Categories
อาหารนานาชาติ

แจกสูตรเด็ดแม่บ้านมือใหม่ เมนู ไก่ผัดเม็ดมะม่วง หิมพานต์ ทำง่าย อร่อยชัวร์

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง

มาเอาใจคนชอบทานมะม่วงหิมพานต์ และไก่ทอดกันบ้าง กับเมนูแสนอร่อยอย่าง ไก่ผัดเม็ดมะม่วง หิมพานต์ รสชาติกลมกล่อม เนื้อไก่กรุบกรอบ และยิ่งทานคู่กับเม็ดมะม่วงหิมพานต์อร่อยฟินสุดๆ แถมยังทานคู่กับอะไรก็อร่อยไม่มีเบื่อ อีกทั้งยังเป็นเมนูที่นิยมทำทานกันในครอบครัวอีกด้วย ดังนั้นวันนี้เรามีวิธีการไก่ ผัด เม็ด มะม่วงหิมพานต์มาให้แม่บ้านมือใหม่ได้ลองทำตามได้ง่ายๆ ไม่ยากอย่างที่คิด

วิธีการทำ ไก่ผัดเม็ดมะม่วง หิมพานต์ เนื้อไก่กรุบกรอบ อร่อยครบรส

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง

ไก่ผัดเม็ดมะม่วงถือว่าเป็นเมนู อาหาร ไทยที่หาทานได้ทั่วไปตามร้านอาหาร หรือร้านขายข้าวราดแกงทั่วไป โดยรสชาติของไก่ ผัด มะม่วงหิมพานต์จะมีความอร่อยครบรส เมื่อนำมาทานกับข้าวสวยร้อนๆ ยิ่งอร่อยจนหยุดทานไม่ได้ หรือจะทานเล่นๆ ก็อร่อยเคี้ยวเพลินสุดๆ นอกจากนี้ยังเป็นเมนูที่สามารถทานได้ทั้งครอบครัว สำหรับใครที่อยากลองทำทานเองที่บ้าน เรามีสูตร ไก่ ผัด เม็ด มะม่วงอย่างง่าย ขั้นตอนไม่ซับซ้อน แถมยังทำออกมาได้น่าทานแน่นอน

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง
  1. อกไก่ 500 กรัม
  2. เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ½ ถ้วยตวง
  3. พริกชี้ฟ้า 2 เม็ด
  4. พริกแห้งเม็ดใหญ่ 15 เม็ด
  5. กระเทียม 3 กีบ
  6. แป้งสาลี ½ ถ้วยตวง
  7. เกลือป่น ¼ ช้อนชา
  8. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำมันงา ½ ช้อนโต๊ะ
  10. พริกไทยป่น ½ ช้อนโต๊ะ
  11. น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
  12. ต้นหอม 2 ต้น
  13. ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ

สำหรับข้อดีในการทำไก่ผัดเม็ดมะม่วงทานเองคือสามารถใส่มะม่วงหิมพานต์ได้ในปริมาณที่ต้องการ และสิ่งทำคัญอาหาร ไทยทำเองจะมีรสชาติกลมกล่อมอร่อยถูกปากด้วย แถมยังทานได้แบบไม่อั้น อีกทั้งวิธีการทำก็ง่ายๆ ดังนี้

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง
  1. นำเนื้อไก่ที่เตรียมไว้ เทแป้งสาลีลงไป ตามพริกไทย เกลือป่น จากนนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน นำกระทะมาตั้งเตาใส่น้ำมันลงไป เปิดไฟปานกลาง เมื่อน้ำมันเดือดให้ใส่อกไก่ที่เตรียมไว้ลงไป ทอดให้ไก่เหลืองกรอบ ตักขึ้นมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
  2. จากนั้นนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไปทอด โดยใช้ไฟอ่อนๆ จากนั้นทอดให้พอเหลือง และรีบตักขึ้นมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน 
  3. ทำการหั่นพริกแห้งเป็นชิ้นๆ นำไปทอดไฟอ่อนๆ ไม่ควรใช้ไฟแรงเพราะจะทำให้พริกไหม้ได้ ตักขึ้นมาพักไว้ ต่อมาให้จะเป็นขั้นตอนการผัดไก่ โดยนำกระทะตั้งเตาด้วยไฟปานกลาง ใส่น้ำมัน กระเทียมลงไป เจียวกระเทียมให้หอม ตามด้วยไก่ทอด และมะม่วงหิมพานต์ ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย และน้ำมันงา ทำการผัดให้เข้ากัน หลังจากนั้นใส่ต้นหอม พริกทอด และพริกชี้ฟ้า คลุกเคล้าให้เข้ากัน เสร็จแล้วตักใส่จาน โรยหน้าด้วยต้นหอม เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ไก่ผัดเม็ดมะม่วง

ไก่ผัด เม็ดมะม่วง เป็นเมนูที่ทำง่ายมากๆ และที่สำคัญรสชาติกลมกล่อมตามสูตรที่ขายตามร้านอาหารดังๆ อีกด้วย สำหรับคนที่ไม่ชอบต้นหอมสามารถไม่ใส่ก็ได้ หรือใส่ในปริมาณเล็กน้อยก็ได้เช่นกัน ดังนั้นใครอยากลองทำเมนู อาหาร ไทย ยอด นิยมอย่าง ผัด ไก่ เม็ด มะม่วงสามารถทำตามสูตรที่เรานำมาแชร์ได้เลยรับรองไม่ผิดหวัง 

แนะนำไก่ผัดเม็ดมะม่วง พริกเผา สูตรต้นตำรับ หอมอร่อยกลมกล่อม 

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง

สำหรับไก่ผัดเม็ดมะม่วง เป็นเมนูอาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบสั่งทานเป็นพิเศษ เพราะเป็นอาหารที่มีเนื้อสัมผัสที่แปลกใหม่ไม่จำเจ และทานง่ายไม่เผ็ดอีกด้วย แต่ถ้าใครอยากลองทำสูตรต้นตำรับ เรามีสูตรมาให้ได้ลองทำตามอย่างมะม่วงหิมพานต์ผัดไก่ใส่น้ำพริกเผา โดยสามารถใช้วัตถุดิบที่นำมาแชร์ข้างต้นได้เลย จากนั้นเพิ่มพริกเผาลงไปเพื่อความหอมอร่อยที่มาพร้อมกับรสชาติเผ็ดเล็กน้อยพร้อมทานได้แบบไม่มีเบื่อ และยังเป็นอาหาร ไทย ยอด นิยมที่สามารถทำขายได้ด้วย

อ่านบทความอื่นๆ: 

สนับสนุนโดย: ufaball.bet

Categories
อาหารไทย

แนะนำสูตร มัสมั่นไก่ โบราณ รสชาติเข้มข้น อร่อยเด็ด หอมกลิ่นเครื่องเทศ

มัสมั่นไก่

สำหรับเย็นนี้ไม่รู้ว่าจะทำอะไรทานกันดี ที่สามารถทานแล้วอิ่มอร่อยไม่หิวกลางดึก ต้องไม่พลาดกับเมนูยอดนิยมอย่าง มัสมั่นไก่ แกงไทยโบราณที่มีรสชาติเข้มข้น เนื้อไก่นุ่มละมุนไม่คาว และเครื่องเทศจัดเต็ม หากได้ทานคู่กับข้าวสวยยิ่งเพิ่มความอร่อยเด็ดสุดๆ นอกจากนี้วิธีทำแกงมัสมั่นไก่ยังทำได้ด้วยตัวเองไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด แถมยังเป็นอีกหนึ่งอาหาร ไทยที่สามารถทำเก็บไว้ทานได้ในมื้อต่อไป โดยที่รสชาติอร่อยไม่เปลี่ยนแปลง

ขั้นตอนการทำ มัสมั่นไก่ ต้นตำรับโบราณ เนื้อไก่นุ่มละมุน แม่บ้านมือใหม่ก็ทำได้

มัสมั่นไก่

วันนี้เราจะพาแม่บ้านมือใหม่มาลองทำเมนูมัสมั่นไก่ต้นตำรับโบราณ หนึ่งในเมนู อาหาร ไทยที่มีรสชาติเข้มข้น ที่มาพร้อมกับเนื้อไก่นุ่มๆ หอมอบอวลไปด้วยเครื่องเทศที่ชวนทานสุดๆ โดยสูตรแกง มัสมั่น ไก่ที่จะพาทำนั้นเป็นแกง มัสมั่น ไก่ สูตร โบราณที่มีวิธีทำที่ง่ายแสนง่าย รับรองว่าทำออกมาน่าตาน่าทานเหมือนต้นตำรับแน่นอน ซึ่งสูตรแกงมัสมั่นเราจะใช้เครื่องเทศที่ทำเอง เพราะจะมีความหอมกลมกล่อมตามสูตรอาหาร ไทย โบราณ โดยสามารถเตรียมวัตถุดิบได้ดังนี้

  1. พริกชี้ฟ้า 5 เม็ด
  2. พริกขี้หนูแดง 7 เม็ด
  3. หอมแดง 1 ช้อนโต๊ะ
  4. กระเทียม 2 ช้อนโต๊ะ
  5. ตะไคร้ 2 ช้อนโต๊ะ
  6. กะปิ ¼ ช้อนโต๊ะ
  7. ข่า 1 ช้อนโต๊ะ
  8. ใบยี่หร่า ½ ช้อนโต๊ะ
  9. อบเชย 3 ท่อน
  10. กานพลู 2 ดอก
  11. ลูกกระวาน 5 ลูก
  12. ดอกจันทร์ 1 ดอก
มัสมั่นไก่

ส่วนผสมของแกงมัสมั่นสูตรไก่นุ่มๆ

  1. เนื้อไก่ส่วนสะโพก และน่องติดสะโพก 500 กรัม
  2. หอมหัวใหญ่ 20 กรัม
  3. หัวกะทิ 500 กรัม
  4. หางกะกิ 500 กรัม
  5. ถั่วลิสงคั่ว 40 กรัม
  6. ใบกระวาน 2 กรัม
  7. น้ำมะขาวเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำตาลปิ๊บ 5 ช้อนโต๊ะ

สำหรับเครื่องเทศที่ต้องใช้ในการทำแกงมัสมั่นไก่ หากใครชอบทานเผ็ดสามารถเพิ่มพริกได้ตามใจชอบ และก่อนที่เราจะลงมือทำเมนู อาหาร ไทย ยอด นิยมอย่างแกงมัสมั่น ไก่ รสชาติเข้มข้น ตามฉบับมือใหม่ เราจะต้องมาทำเครื่องเทศกันก่อนดังนี้

มัสมั่นไก่
  1. นำกระทะมาตั้งเตา ใส่น้ำมัน ตะไคร้ หอมแดง ข่า กระเทียม ทอดให้หอม นำพริกชี้ฟ้า และพริกขี้หนูหั่นลงไปทอดให้กรอบ ตักพักไว้ เทน้ำมันออกจากกระทะ จากนั้นใส่ดอกจันทร์ ลูกกระวาน ยี่หร่า เมล็ดผักซี กานพลู คั่วให้หอม เทใส่ครกตำให้ละเอียด ตามด้วยหอมแดง กระเทียม ตะไคร้ ข่า ผิวมะกรูด ตามด้วยกระปิลงไป ตำส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน พักไว้ 
  2. ต่อมาตั้งหม้อ ใส่หัวกะทิลงไปเล็กน้อย โดยใช้ไฟปานกลาง คนให้กะทิแตกมัน จากนั้นใส่พริกแกงที่เตรียมไว้ลงไป ผัดให้พริกแกงหอม ตามด้วยน้ำตาลปิ๊บ น้ำมะขามเปียก น้ำปลา คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ใส่กะทิที่เหลือลงไป เพิ่มไฟให้แรงขึ้น พอน้ำกะทิเดือดให้ใส่สะโพกไก่ และน่องไก่ลงไป ตามด้วยใบกระวาน และลูกกระวาน รอให้ไก่สุกประมาณ 20- 30 นาที 
  3. ใส่หัวหอมใหญ่ มันฝรั่ง และถั่วลิสงคั่ว รอให้ทุกอย่างสุกประมาณ 30 นาที โดยใช้ไฟอ่อนๆ จากนั้นปิดไฟและยกออกจากเตา 
มัสมั่นไก่

หลังจากที่ทำแกงมัสมั่นไก่เสร็จแล้ว ให้ตักใส่ถ้วย และนำไปเสิร์ฟคู่กับข้าวสวยนุ่มๆ เมื่อได้ลองทานแล้วจะได้รสชาติเข้มข้นของน้ำแกงที่หอมอบอวลของเครื่องเทศทำเองที่ซึมเข้าเนื้อไก่กลมกล่อมสุดๆ สำหรับเมนูนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบทานมากเป็นอันดับต้นๆ ของอาหารไทย เพราะรสชาติที่แปลกใหม่ และไม่เผ็ดมาก ทำให้นักท่องเที่ยวชอบทานเป็นประจำ 

เผยเคล็ดลับทำแกงมัสมั่นไก่ แบบโบราณ รสชาติเข้มข้น อบอวลด้วยกลิ่นเครื่องเทศ

มัสมั่นไก่

เมนูมัสมั่นไก่ หนึ่งในอาหาร ไทย ยอด นิยม และยังเป็นอาหาร ไทย 4 ภาคที่สามารถทำทานได้โดยไม่ต้องไปซื้อทานให้เสียเวลา แถมอยู่บ้านก็ทำทานได้ง่ายๆ แต่สิ่งสำคัญของการทำเมนูนี้จะต้องเตรียมเครื่องเทศเอง เพราะความสดใหม่ของเครื่องเทศจะช่วยเพิ่มความหอมละมุนของแกงทำให้เพิ่มความอร่อย และชวนทานมากขึ้น อีกทั้งยังได้รสชาติที่เข้มข้นกว่าเครื่องเทศสำเสร็จรูปอีกด้วย 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: hilo-88.net

Categories
ขนมไทย

เคล็ดลับความอร่อย สูตร ทับทิมกรอบ แป้งเนียนใส หวาน กรุบกรอบ

ทับทิมกรอบ

หากใครตามหาขนมไทยคลายร้อน ทานแล้วรู้สึกสดชื่น ขอแนะนำขนม ทับทิมกรอบ เนื้อนุ่มกรุบกรอบ ตัดกับน้ำกะทิสดหอมอร่อยละมุนสุดๆ ไปเลย ที่สำคัญสูตรทับทิมกรอบมะพร้าวอ่อน ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเนื้อมะพร้าวอ่อนมาความหอมกรุบกรอบอร่อยจนต้องทานเพิ่ม ที่สำคัญยังได้รสชาติหวานมันของแห้วอีกด้วย นอกจากนี้ขนมทับทิมยังเป็นขนมที่สามารถหาทานได้ง่ายๆ ตามร้านขายขนมไทย หรือตามตลาดนัดทั่วไป สำหรับคนที่อยากลองทำขนมชิมเอง เรามีวิธีทำทับทิมกรอบอย่างง่ายมาให้ติดตามด้วยนะ

วิธีทำ ทับทิมกรอบ รสชาติหวานละมุน เนื้อแป้งกรุบกรอบ หอมกลิ่นกะทิสด

ทับทิมกรอบ

อากาศร้อนๆ แบบนี้อยู่บ้านเฉยๆ ก็น่าเบื่อเกินไปต้องหาขนมหวานอร่อยๆ ทำทานคลายร้อนกันบ้างแล้ว ว่าแต่จะทำขนมชนิดไหนดีที่ทานแล้วสดชื่น และกรุบกรอบเคี้ยวเพลินต้องยกให้ขนมทับทิมกรอบ หนึ่งในขนมที่มีรสชาติหวาน หอมกลิ่นกะทิสด ผสมผสานกับทับทิมกรอบที่ถูกห่อด้วยแป้งเหนียวนุ่มลพมุนสุดๆ และสำหรับสูตรทับทิมกรอบที่เราจะนำมาแชร์ในวันนี้คือ ขนมทับทิมกรอบอัญชัน ที่มีสีสันสวยงามน่าทานสุด และที่สำคัญง่ายมากๆ

วัตถุ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

ทับทิมกรอบ
  1. แห้วดิบ 400 กรัม
  2. แป้งมัน 1 ถ้วย
  3. น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
  4. น้ำอัญชัญสีน้ำเงินเข้ม 1 ถ้วยตวง
  5. น้ำอัญชัญสีน้ำเงินอ่อน 1 ถ้วยตวง
  6. ใบเตย 1 มัด
  7. เกลือ 2 ช้อนชา

สำหรับส่วนผสม และวัตถุดิบที่เตรียมทำทับทิมกรอบ นั้นเป็นสูตรใส่ดอกอัญชัญในการทำให้ขนมแปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน หรือถ้าเพิ่มสีให้มีหลากหลายสีก็ทำได้เช่นกัน และในลำดับต่อมาเราจะมาทำขนมไทยสูตรนี้กัน

ทับทิมกรอบ
  1. เริ่มแรกนำแห้วมาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นปอกเปลือก และหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แบ่งใส่ถ้วยทั้งหมด 3 ถ้วยเท่าๆ กัน จากนั้นสีที่เตรียมไว้เทใส่ในถ้วยแห้วเป็นเวลาประมาณ 30 นาที เพื่อให้แห้วเปลี่ยนเป็นสีต่างๆ ที่เรานำมาแช่นั่นเอง
  2. เมื่อถึงเวลาครบกำหนดแล้ว ให้นำแห้วมาคลุกเคล้ากับแป้งมัน หลังจากนั้นให้เขย่าแป้งส่วนเกินออก เพราะหากไม่เขย่าออกแป้งจะติดกันตอนนำเอาแห้วไปต้มนั่นเอง
  3. นำหม้อใส่น้ำสะอาดนำมาตั้งเตาเปิดไฟปานกลาง จากนั้นรอให้น้ำเดือดแล้วใส่ทับทิมที่คลุกแป้งแล้วลงไปแล้วปิดฝา รอให้ทับทิมลอยขึ้นมาตักใส่น้ำเย็น เพื่อน็อคแป้งไม่ให้สุกต่อ
  4. ให้นำหม้อมาตั้งเตา ใส่กะทิ น้ำตาลทราย ใบเตย ปิดไฟอ่อนๆ รอให้น้ำตาลละลาย ยกออกจากเตาได้เลย หลังจากนั้นตักทับทิมกรอบใส่ถ้วย และตามด้วยกะทิ เพียงแค่นี้ก็เป็นเสร็จเรียบร้อย
ทับทิมกรอบ

สำหรับสูตรทับทิมกรอบที่เรานำมาแชร์ เป็นวิธีทำอย่าง่าย โดยส่วนผสมของทับทิม กรอบ ทำมาจากแห้ว ทำให้ขนมทับทิมกรอบสูตรโบราณมีเนื้อที่กรุบกรอบ และรสชาติหวานมัน หอมอร่อยสุดๆ อีกทั้งขนมยังมีสันที่ชวนทานอีกด้วย นอกจากนี้ขนมทับทิมยังขนมที่สามารถทำไว้ขายเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้เราได้อีกทางหนึ่งด้วย 

แชร์สูตรทับทิมกรอบโบราณ สูตรมันแกว เนื้อนุ่มกรุบกรอบ หวานฉ่ำ 

ทับทิมกรอบ

ขนมทับทิมกรอบในปัจจุบันมีหลากหลายสูตรในเลือกทานมากมาย และอีกหนึ่งสูตรขนมทับทิมขนมไทยโบราณที่น่าลองทานอย่างมากคือ สูตรมันแกว ซึ่งเป็นสูตรเมนูขนมไทย รสชาติหวานกรุบกรอบ ในส่วนของวิธีทำของหวานไทยก็สามารถทำได้ง่ายๆ โดยเริ่มจากนำมันแกวมาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ขนาดพอดีคำ นำไปคลุกเคล้ากับแป้งมัน เสร็จอแล้วนำไปต้มในน้ำเดือด เมื่อขนมลอยขึ้นเหนือน้ำให้ตักออกไปแช่น้ำแข็ง หลังจากนั้นเตรียมน้ำเชื่อม และนำกะทิให้เรียบร้อย ตักขนมใส่ถ้วยราดด้วยน้ำเชื่อม และน้ำกะทิพร้อมทานได้ 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: hilo-88.net

Categories
ขนมไทย

แนะนำ ขนมอินทนิล แป้งเหนียวหนึบหนับ กะทิหวานมัน หอมกลิ่นควันเทียน

ขนมอินทนิล

ขนมอินทนิล เป็นขนมโบราณที่คนสมัยใหม่ยังไม่รู้จักมากนัก และเป็นขนมที่หาทานได้ยกมาก หากจะอยากลองชิมต้องไปแถวภาคกลางตามสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ เท่านั้น ดังนั้นหากอยากลองทำขนมเรามีวิธี ทํา อินทนิล ง่ายๆ มาให้ลองได้ทำตามกัน รับรองว่ารสชาติหวานมันอร่อยถูกปากแน่นอน 

ขั้นตอนการทำ ขนมอินทนิล ขนมหายาก สูตรชาววัง ทำง่าย

ขนมอินทนิล

สำหรับใครที่กำลังมองหาสูตรขนมหวานทำง่ายๆ และไม่ต้องใช้อุปกรณ์การทำขนมมากนัก วันนี้เรามีหนึ่งขนมหวานที่น่าทานอย่างขนมอินทนิล เป็นขนมที่มีเนื้อแป้งก้อนกลมสีเขียวเหนียวหนึบหนับ ที่มาพร้อมกับรสชาติหวาน และมีหอมกลิ่นควันเทียนอ่อนๆ ยิ่งทำให้ขนมมียิ่งชวนทานมากขึ้น และสูตรเราจะพาทำในวันนี้คือ สูตรขนมอินทนิลใส่มะพร้าวอ่อน โดยวิธี ทํา อินทนิล มะพร้าวอ่อนง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก โดยเริ่มจากทำการเตรียมวัตถุดิบต่างๆ ให้พร้อมก่อนดังนี้

  1. แป้งถั่วเขียว 50 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 100 กรัม
  3. ใบเตย 5-6 ใบ
  4. ดอกอัญชัน 10 ดอก
  5. น้ำเปล่า 1 ถ้วย
ขนมอินทนิล

ส่วนผสม และวัตถุดิบของน้ำกะทิ

  1. น้ำตาลทราย 120 กรัม
  2. น้ำเปล่า 300 กรัม
  3. น้ำเปล่า 300 กรัม
  4. ใบเตย 5 ใบ
  5. เนื้อมะพร้าวอ่อน 1 ถ้วย

ขนม อินทนิล หนึ่งขนมโบราณที่มีส่วนผสมเพียงน้อยนิด ไม่เพียงเท่านั้นวัตถุดิบที่ใช้ในการทำของหวานอินทนิลยังสามารถหาซื้อได้ง่ายมาก สำหรับส่วนผสมที่เป็นดอกอัญชัญหากที่บ้านไม่มีสามารถไม่ใส่ก็ได้ หรือหากใครไม่ชอบดอกอัญชัญก็สามารถไม่ใช้เป็นวัตถุดิบในการทำขนมไทยได้เช่นกัน

ขนมอินทนิล
  1. มาเริ่มที่นำใบเตยมาล้างให้สะอาด เสร็จแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ ใส่ลงไปในเครื่องปั่นตามด้วยดอกอัญชัญ จากนั้นใส่น้ำเปล่าลงไปเล็กน้อยปั่นให้ละเอียด นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง เพื่อเอาเศษตะกอนออกให้หมด
  2. นำแป้งมันมาผสมกับแป้งถั่ว และน้ำใบเตย ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน หลังจากนั้นใช้พลาสติกแรปไว้ นำมาพักไว้ก่อน
  3. ในลำดับต่อมานำกะทิ น้ำตาลทราย เกลือที่เตรียมไว้ผสมในหม้อ นำไปตั้งเตาแล้วเปิดไฟปานกลางตัมจนเดือดแล้วนำมาพักทิ้งไว้ให้เย็น นำเทียนอบขนมใส่ในฟรอยด์มาวางบนหม้อนำกะทิปิดฝาหม้อให้เรียบร้อย จากนั้นอบไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
  4. ในระหว่างที่อบเทียนอยู่ ให้นำแป้งอินทนิลที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้มากวนในหม้อ ใช้ไฟอ่อนๆ ทำการคนไปเรื่อยๆ จนกว่าแป้งจะเริ่มเหนียว และใสเป็นเนื้อเดียวกัน
  5. หลังจากนั้นทำการตักใส่ถุงร้อน เสร็จแล้วตัดปลายถุง ทำการบีบใส่ถ้วยที่ใส่กะทิไว้เรียบร้อยแล้ว โรยหน้าด้วยเนื้อมะพร้าวพร้อมทานได้เลย
ขนมอินทนิล

หลังจากที่ทำขนมอินทนิล หนึ่งในสูตรขนมไทยโบราณเรียบร้อย หากอยากให้ขนมมีความอร่อยมากขึ้น หรืออยากทานแบบเย็น ควรนำไปใส่ในตู้เย็น หรือใส่น้ำแข็งบดลงไปเล็กน้อยจะทำให้รสชาติของขนมมีความหวาน เย็นสดชื่นสุดๆ เรียกว่าเป็นขนมไทยโบราณที่ทานคลายร้อนได้ดีเลยทีเดียว และที่สำคัญขนมอินทนิลยังเป็นเมนูขนมไทยที่ทำง่ายมากๆ และรสชาติอร่อยถูกปากด้วย 

สูตรลับ ขนมอินทนิล หวานหอม สดชื่น อร่อยถึงใจ ถูกใจทุกคน 

ขนมอินทนิล

ขนมอินทนิลถือว่าเป็นของหวานไทยที่มีเนื้อสัมผัสที่แปลกใหม่ แถมยังเคยมีความโดดเด่นด้านรูปร่างลักษณะเนื้อสีเขียวก้อนกลมคล้ายหยก และที่สำคัญมีเนื้อเหนียวนุ่มทานง่ายๆ เคี้ยวเพลินสุดๆ นอกจากนี้ยังเป็นเมนูขนมไทยโบราณที่สามารถเก็บไว้ทานได้ประมาณ 2-3 วัน ซึ่งวิธีการเก็บรักษาขนมอินทนิลคือ การแยกน้ำเซื่อม และน้ำกะทิต้องเก็บแยกกันเก็บไว้ในตู้เย็นจะช่วยช่วยให้เก็บรักษาได้นานมากยิ่งขึ้น ในส่วนเนื้อขนมหากอยากเก็บไว้ทานได้นานที่สุดควรใส่แป้งถั่วเขียวเพิ่มประมาณ 2 ช้อนโต๊ะจะทำให้ขนมสามารถเซตตัวได้นาน และยังทำให้เนื้อแป้งมีความเหนียวเด้งหนึบหนับมากยิ่งขึ้น 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

Categories
ขนมไทย

ขนมอร่อยจนต้องบอกต่อ! ลอดช่องสิงคโปร์ เส้นนุ่ม รสชาติหวานชื่นใจ

ลอดช่องสิงคโปร์

อีกหนึ่งขนมหวานที่หลายคนเคยทานตอนสมัยเด็กอย่าง ขนม ลอดช่องสิงคโปร์ เป็นขนมไทยแท้ที่ทำจากแป้งมันสำประหลังให้เส้นขนมที่มีลักลักษณะเป็นเส้นอ้วนๆ สั้นๆ ที่มาพร้อมกับเนื้อสัมผัสนุ่มนิ่ม ผสมผสานกับน้ำกะทิสดหวานมันอร่อยกลมกล่อม สำหรับสูตร ลอดช่องสิงคโปร์ที่นิยมทำกันในปัจจุบันจะเป็นสูตรลอดช่องรวมมิตรที่มีสีสันสวยงามน่าทานสุดๆ สำหรับคนที่ชอบทานขนม และอยากลองทำขนมลอดช่องไว้ทานในช่วงวันหยุดสามารถทำได้ง่ายๆ อร่อยด้วยนะ

เปิดขั้นตอนการทำ ขนม ลอดช่องสิงคโปร์ สูตรโบราณ ตามฉบับมือใหม่ 

ลอดช่องสิงคโปร์

วันนี้จะพามาทำเมนูคลายร้อนอย่าง ขนมลอดช่องสิงคโปร์ รสชาติหวานอร่อยๆ และหากได้ทานคู่กับน้ำแข็งยิ่งทำให้สดชื่นมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นเมนูคลายร้อนได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว นอกจากนี้เรามีวิธีการทำขนมลอดช่องสิงคโปร์อย่างง่ายตามฉบับมือใหม่ที่ไม่เคยทำขนมมาก่อนได้ลองทำตามได้ด้วยตัวเอง รับรองว่าทำได้อร่อยน่าทานอย่างแน่นอน 

ลอดช่องสิงคโปร์

ส่วนผสม และวัตถุดิบของแป้งลอดช่อง

  1. แป้งมัน 300 กรัม
  2. ใบเตย 700 กรัม
  3. น้ำเปล่า 400 กรัม

ส่วนผสมของน้ำเชื่อม

  1. น้ำตาลทราย 400 กรัม
  2. น้ำสะอาด 400 กรัม
  3. น้ำใบเตย 500 กรัม
ลอดช่องสิงคโปร์

วัตถุดิบ และส่วนผสมของน้ำกะทิ

  1. หัวกกะทิ 400 กรัม
  2. เกลือ 2/3 กรัม

ส่วนผสมของเครื่องเคียง

  1. วุ้นมะพร้าว 1 ถ้วย
  2. ขนุน ½ ถ้วย
  3. ข้าวโพด ½ ถ้วย
  4. เผือกต้ม 1 ถ้วย

ขนมลอดช่องสิงคโปร์ เป็นขนม หวานที่สามารถทานคู่กับน้ำแข็งบดละเอียดได้ แต่ถ้าใครไม่ชอบน้ำแข็งไม่ต้องเตรียมไว้ และในของส่วนน้ำตาลหากไม่ชอบหวานสามารถลดน้ำตาลลงได้ หลังจากที่เตรียมส่วนผสมทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ต่อมาจะเป็นวิธีทำลอดช่อง สิงคโปร์เนื้อนุ่มนิ่มดังนี้

ลอดช่องสิงคโปร์
  1. เริ่มแรกนำใบเตยมาล้างทำความสะอาด เสร็จแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ลงไปในเครื่องปั่นเติมน้ำเล็กน้อยปั่นให้ละเอียด กรองเอาแต่น้ำใบเตย
  2. ต่อมานำน้ำตาลทราย น้ำเปล่า ใบเตยมัดให้เรียบร้อย ใส่ทุกอย่างลงไปในหม้อ จากนั้นนำหม้อตั้งไฟอ่อนๆ เคี่ยวไปจนกว่าน้ำตาลจะละลายหมด เสร็จแล้วปิดเตาพักไว้ก่อน
  3. นำหัวกะทิ เกลือ เทใส่หม้อนำไปตั้งเตาเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ คนไปเรื่อยๆ จนกว่าน้ำกะทิจะแตกมัน เสร็จแล้วยกออกจากเตาได้เลย
  4. ในขั้นตอนต่อมาจะเป็นการทำแป้งลอดช่อง โดยเริ่มแรกใส่นำน้ำใบเตยมีเคี่ยวให้เดือด จากนั้นนำไปเทใส่แป้งคนส่วนผสมให้เข้ากันทีละนิด เมื่อแป้ง แลน้ำใบเตยเข้ากันดีแล้ว นำแป้งมานวดให้ได้ที่ เสร็จแล้วนำไปคลึงให้แบน หลังจากนั้นตัดเป็นเส้นเล็กๆ ขนาดตามใจชอบ 
  5. นำแป้งที่ได้นำมาต้มในน้ำเดือด หากสังเกตว่าแป้งเริ่มใสแล้วให้ใช้กระชอนช้อนใส่น้ำเย็นจัด และนำมาล้างหลายๆ รอบ จนกว่าแป้งจะสะอาดดี 
  6. นำแป้งลอดช่องที่ได้มาใส่ชามไว้ และใส่น้ำเชื่อมเล็กน้อย เพื่อป้องกันเส้นอืด เมื่อแป้งเย็นแล้วให้ตักใส่ถ้วย ตามด้วยน้ำกะทิ พร้อมด้วยเครื่องเคียงที่เตรียมไว้ 
ลอดช่องสิงคโปร์

เป็นอันเสร็จเรียบร้อยกับขนมลอดช่องสิงคโปร์ หนึ่งในขนม ไทย ทำ ง่ายๆ รสชาติหวานฉ่ำ หมอสดชื่น พร้อมทานคู่กับน้ำแข็งบดจะช่วยให้รสชาติของขนมหวานเย็นสดชื่นมากขึ้น เรียกได้เป็นเมนูคลายร้อนที่วิธีขนม ไทย ง่ายๆ และสูตร ขนม ไทยไม่ซับช้อน แถมใช้วัตถุดิบเพียงน้อยนิด 

เทคนิคทำขนม ลอดช่องสิงคโปร์ ให้เนื้อแป้งนุ่มนิ่ม ทานได้ทั้งวัน 

ลอดช่องสิงคโปร์

สำหรับวิธีทำขนมลอดช่องสิงคโปร์ให้น่าทาน ตามฉบับขนมไทย ทำเอง สิ่งสำคัญคือ ขั้นตอนนวดแป้งจะต้องนำน้ำใบเตยมาต้มให้เดือด จากนั้นค่อยๆ เทใส่แป้ง เพื่อให้แป้งสุกครึ่ง และแป้งเกาะตัวเป็นก้อนได้ดี และหลังจากที่ต้มแป้งสุกแล้วให้ทำการนำแป้งน็อคน้ำแข็งจะทำให้แป้งมีเนื้อเด้งนิ่มนั่นเอง และเทคนิคสุดท้ายคือ การทำให้แป้งไม่อืด 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: ufaball.bet

Categories
อาหารนานาชาติ

แชร์สูตรลับ ราเมน น้ำซุปรสชาติเข้มข้น เส้นเหนียวนุ่ม ต้นตำรับจากญี่ปุ่น

ราเมน

หากไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงสภาพอากาศหนาวจะต้องลองชิม ราเมน เมนูเด็ดของญี่ปุ่นที่พลาดไม่ได้ และต้องเป็นสูตรโบราณเท่านั้น เพราะน้ำซุปราเมนจะกลมกล่อม และเส้นราเมงเหนียวนุ่ม พร้อมกับเนื้อหมูตุ๋นนุ่มละลายในปากอร่อยฟินสุดๆ สำหรับราเมง ประวัติเริ่มต้นจากมาจากประเทศจีน และถูกนำมาปรับปรุงสูตรสไตล์ญี่ปุ่น ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์ และได้รับความนิยมไปทั่วโลก

แนะนำวิธีการทำ ราเมน สูตรน้ำซุปเข้มข้น เส้นหนียวนุ่ม น่าทาน

ราเมน

สำหรับคนที่ขอบทานเมนูเส้น ต้องไม่พลาดกับสุดยอดอาหารจากญี่ปุ่นอย่าง รา เมน ที่มีรสชาติหอม อร่อย ที่มาพร้อมกับเส้นเหนียวนุ่ม และหากไดซดน้ำซุปร้อนๆ ด้วยแล้วจะยิ่งทำให้ราเมงอร่อยจนต้องยกถ้วยซดกันไปเลย สำหรับเมนูนี้มีจุดเด่นอยู่ที่น้ำซุปทงคัตสึราเมนที่ถูกเคี่ยวเป็นเวลาจนได้รสชาติที่เข้มข้นกลมกล่อม ซึ้งถ้าอยากทานราเมงที่ไทย แนะนำให้ไปลองชิมที่ร้านเอบิสึ ราเมน เพราะน้ำซุปที่อร่อยเข้มข้นตามสูตรต้นตำรับ หรือถ้าอยากทำเองเราก็มีวิธีทำราเมนอย่างง่ายมาให้ลองทำตามกัน

วัตถุดิบ และส่วนผสมของราเมง

ราเมน
  1. เส้นราเมน 200 กรัม
  2. หัวไหล่หมู 500 กรัม
  3. กระดูกหมู 1 กิโลกรัม
  4. ต้นหอมญี่ปุ่น 2 ต้น
  5. กระเทียมสด 10 กลีบ
  6. เหล้ามิริน 2 ทัพพี
  7. หัวหอมใหญ่ 2 หัว
  8. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
  9. เกลือ ½ ช้อนชา
  10. งาขาวคั่ว ½ ช้อนชา
  11. สาหร่ายแผ่น 1 แผ่น
  12. ลูกชิ้นปลารูปดาว 3 ชิ้น

สำหรับส่วนผสมของน้ำซุปราเมนจะใช้กระดูกหมู เพื่อให้น้ำซุปมีความเข้มข้น และรสชาติกกลมกล่อม ตามสูตรราเมนดั้งเดิม ซึ่งกระดูกหมูที่นำมาทำน้ำซุปควรมีเนื้อติดมาด้วยจะช่วยให้น้ำซุปอร่อยยิ่งขึ้น ในลำดับถัดมาจะเป็นวิธีการทำราเมงสไตล์โฮมเมคง่ายๆ

ราเมน
  1. อันดับแรกจะมาเริ่มทำซุปกระดูก โดยการนำต้มขนาดใหญ่ตั้งเตา และใส่น้ำที่เตรียมไว้ จากนั้นเปิดไฟแรง เมื่อน้ำเดือดใส่กระดูกหมูลงไปต้ม ตามด้วยต้นหอม หัวหอมใหญ่ และกระเทียม ลงไป ทำการต้มน้ำซุปไปเรื่อยๆ จนกว่าน้ำซุปจะมีสีขาว เสร็จแล้วเติมเหล้ามิรินลงไปเล็กน้อย เมื่อได้น้ำซุปที่ต้องการแล้วให้ใช้ทัพพีคน และกดไปเรื่อยๆ และการกรองเอาเศษกระดูก และตะกอนออกจากน้ำซุป
  2. ในลำดับต่อมาจะเป็นวิธีทำหมูชาชู โดยนำเนื้อหมูที่เตรียมไว้มาหมักด้วย เหล้ามิริรน กระเทียม หัวหอม เกลือ และน้ำตาล จากนั้นม้วนหมูให้เป็นก้อน และใช้เชือกมัดไว้ ใส่น้ำเปล่าลงไปให้เต็มกระทะรอจนน้ำเดิอด จากนั้นเปลี่ยนใส่ในหม้อต้ม เติมน้ำประมาณ 1 ลิตร รอจนหมูสุก และนำมาผึ่งไว้ และทำการแล่เป็นชิ้นๆ 
  3. ต่อมาทำการลวกเส้นราเมนให้สุก ตักน้ำซุปใส่ชามตามด้วยราเมน และหมูชาชู สาหร่าย งาคั่ว ไข่ต้ม และลูกชิ้นปลาชิกูวะรูปดาว 
ราเมน

เป็นอันเสร็จสิ้นกับเมนูราเมนแบบโฮมเมค ซึ่งวิธีทำราเมนง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก และที่สำคัญรสชาติอร่อยกลมกล่อมตามสูตรต้นตำรับ เรียกได้ว่าเป็นอาหารญี่ปุ่นที่สามารถทำเองได้ โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งทานที่ร้าน อีกทั้งยังสามารถทำทานได้ทั้งครอบครัว 

เทคนิคการทำราเมน น้ำซุปกลมกล่อม ตามแบบฉบับโอมเมค

ราเมน

สำหรับราเมนที่เราทานกันอยู่นั้นมีหลายหลากหลายเส้นให้เลือก ซึ่งหลายคนอาจจะสังสัยว่า ราเมง มีกี่แบบ สำหรับเส้นราเมงนั้น มีทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่ เส้นตรง และเส้นหยัก แต่ความอร่อยนั้นไม่แตกต่างกัน และในส่วนของขั้นตอนทำอาหารญี่ปุ่นง่าย ๆ อย่างน้ำซุปให้มีกลิ่นหอม ควรนำกระดูกหมูมาต้มประมาณ 5 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาด นำมาไปต้มด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง เพียงเท่านี้ก็จะได้น้ำซุปราเมงอาหารญี่ปุ่นพื้นบ้านที่อร่อยสุดๆ 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

Categories
ขนมไทย

แชร์ความอร่อย ขนมกล้วย ขนมหวานเนื้อเด้งนุ่ม กลิ่นกล้วยหอมหวาน

ขนมกล้วย

มาถึงเรื่องกล้วยๆ กับ ขนมกล้วย รสชาติหวาน เนื้อนุ่มหนึบหนับ ที่สำคัญทำง่ายมากๆ เพียงแค่มีกล้วยก็สามารถทำได้แล้ว อีกทั้งสูตรขนมกล้วยยังเป็นง่ายๆ สามารถทำตามได้ และวิธีทำขนมกล้วย ง่าย ๆ มือใหม่ก็ทำได้ สำหรับบ้านไหนที่มีกล้วยทานไม่หมดสามารถนำมาทำเมนูขนมกล้วยทานเล่นในครอบครัวได้ รับรองอร่อยเหมือนทานเลยทีเดียว

วิธีทำ ขนมกล้วย สูตรขนมโบราณ เนื้อเหนียมนุ่ม อร่อยเหมือนซื้อที่ร้าน 

ขนมกล้วย

ขนม กล้วย ถือว่าเป็นขนมโบราณที่คนไทยนิยมทานกันมาก เพราะเป็นขนมที่สามารถหาซื้อง่ายมากที่สุด แถมรสชาติหวานหอม เนื้อนุ่มหนึบหนับ อีกทั้งยังมีราคาถูกอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นขนมไทยโบราณที่อร่อยถูกใจสุดๆ และที่สำคัญขนมกล้วยโบราณยังสามารถทำทานได้โดยไม่ต้องซื้อทาน เพียงแค่ที่บ้านมีกล้วยสุกก็สามารถทำได้แล้ว อีกอย่างไม่ต้องใช้เตาอบ และไม่ต้องใช้เครื่องทำขนมอีกด้วย เรียกเป็นเมนูขนมหวานที่สามารถอุปกรณ์ที่มีในครัวทำได้ง่ายๆ ไม่ยากอย่างที่คิด

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

ขนมกล้วย
  1. กล้วยน้ำว้าสุก 400 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 100 กรัม
  3. แป้งข้าวเจ้า 160 กรัม
  4. แป้งมันสำปะหลัง 4 ช้อนโต๊ะ
  5. เกลือป่น 1 ช้อนชา
  6. กัวกะทิ 200 กรัม
  7. มะพร้าวทึนทึก 1 ถ้วยตวง
  8. ใบตองสำหรับห่อขนม 4-5 ใบ 

สำหรับการทำขนมกล้วยจะต้องใช้กล้วยที่สุกงอมจะทำให้ขนมมีความของหอมกลิ่นกล้วยเด่นชัด และจะได้ความหวานจากกล้วยอีกด้วย ที่สำคัญจะต้องใช้กล้วยน้ำว้าเท่านั้นถึงจะอร่อย ส่วนวิธีทำขนมไทย ง่ายๆ ไม่ซับซ้อนเหมือนขนมชนิดอิ่น คนไม่เคยทำขนมมาก่อนก็สามารถทำของหวานไทยได้แน่นอน 

ขนมกล้วย
  1. นำกล้วยน้ำว้ามาทำการปลอกเปลือกออก นำมาบดให้เนื้อกล้วยละเอียด จากนั้นใส่เกลือป่น แป้งข้าวจ้าว แป้งมันสำปะหลัง หัวกะทิ และมะพร้าวขูด จากนั้นคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ตั้งพักไว้ก่อน 
  2. นำใบตองมาทำเป็นกระทงรูปสี่เหลี่ยม จากนั้นตักส่วนผสมที่เตรียมไว้ลงไปในกระทงให้หมด เสร็จแล้วนำกระทงใส่บนหม้อนึ่งทำการจัดเรียงให้เป็นระเบียบ เพื่อรอนึ่งต่อไป 
  3. นำหม้อนึ่งใส่น้ำสะอาดลงไปประมาณ 1.5 ลิตร หลังจากนั้นนำไปตั้งเตาเปิดไฟปานกลาง นำถาดหม้อนึ่งที่ใส่กระทงมาวางบนหม้อนึ่งประมาณ 20 นาที หรือจนกว่าขนมจะสุกดี เมื่อขนมสุกแล้ว นำหม้อนึ่งออกจากเตา รอให้ขนมเย็นก่อน จากนั้นนำมาจัดเรียงใส่จานให้สวยงาม 
ขนมกล้วย

หลังจากที่ทำขนมกล้วยเสร็จแล้วโรยหน้าขนมด้วยมะพร้าวขูดทึนทึกเป็นอันเสร็จเรียบร้อยพร้อมทานได้เลย โดยขนมที่ทำเสร็จใหม่จะมีรสชาติหวานละมุน และมีกลิ่นหอมของกล้วยน้ำว้าตัดกับกลิ่นกะทิสดได้อย่างลงตัว สำหรับสูตรขนมกล้วยที่เรานำมาแชร์เป็นสูตรของหวานง่ายๆ มีขั้นตอนการทำเมนูของหวานไทยง่ายๆ ไม่ซับซ้อน และถ้าบ้านไหนไม่มีใบตองทำกระทงใส่ขนมก่อนนำไปนึ่งสามารถใช้ถ้วยตะไลแทนได้เช่นกัน 

รวมคุณประโยชน์ขนมกล้วย ขนมหวานยอดนิยม ทำง่าย อิ่มท้อง 

ขนมกล้วย

ขนมกล้วยได้รับความนิยมมาตั้งแต่สมัยโบราณ เพราะนอกจากจะมีเป็นเมนูของหวานไทยๆ ทำง่ายแล้วยังมีรสชาติที่หวาน หอม เรียกว่าอร่อยถูกใจทานได้ทั้งครอบครัว นอกจากขนมจะมีความร่อยแล้วยังมีประโยชน์มากๆ ซึ่งกล้วยน้ำว้ามีสารอาหารครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรต เกลือแร่ แคลเซี่ยม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก พร้อมกับมีวิตามินครบถ้วน นอกจากนี้ยังสารอนุมูลอิสระสามารถช่วยชะลอความแก่ ป้องกันโรคมะเร็ง เป็นยาระบายได้ดี อีกทั้งยังช่วยขจัดของเสียออกจากลำไส้ได้อย่างหมดจด และที่สำคัญสามารถช่วยแก้โรคกระเพาะได้เป็นอย่างดี 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: hilo-88.net