Categories
ขนมไทย

สูตร ขนมตะลุ่ม ขนมโบราณ หน้าสังขยา หวาน มัน กลิ่นหอมอบอวล

ขนมตะลุ่ม

ขนมตะลุ่ม เป็นขนมที่มีให้ทานในบางพื้นที่ หรือบางภาคเท่านั้น โดยส่วนใหญ่จะมีให้ลองชิมสูตรขนมตะลุ่มโบราณในเขตภาคกลางตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ จึงทำให้หลายคนไม่รู้จักขนมชนิดนี้มากนัก และยังมีคนแยกไม่ออกว่าขนมตะลุ่ม ต่างจาก ขนมถ้วย อย่างไร สำหรับคนตะลุ่มโบราณจะเป็นหน้าสังขยา แต่ขนมถ้วยตะไลจะเป็นหน้ากะทินั้นเอง 

รวมวิธีทำ ขนมตะลุ่ม สูตรโบราณชาววัง อย่างง่าย ทำเองได้ที่บ้าน 

สายขนมไทยๆ ต้องไม่พลาดกับขนมหาทานได้ยากอย่าง ขนม ตะลุ่ม ขนมที่มีรสชาติหวาน นุ่มละมุนลิ้นทานได้ทุกวันไม่มีเบื่อ นอกจากนี้ยังเป็นถือว่าเป็นขนมไทยชาววังที่มีสูตร และวิธีทำขนมตะลุ่มที่ง่ายมากๆ คนไม่เคนทำขนมก็สามารถทำได้เช่นกัน แถมรสชาติอร่อยเหมือนซื้อทานเลยทีเดียว แต่ก่อนที่เราจะไปทำขนมตะลุ่มจะต้องเตรียมส่วนผสมต่างๆ ให้เรียบร้อยก่อน

ขนมตะลุ่ม
  1. แป้งข้าวเจ้า 150 กรัม
  2. แป้งข้าวเหนียว 1½ ช้อนชา
  3. แป้งท้าวยายม่อม 30 กรัม
  4. น้ำใบเตย 300 กรัม
  5. หัวกะทิ 400 กรัม
  6. น้ำปูนใส 15 กรัม

ส่วนผสม และวัตถุดิบของหน้าสังขยา

  1. ไข่เป็ด 3 ฟอง
  2. ไข่ไก่ 3 ฟอง
  3. น้ำตาลมะพร้าว 200 กรัม
  4. เกลือป่น ½ ช้อนชา

ในการทำขนมตะลุ่มให้อร่อยจะต้องใช้น้ำตาลมะพร้าว เพราะน้ำตาลมะพร้าวนอกจากจะทำให้รสชาติขนมตะลุ่มโบราณหวานละมุนแล้วยังทำให้ขนมมีกลิ่นหอมอ่อนๆ อีกด้วย แต่ถ้าบ้านไหนไม่มีน้ำตาลมะพร้าวสามารถใช้น้ำตาลทรายแทนได้เช่นกัน แต่กลิ่นหอมน้อยกว่าน้ำตาลมะพร้าว และรสชาติอาจจะไม่ตรงสูตรขนมไทยชาววังนั่นเอง

ขนมตะลุ่ม
  1. ขั้นตอนแรกนำแป้งท้าวยายม่อม แป้งข้าวเจ้า หางกะทิ เกลือ น้ำเปล่า และน้ำปูนใส เทใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เสร็จแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง พักไว้ก่อน 
  2. ในขั้นตอนต่อมาจะมาเตรียมหน้าสังขยา โดยการนำไข่เป็ดจะใช้ฌฉพาะไข่แดง น้ำตาลมะพร้าว ใบเตย และหัวกะทิ ผสมให้เข้ากัน กรองด้วยผ้าขาวบาง
  3. ต่อมานำหม้อนึ่งไปตั้งเตาใส่น้ำประมาณ 1.5 ลิตร เปิดไฟปานกลาง จากนั้นนำส่วนผสมที่เป็นแป้งตักใส่ถ้วยตะไล เสร็จแล้วนำมาใส่หม้อนึ่ง ทำการนึ่งประมาณ 15 นาที ในลำดับถัดมาให้หยอดสังขยาลงไปในหน้าถ้วยขนม และให้นึ่งต่อไปอีก 15 นาที หลังจากครบเวลาแล้วให้ยกออกได้เลย และรอให้ขนมเย็นพร้อมเสิร์ฟได้เลย
ขนมตะลุ่ม

จบไปเรียบร้อยกับการทำขนมตะลุ่มอย่างง่าย สูตรขนมไทยโบราณชาววัง ที่มีรสชาติหวานละมุน หอมกลิ่นขยา แป้งเนื้อนุ่มละลายในปากอร่อยถึงใจ ดังนั้นหากใครอยากทำขนมหายากสามารถลองทำตามสูตรที่เรานำมาแชร์ไว้ได้เลย รับรองว่าทำออกแล้วน่าทานแน่นอน

ขนมตะลุ่มชาววัง ทานกับอะไรก็อร่อย รสชาติหวานโดนใจ 

ขนมตะลุ่ม

ขนมตะลุ่มเป็นเมนูขนมไทยที่มีรสชาติหวานชื่นใจ ที่มาพร้อมรสมัน เค็ม เรียกว่าขนมที่มีรสชาติอร่อยครบรส ที่สำคัญยังเป็นเมนูขนมไทยโบราณที่หาทานยาก แต่มีสูตรที่ทำง่ายมากๆ เหมาะสำหรับมือใหม่ฝึกทำขนมทานในครอบครัว หรือหากอยากลองทำขายก็สามารถทำได้ รับรองว่าลูกค้าติดใจรสชาติ และต้องกลับมาซื้ออีกครั้งแน่นอน เรียกได้ว่าเป็นขนมที่สร้างรายได้ให้กับตัวเองอีกหนึ่งอาชีพเลยทีเดียว อีกทั้งส่วนผสมต่างๆ สามารถหาซื้อตามร้านขายขนม หรือร้านสะดวกซื้อทั่วไป 

ขนมตะลุ่ม

ถ้าอยากทานขนมตะลุ่มให้อร่อยมากขึ้นจะต้องทานคู่กับเครื่องดื่มเย็นๆ อย่างชา หรือกาแฟ นอกจากนี้ยังสามารถทานคู่กับเครื่องชนิดอื่นได้ด้วย อย่างเช่น ชาเขียว ชาเย็น หรือจะเป็นสตอเบอรี่ปั่นจะทำให้รสชาติของขนมมีหวานละมุน และสดชื่นอร่อยถึงใจ 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

Categories
อาหารนานาชาติ

เปิดครัวชวนทำเมนูยอดนิยม ไข่ตุ๋น ญี่ปุ่น เนื้อเนียนนุ่ม รสชาติกลมกล่อม

ไข่ตุ๋น ญี่ปุ่น

เมนูไข่ตุ๋น ถือว่าเป็นเมนูที่ทานได้ทุกวันไม่มีเบื่อ และที่สำคัญยังสามารถทานได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ อีกทั้งยังเหมาะกับคนที่อยากลดน้ำหนักอย่างเร่งด่วนอีกด้วย แต่หากเบื่อไข่ตุ๋นสูตรธรรมดาอยากสูตรอื่นบ้าง ขอแนะนำ ไข่ตุ๋น ญี่ปุ่น รสชาติกลมกล่อม และมีเนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม ละลายในปาก พร้อมทานกับข้าวสวยนุ่มๆ อร่อยฟินทุกคำ ในส่วนของวิธีทำไข่ตุ๋นญี่ปุ่นก็ง่ายนิดเดียว เพียงแต่มีไข่ไก่ก็สามารถทำได้แล้ว

วิธีทำ ไข่ตุ๋น ญี่ปุ่น อาหารเพื่อสุขภาพ เนื้อนิ่มเด้ง ละลายในปาก 

ไข่ตุ๋น ญี่ปุ่น

ไข่ตุ๋นญี่ปุ่น เป็นเมนูที่ทำง่ายมากๆ และยังเหมาะสำหรับคนที่กำลังฝึกทำอาหารทานอีกด้วย เพราะสูตรไข่ตุ๋นญี่ปุ่น ถือว่าเป็นที่ใช้วัตถุดิบเพียงเล็กน้อย ไม่ต้องใช้น้ำมัน หรือเตาอบ และที่สำคัญใช้เวลาทำไม่นานอีกด้วย ดังนั้นหากใครอยากลองทำเมนูไข่ตุ๋นสไตล์ญี่ปุ่นให้คนในครอบครัวทานในตอนเช้า วันนี้เรามีสูตรไข่ตุ๋นเนื้อเนียนเด้ง ละลายในปาก รสชาติกลมกล่อม หอมอร่อย อีกทั้งยังทำง่ายไม่ยุ่งยาก

ไข่ตุ๋น ญี่ปุ่น

ส่วนผสม และวัตถุดิบที่ต้องเตรียม

  1. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  2. โซยุ 1 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำเปล่า 200 ml
  4. ผงซุปดาซิ ½ ช้อนโต๊ะ
  5. ปูอัด เห็ดหอม (ใส่ตามใจชอบ)

ถึงแม้เมนูไข่ตุ๋น ญี่ปุ่นจะมีส่วนผสมเพียงเล็กน้อย แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรุงรสชาติให้อร่อย และวิธีการทำให้เนื้อไข่ตุ๋นญี่ปุ่นมีความเนียนนุ่มนิ่มน่าทาน ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราจะมาทำไข่ตุ๋นญี่ปุ่นฉบับอย่างง่าย ว่าแล้วไปดูกันเลย

ไข่ตุ๋น ญี่ปุ่น
  1. ขั้นตอนแรก นำไข่ที่เตรียมไว้มาล้างให้สะอาด จากนั้นตอกไข่ใส่ภาชนะสำหรับนึ่ง ตีไข่ให้แตก โดยใช้ส้อมตีไข่ให้เข้ากัน จากนั้นใส่น้ำเปล่าที่เตรียมไว้ลงไป ปรุงรสชาติด้วยโซยุ ผงปรุงรสดาชิ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นใช้กระชอนกองเอาตะกอนจากไข่ออก เพื่อให้เนื้อไข่เนียนน่าทานมาขึ้น 
  2. เมื่อได้ไข่ตุ๋นที่ต้องการแล้ว จากนั้นใส่ไข่ตุ๋น และเห็ดหอมลงไป เสร็จแล้วนำหม้อนึ่งใส่น้ำปริมาณพอเหมาะ นำไปตั้งเตา และนำถ้วยไข่มาปิดด้วยฟอยล์ จากนั้นนำไปนึ่งโดยใช้ไฟปานกลาง ประมาณ 15 นาที 
  3. หลังจากที่นึ่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ยกหม้อนึ่งออกจากเตา จากนั้นรอให้ไข่เริ่มเย็นแล้วค่อยยกออกจากหม้อนึ่ง 
ไข่ตุ๋น ญี่ปุ่น

เมื่อทำไข่ตุ๋น ญี่ปุ่นเสร็จแล้วจะได้ไข่ที่มีกลิ่นหอม และเนื้อเนียนเด้งชวนทานสุดๆ สำหรับขั้นตอนการนึ่งไข่ตุ๋นญี่ปุ่น กี่นาทีถึงจะพอดี ต้องบอกเลยว่าต้องใช้เวลาไม่ควรเกิน 15 นาที เพราะหากนึ่งนานเกินไปจะทำให้เนื้อไข่ตุ๋นยุบตัว เนื้อไข่ไม่เด้งอีกด้วย นอกจากนี้จะต้องไข่ตุ๋นเพื่อเอาตะกอน และฟองอากาศออกจะทำให้เนื้อไข่เนียนเหมือนไข่ตุ๋นสไตล์ญี่ปุ่นที่ซื้อทานในร้านอาหารญี่ปุ่น เพียงเท่านี้ก็จะสามารถทำไข่ตุ๋นญี่ปุ่น ง่าย ๆ ด้วยตัวเองได้ แถมรสชาติอร่อยไม่แพ้ซื้อทานที่ร้านเลยทีเดียว 

ชวนมาดูประโยชน์ ไข่ตุ๋น ญี่ปุ่น อาหารเพื่อสุขภาพ ทำง่ายๆ ด้วยตัวเอง

ไข่ตุ๋น ญี่ปุ่น

ไข่ตุ๋นญี่ปุ่น นอกจากจะเป็นอาหารญี่ปุ่นที่ทานกับข้าวสวยจะเพิ่มความอร่อยมากยิ่งขึ้น แถมยังเป็นเมนูอิ่มท้องได้นาน และมีขั้นตอนการทำอาหารญี่ปุ่นง่าย ๆ ไม่ซับช้อน มือใหม่สามารถทำได้ และทำขายสร้างรายได้เสริมได้อีกทายหนึ่งอีกด้วย เพราะเมนูนี้ใช้ต้นทุนน้อยทำให้ขายได้กำไรดีสุดๆ นอกจากนี้ไข่ตุ๋นมีสารอาหารครบถ้วนมากมาย อาทิ โปรตีน สังกะสี วิตามิน A, D, E และ B12 อีกทั้งยังมีธาตุเหล็ก ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง อีกทั้งยังมีโคลีนที่มีส่วนช่วยให้สมอง และระบบประสาทแข็งแรง พร้อมทั้งช่วยเรื่องความจำได้เป็นอย่างดี 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: hilo-88.net

Categories
ขนมไทย

เปิดตำราชวนทำ ข้าวเหนียวมะม่วง สูตรต้นตำรับ หวาน มัน

ข้าวเหนียวมะม่วง

เมื่อเข้าสู่ฤดูกาลมะม่วงมักจะเห็นขนมหวานอย่าง ข้าวเหนียวมะม่วง วางขายตามท้องตลาด และร้านขนมหวานทั่วไป ซึ่งราคาของขนมนั้นแพง แลได้ปริมาณมาก ทำให้หลายคนต้องซื้อมาหลายกล่องถึงจะทานอิ่ม ดังนั้นวันนี้เราจะมาแชร์สูตรขนมไทยอย่างข้าวเหนียวมะม่วงขนมไทยชาววัง รสชาติหวาน มัน เค็ม อร่อยอย่างลงตัว อีกทั้งขนมไทยโบราณเมนูนี้ยังสามารถทำได้ในปริมาณมาก รับรองว่าทานอิ่มอร่อยทั้งครอบครัวแน่นอน 

รวมขั้นตอนทำ ข้าวเหนียวมะม่วง ขนมชาววัง ทำง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก 

ข้าวเหนียวมะม่วง

สำหรับใครเบื่อทานมะม่วงเปรี้ยวอยากทานมะม่วงหวานบ้าง ขอแนะนำข้าวเหนียวมะม่วง หนึ่งในเมนูขนมไทยชาววังยอดนิยมตลอดกลาล ที่สำคัญยังเป็นเมนูขนมไทยโบราณรสชาติหวานอร่อยทานได้ทุกวันไม่มีเบื่อ แถมยังสามารถเป็นขนมหวานคลายร้อนในช่วงหน้าร้อนได้เป็นอย่างดี ดังนั้นหากบ้านไหนมีมะม่วงสุกเยอะทานไม่ไหวสามารถนำมะม่วงมาทำข้าว เหนียวมะม่วงทานได้ เพราะขั้นตอนการทำนั้นไม่ยาก แถมยังใช้วัตถุดิบเพียงน้อยนิดดังนี้

  1. ข้าวเหนียว 300 กรัม
  2. แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา
  3. กะทิ 1 ถ้วย
  4. น้ำตาลทราย 3 ถ้วย
  5. ใบเตย 4 ใบ
ข้าวเหนียวมะม่วง

วัตถุดิบ และส่วนผสมของน้ำราดกะทิ

  1. หัวกะทิ 2½ ถ้วยตวง
  2. เกลือ ½ ช้อนชา
  3. น้ำตาลทรายขาว ½ ช้อนชา
  4. แป้งมันฮ่องกง 2 ช้อนชา
  5. มะม่วงสุก 1-2 ลูก

สำหรับการทำข้าวเหนียวมะม่วงตามสูตรโบราณจะต้องใช้มะม่วงน้ำดอกไม้สีเหลืองสุกกำลังดี และก่อนที่นำมาทำขนมต้องดูด้วยว่าเนื้อมะม่วงมีหนอนอยู่หรือไม่ ในส่วนของวิธี ทำ ข้าวเหนียว มะม่วง ง่ายๆ ให้อร่อยนั้นสามารถทำตามขั้นตอนได้ดังนี้ 

ข้าวเหนียวมะม่วง
  1. มาเริ่มที่ขั้นตอนแรกกันเลย นำข้าวเหนียวมาล้างทำความสะอาดประมาณ 1-2 ครั้ง จากนั้นใส่น้ำให้ท่วมข้าว แช่ไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง จากนั้นตั้งหม้อนึ่งใส่น้ำ 2 ลิตร ตามด้วยใบเตย เสร็จแล้วนำข้าวเหนียวที่แช่ไว้ก่อนหน้านี้มานึ่งด้วยไฟปานกลางประมาณ 30 นาที
  2. ในลำดับต่อมาเราจะมาทำข้าวเหนียวมูน โดยเริ่มจากนำกะทิ น้ำตาลทราย และเกลือ มาเทใส่กระทะที่เตรียมไว้ จากนั้นนำไปตั้งไฟอ่อนๆ เคี่ยวส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน และเคี่ยวต่อไปจนกว่าน้ำตาลจะละลายดี 
  3. เทน้ำกะทิมูนที่เตรียมไว้เทลงในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นนำข้าวเหนียวนึ่งสุกแล้วมาเทใส่ ใช้ไม้พายคนส่วนผสมทั้งให้เข้ากัน เสร็จแล้วใช้ผ้าขาวบางปิดภาชนะไว้ เพื่อให้ข้าวเหนียวได้ดูกน้ำกะทิป ตั้งทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที 
  4. ในระหว่างที่รอให้ข้าวเหนียวดูดน้ำกะทิ ต่อมาให้มาเตรียมน้ำราดกะทิ โดยการนำน้ำตาลทราย หัวกะทิ เกลือ และแป้งมันเทใส่ในหม้อ นำไปตั้งเตาเปิดไฟอ่อนๆ คนส่วนผสมทั้งให้เข้ากัน และคนเรื่อยๆ จนกว่าแป้งมันและน้ำตาลจะละลายให้เข้ากันหมด 
  5. นำมะม่วงน้ำดอกไม้มาปอกเปลือกให้เรียบร้อย เสร็จแล้วทำการนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ ตามแนวยาว จากนั้นตักข้าวเหนียวมูนใส่จาน และตามด้วยมะม่วง จากนั้นราดน้ำกะทิลงไป เป็นอันเสร็จสิ้น
ข้าวเหนียวมะม่วง

การทำข้าวเหนียวมะม่วงให้อร่อยตามสูตรโบราณ ในขั้นตอนการแช่ข้าวเหนียวนั้น อย่าใส่น้ำใส่ในข้าวเหนียวสูงเกินไปเพราะจะทำให้ข้าวไม่ดูดน้ำ ควรใส่น้ำให้พอปริ่มๆ แช่ทิ้งไว้ประม๊า 1 ชั่วโมง จะทำให้ข้าวดูน้ำได้ดี จากนั้นค่อยเติมน้ำลงไปอีกรอบ หลังจากที่นำข้าวไปนึ่งให้สุกแล้วจะได้ข้าวเหนียวที่นุ่มนิ่ม เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทคนิคทำข้าวเหนียวมะม่วง ง่ายๆ ให้ตรงตามสูตรชาววัง 

แนะนำสูตรเด็ด ข้าวเหนียว มะม่วง หวานอร่อย หอมกลิ่นกะทิสุด ละมุนชื่นใจ 

สำหรับสูตรข้าวเหนียวมะม่วงที่น่าทานมากๆ อีกหนึ่งสูตรคือ สูตร ข้าวเหนียวมะม่วงใบเตย โดยเริ่มแรกให้นำข้าวเหนียวมาทำความสาดจากนั้นนำมาแช่ด้วยน้ำใบเตยทิ้งไว้ข้ามคืน เพื่อให้ข้าวมีสีเขียว เสร็จแล้วนำมานึ่งให้ข้าวสุก จากนั้นตักข้าวเหนียวใส่จาน ตามด้วยมะม้วงน้ำดอกไม้ และราดด้วยกะทิ เสร็จแล้วนำไปยกเสิร์ฟได้เลย

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: https://sa-game.bet/ 

Categories
เบเกอรี่

แจกสูตรขนมแสนอร่อย ทาร์ตผลไม้ หวานฉ่ำ สีสันสวยงาม ทานได้ทุกวัน

ทาร์ตผลไม้

อีกหนึ่งขนมที่สามารถครองใจคนที่ชอบทานขนมหวานมาอย่างยาวนาน ที่สำคัญทานได้ทุกวันไม่มีเบื่ออย่างแน่นอน และนั่นก็คือขนม ทาร์ตผลไม้ ที่เต็มไปด้วยผลไม้หลากหลายชนิด และเนื้อทาร์ตที่นุ่มนิ่มหวานฉ่ำ เรียกได้ว่าขนมทาร์ตผลไม้สด เป็นขนมที่มีสีสันสดใสชวนทานสุดๆ สำหรับขนมขนิดนี้มีหลายคนคิดว่าเป็นขนมที่ทำยาก และต้องใช้วัตถุดิบมากมาย แต่แท้จริงแล้ว ขนมทาร์ตผลไม้เป็นขนมเบเกอรี่ที่ทำง่ายมาก ส่วนผลไม้ก็สามารถใช้ได้ตามฤดูกาลอีกด้วย 

ชวนมาทำ ทาร์ตผลไม้ ขนมเนื้อหวานอมเปรี้ยว ทำง่าย สไตล์มือใหม่

ทาร์ตผลไม้

วันนี้เราจะมาสอนทำขนมทาร์ตผลไม้ไว้ทานกันในครอบครัว หรือจะทำขายเป็นอาชีพเสริมก็สามารถสร้างกำไรได้ดีงามมากๆ สำหรับสูตรที่ทุกคนนิยมมากๆ ก็จะเป็น ทาร์ตผลไม้รวม ที่มีผลไม้มากมายหลายชนิดให้ทานกันอย่างจุใจ ในส่วนสูตรที่จะทำนั้นคือสูตรทาร์ตผลไม้ครีมสด เนื้อทาร์ตนุ่มๆ ตกแต่งหน้าด้วยผลไม้หลากหลายชนิด แต่ก่อนที่จะลงมือทำต้องเตรียมส่วนผสมกันก่อนดังนี้

วัตถุดิบ และส่วนผสมของแป้งทาร์ตหวาน

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 250 กรัม
  2. เนยสดชนิดจืด 150 กรัม
  3. น้ำตาลทรายละเอียด 70 กรัม
  4. เกลือป่น ¼ ช้อนชา
  5. ไข่แดง 2 ฟอง
  6. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  7. น้ำสะอาด ½ ช้อนโต๊ะ
ทาร์ตผลไม้

วัตถุดิบ และส่วนผสมของไส้ทาร์ต

  1. แป้งข้าวโพด 30 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 60 กรัม
  3. ไข่แดง 3 ฟอง
  4. นมสดชนิดจืด 300 กรัม
  5. วานิลลาเพส ½ ช้อนชา
  6. เนยจืด 30 กรัม

ขนมทาร์ตผลไม้สไตล์โฮมเมคส่วนใหญ่จะตกแต่งหน้าขนมด้วยผลไม้ที่มีหลากหลายชนิด และสามารถเลือกใช้ผลไม้ได้ตามฤดูกาล ในส่วนของวิธีทำทาร์ตครีมสดอย่างง่ายๆ ด้วยตัวเองดังนี้

ทาร์ตผลไม้
  1. นำแป้งสาลีอเนกประสงค์ เกลือป่น น้ำตาลทราย เนยเย็นจัด มาปั่นให้เข้ากัน จากนั้นใส่ไข่แดง น้ำเปล่า ปั่นผสมให้เข้ากัน จากนั้นตามด้วยกลิ่นวานิลลา ผสมให้เข้ากันอีกครั้งจนกว่าส่วนผสมทั้งหมดจะเป็นเนื้อเดียวกัน 
  2. เมื่อแป้งทาร์ตเป็นก้อนแล้วให้นำออกมาวางไว้บนโต๊สะอาด จากนั้นนวดแป้งให้เข้ากันเสร็จแล้วนำมาใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ ปิดด้วยพลาสติกแรปแล้วนำเข้าตู้เย็นเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
  3. ต่อมาจะเป็นการทำไส้ทาร์ต โดยนำนมสดใส่ในหม้อตั้งเตาเปิดไฟปานกลางให้นมเดือด จากนั้นเตรียมไข่แดง และน้ำตาลผสมให้เข้ากันจนกว่าส่วนผสมจะเป็นสีแหลืองอ่อน เทแป้ง และกลิ่นวานิลลาตีส่วนผสมให้เข้ากัน เสร็จแล้วตามด้วยนมร้อนคนส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง นำส่วนผสมทั้งหมดเทใส่หม้อ นำไปตั้งเตาเปิดไฟอ่อนๆ เคี่ยวส่วนผสมให้ข้น และนำมาเทใส่ภาชนะพักไว้ให้เย็น
  4. นำแป้งทาร์ตมาคลึงบนกระดาษไขให้ความหนาประมาณ 2 มิลลิเมตร นำเข้าตู้เย็น จากนั้นใช้พิมพ์กดแป้งเพื่อเป็นฐาน เสร็จแล้วมาวางเป็นไว้เป็นฐาน นำเข้าตู้เย็รอีกครั้ง หลังจากที่เป็นเซตตัวแล้ว นำมาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 13 นาที หลังจากนั้นนำบีบไส้ทาร์ตลงไป ตกแต่งด้วยผลไม้ตามใจชอบได้เลย
ทาร์ตผลไม้

เป็นอันเสร็จสิ้นกับกระบวนการทำทาร์ตผลไม้แสนอร่อยสไตล์โฮมเมค โดยขนมทาร์ตที่ทำเองจะมีเนื้อนุ่ม หวาน หอม อร่อยฟินสุดๆ สำหรับคนที่อยากเพิ่มความสามารถทำทาร์ตผลไม้วิปครีม เพียงแค่เติมวิปครีมลงไปขนมจะอร่อยมากขึ้นเลยทีเดียว

แจกความอร่อยด้วย ทาร์ตผลไม้ ขนมสายหวานอมเปรี้ยว อร่อยฟินโดนใจ 

ทาร์ตผลไม้

ทาร์ต ผลไม้ เป็นขนมที่มีความอร่อยที่ไม่เหมือนขนมชนิดอื่น เพราะมีการนำผลไม้มาตกแต่งให้สวยงาม อีกทั้งรสชาติของผลไม้ยังช่วยเพิ่มความอร่อยให้ขนมมากขึ้นอีกด้วย สำหรับมือใหม่ฝึกทำขนมหากอยากทำแป้งทาร์ตให้เนื้อนุ่มจะต้องนวดแป้งให้ไม่มีอากาศ และต้องนำไปแช่ตู้เย็น เพื่อให้แป้งเชตตัวได้ดี เมื่อนำไปอบแป้งจะนุ่มฟูมากขึ้น ดังนั้นหากใครอยากลองทำสูตรทาร์ตผลไม้ไว้ทานเองสามารถทำตามวิธีทำผลไม้ครีมสดที่เรานำมาแชร์ได้เลย รับรองว่าขั้นตอนการทำทาร์ต ผลไม้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากแน่นอน 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: https://ufaball.bet/ 

Categories
เบเกอรี่

แจกสูตรขนม ชีสเค้กญี่ปุ่น ขนมเค้กก้อนกลม รสชาติหวาน หอมกลิ่นครีมชีส

ชีสเค้กญี่ปุ่น

หากพูดถึงขนมเค้กที่ทานแล้วอร่อยที่สุดจนต้องบอกต่อ คงหนีไม่พุ้น ขนม ชีสเค้กญี่ปุ่น หนึ่งในขนมเค้กที่ทานแล้วรู้สึกถึงความนุ่มละมุนของเนื้อเค้ก และรสหวานอร่อยกำลังดี นอกจากนี้ขนมเค้กชีสญี่ปุ่นสามารถทานรองท้องในระหว่างวัน และอิ่มนานอีกด้วย ดังนั้นหากใครไม่มีเวลาทานข้าวสามารถทานขนมเค้กสูตรนี้แทนได้อิ่มท้องทั้งวัน 

วิธีทำขนมสูตรขนม ชีสเค้กญี่ปุ่น กลิ่นครีมชีสเข้มข้น หอมละมุน 

ชีสเค้กญี่ปุ่น

สำหรับคนที่อยากทานชีสเค้กญี่ปุ่น แต่ไม่มีเวลาออกไปซื้อทาน วันนี้เรามีสูตรชีสเค้กญี่ปุ่นอย่างง่ายที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อชีสเค้กนุ่มๆ มาให้ได้ลองทำทานที่บ้านด้วยตัวเองในช่วงวันหยุดยาว หรือหากอยากลองทำเป็นขนมของฝากเพื่อนๆ หรือทำเป็นเค้กวันเกิดสไตล์โฮมเมคก็ได้เช่นกัน รับรองว่าขนมเค้กที่ได้นั้นรสชาติอร่อยเหมือนซื้อที่ร้านเบเกอรี่แน่นอน 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมทำไข่แดง

  1. แป้งข้าวโพด 50 กรัม
  2. ครีมชีส 150 กรัม
  3. น้ำมันรำข้าว 40 กรัม
  4. น้ำตาลไอซิ่ง 50 กรัม
  5. แป้งข้าวโพด 40 กรัม
  6. ไข่แดง 3 ฟอง
  7. น้ำมะนาว 15 กรัม
  8. นมสด 90 กรัม
  9. กลิ่นวนิลา ½ ช้อนชา
ชีสเค้กญี่ปุ่น

วัตถุดิบ และส่วนผสมของเมอแรงก์ไข่ขาว

  1. ไข่ขาว 3 ฟอง
  2. น้ำตาลไอซิ่ง 40 กรัม

สำหรับส่วนผสมทั้งหมดในการทำ ชีสเค้ก ญี่ปุ่น 1 ปอนด์ ซึ่งสามารถทานได้ประมาณ 1-2 คน แต่ถ้าอยากทำมากกว่า 1 ปอนด์สามารถปรับปริมาณของส่วนผสมมากขึ้นกว่านี้ได้ และในลำดับต่อมาจะเป็นวิธีทำชีสเค้กทำเองอย่างง่ายๆ ดังนี้ 

ชีสเค้กญี่ปุ่น
  1. ก่อนอื่นมาทำตัวเค้กกันก่อน โดยเริ่มจากนำครีมชีส น้ำมันรำข้าว นมสด และน้ำตาลไอซิ่ง มาเทใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นนำไปอังกับน้ำเดือด ใช้ตะกร้อคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เมื่อทุกอย่างเข้ากันดีแล้วนำเอามาตักไว้ เสร็จแล้วใส่ไข่แดงที่เตรียมไว้ผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  2. เมื่อได้ตีไข่แดงจนฟูเรียบร้อยแล้ว ให้ใส่แป้งข้าวโพดลงไปใช้ตะกร้อตะล่อมให้เข้ากัน เสร็จแล้วพักไว้ก่อน
  3. ในขั้นตอนต่อมาจะมาทำเมอแรงก์ไข่ขาว เริ่มจากนำไข่ขาวมาตี กับน้ำตาลไอซิ่งแบ่งใส่ 2 ครั้ง จากนั้นผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน และผสมจนกว่าไข่ดาวจะตั้งยอด หลังจากนั้นนำแมอแรงก์มาผสมกับไข่แดงที่เตรียมไว้ โดยทะยอยใส่ทีน้อย 
  4. เสร็จแล้วนำแป้งเค้กมาใส่ในพิมพ์ที่เตรียมไว้ หลังจากนั้นเคาะเพื่อไล่ฟองอากาศ 1-2 ครั้ง เสร็จแล้มาเตรียมเตาอบ โดยนำถาดใส่น้ำวางไว้ในเตา หลังจากนั้นพิมพ์ขนมวางไว้ในถาด ทำการอบเวลาประมาณ 90 นาที ที่อุณหภูมิ 145 องศาเซลเซียส เปิดไฟบน-ล่าง 
  5. เมื่ออบเสร็จแล้วให้นำพิมพ์ออกมาจากเตาอบ ตั้งทิ้งไว้ให้เย็นประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นนำมาแช่เย็นประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ขนมเซตตัวแล้วค่อยนำมาตัดเป็นชิ้นๆ พร้อมทาน
ชีสเค้กญี่ปุ่น

จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยกับขั้นตอนการทำขนมชีสเค้กญี่ปุ่นสไตล์โฮมเมคที่มีเนื้อเค้กนุ่ม และเนื้อเนียนละเอียด ส่วนรสชาติหวานละมุนละไม หากได้ทานคู่กับชาจะช่วยให้ความหวานลดลง และรสชาติเข้ากันเป็นอย่างดี ดังนั้นหากใครอยากลองทำชีสเค้กง่าย ๆ สามารถทำตามเรานำมาแชร์ได้เลย 

เคล็ดลับอบ ชีสเค้กญี่ปุ่น ให้อร่อย เนื้อนุ่มละลายในปาก หน้าเค้กเรียบเนียน

ชีสเค้กญี่ปุ่น

เชื่อว่าหลายคนมักจะมีปัญหาในการอบ ชีสเค้ก ญี่ปุ่น ไม่ให้หน้าขนมแตก และเนื้อเค้กไม่แห้งเกินไป ซึ่งวิธีที่จะทำให้หน้าเค้กไม่แตกนั้นตามสูตรชีสเค้กสไตล์โฮมเมคนั้นง่ายนิดเดียว โดยเริ่มแรกต้องปรับตู้อบอบขนมให้อยู่ในอุณหภูมิที่ต่ำสุดจะได้หน้าเค้กที่เรียบเนียน และเนื้อเค้กญี่ปุ่นเนียนนุ่ม หอมกลิ่นครีมชีส 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: https://hilo-88.net/ 

Categories
ขนมไทย

ขอแนะนำสูตร ขนมต้ม ไส้มะพร้าว ขนมโบราณแสนอร่อย นุ่มหนึบหนับ

ขนมต้ม

สำหรับใครที่กำลังหาเมนูขนมไทยทำเองที่บ้าน และต้องเป็นสูตรขนมไทยที่มีวัตถุดิบไม่มาก ขอแนะนำ เมนู ขนมต้ม หนึ่งในขนมไทยที่หาทานได้ยากที่มีรสชาติหวาน หอมมะพร้าว เคี้ยวอร่อยกรุบกรอบ ตัดกับเนื้อแป้งเหนียวนุ่มหนึบหนับอร่อยสุดๆ ในส่วนของขนมมีหลากหลายสี ไม่ว่าจะเป็น ขนมต้มใบเตย อัญชัน หรือสีอื่นๆ ตามใจผู้ทำทาน เรียกได้ว่าเป็นขนมที่มีสีสันสดใสน่าทานที่สุด

ขั้นตอนการทำ ขนมต้ม ก้อนกลม แสนอร่อย ทำง่าย มือใหม่ก็ทำได้ 

ขนมต้ม

วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำขนมไทยๆ ขนมแสนอร่อย และหาทานได้ยาก อย่างขนมต้ม เป็นขนมโบราณที่สอดไส้มะพร้าวหวานกรุบกรอบ อีกทั้งสีสันของขนมน่าทานสุดๆ สำหรับสูตรขนมที่จะนำมาทำในวันนี้ เป็นสูตรขนมต้มที่ทำง่ายๆ โดยวิธีทำขนมต้มคือ การนำมาแป้งข้าวเหนียวมาปั้นในเป็นก้อนกลมๆ ใส่สีเพื่อเพิ่มความสวยงามน่ามากขึ้น แต่ก่อนที่เข้าสู่กระบวนการทำขนมไทยโบราณต้องมาเตรียมวัตถุดิบกันก่อน ว่าแล้วเปเตรียมกันเลย 

ส่วนผสม และวัตถุดิบทำไส้มะพร้าว

  1. มะพร้าวทึนทึกขูด 300 กรัม
  2. น้ำตาลมะพร้าว 200 กรัม
  3. น้ำลอยดอกมะลิ 2 ถ้วย
ขนมต้ม

วัตถุดิบ และส่วนผสมของแป้งขนมต้ม

  1. แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วย
  2. น้ำใบเตย 1 ถ้วย
  3. น้ำอัญชัน 1 ถ้วย
ขนมต้ม

ส่วนผสมของมะพร้าวคลุก

  1. มะพร้าวททึนทึกขูด 3 ถ้วย
  2. เกลือ 1 ช้อนชา

สำหรับสีที่ใช้ผสมกับแป้งทำขนมต้ม หนึ่งในเมนูขนมไทยโบราณ หากบ้านไหนไม่มีสีจากธรรมชาติสามารถใช้สีผสมอาหารได้ตามที่ต้องการ หรือจะใช้สีอื่นได้ตามใจชอบ เพียงเท่านี้ก็สามารถทำขนมไทยได้แล้ว

ขนมต้ม
  1. ในขั้นตอนแรกเรามาเริ่มกันที่ การทำไส้ขนมต้มกันก่อนโดยการนำมะพร้าวทึนทึกที่ขูดแล้ว น้ำตาลมะพร้าว และน้ำลอยดอกมะลิ ใส่ลงไปในกระทะ เปิดไฟอ่อนๆ จากนั้นผัดส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันจนแห้ง จากนั้นยกออกจากเตา พักไว้ให้เย็น เสร็จแล้วนำมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ ขนาดตามใจชอบ 
  2. นำแป้งข้าวเหนียวมาเทใส่อ่างผสม โดยแบ่งแป้งใส่ถ้วยในปริมาณเท่าๆ กัน จากนั้นค่อยๆ เติมน้ำใบเตย น้ำอัญชัญลงไปในแป้งที่เตรียมไว้ใส่ถ้วยละหนึ่งสี ใช้นวดแป้งให้เป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อได้แป้งที่ต้องการแล้วนำมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ นำไส้มะพร้าวที่เตรียมไว้มาห่อ และปั้นเป็นก้อนกลมๆ อีกครั้ง 
  3. น้ำหม้อมาตั้งเตา ใส่น้ำสะอาดลงไป เปิดไฟปานกลาง จากนั้นรอให้น้ำเดือด ใส่แป้งที่เตรียมไว้ลงไปต้ม เมื่อแป้งสุกจะลอยขึ้นมา จากนั้นเอามะพร้าวขูดที่ผสมเกลือเรียบร้อยแล้วมาคลุกเคล้ากับขนมให้เข้ากัน 
ขนมต้ม

หลังจากที่ทำขนมต้มตามสูตรขนมไทยโบราณเรียบร้อยแล้ว ขนมจะมีก้อนกลมสีสันสวยงาม และรสชาติหวาน หอมกลิ่นมะพร้าว ตัดกับแป้งเหนียวหนึบหนับอร่อยสุดๆ และหากได้ทานกับครอบครัวแล้วยิ่งอร่อยจนต้องทานอีกจานเลยทีเดียว ดังนั้นจะเห็นได้ว่าวิธีทำขนมไทย ง่ายๆ ขั้นตอนไม่ซับซ้อนมือใหม่ทำได้แน่นอน

แชร์สูตร ขนมต้ม นึ่ง รสชาติหวานละมุน ไส้แน่น อร่อยเต็มคำ

ขนมต้ม

หลังจากที่ทำขนมต้มสูตรโบราณไปแล้ว ต่อมาจะเป็นสูตรขนมสูตรนึ่งกันบ้าง โดยวัตถุดิบ และส่วนผสมทุกอย่างจะสามารถกับขนมสูตรต้มได้ เมื่อได้ส่วนผสมทุกอย่างครบแล้ว ในลำถัดมาจะวิธีการทำของหวานไทยอย่างง่าย เริ่มจากนำแป้งข้าวเหนียวผสมกับน้ำใบเตย หรือสีอื่นๆ จากนั้นขยำให้เข้ากันจนกว่าแป้งจะเป็นเนื้อเนียน จากนั้นไส้มะพร้าวที่เตรียมไว้มาแห้งกับแป้งที่นวดเสร็จแล้ว นำไปนึ่งในหม้อนึ่งประมาณ 30 นาที เสร็จแล้วนำขนมออกมาคลุกกับมะพร้าวทึนทึก พร้อมจัดใส่จานเสิร์ฟทันที 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: https://hilo-88.net/ 

Categories
ขนมไทย

ชวนทำขนม หม้อแกงถั่ว ขนมไทย เนื้อนุ่มนิ่ม หอมอร่อยอย่างไทย

หม้อแกงถั่ว

ขนม หม้อแกงถั่ว คือ ขนมที่มีลักษณะเนื้อนุ่ม สีน้ำตาล รสชาติหอมหวาน ซึ่งส่วนประกอบหลักจะเป็นถั่ว และน้ำตาลนั่นเอง โดยใช้วิธีการอบขนมมีทั้งอบด้วยเตาถ่านแล้วเอาแผ่นสังกะสีมาคลุม จากนั้นเอากาบมะพร้าวจุดไฟวางบนสังกะสี และเตาอบไฟฟ้า แต่ในบางพื้นที่มีการทำหม้อแกงถั่วโบราณด้วยเตาถ่าน ซึ่งเป็นสูตรหม้อแกงถั่วที่ทำให้ขนมมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ 

วิธีการทำ หม้อแกงถั่ว รสชาติหวานละมุน อย่างง่าย ด้วยตัวเอง 

หม้อแกงถั่ว

ขนมหม้อแกงถั่ว อีกหนึ่งเมนูขนมหวานที่มีชื่อเสียงในจังหวัดเพชรบุรี เพราะรสชาติของหม้อแกง ถั่วมีความหวานมันของไข่ หอมละมุน และตามด้วยหอมเจียวที่โรยด้านบนยิ่งทำให้ขนมมีกลิ่นหอมสุดๆ เนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมซื้อเป็นของฝากอีกด้วย สำหรับคนที่ชอบทานขนมหม้อแกง วันนี้เรามีวิธีทำ ขนมหม้อแกงรสชาติหวานฉ่ำ โดยมีสูตรขนมหม้อแกงถั่วดังนี้

ส่วนผสม และวัตถุดิบที่ต้องเตรียม

หม้อแกงถั่ว
  1. ถั่วเขียวนึ่งบดละเอียด 300 กรัม
  2. น้ำตาลปิ๊บ 250 กรัม
  3. หัวกระทิ 500 กรัม
  4. หอมแดงซอย 60 กรัม
  5. ใบเตย 2 ใบ
  6. เกลือ ½ ช้อนชา
  7. น้ำมันเจียวหอม 1 ช้อนโต๊ะ

หลังจากที่เตรียมวัตถุดิบ และส่วนผสมขนมหม้อแกงถั่วทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ในขั้นตอนต่อมาเราจะพาทุกคนมาดูขั้นการทำขนมหม้อแกงโบราณตามฉบับมือใหม่ ทำง่ายๆ และที่สำคัญทำแล้วอร่อยด้วยไม่ซื้อทานจากร้านดังๆ เลยทีเดียว 

หม้อแกงถั่ว
  1. เริ่มแรกนำหอมแดงที่ซอยบางๆ จากนั้นนำกระทะมาตั้งเตาใช้ไฟอ่อนๆ ใส่น้ำมันพืชลงตัว ตามด้วยหอมแดงซอยที่เตรียมไว้ เจียวให้หอมมีเหลืองแล้วตักออกพักไว้ให้เย็น
  2. นำไข่เป็ดมาตอกลงไปในชาม นำใบเตยที่ล้างทำความสะอาดเรียบร้อยอย่างดี จากนั้นขยำใบเตยจนไข่ขึ้นฟู แลเวตามด้วยน้ำตาลปิ๊บ และกระทิขยำให้เข้ากันอีกรอบ นำส่วนผสมทั้งหมดมากรองด้วยผ้สขาวบาง หรือถ้าไม่มีผ้าขาวบางสามารถใช้กระชอนกรองก็ได้เช่นกัน ใส่ถั่วเขียวนึ่งบดลงไปในส่วนผสมที่เตรียมไว้ จากนั้นใช้มือขย้ำให้ส่วนผสมทั้งหมดเป็นเนื้อเดียวกัน 
  3. นำกระทะตั้งเตาใช้ไฟอ่อนๆ ใส่น้ำมันหอมเจียวลงไป และตามด้วยขนมที่ผสมกันไว้เรียบร้อยแล้ว กวนให้เข้ากันประมาณ 5 นาที เทขนมใส่ถาดสำหรับอบ 
  4. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 40 นาที เมื่อขนมสุกแล้วนำออกจากเตา จากนั้นพักไว้ให้เย็น ใช้มีดตัดขนมหม้อแกงเป็นชิ้นๆ ให้สวยงาม เสร็จแล้วตักใส่จาน โรยหน้าด้วยหอมเจียว
หม้อแกงถั่ว

เป็นอย่างไรบ้างกับวิธีกาทำขนมหม้อแกงถั่ว หนึ่งในเมนูของหวานไทยโบราณที่ทำง่ายๆ แม้จะเป็นมือใหม่ก็สามารถทำได้เช่นกัน และที่สำคัญรสชาติหวาน หอม อร่อย เหมือนกับซื้อทานที่ร้านเลยทีเดียว ดังนั้นหากใครที่ชอบทานทำขนมทานเอง แนะนำให้ลองทำขนมไทยโบราณ ง่ายๆ อย่าง ขนมหม้อแกงตามสูตรที่เรานำมาแชร์ได้เลย 

เปิดวิธีทำขนมหม้อแกงถั่ว ด้วยเตาถ่าน สูตรโบราณ รสชาติหวานฉ่ำ 

หม้อแกงถั่ว

การทำขนมหม้อแกงถั่วสูตรขนมไทย ทำเองที่บ้านโดยไม่ใช้เตาอบ เริ่มแรกนำส่วนผสมที่เตรียมไว้มาผสมให้เข้ากัน จากนั้นกรองด้วยผ้าขาวบาง นำมากวนในกระทะ เสร็จแล้วนำมาเทใส่ถาดที่เตรียมไว้ ต่อมาให้นำเตาถ่านมาก่อไฟแล้วใส่ถ่านลงไป เมื่อได้เปลี่ยนเป็นสีแดงแล้วให้นำถาดขนมวางบนเตาถ่านใช้ถาดเปล่าอีกอันวางทับด้านบน จากนั้นใช้กาบมะพร้าวรมควัน เพื่อจะให้ขนมมีกลิ่นหอมมากขึ้น ทำการอบขนมประมาณ 40 นาที จากนั้นยกถาดออกจากเตารอให้ขนมเย็นแล้วตัดเป็นชิ้นเล็กๆ โรยด้วยหอมเจียว นำเสิร์ฟได้เลย

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: https://hilo-88.net/