Categories
อาหารนานาชาติ

สูตรพิเศษสุดคลาสสิก พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน แป้งบาง กรอบ อร่อยฟินทุกคำ

พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน

อีกหนึ่งเมนูอาหารจากอิตาลียอดนิยมตลอดกาลนั่นก็คือ พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนเมนูนี้ยังคงเป็นอาหารที่ทุกคนชอบกันมากที่สุด ซึ่งเป็นเมนูที่สามารถทานได้ทุกวัย และยังถือว่าเป็นเมนูสุดโปรดของเด็กๆ อีกด้วย สำหรับเมนูนี้ชาวอิตาลีนิยมทำทานในครอบครัว หรืองานสังสรรค์ต่างๆ อีกทั้งยังนิยมทานเป็นอาหารว่างอีกด้วย

พิซซ่าอิตาเลี่ยน ของชาวอิตาลีจะมีแป้งที่กลมไม่มีความนุ่ม และมีขนาดกลม ตกแต่งหน้าด้วยซอสมะเขือเทศ หรือซอสชนิดต่างๆ ตามใจชอบ สำหรับ พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน จะอบด้วยเตาไม้ทำให้พิซซ่ามีความหอม และกรอบอร่อยโรยหน้าด้วยชีสชั้นดี ซึ่งชีสที่ดีที่สุดคือ ชีสนมควาย ซึ่งถือว่าเป็นส่วนผสมหลักที่ทำหิพิซซ่ามีความโดดเด่นเป็นเอกลักณ์เฉพาะตัวที่มีกลิ่น และรสชาติมีความพิเศษสุดๆ และแนนอนว่าวันนี้เราจะมาแชร์สูตรทำพิซซ่าสไตล์อิตาลีให้ทุกคนได้ทำตามรับรองว่าทำได้ และอร่อยสุดๆ 

เปิดขั้นตอน พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน สไตล์โฮมเมค เมนูสุดฮิตตลอดกาล แป้งบาง มือใหม่ก็ทำได้

พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน

พิซซ่า อิ ตา เลี่ยนเป็นเมนูที่หลายคนชอบทานกันเป็นประจำ เพราะพิซซ่าทานแล้วรู้สึกอิ่มนาน และเป็นอาหารจานด่วนที่เหมาะสำหรับคนไม่มีเวลาทำอาหารทานเองอีกด้วย สำหรับรสชาติของพิซซ่าอิตาเลี่ยนแท้ ชนิดนี้มักจะตกหน้าด้วยซอส และชีสเป็นหลัก จึงทำให้เมื่อทานแล้วจะได้รสชาติความเปรี้ยว และกลิ่นหอมชีสที่อร่อยอย่างลงตัวสุดๆ และที่สำคัญพิซซ่าสไตล์อิตาลียังมีวิธีการทำที่แสนง่าย มือใหม่ฝึกทำpizzaได้สบายมาก ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำเมนู พิซซ่า อิตาเลี่ยน สูตรแป้งบาง กรอบ สไตล์โฮมเมค ว่าแล้วไปลงทำพิซซ่าอิตาลีแท้กันเลย

วัตถุดิบ และส่วนผสมแป้งที่ต้องเตรียม

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 500 กรัม
  2. ยีสต์แห้ง 1 ½ ช้อนชา
  3. น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
  4. เกลือ 1 ช้อนชา
  5. น้ำมันมะกอก 2-3 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำอุ่น 1 ถ้วย
พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน

วัตถุดิบ และส่วนผสมของซอสมะเขือเทศ

  1. หอมหัวใหญ่สับละเอียด 2 ซ้อนโต๊ะ
  2. มะเขือเทศสุก 5 ลูก
  3. เกลือป่น ½ ช้อนชา
  4. น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำเปล่า 1 แก้ว
  6. ชีสมอชชาเรลล่า (แต่งหน้าพิซซ่า)
  7. ใบออริกาโน (เพิ่มความหอม)

หลังจากที่เตรียมวัตถุดิบ และส่วนผสมของพิซซ่า อิ ตา เลี่ยน เสร็จแล้ว ในขั้นตอนต่อมาจะเป็นวิธีทำอาหารอิตาลีอย่างพิซซ่าโฮเมคแป้งบางกรอบอร่อยเหมือนทานที่ร้านเลยทีเดียว ว่าแต่ขั้นตอนมีอะไรบ้างมีดูกันเลย

พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน
  1. มาเริ่มที่ขั้นตอนแรกกันเลย นำแป้งสาลีอเนกประสงค์เทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นทำแป้งให้เป็นหลุมตรงกลาง จากนั้นใส่น้ำตาล ยีสต์ ลงไปในหลุมอแป้ง คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เมื่อส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีแล้วค่อยๆ เติมน้ำมันมะกอกลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำอุ่นที่เตรียมไว้นวดส่วนผสมให้เข้ากัน
  2. เติมเกลือที่เตรียมไว้ลงไป จากนั้นค่อยๆ นวดแป้งจนแป้งเป็นเนื้อเนียน ทำการปั้นแป้งเป็นก้อนกลมๆ ใส่ไว้ในชาม จากนั้นใช้พลาสติกแรป หรือผ้าชุบน้ำแล้วบิดให้หมาดคลุมไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งในระหว่างที่พักแป้งไว้ยีสต์จะทำงานทำให้แป้งมีความนุ่มนิ่มมากขึ้น
  3. เมื่อครบกำหนดการพักแป้งพักแล้ว แป้งที่ได้จะมีความฟูมากขึ้น หลังจากนั้นนำแป้งมาแบ่ง และใช้มือนวดแป้งโดยก่อนนวดให้โรยแป้งลงไปก่อน เพื่อป้องกันไม่แป้งติดมือ หลังจากนั้นทำการนวดแป้งให้เป็นก้อนกลมๆ นำไปวางบนแผ่นไม้ ซึ่งแป้งแต่ละก้อนควรวางให้ห่างกัน ไม่เช่นเวลาแป้งขยายตัวจะทำให้แป้งติดับก้อนอื่นได้
  4. จากนั้นทำการพักแป้งต่อไป โดยการใช้ผ้าคลุมแป้งไว้เป็นเวลา 1 ชั่วโมง หรือถ้าจะให้ดีควรพักแป้งไว้ 3- 5 ชั่วโมง ทำให้แป้งนุ่มนิ่มมากขึ้น
  5. หลังจากนั้นนำแป้งที่พักไว้มาทำการรีดให้เป็นแผ่นบางๆ และทำการตกแต่งหน้าแป้งพิซซ่าได้ตามใจชอบ โดยการโรยชีสมอชชาเรลล่า และ เสร็จแล้วนำไปอบที่อุณหภูมิ 220 องศาเซลเซียส เปิดไฟบน-ล่าง เป็นเวลา 20 นาที เพียงแค่นี้ก็จะได้พิซซ่าสไตล์อิตาเลียน พร้อมเสิร์ฟ

หลังจากที่ทำ พิซซ่าอิตาเลี่ยน เสร็จเรียบร้อยแล้ว นำมาตัดเป็นชิ้นตามใจชอบ และราดด้วยซอสมะเขือเทศ และโรยใบออริกาโนจะทำให้รสชาติมีความเปรี้ยวตัดกับความเลี่ยนของพิซซ่าได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่า เมนูอาหารอิตาลียอดนิยมที่สามารถทำเองได้ง่ายๆ แถมยังทานกับอะไรก็อร่อยอีกด้วย

เพิ่มความอร่อยของพิซซ่าอาหารอิตาลี ง่ายๆ ด้วยตัวเอง

สำหรับพิซซ่า อิตาเลี่ยน เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความใส่ในการทำ เพราะวัฒนธรรมอาหารอิตาลีที่แท้จริงจะมีความใส่ใจการปรุง และละเมียดละไมในการทำอาหารให้ออกมาอร่อยที่สุดตามสไตล์อาหารอิตาเลี่ยนแท้ๆ ทำให้อาหารมีเหน่ห์มากขึ้น

พิซซ่า อิ ตา เลี่ยน

ดังนั้นในขั้นตอนการนวดแป้งพิซซ่า อิ ตา เลี่ยน จะค่อนข้างเวลานวดค่อนข้างนาน และถ้าต้องการให้แป้งมีความนุ่มฟูมากขึ้นควรพักไว้นานๆ ประมาณ 3 ชั่วโมงขึ้นไป และอีกหนึ่งความอร่อยคือ การตกแต่งหน้าพิซซ่าด้วยอาหารทะเลไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย หมึก แบบจัดหนักจัดเต็มเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นอาหารอิตาลี ทำเองที่อร่อยและฟินสุดๆ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารนานาชาติ

เผยเคล็ดลับ วิธีทำ โจ๊ก ไก่ สูตรโบราณ อร่อยกลมกล่อม ส่งตรงจากแดนมังกร 

โจ๊ก ไก่ หนึ่งในอาหารยอดนิยมรับประทานเป็นอาหารมื้อหลักมากที่สุดในแถบเอเชีย และในประเทศจีน โดยอาหารประเภทโจ๊กสามารถทานได้ทุกวัน และทุกเทศกาล แต่ในเทศกาลตรุษจีจะมีข้อห้ามในการกินเมนูโจ๊ก เพราะคนจีนมีความเชื่อว่าการกินอาหารประเภทเมนูโจ๊กจะไปขัดขวางความร่ำรวย เนื่องจากในสมัยก่อนคนจนนิยมรับประทานอาหารชนิดนี้มากๆ นั่นเอง 

โจ๊ก ไก่

เมนูอาหารเช้าที่ทุกคนพูดถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้นคือ โจ๊กไก่ เป็นอาหารรสชาติที่มีกลมกล่อมที่ทานง่าย และย่อยง่าย จึงทำให้หลายคนนิยมทำทานในยามเช้า โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กนักเรียนต้องไปโรงเรียน ต้องบอกเลยว่าเมนูโจ๊กคืออาหารหลักในตอนเช้าเลยก็ว่าได้ และที่สำคัญโจ๊กถือว่าเป็นอาหารที่มีวิธีทำได้ง่ายมากๆ แถมยังประหยัดเวลาอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นการทานอาหารประเภทโจ๊กยังทำให้อิ่มท้องนาน เพราะส่วนผสมหลักเป็นแป้งในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตนั่นเอง สำหรับใครที่ชอบรับประทานเมนูโจ๊ก วันนี้เรามีสูตรการทำโจ๊ก ไก่ สูตรน้ำซุปเข้มข้นดั้งในสมัยโบราณมาให้ได้ทำตาม

เปิดสูตรทำ โจ๊ก ไก่ น้ำซุปรสชาติกลมกล่อม ข้าวนุ่ม หอม อร่อย 

โจ๊ก ไก่

วันนี้เราพาจะทุกคนมาทำเมนูเบาๆ ง่ายๆ ทานได้ทั้งวัน นั่นก็คือโจ๊ก ไก่ หนึ่งในเมนูโจ๊กที่มีรสชาติอร่อย ถูกปากคนทุกวัย สำหรับเมนูอาหารที่นำมาแชร์เป็นสูตรที่คัดมาแล้วว่าอร่อยสุดๆ ได้แก่ โจ๊ก ไก่ฉีก เป็นโจ๊กที่ทำง่ายใช้เวลาไม่นาน และ โจ๊ก ไก่สับเป็นสูตรโจ๊กไก่โบราณ น้ำซุปเข้มข้น และรสชาติกลมกล่อมสุดๆ ที่สำคัญเรามีเทคนิคการต้มข้าวให้หอมนุ่มมาให้ทุกคนได้ทำตามกันอีกด้วย แต่ก่อนที่จะเริ่มลงทำอาหาร เราต้องมาจัดเตรียมเกี่ยวกับส่วนผสม และวัตถุดิบ รวมถึงอุปกรณ์ให้พร้อมก่อน ว่าแล้วไปเตรียมกันเลย

  1. เนื้ออกไก่ 500 กรัม
  2. ซี่โครงไก่ 1 โครง
  3. พริกไทย 1 ช้อนชา
  4. ต้นหอม 2-3 ต้น
  5. ซอสปรุงรส 2 ช้อนชา
  6. ข้าวสาร 1 ถ้วยตวง
  7. เกลือ 1 ช้อนชา
  8. ผักซี 1 ต้น
  9. กระเทียม 4 กลีบ 
  10. พริกไทย 1 ช้อนชา
  11. น้ำเปล่า 2 ลิตร

สำหรับข้าวสารที่ทำเมนูโจ๊ก ไก่ แนะนำให้ใช้ปลายข้าวหอมมะลิแท้ เพราะข้าวพันธุ์นี้ถ้าต้มสุกแล้วจะมีความนุ่มนิ่ม และหอมสุดๆ แต่ถ้าบ้านไหนไม่มีข้าวหอมมะลิสามารถใช้ปลายข้าวสาร หรือข้าวสารธรรมดาทั่วไปได้ เมื่อทำอาหารออกมาก็อร่อยไม่แพ้ข้าวหอมมะลิ สำหรับใครที่ชอบทานเห็ดสามารถเพิ่มวัตถุดิบอย่างเห็ดหอมเข้าไปได้ เพียงแค่นี้ก็จะได้เมนูโจ๊กเห็ดหอมไก่สับ หรือไก่ฉีกตามที่ต้องการแล้ว และนำลำดับต่อมาเราจะมาเริ่มขั้นตอนการทำโจ๊กโบราณดังนี้

โจ๊ก ไก่
  1. ขั้นตอนเริ่มจาก นำข้าวสารใส่ในหม้อหุงข้าวมาล้างน้ำสะอาด 1-2 ครั้ง จากนั้นเติมน้ำให้มากกว่าเดิม 1 เท่า จากปกติ นำไปหุงให้ข้าวสุก เมื่อสุกข้าวสุกแล้วจะมีความแฉะเล็กน้อย
  2. ต่อมาทำการหมักอกไก่ โดยการนำกระเทียม รากผักชี พริกไทย มาโขลกนำละเอียด ใส่ลงไปในภาชนะ จากนั้นใส่ไก่ลงไปตามด้วยซอสน้ำมันหอย น้ำปลา น้ำตาล ซีอิ้วขาว คลุกเคล้าให้ส่วนผสมให้เข้ากันหมักไว้ประมาณ 15-20 นาที
  3. นำน้ำใส่หม้อนำไปตั้งไฟให้น้ำเดือด จากนั้นใส่ไก่ที่หมัก และโครงไก่ลงไป เมื่ออกไก่สุกแล้วนำออกมาพักไว้ และต้มโครงไก่ต่อไป 20 นาที นำอกไก่มาฉีกเป็นชิ้นๆ 
  4. หลังจากนั้นนำน้ำซุปที่ต้มเสร็จแล้วใส่ในหม้อ และใส่ข้าวหุงเสร็จแล้ว ต้มต่อไปอีก 5 นาที เมื่อข้าวละเอียดเป็นเนื้อเนียน ทำการปรุงรสได้ตามใจชอบ เสร็จแล้วตักใส่ถ้วย ใส่ไก่ฉีกลงไป โรยหน้าด้วยต้นหอม และผักชีชอย ตามด้วยกระเทียมเจียว 
โจ๊ก ไก่

สำหรับโจ๊กไก่ที่ทำเสร็จแล้วจะมีความหอมของกระเทียมเจียว และรสชาติกลมกล่อมอร่อยสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นอาหารเช้าระดับตำนานอาหารจีนที่สามารถทานได้ทั้งครอบครัว สำหรับสูตรโจ๊กไก่สับ เพียงแค่นำไก่มาสับให้ละเอียดจากนำไปต้มในน้ำชุป ใส่ข้าวหุงสุกลงไปต้มจนสุกปรุงรสชาติตามใจชอบ หากใครอยากเพิ่มความอร่อยสามารถเติมไข่ลวก พริก และน้ำมะนาวก็อร่อยเช่นกัน

แนะนำเมนูอาหารจีนง่ายๆ โจ๊กหมูสับ อร่อยจนต้องทานเพิ่ม

นอกจากโจ๊ก ไก่แล้ว ยังมีหนึ่งสูตรที่อร่อยไม่แพ้กัน สำหรับโจ๊กหมู ถือว่าเป็นอาหารจีนพื้นบ้านที่คนจีนชอบทำทาน เพราะเป็นอาหารที่เหมาะกับช่วงเวลาเร่งรีบที่สุด และอิ่มนานที่สุดด้วย สำหรับขั้นตอนการทำโจ๊กหมู เพียงแค่นำกระดูกหมูมาต้ม และตามด้วยรากผักชี ต้มจนเดือด หลังจากนั้นตักน้ำซุปกระดูกใส่ในหม้อนำไปต้มให้น้ำเดือก ใส่หมูสับลงไปต้มต่อให้หมูสุก ใส่ข้าวหุงลงไปรอให้ข้าวมีความเป็นเนื้อเนียน เสร็จแล้วตักใส่ถ้วยใส่เห็ดหอมเพื่อความอร่อย โรยด้วยผักชี พร้อมเสิร์ฟ 

โจ๊ก ไก่

เทคนิคในการทำโจ๊ก ไก่และโจ๊กหมูเมนูอาหารจีนโบราณให้อร่อย คือ ในขั้นตอนการต้มข้าว ควรหมั่นคนข้าวให้เป็นเนียน และเติมน้ำเพื่อไม่ให้ข้าวไหม้ เมื่อข้าวเนียนแล้วสามารถเพิ่มความหอมด้วยกระเทียวเจียว และหอมเจียวใหม่ๆ จะทำให้อาหารน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เมนูโจ๊กมีอีกหลายสูตรที่น่าสนใจ อาทิ โจ๊กปลา โจ๊กทะเลรวมมิตร หรือจะเป็นโจ๊กต้มยำทะเลอร่อยจนต้องขอเพิ่มอีกด้วยเลยทีเดียว

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
เบเกอรี่

เมนูสร้างความสุข ขนมหวานยอดนิยม โดนัทจิ๋ว แต่อร่อย รสชาติหวานฉ่ำ โดนใจ 

โดนัทจิ๋ว

โดนัทจิ๋ว ขนมหวานสุดคิ้วท์ที่รู้จักกันทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย และกำลังเป็นที่นิยมกันมากที่สุดในตอนนี้ สำหรับขนมโดนัทถูกค้นพบมาตั้งสมัยก่อนยุคประยุคประวัติศาสตร์ หรือประมาณ 600 ปีมาแล้ว ในสมัยก่อนโดยนัทจะมีรูปร่างกลมไม่มีรูตรงกลางทำให้อมน้ำมัน และต่อมาผู้คิดค้นได้ดัดแปลงขนมโดนัทให้มีรูตรงกลาง เพื่อไม่ให้ขนมอมน้ำมันในขณะทอดนั่นเอง แต่ด้วยขนมโดนัทจะต้องใช้น้ำมันในการทอดค่อนข้างมาพอสมควร อีกทั้งยังอมน้ำมันอีกด้วย จึงทำให้ปัจจุบันมีการประยุกต์สูตรทำขนมโดนัทที่ใช้น้ำมันน้อย จนกลายมาเป็นโดนัทจิ๋ว เพียงแค่มีเครื่องทำขนมสามารถทำได้แล้ว 

โดนัทจิ๋ว

โดนัทจิ๋วเป็นขนมที่ประยุกต์มาจากขนมโดนัทสูตรออริจินัล แต่จะมีรูปร่างที่เล็กกว่า และไม่อมน้ำมัน เพราะใช้เครื่องทำขนมโดยเฉพาะ อีกทั้งรสชาติมีความหวานละมุน อบอวลไปด้วยกลิ่นเนยหอมอร่อยจนต้องเพิ่มอีกชิ้นเลยทีเดียว ส่วนขั้นตอนของการทำขนมก็ทำง่ายมากๆ หากใครอยากทำขนมโดนัทขนาดจิ๋วไว้ทานในครอบครัว หรือจะทำขายก็ทำได้ และสร้างกำไรตั้งวันแรกที่ขายเลยทีเดียว

สูตร โดนัทจิ๋ว รสชาติหวาน เนื้อนุ่มนิ่ม ไม่อมน้ำมัน ไม่อันตรายต่อสุขภาพ

โดนัทจิ๋ว

สำหรับผู้ที่ชอบขนมโดนัทเป็นชีวิตจิตใจ และอยากลองทำให้คนในครอบครัวทาน แต่ทำยังไงขนมโดนัทก็อมน้ำมันทุกครั้ง และไม่อร่อยเหมือนซื้อทานที่ร้าน ขอแนะนำ โดนัท จิ๋ว ขนมสุดน่ารัก รสชาติหวานละมุน หอมกลิ่นเนยสดอ่อนๆ ส่วนเนื้อแป้ง โดนัท จิ๋วมีความนุ่มนิ่ม และไม่อมน้ำมันอีกด้วย อีกทั้งยังมีให้ทำหลากสูตร ไม่ว่าจะเป็นสูตรออริจินอล และสูตรโดนัท จิ๋ว แฟนซีที่มีสีสันสดใส และที่สำคัญเป็นขนมโดนัทที่ใช้ทุนต่ำ หากทำโดนัท จิ๋ว 5 บาท ยังได้กำไรตั้งวันแรกเลยทีเดียว สำหรับวิธีทํา โดนัทจิ๋ว ขายง่ายนิดเดียว เพียงแค่มีเครื่องทำขนมโดนัทก็สามารถทำได้ ว่าแต่โดนัทจิ๋วสูตรไหนอร่อย และทำง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ไปดูกันเลย

โดนัทจิ๋ว

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

  1. แป้งอเนกประสงค์ 200 กรัม
  2. เนยสด 80 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 150 กรัม
  4. ผงฟู ½ ช้อนชา
  5. เบคกิ้งโซดา ½ ช้อนชา
  6. เกลือ ½ ช้อนชา
  7. น้ำมันรำข้าว 100 กรัม
  8. กลิ่นวนิลลา 3 ช้อนชา
  9. ผลไม่แช่อิ่ม 30 กรัม
  10. ลูกเกด 20 กรัม
  11. อัลมอนสไลด์ 10 กรัม
  12. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  13. สีผสมอาหารตามใจชอบ
  14. น้ำตาลไอซ์ซิ่ง 150 กรัม

วัตถุดิบของโดนัทจิ๋วที่กล่าวมาข้างต้นเป็นสูตร โดนัทจิ๋วแฟนซี สีสันสดใส เหมาะสำหรับเด็กๆ ที่ชอบทานขนมเป็นอยากมาก สำหรับส่วนผสมที่เป็นน้ำมันหากในครัวไม่มีน้ำมันรำข้าวสามารถใช้น้ำมันพืชแทนได้ แต่ถ้าใช้น้ำมันรำข้าวจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า และในลำดับต่อมาจะเป็นวิธีการทำขนมโดนัท ขนาดจิ๋ว มีลายละเอียดดังต่อไปนี้

โดนัทจิ๋ว
  1. มาเริ่มที่ขั้นตอนแรก เตรียมแป้งอเนกประสงค์ เบคกิ้งโซดา และผงฟู มาร่อนลงในภาชนะที่เตรียมไว้ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน พักไว้
  2. ต่อมาเตรียมน้ำตาล เนยสดที่ละลาย และตามด้วยไข่ไก่ และน้ำมันรำข้าวลงไปในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นใช้เครื่องตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นนำแป้งที่เตรียมไว้ใส่ลไปทีละครึ่ง ใช้เครื่องตีส่วนผสมด้วยความเร็วปานกลาง 
  3. นำแป้งโดนัทตักใส่ถุงบีบขนม จากนั้นนำไปบีบลงไปในหลุมเครื่องทำขนม ตกแต่งหน้าโดนัทด้วยอัลมอนสไลด์ ลูกเกด และผลไม้แช่อิ่ม นำถาดเข้าอบเป็นเวลา 10 นาที เสร็จแล้วนำขนมโดนัทออกมาพักไว้ให้เย็น
  4. ต่อมาเราบจะมาทำน้ำตาลราดหน้าโดนัท โดยเริ่มจากนำน้ำตาลไอซ์ซิ่งใส่ลงไปในภาชนะ จากนั้นใส่สีผสมอาหารที่เตรียมไว้ลงไปคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เสร็จแล้วเทส่วนผสมที่ได้ราดลงไปบนโดนัท รอให้น้ำตาลเซตตัว เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
โดนัทจิ๋ว

ขนมโดนัทจิ๋วที่ทำเสร็จแล้วจะมีความหอมกรุ่น หวานละมุน และสีสันสดใส และยังอร่อยกว่าที่ขายในท้องตลาด อีกทั้งยังสามารถตกแต่งหน้าโดนัทได้ตามใจชอบ อีกทั้งยังเป็นเบเกอรี่ที่สามารถคู่กับเครื่องดื่มอย่างชาเขียว หรือจะเป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติหวานอมเปรี่ยวอย่างบลูเบอรี่โซดาจะยิ่งเพิ่มความอร่อยอย่างลงตัว 

เทคนิคทำ เบเกอรี่ง่ายๆ โดนัทจิ๋ว ให้สวยงาม อร่อยพร้อมทาน

โดนัทจิ๋วเป็นขนมเบเกอรี่ทำเองได้ง่าย และมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก สำหรับขั้นตอนการอบอย่างโดนัทให้สุกดีนั้น ให้ใช้นิ้วจิ้มโดนัทหากเนื้อแป้งเด้งกลับแสดงว่าสุกเรียบร้อย สำหรับสีผสมอาหารสามารถเลือกได้ตามใจชอบ หากยากเพิ่มอร่อยให้กับโดนัท ขนมเบเกอรี่ยอดนิยมสามารถนำช็อกโกแลตหลากสีมาโรยหน้าโดนัทให้ดูสวยงาม เพียงเท่านี้ก็จะได้โดนัทสีสันสดใส แลน่ารับประทานสุดๆ ไปเลย 

โดนัทจิ๋ว

สำหรับใครที่อยากทำโดนัทจิ๋วสไตล์เบเกอรี่โฮมเมดสามารถทำตามสูตรที่กล่าวมาข้างต้น รับรองว่าโดนัทที่ทำออกมามีรสชาติหวานละมุนละไมทานแล้วติดใจทั้งเด็ก และผู้ใหญ่เลยทีเดียว และแน่นอนว่า หากอยากทำโดนัทสุดน่ารักไว้ขายในช่วงเลิกงานก็สามารถทำได้ แถมมีลูกค้าประจำตั้งแต่วันแรกที่ขายอีกด้วย หรือจะขายออนไลน์ก็มีออร์เดอร์ปังสุดๆ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

เปิดครัวไทย ชวนทำ ขนมถ้วย สูตรโบราณ รสชาติ หวาน มัน หอมกลิ่นกะทิสด 

ขนมถ้วย เป็นหนึ่งในเมนูของหวานที่นำเข้ามาโดยคนจีน ซึ่งสมัยก่อนจะเรียกว่า ขนมถ้วยตะไล ส่วนคนจีนจะเรียกว่า ขนมฮวดโก้ย มีความหมายเกี่ยวกับ ความเจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้า จึงทำให้ขนมชนิดเป็นขนมมงคลที่ขาดไม่ได้ โดยนิยมนำมาประกอบพิธีกรรมต่างๆ ไม่ว่าเป็นงานแต่งงาน ไหว้เจ้า เป็นต้น สำหรับวัตถุดิบของขนมมีเพียงแป้งข้าวเจ้า น้ำตาล และกะทิ ใส่ถ้วยตะไลนำไปนึ่งให้สุก เพียงแค่นี้ก็จะได้ขนมที่แสนอร่อยสุดๆ 

ขนมถ้วย

สำหรับใครที่ชอบทานเมนูของหวานไทยแท้ ต้องไม่พลาด เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำ ขนมหวานแสนอร่อยอย่างขนมถ้วย หนึ่งในขนมดั้งเดิมของไทยที่มีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สำหรับขนมถ้วยจะมีรสชาติที่หวาน มัน และเนื้อนุ่มนิ่ม หอมกลิ่นกะทิละมุนสุดๆ อีกทั้งยังเป็นของหวานทานง่าย และทำง่ายอีกด้วย แถมขั้นตอนก็ไม่ซับซ้อน ที่สำคัญยังใช้ต้นทุนเพียงเล็กน้อยในการซื้อวัตถุดิบ หากทำขายได้กำไรตั้งแต่วันแรกแน่นอน

วิธีทำ ขนมถ้วย เมนูของหวานไทยยอดฮิต ทำง่ายๆ ด้วยตัวเอง 

ขนมถ้วย

ขนม ถ้วย เป็นขนมที่สามารถหาทานได้ง่ายๆ ตามท้องตลาด หรือร้านขายขนมทั่วไป แต่ถ้าใครอยากลองทำขนม ถ้วยตะไลด้วยตัวเองที่บ้าน วันนี้เรามีสูต ร ขนม ถ้วยตะไลใบเตย รสชาติหวานหอมกลิ่นกะทิผสมผสานกับกลิ่นใบเตยได้อย่างลงตัว แถมเนื้อนุ่มนิ่มละมุนลิ้นสุดๆ และวิธีทำขนมถ้วยโบราณอย่างง่ายๆ มาให้ทุกคนได้ทำตาม รับรองทำได้แน่นอน ที่สำคัญยังเป็นขนม ไทยที่สามารถลองทำขายสร้างรายได้ และสร้างอาชีพให้อีกทางหนึ่งด้วย สำหรับการทำขนมไทยถ้วยตะไลนั้นมีส่วนผสม และวัตถุดิบของแป้งที่ต้องเตรียมมีดังต่อไปนี้

  1. แป้งท้าวยายม่อม 20 กรัม
  2. แป้งข้าวเจ้า 70 กรัม
  3. น้ำตาลโตนด 150 กรัม
  4. กะทิสด 250 กรัม
  5. ใบเตย 150 กรัม
  6. ถ้วยตะไล 5-10 ถ้วย
ขนมถ้วย

วัตถุดิบ และส่วนผสมของน้ำกะทิ

  1. แป้งข้าวเจ้า 30 กรัม
  2. หัวกะทิ 300 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 40 กรัม
  4. เกลือ ½ ช้อนชา

สำหรับวัตถุดิบของขนมถ้วยหนึ่งในเมนู ขนม โบราณ ในส่วนของน้ำตาลโตนด ถ้าบ้านไหนไม่มีสามารถใช้น้ำตาลทรายทำขนมแทนได้ แต่สามารถที่ใช้น้ำตาลโตนดเพราะมีความหอม และหวานละมุนลิ้น ตัดกับกลิ่นกะทิได้อย่างลงตัว และถ้าใครไม่มีถ้วยตะไลสามารถใช้ถ้วยแก้วแทนได้เช่นกัน สำหรับขั้นตอนต่อไปนี้เป็นวิธีทำที่คัดมาแล้วว่าทำง่าย และไม่ซับช้อนสามารถทำตามได้

ขนมถ้วย
  1. มาเริ่มจากขั้นตอนทำแป้งกันก่อนเลย โดยนำใบเตยมาปั่นใส่น้ำเล็กน้อย จากนั้นปั่นให้ละเอียดจะได้น้ำใบเตยสีเขียวเข้มเสร็จแล้วกรองเอาเศษใบเตยออก และใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งท้าวยายม่อม น้ำตาลโตนด และกะทิลงไป ใช้มือนวดแป้ง และส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  2. ตักส่วนผสมที่เตรียมไว้ใส่ในถ้วยตะไลปริมาณครึ่งถ้วย จากนั้นเตรียมหม้อนึ่งใส่น้ำ นำไปตั้งไฟปานกลางรอให้น้ำเดือดทำการวางถ้วยตะไลลงไป และนึ่งต่อไปเป็นเวลา 10 นาที 
  3. ในระหว่างที่ขนมสุก เรามาเตรียมน้ำกะทิ โดยนำใส่แป้ง เกลือ และน้ำตาลทราย คนส่วนผสมให้เข้าให้ละลาย จากนั้นใส่หัวกะลงไปคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน 
  4. นำน้ำกะทิที่เตรียมไว้หยอดใส่ในถ้วยขนมที่นึ่งไว้ และปิดฝาหม้อนึ่งต่อไปอีกเป็นเวลา 5 นาที ยกหม้อนึ่งออกจากเตา นำถ้วยขนมออกพักไว้ให้เย็น 
ขนมถ้วย

ขนมถ้วยที่ทำเสร็จแล้วจะมีหน้ากะทิที่แตกมัน และรสชาติหวาน มัน หอมกลิ่นใบเตย อีกทั้งเนื้อขนมมีความนุ่มนิ่ม เรียกว่าเป็นขนมไทย โบราณที่อร่อยถูกปาก และถูกใจสุดๆ และที่สำคัญยังใช้เวลาในการทำเพียงน้อยนิด เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลา แต่อยากทำขนมทานเองในครอบครัว สำหรับที่อยากเรียนทำขนม หวาน ไทยสามารถลองทำเมนูขนมชนิดนี้ดู รับรองว่าทำง่าย และอร่อยแน่นอน

แนะนำสูตรขนมถ้วยใบเตยมะพร้าวอ่อน ขนม ไทย ทำ ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก

ขนมถ้วย

อีกหนึ่งสูตรที่อยากแนะนำคือ ขนมถ้วยใบเตยมะพร้าวอ่อน ซึ่งวิธีทำจะมีความคล้ายกับขนมถ้วยใบเตย แต่จะเพิ่มมะพร้าวอ่อน เพื่อให้ขนมมีรสชาติอร่อยมากขึ้น และยังทำให้เนื้อสัมผัสนุ่มนิ่มมากขึ้น สำหรับสูตรที่ใช้ทำขนม ไทย ง่ายๆ เพียงแค่ใช้สูตรของขนมถ้วยใบเตยได้เลย ส่วนขั้นตอนการทำ เริ่มจากนำส่วนผสมของแป้ง กะทิ และน้ำใบเตย ผสมให้เข้ากัน จากนั้นตักใส่ถ้วยขนมครึ่งถ้วย นำไปนึ่ง หลังจากนั้นใส่น้ำกะทิที่ผสมแป้งเสร็จแล้ว หยอดใส่บนหน้าขนม ตามด้วยมะพร้าวอ่อนที่ขูดเรียบร้อยแล้วลงไปด้วย และนึ่งต่ออีก 5 นาที เพียงเท่านี้ก็จะได้ขนมแสนอร่อยพร้อมรับประทาน สำหรับใครที่อยากเพิ่มความอร่อยสามารถทานขนมคู่กับน้ำชาร้อนๆจะทำให้สามารถลดความหวานของขนมได้อย่างลงตัว 

ขนมถ้วย

จบไปแล้วกับการทำขนมถ้วยที่มีรสชาติหวานอร่อยไม่แพ้ซื้อทานตามท้องตลาด แถมขนมไทย ทำเองยังมีความสด ใหม่ และสะอาดอีกด้วย อีกทั้งสูตร ขนม ไทยที่นำมาแชร์เป็นสูตรดั้งเดิมที่หาทานได้ยาก ดังนั้นเราควรอนุรักษ์สูตรขนมชนิดนี้ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ทานขนมเมนูขนมหวานโบราณอร่อยๆ ต่อไป และที่สำคัญยังเป็นขนมสามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้ด้วย เรียกได้ว่า เป็นขนมที่ทำทานเองได้ทั้งครอบครัว และสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้ด้วย 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารนานาชาติ

เข้าครัวชวนทำ พาส ต้า คาโบนาร่าครีมซอส สูตรดั้งเดิมจากอิตาลี

พาส ต้า

หลายคนอาจะยังไม่รู้ว่า พาส ต้า เป็นแป้งที่มีหลากหลายรูปแบบที่แตกต่างกัน อาทิเช่น สปาเก็ตตี้ เฟตตูชินี ลิงกวินี มักกะโรนี เพนเน่ ริกาโตนี ฟูชิลี่ ลาซานญา พาเฟลเล่ และราวิโอลี เป็นต้น ซึ่งเมนูจากเส้นพาสต้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนั้นก็คือ พาสต้าคาโบนาร่าครีมซอสแบบเข้มข้นตามสไตล์อาหารอิตาเลี่ยน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารฝรั่งที่ผู้คนทั่วโลกชื่นชอบ และมักจะสั่งมาทานเป็นประจำ แถมยังเป็นเมนูที่สามารถทำง่ายๆ ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก และวัตถุดิบยังหาได้ง่ายตามร้านซุปเปอร์มาร์คเก็ตทั่วไป 

สำหรับซอสพาส ต้า ที่หลายคนรู้จักในชื่อของคาโบนาร่า ซึ่งมีส่วนผสมหลักเป็นเบคอน และพริกไทย โดยซอสชนิดนี้เป็นสูตรที่ทำมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมตลอดกาล หากใครเป็นคนชื่นชอบทานอาหารอิตาเลี่ยน และชอบทานเส้น ขอแนะนำเมนู พาส ต้า คาโบนาร่า สูตรดั้งเดิม รับรองตอบโจทย์สายเส้นแน่นอน 

ขั้นตอนการทำ พาส ต้า สูตรซอสคาโบนาร่าดั้งเดิม รสชาติเข้มข้น อร่อยถูกใจ

มาเอาใจสายเส้นกันบ้างอย่าง พาสต้า เมนูเส้นที่สามารถทำสูตรไหนก็อร่อยถูกใจทานได้ทั้งครอบครัวไม่มีเบื่อ โดยเฉพาะพาส ต้า คา โบ นา ร่า รสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นชีสกลมกล่อม พร้อมความนุ่มนิ่มของเส้นพาส ตาที่อร่อยอย่างลงตัว และยังเป็นเมนูที่สามารถทำทานได้ง่ายมากๆ สำหรับวันนี้เราจะมาแชร์พาสตาราดซอสคาโบนาร่าสูตรดั้งเดิม พร้อมเทคนิคการทำเส้นให้เหนียวนุ่มนิ่ม โดยลำดับแรกเรามาเตรียมวัตถุดิบ และส่วนผสมดังนี้

พาส ต้า
  1. เส้นพาสต้า 400 กรัม
  2. เบคอน 50 กรัม
  3. แฮม 50 กรัม
  4. ไข่ไก่ 5 ฟอง
  5. เกลือ ½ ช้อนชา
  6. พริกไทย ¼ ช้อนชา
  7. คุกกิ้งครีม 2 ถ้วยตวง
  8. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  9. ชีสพาร์เมชานขูด 20 กรัม
  10. หอมหัวใหญ่ 100 กรัม
  11. เนยสด 1 ช้อนโต๊ะ
  12. น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ

พาส ต้าเป็นอีกหนึ่งอาหารสอิตาลีสุดโปรดของใครหลายคน โดยเฉพาะพาสต้าคาโบนาร่าโดดเด่นด้วยครีมซอสสูตรเข้มข้นหอมกลิ่นชีส ตัดกับความกรุบกรอบของเบคอนได้อย่างลงตัว เรียกว่าเป็นเมนูอาหารอิตาลีที่ทานแบบไม่มีเบื่อ สำหรับวิธีทำอาหารอิตาลี ง่ายๆ ซึ่งมีขั้นตอนการทำมีดังนี้

  1. ในการทำพาสต้าคาโบนาร่าซอสครีม อันดับแรกเราต้องนำเส้นมาต้มให้สุกก่อน โดยนำน้ำสะอาดใส่ในหม้อจากนั้นต้มด้วยไฟปานกลางใส่เกลือ น้ำมันมะกอก จากนั้นใส่เส้นพาสต้าลงไป เมื่อเส้นจมน้ำหมดแล้วทำการหรี่ไฟอ่อนๆ และปิดฝาต้มต่ออีกประมาณ 5- 10 นาที นำเส้นย้ายมาแช่ในน้ำเย็นแล้วตักออกมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
  2. ในลำดับต่อมาเป็นขั้นตอนการทำซอสคาโบนาร่า โดยเริ่มแรกนำคุกกิ้งครีม พริกไทย และซีสพาร์เมซานขูดฝอยใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้คนส่วนผสมให้เข้ากัน
  3. ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลาง เมื่อกระทะร้อนใส่เบคอนลงไปทอดจนกรอบ หลังจากนั้นใส่เนยลงไปตามด้วยกระเทียม และหอมหัวใหญ่สับละเอียดผัดให้ส่วนผสมทั้งหมดให้มีกลิ่นหอม ตามด้วยเส้นผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน ใส่คุกกิ้งครีมคนส่วนผสมให้เข้ากัน ปิดไฟ และขั้นตอนสุดท้ายทำการตอกไข่ เอาเฉพาะไข่แดงคนเร็วๆ จนกว่าจะเข้ากับเส้นพาสต้า
  4. เมื่อปรุงรสชาติตามที่ต้องการแล้ว ต่อมาให้ตักใส่จานจัดให้สวยงาม ตกแต่งด้วยใบพาร์สลีย์ 

เป็นอันเสร็จเรียบร้อยกับ พาสต้าซอสคาโบนาร่าเมนูยอดฮิตตามแบบวัฒนธรรมอาหารอิตาลีดั้งเดิม รสชาติกลมกล่อมตามด้วยกลิ่นซอสคาโบนาร่าอร่อยถูกปากทุกวัย ไม่ว่าเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่สามารถทานได้แบบเต็มอิ่ม แถมยังเป็นเมนูอาหารอิตาเลี่ยนที่สามารถทำทานได้ด้วยตัวเอง และรสชาติอร่อยไม่แพ้ที่ขายในร้านอาหารอิตาเลี่ยนเลยทีเดียว

เคล็ด (ไม่ลับ) ความอร่อย พาสต้าคาโบนาร่าเมนู อาหารอิตาเลี่ยนแท้ๆ

พาส ต้า

สำหรับเทคนิควิธีทำพาสต้าหนึ่งในอาหารอิตาลี ทำเองให้นุ่ม ในขั้นตอนการต้มอันดับแรกคือ วิธีเซ็คเส้นว่าสุกดีหรือมไม่นั้น เพียงแค่ลองหักเส้นพาสต้าด้านในจะต้องมีสีเหลืองเสมอกัน แต่ถ้าเส้นด้านในยังมีสีขาวดีแล้ว ให้ตักเส้นไปแช่ในน้ำแข็ง เพื่อลดอุณหภูมิไม่ให้เส้นสุกเกินไป เพราะทำให้เส้นที่ได้นั้นเละได้ และก่อนที่จะนำมาพักไว้ควนนำเส้นไปคลุกกับน้ำมันพืช เพื่อไม่ให้เส้นเหนียวติดกันนั่นเอง และถ้าบ้านไหนไม่ชอบใส่เบคอนสามารถใช้ส่วนผสมเป็นแฮม หรือจะใส่รวมกันทั้งสองอย่างก็จะยิ่งเพิ่มรสชาติให้กลมกล่อมมากขึ้น 

พาส ต้า

เส้นพาสต้า มีหลากหลายรูปแบบให้เรียกมากมาย และหนึ่งในเส้นที่อยากแนะนำคือ ลิงกวินี่ ซึ่งมีลักษณะแบนเล็กน้อยกว่าเส้นสปาเก็ตตี้ และเหนียวนุ่มไม่แพ้เส้นสปาเก็ตตี้แน่นอน สำหรับเมนูพาสต้า อิตาลีแบบดั้งเดิมจะเป็นซอสคาโบนาร่า แต่ใครอยากลองทำซอสชนิดอื่น เช่น ซอสมะเขือเทศ หรือเป็น pasta ผัดขี้เมาก็อร่อยไปอีกแบบ แต่ถ้าใครชอบเส้นมาม่าก็สามารถนำมาทำคาโบนาร่า เพื่อเพิ่มความอร่อยให้กลายเป็นอาหารอิตาเลี่ยนสุดหรูหราก็ทำได้เช่นกัน เพียงแค่นี้เราก็จะสามารถทำอาหารเองได้ที่บ้านแบบไม่มีเบื่อ

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารนานาชาติ

เปิดสูตรอาหารสไตล์อิตาเลี่ยน Lasagna พาสตาสี่เหลี่ยม เนื้อนุ่ม ซอสเข้มข้น 

Lasagna

Lasagna เป็นหนึ่งในเมนูอาหารอิตาเลี่ยนที่มีความโดดเด่นด้วยพาสตา ซึ่งมีลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมราดด้วยซอสเนื้อนุ่มๆ สูตรเข้มข้นแบบดั้งเดิม โรยหน้าด้วยซีสหนาๆ อร่อยไม่มีเบื่อ สำหรับเมนูนี้สามารถหาทานได้ตามร้านอาหารอิตาเลี่ยนทั่วไป และที่สำคัญอาหารชนิดนี้ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนชอบทานอาหารอิตาเลี่ยนอีกด้วย

สำหรับเมนูอาหารLasagna ถือว่าเป็นเมนูอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนที่หลายคนคิดว่ามีขั้นตอนการทำที่ยุ่งยากเกินไปที่เราจะสามารถทำทานเองได้ แต่แท้จริงแล้วเป็นเมนูที่ทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน และใครที่ทำอาหารอิตาเลี่ยนครั้งแรกก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะวันนี้มีสูตรเมนูLasagnaอย่างง่าย สามารถทำตามได้ และรสชาติยังเป็นสูตรดั้งเดิมตามฉบับอาหารอิตาเลี่ยนระดับพรีเมี่ยม

สูตร Lasagna เมนูอาหารชั้นเลิศ ซอสเนื้อเข้มข้น รสชาติอร่อยโดดเด่น

Lasagna

วันนี้เราจะชวนทุกคนมาทำอาหารระดับพรีเมี่ยมนั่นก็คือ Lasagnaอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนที่หลายชอบทาน สำหรับ lasagnaคือ อาหารฝรั่งสไตล์อิตาลี ซึ่งความพิเศษของ lasagna จะมีพาสตาลักษณะรูปสี่เหลี่ยม ซึ่งคำว่า ลาซัญเญ หมายถึงเมนูอาหารสไตล์อิตาลีที่ทำจากแผ่นลาซัญญาแห้งราดหน้าด้วยซอสมะเขือเทศผสมกับเนื้อนุ่มวางช้อนทับกันหลายๆ แผ่น ตามด้วยผัก และเนยแข็ง ทำให้รสชาติที่ได้มีความเปรี้ยวเล็กอมหวาน สำหรับเมนูอาหารชนิดนี้จะมีอยู่ 2 สูตรที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือ ลาซานญ่าเนื้อ และ ลาซานญ่าไก่ แต่สำหรับสูตรที่เราจะนำมาแชร์เป็นสูตรซอสเนื้อเข้มข้น โดยมีส่วนผสมดังนี้

  1. เนื้อวัวเกรดพรีเมี่ยมบด 700 กรัม
  2. กระเทียม 1 หัว
  3. แครอท 1 หัว
  4. หอมหัวใหญ่ 1 หัว
  5. ซอสมะเขือเทศ 150 กรัม
  6. มะเขือเทศ 5-7 ลูก
  7. พริกไทย ½ ช้อนชา
  8. ผงออริกาโน่ ½ ช้อนชา
  9. ผงน้ำชุปไก่ 1 ช้อนโต๊ะ
  10. เกลือ ½ ช้อนชา
  11. น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
  12. น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
Lasagna

วัตถุดิบ และส่วนผสมของซอสซีส

  1. เชดดาร์ชีสขูด 200 กรัม
  2. นมสด 1 ลิตร
  3. แป้งสาลี 3-4 ช้อนโต๊ะ
  4. พริกไทย ½ ช้อนชา
  5. ผงลูกจันทน์เทศ ½ ช่อนชา
  6. เกลือ ½ ช้อนชา
  7. เนย 2 ช้อนโต๊ะ

สำหรับส่วนผสมของLasagna เป็นสูตรของเนื้อ และยังสามารถได้กับสูตรไก่ และหมูอีกด้วย ถ้าใครไม่ชอบอาหารรสชาติเปรี้ยวสามารถลดความเปรี้ยวลงไป เพราะเมนูอาหารทำเองจะเน้นปรุงรสชาติที่ชอบ แถมลาซานญ่า กินกับอะไรก็อร่อย และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ต้องทานคู่กับไวน์จะทำให้อร่อยมากยิ่งขึ้น ส่วนวิธีทำนั้นสามารถทำตามได้ดังนี้

Lasagna
  1. ขั้นตอนแรก นำกระเทียม หอมหัวใหญ่สับให้ละเอียด จากนั้นนำไปผัดให้พอสุก ตามด้วยเนื้อบดที่เตรียมลงไปผัดให้เข้ากันรอให้เนื้อสุก แล้วใส่มะเขือเทศสับละเอียด และซอสมะเขือเทศคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันอีกรอบ
  2. เมื่อเนื้อสุกเรียบร้อยแล้ว ให้ใส่เกลือ ผงออริกาโน่ น้ำตาล พริกไทย ตามด้วยน้ำสะอาด ตุ่นต่อไปโดยใช้ความร้อนต่ำเป็นเวลา 20 นาที ปิดไฟ และยกออกจากเตา นำไปพักไว้
  3. ต่อมาจะทำในส่วนของซอสซีส จากนั้นนำกระทะมาตั้งเตา โดยใช้ไฟปานกลาง เมื่อกระทะร้อนใส่เนยตามด้วยแป้งคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน และค่อยเทนมสดลงไปคนให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือ และพริกไทย และใส่ชีสที่ขูดไว้แล้วตามลงไป เสร็จแล้วยกออกจากเตาพักไว้
  4. เมื่อเตรียมซอสเสร็จแล้ว ในขั้นตอนต่อมา ให้นำแผ่นลาซานญ่ามาเรียงกันบนถาด จากนั้นตักซอสเนื้อราดลงแผ่นแป้งให้ทั่วแผ่น จากนั้นใส่ซอสชีสลงไป หลังจากนั้นนำแผ่นลาซานญ่ามาเรียงอีกชั้น และเรียงต่อกันเรื่อยจนกว่าแผ่นแป้งที่เตรียมไว้จะหมด
  5. จากนั้นนำแผ่นแป้งที่ราดซอสเข้าไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที ซึ่งในระหว่างที่อบต้องหมั่นเชคสีของซีสไม่ให้ไหม้ เมื่อขนมอบเสร็จแล้วให้จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
Lasagna

จบไปแล้วกับLasagnaหนึ่งในเมนูอาหารอิตาลีรสชาติอร่อยกลมกล่อม โดดเด่นด้วยชีสนุ่มเข้มข้น ยืดๆ อร่อยลงตัวสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นอาหารโฮมเมคที่ทำแล้วรสชาติตรงตามสูตรดั้งเดิม และไม่ต้องไปซื้อที่ร้านให้เสียเวลาอีกด้วย อีกใครอยากจัดงานสังสรรค์ในช่วงวันหยุดยังไม่มีอาหาร ขอแนะนำให้ลองทำเมนูอาหารอิตาลีชนิดนี้รับรองไม่ผิดหวัง 

เคล็ดลับทำอาหารอิตาลี ง่ายๆ ด้วยตัวเองที่บ้านสไตล์โฮมเมค

Lasagnaถือเป็นอาหารยอดนิยมของชาวตะวันตกอีกหนึ่งเมนูที่ขึ้นชื่อว่าเป็นวัฒนธรรมอาหารอิตาลีที่ทานได้ไม่มีเบื่อ ที่สำคัญเมนูอาหารชนิดนี้ยังเป็นเมนูอาหารอิตาเลี่ยนแท้ๆ ดังนั้นถ้าใครชอบความเป็นอิตาเลี่ยนต้องทำเมนูนี้ไว้เป็นอีกหนึ่งเมนูทางเลือกสำหรับเชฟโฮมเมคมือใหม่ฝึกทำอาหาร แถมยังเป็นเมนูที่สร้างรายได้อีกด้วย

Lasagna

การทำLasagna เมนูอาหารอิตาลี ทำเองให้อร่อยตามสูตรอิตาลีนั้น ในส่วนของขั้นตอนการเลือกเนื้อ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อหมู ไก่ หรือเนื้อวัวต้องเป็นของสด ไม่เน่า หรือช้ำ เพราะถ้าเนื้อไม่สดจะทำให้รสชาติของอาหารไม่อร่อยด้วย และที่สำคัญก่อนนำมาปรุงอาหารควรล้างเนื้อก่อนเพื่อล้างความคาวของเนื้อออกให้หมด เมื่อนำมาผัดเนื้อจะหอมนุ่ม และรสชาติของน้ำซอสจะมีความกลมกล่อม หวานอมเปรี้ยว และยังหอมกลิ่นชีสเข้มข้นทานได้ทุกวันไม่มีเบื่อ

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารนานาชาติ

ขอแนะนำ Bruschetta ขนมปังปิ้ง สุดยอดอาหารอิตาเลียน โดดเด่นด้วยรสน้ำมันมะกอก

Bruschetta

Bruschetta เป็นอาหารสไตล์อิตาเลียนที่นิยมรับประทานเป็นอาหารเช้า หรืออาหารว่าง ซึ่งมีความโดดเด่นเรื่องรสชาติที่ไม่เหมือนใคร และอบอวลไปด้วยกลิ่นเครื่องเทศที่หอมละมุน ตัดกับไข่ข้นที่ราดลงหน้าขนมปังปิ้งกรอบๆ ได้อย่างลงตัว ดังนั้นอาหารชนิดนี้จึงถูกยกให้เป็นอีกหนึ่งอาหารเช้าที่หากใครได้ทานรับรองติดใจแน่นอน

สำหรับใครที่ชอบทำอาหารแนวสไตล์อิตาเลียน ขอแนะนำให้ทำBruschetta เมนูอาหารที่มีวิธีทำง่ายๆ มือใหม่ก็ทำได้ อีกทั้งยังสามารถทำทานเป็นอาหารเช้า หรือจะทำเป็นเมนูอาหารว่างก็อร่อยเช่นกัน และที่สำคัญยังเป็นเมนูที่สามารถทำขายได้อีกด้วย หรือหากอยากลองทำไว้ทานกับครอบครัวในช่วงวันหยุดก็สามารถได้ แถมยังสามารถทำไปฝากเพื่อนๆ ได้ด้วย 

วิธีทำอาหาร Bruschetta อย่างง่าย ด้วยตัวเอง อร่อยเหมือนซื้อที่ร้าน 

Bruschetta

ก่อนที่จะเริ่มขั้นตอนการทำBruschetta เรามาทำความรู้จักกับ bruschetta คือ อาหารเช้าประเภทขนมปังที่นำมาปิ้ง โดยเมนู bruschetta หรือบรูสเกต้า จะมีความโดดเด่นเรื่องรสชาติของน้ำมันมะกอก และมะเขือเทศ ผสมผสานกับกลิ่นของกระเทียมหอมอย่างลงตัว และที่ขาดไม่ได้คือ ไข่ข้นราดลงไปบนขนมปัง สำหรับสูตรเมนูนี้จะนิยมทาน 2 สูตร คือบรูเชตต้าชีส และบูเชสต้า เห็ดผัดจนนุ่ม สำหรับรสชาติของอาหารอิตาลีชนิดนี้จะมีความกลมกล่อม และหอมกลิ่นเครื่องเทศ อร่อยสุดๆ โดยก่อนที่เราเข้าสู่วิธีทำ เมนูอาหารอิตาลี อย่างขนมปังปิ้ง เรามาเตรียมวัตุดิบกันก่อนดังนี้

Bruschetta

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

  1. กระเทียม 5 กลีบ
  2. น้ำมันมะกอก 2 ช้อนชา
  3. ชีสพาร์มิซาน 5 กรัม
  4. พริกไทย 10 กรัม
  5. ขนมปังบาแก๊ต 5 แผ่น
  6. อิตาเลียนพาร์สลีย์ 4 กรัม

วัตถุดิบ และ ส่วนผสมของไข่ข้น

  1. ไข่ไก่ 5 ฟอง
  2. เนย ½ ช้อนชา
  3. ครีม 1 ช้อนโต๊ะ
  4. เกลือ ½ ช้อนชา
Bruschetta

วัตถุดิบ และส่วนผสมของซอสไส้กรอก

  1. น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
  2. มะเขือเทศ 5 ผล
  3. เกลือ ½ ช้อนชา
  4. พริกไทย 1 ช้อนชา
  5. ไส้กรอกโชริโซ 200 กรัม

เมื่อเตรียมวัตถุดิบ และส่วนผสมของBruschettaเรียบร้อยแล้ว ในลำดับต่อมาจะเป็นวิธีทำอาหารอิตาลี ง่ายๆ ซึ่งหลายคนจะคิดว่าอาหารสไตล์อิตาเลียนค่อนข้างทำยาก แต่แท้จริงแล้วอาหารชนิดนี้ทำง่ายๆ กว่าที่คิด เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปลงมืออาหารชนิดนี้กันเลย

Bruschetta
  1. เริ่มจากทำซอสขนมปัง โดยนำกระเทียมหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ บางๆ จากนั้นนำมาถูตัวขนมปัง ตามด้วยน้ำมันมะกอกบนตัวขนมปังบางๆ แล้วนำขนมปังไปปิ้งให้กรอบ 
  2. นำกระเทียมที่เหลือจากที่ถูขนมปัง มาหั่นสับให้ละเอียด เสร็จแล้วนำกระทะไปตั้งเตา เมื่อกระทะร้อนเทน้ำมันมะกอกลงไป ตามด้วยกระเทียมสับผัดให้หอม หลังจากนั้นใส่ไส้กรอกลงไป ใช้ทัพพี หรือ ไม้พายกดให้เนื้อใส้กรอกแตกเป็นชิ้นเล็กๆ และตามด้วยมะเขือเทศหั่นครึ่งลงไป ผัดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันจนกว่ามะเขือเทศจะแตกละเอียด ใส่เกลือ และพริกไทย เมื่อไส้กรอกสุกให้ยกออกจากเตาพักไว้
  3. ขั้นตอนต่อมาเราจะมาทำใข่ข้น ขั้นตอนแรกตอกไข่ที่เตรียมไว้ใส่ในหม้อ และตามด้วยเนยใช้ไม้พายคนไข่ให้เป็นเนื้อเดียวกัน และคนจนกว่าเนื้อไข่จะขั้นขึ้น ใส่ครีมลงไปคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันจะไข่ข้นเนื้อนุ่ม เด้ง
  4. นำขนมปังที่ปิ้งจนกรอบแล้ว ตักใข่ขั้นใส่บนหน้าขนมปัง และผัดไส้กรอก โรยหน้าด้วยพริกไทย ตามด้วยชีสพาร์ซาน และขั้นตอนสุดท้ายโรยหน้าด้วยพาร์สลีย์ เพียงแค่นี้เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เมื่อได้Bruschettaแล้ว นำมาจัดใส่จาน และตกแต่งด้วยใบโหระพาเพื่อความสวยงาม และเพิ่มความหอมให้กับอาหารอีกด้วย สำหรับใครที่ไม่ชอบใบโหระพาก็สามารถนำออกได้ สำหรับอาหารชนิดนี้ควรทานร้อนๆ เพราะจะให้รสชาติอาหารมีความอร่อยมากขึ้น ซึ่งเป็นการทานแบบวัฒนธรรมอาหารอิตาลีอย่างแท้จริง

แชร์เทคนิค ขนมปังปิ้งสไตล์อาหารอิตาลี ทำเอง ให้อร่อย

Bruschetta

การทำBruschetta ซึ่งเป็น อาหารว่างอิตาลีให้อร่อยสิ่งสำคัญคือ ขนมปัง โดยต้องหั่นขนมปังให้ได้ความหนาไม่เกิน 2 เซนติเมตร และนำไปอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 5-7 นาที จะได้ขนมปังที่กรอบ และสีเหลืองสวยงาม ในส่วนของกระเทียมที่นำมาถูขนมปังต้องใช้กระเทียมจีนหั่นเป็นแผ่นบางจะทำให้กระเทียมเมื่อโดนความร้อนจะทำให้เพิ่มกลิ่นหอมให้ขนมปังมากขึ้น 

Bruschettaที่ทำเองจะมีรสชาติกลมกล่อม และโดดเด่นด้วยกลิ่นน้ำมันมะกอก ทำให้ขนมปังอิตาลีสามารถทานได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ แถมเป็นอาหารเช้าที่อิ่มนาน และยังสามารถทานได้ระหว่างวันได้ดีสุดๆ หรือจะทานเป็นอาหารมื้อค่ำก็ยังได้ หากใครที่ไม่มีเวลาทำอาหาร ขอแนะนำให้ลองทำอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนนี้ดู รับรองว่าทำง่าย ใช้เวลาไม่นาน

Bruschetta

Bruschettaเป็นอาหารอิตาเลี่ยนที่ทำง่าย และอร่อยไม่มีเบื่อ หากใครต้องการทำขายก็สามารถทำตามสูตรที่เรานำมาแชร์ได้เลย รับรองว่าได้กำไรตั้งแต่เริ่มขายวันแรกเลยทีเดียว และถ้าบ้านไหนไม่มีเตาอบก็สามารถนำขนมปังไปย่างในกระทะ หรือเตาปิ้งขนมปังได้ เพราะขนมปังจะมีความกรอบ และสีเหลืองเหมือนกับที่อบในเตาอบเลยทีเดียว แถมอร่อยไม่แพ้กัน

อ่านบทความอื่นๆ: