัทให้สวยงาม
  7. ใช้ผ้าขาวบาง หรือแผ่นพลาสติกปิดเพื่อป้องกันการแห้งของเนื้อแป้ง 
  8. เมื่อโดนัทขึ้นโดว์ ทดสอบโดยการยกโดนัทขึ้นมาแล้วรู้สึกเบาเป็นอันใช้ได้ 
  9. ทอดโดนัทนั้นต้องแข่งกับเวลา ใช้น้ำมันอุณหภูมิ 165 -170 องศาเซลเซียสคงที่ตลอดการทอด
  10. ทอดโดนัททีละด้าน พลิกแค่ด้านเดียวตอนพลิกทอดอีกด้าน ไม่ทอดแบบพลิกไปพลิกมา ไม่คนโดนัทจะทำให้โดนัทอมน้ำมัน เมื่อสุกทั้ง 2 ด้านตักพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
  11. ขั้นตอนเคลือบ โดนัท ตั้งน้ำไฟปานกลางในภาชนะใบใหญ่ ใช้ภาชนะใบเล็กอีก 1 ใบละลายช็อกโกแลตคอมพราวด์จนละลาย ยกออกมาพัก เป็นการเคลือบแบบง่ายแตกต่างจากแบบ โดนัทญี่ปุ่น จะเป็นวิธีเคลือบที่ลงละเอียด)
  12. นำโดนัทที่ทอดเสร็จแล้วมาเคลือบด้วยช็อกโดแลตคอมพราวด์ที่ละลายเรียบร้อยแล้ว จากนั้นพักให้ช็อกโกแลตคอมพราวด์แข็งตัว เป็นอันเสร็จขั้นตอน

ช็อกโกแลตคอมพราวด์นั้นเป็นช็อกโกแลตที่มีส่วนผสมของช็อกโกแลตกับน้ำตาลอยู่แล้ว เป็นการเคลือบสำหรับ สูตรโดนัททอด ทำขาย สูตรจึงไม่ต้องผสมน้ำตาลเพื่อเพิ่มรสชาติหวาน 

Categories
เบเกอรี่

ซอส ช็อกโกแลต วัตถุดิบสำคัญมากสำหรับเมนูขนมหวาน และเบเกอรี่

ขอบคุณภาพจาก unsplash

สำหรับสาวกสายขนมหวาน สายเบเกอรี่นั้น ซอสช็อกโกแลตถือว่าเป็นท้อปปิ้งที่สำคัญมากอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะใช้ราดไอศครีม แต่งหน้าเค้ก ท้อปปิ้งขนมแพนเค้ก ท้อปปิ้งขนมปัง รสชาติของซอสช็อกโกแลตนั้นจะมีรสช็อกโกแลตมีความขมเล็กน้อย และความหวานกำลงดี นิยมนำมาแต่งหน้าเบเกอรี่ต่าง ๆ และเป็นส่วนประกอบในการเพิ่มความน่าสนใจให้ขนม 

สำหรับใครที่กำลังมองหาซอส ช็อกโกแลต สำหรับไว้แต่งหน้าขนมหวาน สามารถซื้อได้ทั้งแบบสำเร็จรูป ส่วนใครที่อยากทำไว้ใช้เองแบบสดใหม่ได้รสชาติตามต้องการสามารถทำเองได้ง่าย ๆ

ขอบคุณภาพจาก pixabay



วัตถุดิบ ส่วนผสมสำหรับทำเมนูซอส ช็อกโกแลต 

1.ดาร์ก ช็อกโกแลต แบบคอมพราวด์ 35 กรัม (ลักษณะเป็นก้อนไม่ใช่ผง)

2.ผงโกโก้ 70 กรัม (ใช้สัดส่วนมากกว่าดาร์ก ช็อกโกแลต ประโยชน์ ต่อสุขภาพมากกว่าเพราะไม่ผสมน้ำตาล)

3.นมจืด 350 กรัม

4.เกลือป่น 1 ช้อนชา

5.เนยสดรสจืด 25 กรัม

6.กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา 

7.แป้งสาลีอเนกประสงค์ 20 กรัม

8.น้ำตาลทรายขาว 170 กรัม (สามารถเพิ่มได้ถ้าต้องการเพิ่มความหวาน)

ขั้นตอน วิธีการทำ พร้อมเคล็ดลับทำเมนูซอส ช็อกโกแลต ให้น่ารับประทาน

  1. ขั้นตอนแรกเริ่มจากร่อนส่วนผสมที่เป็นของแห้งได้แก่ แป้งสาลี เกลือป่น ผงช็อกโกโก้ น้ำตาลทรายขาว เพื่อให้ส่วนผสมต่าง ๆ ไม่ติดกันเป็นก้อน 
  2. ใส่น้ำสะอาดในภาชนะใบใหญ่ (กะละมัง) นำขึ้นตั้งไฟโดยใช้ไฟอ่อน เมื่อน้ำร้อนให้นำภาชนะที่ใส่ส่วนผสมที่ร่อนเตรียมไว้มาว่างบนภาชนะใบใหญ่ (เป็นลักษณะวิธีการตุ่น เพื่อป้องกันการไหม้ของส่วนผสม)
  3. เมื่อวัตถุดิบเริ่มละลาย ค่อย ๆ ใส่ดาร์คช็อกโกแลตคอมพราวด์ (ใช้ช็อกโกแลตยี่ห้ออะไรก็ได้)ตามด้วยนมจืดลงไปทีละน้อย ขั้นตอนนี้ต้องใช้พายยางซิลิโคนเคี่ยวตลอดเวลาเพราะในส่วนผสมมีน้ำตาล และช็อกโกแลตนั้นจะไหม้ง่ายมาก 
  4. 4.เมื่อส่วนผสมทุกอย่างละลาย มีความหนืดพอสมควร ให้ใส่เนยจืดสดลงไปเพื่อเพิ่มความแวววาวให้กับซอสช็อกโกแลต จากนั้นยกลงจากเตา ใส่กลิ่นวานิลลงไปแล้วคนให้เข้ากัน ตั้งพักให้เย็นจากนั้นนำไปบรรจุขวด หรือโหลเก็บไว้แต่งหน้าขนม เบเกอรี่ในโอกาสถัดไป (เก็บในตู้เย็นสามารถเก็บไว้ใช้ได้นาน 2 สัปดาห์)

ขอบคุณภาพจาก unsplash

ปัญหาในการทำ ซอสช็อกโกแลต คือเนื้อซอสช็อกโกแลตเป็นตุ่มเป็นก้อน เกาะกันเป็นพวงไม่สวยงาม เคล็ดลับง่าย ๆ คือต้องร่อนส่วนผสมผง ของแห้งก่อนนำลงไปละลายในความร้อน จากนั้นขั้นตอนสุดท้ายเพิ่มเนยสดลงไปจะช่วยทำให้เนื้อของซอสสวยงามแววขึ้น 

สามารถใช้ ช็อกโกแลตเซเว่น ก็ได้ หรือช็อกโกแลตแบ่งขายก็ได้ และถ้าใครอยากได้รสชาติพรีเมี่ยมสามารถใช้ ช็อกโกแลตลินด์ ก็ได้ จะได้ซอสที่อร่อยแบบละมุน และมีรสสัมผัสที่ดีมาก 

Categories
เบเกอรี่

แพนเค้ก เมนูอาหารเช้ายอดฮิตของชาวตะวันตก

ขนมแพนเค้กเป็นขนมประเภทเบเกอรี่ชนิดหนึ่ง ลักษณะเป็นแผ่นวงกลม มีหลายรสชาติหลายท้อปปิ้ง เนื้อแป้งจะมีความนิ่ม รสหวาน หอม มัน อร่อย รับประทานง่าย เป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงเทียบเท่ากับการรับประทานข้าวเลยทีเดียว สำหรับคนไทยนิยมรับประทาน แพนเค้ก เป็นอาหารว่าง ขนมทานเล่น แต่คนแถบประเทศตะวันตกจะรับประทานเป็นอาหารมื้อหนัก อาหารเช้าคู่กับนม หรือกาแฟ และอาหาว่างทานเล่น 

ขอบคุณภาพจาก pixabay

วัตถุดิบ ส่วนผสมขนม แพนเค้ก (สำหรับแพนเค้ก 6 – 7 แผ่น)

1.แป้งสาลี 1 ถ้วย (สามารถใช้แป้ง แพนเค้ก อเนกประสงค์ได้)

2.น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ

3.ไข่ไก่ 1 ฟอง (เบอร์ 0)

4.กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา

5.เกลือป่น 1 ช้อนชา

6.เนยสดละลาย 3/4 ถ้วยตวง

7.นมสด 1/2 ถ้วยตวง 

8.ผงฟู 1/2 ช้อนชา

9.ท้อปปิ้งที่ชอบ 

ขั้นตอน วิธีการทำ พร้อมเคล็ด (ไม่) ลับ ทำขนม แพนเค้ก สูตรพื้นฐาน

  1. ขนม แพนเค้ก วิธีทำ ไม่ยาก เริ่มจากการผสมวัตถุดิบแป้งสาลี ผงฟู เกลือป่น น้ำตาลทราย จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดร่อนด้วยตะแกรงร่อนแป้งพร้อมกัน การร่อนจะช่วยเพิ่มช่องอากาศให้แป้ง จะช่วยให้เนื้อแป้งแพนเค้กนุ่มขึ้น
  2. จากนั้นค่อย ๆ เทนมสด สลับการเทเนยเหลวลงไปใช้ไม้ตีไข่ค่อย ๆ ตีจนเนื้อแป้งผสมเป็นเนื้อเดียวกับนม และเนยเหลว คนจนกว่าเนื้อแป้งไม่เกาะกันเป็นก้อน
  3. จากนั้นใส่ไข่ไก่ลงไปในส่วนผสม ใช้ไม้ตีไข่ค่อย ๆ ตี จนเข้ากัน ใส่กลิ่นวานิลลาเป็นลำดับสุดท้าย 
  4. มาถึงขั้นตอนในการนำแป้งแพนเค้กมาทำให้สุก เริ่มจากการตั้งกระทะเทฟล่อนบนเตาเปิดไฟเบา เทแป้งแพนเค้กลงไปบนกระทะเทฟล่อน (ขั้นตอนนี้ค่อนช้างสำคัญเพราะแป้งแพนเค้กจะใหม้ง่ายมาก ต้องควบความร้อนของเตาไม่ให้ร้อนจนเกินไป)
  5. พลิกแป้งแพนเค้กให้สุกทั้ง 2 ด้าน เพียงเท่านี้ก็ได้ขนมเบเกอรี่แพนเค้ก เมนูอาหารเช้า ของว่างทานเล่น เสิร์ฟพร้อมท้อปปิ้งที่ต้องการ (สำหรับ แพนเค้กสูตรดั้งเดิม สมัยโบราณจะนิยมใส่ท้อปปิ้งเป็นการราดน้ำผึ้ง)

ขอบคุณภาพจาก pixabay

เคล็ดลับทำ แพนเค้ก ให้อร่อยต้องเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ใช้นมสดสำหรับตีฟอง และเนยสดแท้จะช่วยให้แป้งเนื้อเนียนฟูนุ่ม เคล็ดลับ ขนมเบเกอรี่ แพนเค้กที่หลายคนมองข้าม ที่สำคัญอย่างหนึ่งคือร่อนแป้ง และส่วนผสมที่เป็นผง ของแห้ง จะช่วยเพิ่มความฟูของเนื้อแป้งอย่างชัดเจน

แพนเค้กนั้นนอกจากเป็นอาหารว่างในครอบครัวแล้ว เป็นขนมที่สามารถเพิ่มลูกเล่นเพิ่มท้อปปิ้ง ใส่ไอเดียเพิ่มความหลากหลายให้ขนมแพ้นเค้ก อาทิทำเป็น แพนเค้กญี่ปุ่น แพนเค้กเกาหลีเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ ความแปลกใหม่ 

ขอบคุณภาพจาก unsplash

Categories
เบเกอรี่

เมนูอาหารว่างง่ายๆ ขนมจากชาติตะวันตกยอดนิยมของคนไทย

    นิสัยการรับประทานอาหารของคนไทยค่อนข้างที่จะมีความแปลก มีความยืดหยุ่นสูง มีความแตกต่างจากชาติอื่น ๆ อย่างมาก เพราะคนไทยนั้นสามารถรับประทานอาหารได้ทุกเวลาตามต้องการ และการรับประทานอาหารของคนไทยนั้นก็ไม่ตายตัว อาหารทุกอย่างสามารถรับประทานได้ทุกเวลา เช่นอาหารเมนูข้าวผัด สามารถรับประทานเป็นอาหารเช้า อาหารกลางวัน อาหารเย็น 

     หรือแม้กระทั่งจะรับประทานข้าวผัดเป็นเมนูอาหารว่างง่ายๆ รับประทานเล่น ๆ ก็ยังได้เลย แล้วแต่ว่าอยากจะเรียกอาหารมื้อนั้นว่าเป็นอาหารอะไรเท่านั้นเอง โดยเฉพาะเมนูขนม เบเกอรี่ หรือของหวานนั้นคนไทยสามารถรับประทานอาหารเหล่านี้ได้ตลอดเวลา และค่อนข้างมีความนิยมอาหารเหล่านี้มากกว่าอาหารหลักเลยด้วยซ้ำ เพราะรับประทานได้สะดวกกว่าอาหารหลัก มีรสสัมผัสของความนุ่ม ละมุน รวมถึงรสชาติ หวาน มัน กลมกล่อมของส่วนผสม ไข่ เนย นม

ขอบคุณภาพจาก pixabay

ขนมเบเกอรี่เมนูอาหารว่างง่าย ๆ คนไทยรับประทานได้ทุกเวลา 

จะว่าไปแล้วคนไทยเป็นชาติที่มีนิสัยสุขนิยมอย่างสุด ๆ เลยทีเดียว จะค่อนข้างที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องอาหารมากประเทศหนึ่งเลยทีเดียว คนไทยไม่ได้รับประทานอาหารเป็นเวลา แต่คนไทยสามารถรับประทานอาหารทุกประเภทได้ทุกเวลา อาหารไทยจึงมีเมนูอาหารว่างง่ายๆ จำหน่ายเยอะมาก เรียกได้ว่าเป็นเมนูอาหารว่างทำเงิน  สำหรับคนที่ประกอบธุรกิจอาหารเลยก็ว่าได้ เพราะทำออกมาเท่าไรก็ไม่พอกับความต้องการ 

ยิ่งโดยเฉพาะช่วงเวลาเย็น ๆ ไปจนถึงช่วงค่ำ คนไทยจะนิยมออกมาหาอาหาร ขนม สังสรรค์นอกบ้าน หรือคนส่วนใหญ่จำนวนไม่น้อยชอบเดินเที่ยวตลาดนัด เพราะตลาดนัดส่วนใหญ่จะมีอาหาร ง่าย ทานเล่น จำหน่ายจำนวนมาก หนึ่งในนั้นก็จะมีเบเกอรี่ ซึ่งเป็นขนมที่คนไทยจะนิยมรับประทานกันมาก และนิยมซื้อเป็นของฝากติดติดมือฝากคนในครอบครัว ไปปาร์ตี้รับประทานนอาหารกันต่อกับสมาชิกในครอบครัวที่บ้านอีก เรียกได้ว่าเป็นขนมที่สามารถรับประทานกันได้ทุกเวลา และทุกเพศทุกวัยเลยก็ว่าได้ ครองใจคนไทยอย่างสุด ๆ เลยทีเดียว

ขอบคุณภาพจาก pixabay

เมนูเบเกอรี่ ขนมที่ยืนหนึ่งในใจคนไทย

เมนูเบเกอรี่กับคนไทยนั้นเป็นของคู่กัน คนไทยนิยมรับประทานเบเกอรี่เป็นเมนูอาหารว่างง่ายๆ รับประทานได้ทุกเวลา และได้ทุกโอกาส ไม่ว่าจะเทศกาลอะไร วาระไหน เบเกอรี่สามารถแทรกซึมเข้าไปได้ในทุกบริบท ไม่ว่าจะงานเลี้ยงรับรองแขก งานประชุม งานสัมมนา ไปจนกระทั่งเป็นขนมเลี้ยงแขกในงานขาวดำ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีอาหารแปลกใหม่ ทำง่าย ผุดขึ้นมามากมาย แต่คนไทยก็ยังให้ความนิยมขนมเบเกอรี่อย่างเหนียวแน่น ยังคงยกตำเหน่งเมนูอาหารว่างไทย ในดวงให้เบเกอรี่ยืนหนึ่งไปอีกนานแสนนานเลยทีเดียว 

ขอบคุณภาพจาก pixabay