Categories
อาหารญี่ปุ่น อาหารนานาชาติ

แจกสูตรเมนู ไข่หวาน ญี่ปุ่น เนื้อนุ่มนิ่ม หอมอร่อยสไตล์ญี่ปุ่น

ไข่หวานญี่ปุ่น

สำหรับคนที่ชอบทานอาหารเช้าเป็นประจำ และอยากลองทำอาหารเองที่บ้าน แต่ไม่รู้จะทำเมนูไหนดีที่ไม่ต้องใช้เวลานาน ขอแนะนำ ไข่หวาน ญี่ปุ่น เป็นเมนูที่ทำง่ายๆ แถมรสชาติอร่อย เนื้อนุ่มนิ่มฟินทุกคำ โดยวิธีทำ ไข่หวานมีแค่ไข่ก่ และกระทะใบเล็กๆ หนึ่งใบก็สามารถทำไข่หวาน หรือไข่ม้วนญี่ได้แล้ว ที่สำคัญสามารถทำเป็ยชูชิไข่หวานได้อร่อยสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นมื้อเช้าที่ทานแล้วอิ่มนานไปจนถึงเที่ยงเลยทีเดียว

เข้าครัวชวนทำ ไข่หวาน ญี่ปุ่น สไตล์โฮมเมค ทำง่ายๆ มือใหม่ก็ทำเป็น 

ไข่หวานญี่ปุ่น

วันนี้เราจะชวนทุกคนมาทำเมนูง่ายๆ ที่สามารถทำเองได้บ้านอย่าง ไข่หวาน ญี่ปุ่นสไตล์โฮมเมค โดยใช้วัตถุเพียงไม่กี่อย่างก็สามารถทำได้แล้ว หรือถ้าใครเบื่อไข่เจียวแบบธรรมดาสามารถทำลองทำไข่หวานญี่ปุ่น ง่าย ๆ ทีมีเนื้อแน่น นุ่มนิ่ม และเพิ่มอร่อยด้วยซอสโซยุลงไปเล็กน้อยก็อร่อยจนติดใจทานได้ทุกวันไม่มีเบื่อ 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่เตรียม

ไข่หวานญี่ปุ่น
  1. ไข่ไก่ 5 ฟอง
  2. ซอสญี่ปุ่น 1 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำเปล่า ½ ถ้วย
  4. มิริน 1 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำตาลทราย 1½ ช้อนชา
  6. เกลือป่น ¼ ช้อนชา

ในส่วนของเมนูไข่หวาน ญี่ปุ่นโฮมเมคที่จะทำเองนั้นตามสูตรไข่หวานญี่ปุ่นจะมีรสชาติหวานนำ ดังนั้นหากไม่ชอบหวานสามารถลดปริมาณน้ำตาลลงได้ และกระทะที่ใช้ทำควรจะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจะทำให้สามารถทอดไข่ได้ง่ายมากขึ้น และเมื่อเตรียมวัตถุดิบ และอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว เรามาเริ่มเข้าสู่วิธีทำ ไข่หวานญี่ปุ่นอย่างดังนี้

ไข่หวานญี่ปุ่น
  1. นำไข่ไก่ที่เตรียมไว้ตอกใส่ถ้วยตีให้ไข่พอแตก ปรุงรสด้วยซอสญี่ปุ่น มิริน น้ำตาลทราย และน้ำสะอาดเล็กน้อย จากนั้นคนส่วนผสมให้เข้ากัน 
  2. นำกระทะตั้งเตาใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำมันพืชลงไป เช็ดน้ำมันให้ทั่วกระทะ จากนั้นตักไข่ใส่ลงไปพอเป็นแผ่นบางๆ ให้ทั่วกระทะ และหมุนกระทะไปมา เพื่อให้ไข่นั้นสุกอย่างสม่ำเสมอ เมื่อไข่สุกแล้วให้ใช้ไม้พายค่อยๆ ม้วนไข่เข้าหากันจนเกือบสุดขอบกระทะ หลังจากนั้นตักไข่ลงไปทอดทำเหมือนกับที่ทำตอนเริ่มต้น และทำการม้วนไข่เข้ากันจนได้ไข่ม้วนก้อนใหญ่ตามที่ต้องการ
  3. เมื่อได้ไข่ม้วนแล้ว นำมาไข่มาพักใส่จาน เพื่อจัดทรงให้เป็นสี่เหลี่ยม และให้ไข่หวานแน่น จากนั้นนำกระดาษซับมันซับลงไปที่ไข่ม้วนเบาๆ เพื่อเอาน้ำมันส่วนเกินออก และหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ จัดใส่จานพร้อมทานได้เลย
ไข่หวานญี่ปุ่น

หากบ้านไหนไม่กระทะทรงสี่เหลี่ยมในการทำเมนูไข่หวานญี่ปุ่นสามารถใช้กระทะเทฟลอนทั่วไปได้ โดยใส่น้ำมันพืชลงไปในกระทะจากนั้นตักไข่ลงไปเกลี่ยไข่ให้ทั่งกระทะ เมื่อไข่สุกแล้วให้พับขอบไข่ให้เป็นรูปสีเหลี่ยม และม้วนเข้าหากัน ทำแบบนี้ไปจนกว่าจะได้ไข่ม้วนตามที่ต้องการ เพียงแค่นี้ก็จะได้ไข่หวานญี่ปุ่นสไตล์อาหารญี่ปุ่นโฮมเมคเนื้อนุ่มนิ่ม หวานอร่อยกำลังดี

วิธีทำเมนู ไข่หวาน ญี่ปุ่นโฮมเมค สไตล์ชูชิญี่ปุ่น หอมอร่อย พอดีคำ

ไข่หวานญี่ปุ่น

หลังจากที่ทำเมนู ไข่หวานญี่ปุ่น ไปแล้ว หากใครอยากทำเป็นเมนูอื่นก็สามารถทำได้ เพราะเมนูไข่หวานกินกับอะไรก็อร่อย และวันนี้เราจะมาทำชูชิไข่หวานสไตล์ญี่ปุ่น โดยเริ่มจากตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อน จากนั้นใส่ที่ปรุงไว้ลงไป ตามด้วยปูอัด จากนั้นม้วนไข่เข้าหากัน เมื่อได้ไข่ม้วนตามขนาดที่ต้องการแล้ว ให้นำมาตัดเป็นท่อนเล็กๆ ขนาดพอดีคำ เสร็จแล้วใส่มายองเนสลงไป พร้อมเสริฟกับเครื่องเคียง ญี่ปุ่นอย่างซอสโซยุ สาหร่าย รสชาติหวาน เค็มอร่อยกลมกล่อม 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: https://ufaball.bet/ 

Categories
อาหารญี่ปุ่น

โอเด้ง ซดร้อน ๆ ครบรส ทั้งอร่อยและสารอาหาร

โอเด้ง

โอเด้ง เป็นอีกหนึ่งอาหารสัญชาติญี่ปุ่นที่เราคงได้ยินชื่อนี้กันมานาน หลายคนเคยรับประทาน อาหารนานาชาติ เมนูนี้ตามร้านอาหารกันมาบ้างแล้วนะคะ โดยเฉพาะในข่วงฤดูฝนหรือหนาว แม้เป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ ในประเทศไทย ทว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่เราซดน้ำซุปร้อน ๆ แล้วเคี้ยวไปพร้อมกับเส้นนุ่ม ๆ ของเมนูนี้ รับประกันความฟินอีกทั้งอุ่นและอร่อยไปพร้อม ๆ กันค่ะ

โอเด้ง วัตถุดิบ ส่วนผสม

โอเด้ง

หลายคนนึกอยากกินอาหารเมนูนี้จนเกิดคำถาม โอเด้งซื้อที่ไหน จนต้องถามเพื่อนหรืออ่านรีวิวร้านดังตามย่านต่าง ๆ ไม่ว่าจะในกรุงเทพมหานครหรือตามสถานที่อื่น ๆ เมื่อได้มาซึ่งข้อมูล ก็คงเข้าไปใช้บริการซื้อกินเมนูนี้ค่ะ ทว่า มีอีกหลายคนเช่นเดียวกัน ที่อยากลองทำอาหารเมนูนี้ วันนี้ เรามีวิธีทำโอเด้ง มาฝากเพื่อน ๆ ค่ะ

ส่วนผสม สำหรับ 4 ที่

  • น้ำซุป
  • น้ำดาชิ 5 ชต
  • โชยุ 3 ชต
  • สาเก, มิริน อย่างละ 2 ชต
  • น้ำเปล่า 500 ml
  • หัวไชเท้า 1 หัว
  • แครอท 1 หัว
  • ต้นหอมญี่ปุ่น 1 ต้น
  • ไข่ต้มสุก 4 ฟอง
  • น้ำมันพืช
  • เต้าหู้เส้นอบแห้ง 
  • ไก่ห่อสาหร่าย 12 ชิ้น หรือคามชอบ
  • เต้าหู้ปลา 12 ชิ้น หรือตามชอบ
  • ลูกชิ้นปลาทอด 16 ลูก หรือตามชอบ
  • สาหร่ายชุปแป้งทอด 1 ซอง


โอเด้งอุปกรณ์ต่าง ๆ

โอเด้ง

สูตรโอเด้ง ไม่ว่าจะเป็นสูตรไหนก็ตาม เรื่องที่ควรให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันนั่นก็คือ อุปกรณ์

  • หม้อหุงข้าว สำหรับใส่ส่วนผสมทั้งหมด
  • มีด สำหรับหั่นผัก

โอเด้งวิธีทำ

การทำให้อร่อยนั้น สูตรรวมถึงวิธีทำนั้น เป็นเรื่องสำคัญที่เราควรให้คุณค่า และเมื่อทำออกมาแล้ว ต้องเหนือกว่าโอเด้งสำเร็จรูป ค่ะ แล้วเราถึงจะได้อรรถรสในการกิน วันนี้ ไรเตอร์ได้รวบรวม แนวทางในการทำอาหารเมนูร้อนชามนี้ ให้เพื่อน ๆ ได้นำกลับมาปรับใช้ตามความเหมาะสม

ขั้นตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นของการทำโอเด้ง นั่นก็คือ ให้นำวัตถุดิบประเภทผักดังที่ลิสต์เอาไว้ ไปล้างน้ำเปล่าให้สะอาดดีเสียก่อน จากนั้น ถึงนำผักดังกล่าวมาหั่น เริ่มจาก ปอกผิวหัวไชเท้า แล้วนำมาหั่นเป็นท่อน ๆ แล้วใช้มีดปลายแหลมแทงตรงกลางทำสัญลักษณ์ เป็นรูปกากบาท ในที่นี้ ไม่เว้นแม้กระทั่งแครอท ให้ทำวิธีเดียวกับหัวไชเท้า จากนั้น ใส่ลงในหม้อหุงข้าว โดยไม่ลืมนำต้นหอมมาหั่นเฉียง แล้วใส่ลงในหม้อหุงข้าว ไปพร้อมกับไข่ต้มสุกปอกเปลือกแล้ว ในกรณีไม่ใช้หม้อหุงข้าว สามารถใช้หม้อต้มแสตนเลสยี่ห้อใดก็ได้หรือภาชนะอื่น ๆ ที่มีในครัวเรือน นำมาปรับใช้ได้เลย 

ขั้นตอนที่ 2 ภายหลังเตรียมส่วนผสมในส่วนผักรวมถึงไข่ไก่ต้มสุกจนพร้อม ขั้นตอนการทำ โอเด้ง ขั้นตอนนี้ ให้ใส่มิริน สาเก น้ำดาชิ โชยุ ปรุงตามสัดส่วนที่ให้ไป ตามด้วยน้ำเปล่า 500 มล หรือดูตามความเหมาะสม ถ้าเป็นหม้อหุงข้าว อย่าเติมน้ำเกินระดับขีด water จากนั้นปิดฝาหม้อให้สนิท กดปุ่ม Congee/soup ในขั้นตอนนี้ หม้อหุงข้าวจะเริ่มทำงาน

ขั้นตอนที่ 3 ทำโอเด้งในส่วนของการเพิ่มสีสันให้กับโอเด้ง ให้นำเครื่องเคียงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ลูกชิ้นปลา ไก่ห่อสาหร่าย เต้าหู้ปลา เอาไปชุบแป้งทอด รอกระทั่งหม้อดีด ซึ่งใช้เวลาประมาณ 50 นาที ให้นำเต้าหูเส้นทอด ใส่ลงในหม้อ ปิดฝา กดปุ่มทำงานแล้วรออีก 40 นาที ครบกำหนดแล้วเปิดฝา ใช้ทัพพีตักไข่ใส่ชาม แล้วนำเครื่องเคียงที่ทอดแล้วทั้งหมดลงในหม้อ ปิดฝาอีกครั้ง กดปุ่มต้มต่อไปอีก 20 นาที ก็สามารถตักขึ้นมารับประทานได้เลย อย่าลืมโรยต้นหอมด้วยนะคะเพื่อหน้าตาที่ดูน่ากินมากขึ้น

โอเด้ง

โอเด้ง จะเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารญี่ปุ่น ที่จะครองใจคนชอบกินน้ำซุปจากผักที่มาพร้อมเครื่องเคียงแสนอร่อยไปอีกแสนนาน นอกจากน้ำซุปร้อน ๆ เรายังได้คุณค่าทางสารอาหารจากผักอีกมากมายซึ่งเต็มไปด้วยสิตะมินและเกลือแร่ อีกทั้ง ยังได้สารอาหารประเภทโปรตีน จากไข่ไก่ เต้าหู้ ลูกชิ้นปลา เส้นเต้าหู้ และ อื่น ๆ ค่ะ เรียกได้ครบในเรื่องของคุณค่าและอร่อยจริง ๆ ค่ะ

Categories
อาหารญี่ปุ่น

ราเมนแดนซากุระ  4 แบบ 4 สไตล์ เสน่ห์น้ำซุปเข้มข้น เส้นเหนียวนุ่มถูกใจ 

ราเมนแดนซากุระ  4 แบบ 4 สไตล์ เสน่ห์น้ำซุปเข้มข้น เส้นเหนียวนุ่มถูกใจ 

ราเมนเป็นอาหารขึ้นชื่อของประเทศญี่ปุ่น มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน เป็นอาหารที่คนญี่ปุ่นรับประทานกันคล้ายเป็นอาหารประจำชาติเลยก็ว่าได้ สำหรับราเมนนั้นยังแยกย่อยออกอีกมากถึง 4 ประเภท และราเมนแต่ละประเภทนั้น ก็มีต้นกำเนิดจากคนละจังหวัดเลยก็ว่าได้ 

สำหรับราเมนแบบแรกเป็นราเมนโชยุราเมน มีส่วนผสมเป็นซีอิ้วญี่ปุ่น หมูชาชู มีท้อปปิ้งด้วยหน่อไม้ หอมซอย ราเมนแบบที่สอง กำเนิดมาจากจังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น มีเต้าเจี้ยวเป้นส่วนผสมของน้ำซุป ประกอบด้วยท้อปปิ้งเป็นผักหลายชนิด เนื้อหมู 

ราเมนแบบที่สามทงคัตสิราเมน มีเอกลักษณืโดดเด่นคือน้ำสีขาวเข้มข้น รสชาติน้ำซุปเข้มข้นถึงใน มีท้อปปิ้ง ได้แก่สาหร่าย หมูชาชู และราเมนแบบสุดท้าย เป็นราเมนชิโอะราเมน เอกลักษณืของราเมนชนิดนี้คือมีน้ำซุปใสมาก และนิยมใช้เส้นราเมนเส้นเล็ก เน้นท้อปปิ้งเป็นหมูชาชู ต้นหอม เรียกได้ว่าราเมน 4 แบบ 4 สไตล์ ใครชอบแบบไหนสามารถเลือกรับประทานราเมนแบบที่ท่านชอบกันได้เต็มที่เลย 

ราเมนทำเองง่าย ๆ ด้วย วัตถุดิบเพียงไม่กี่อย่าง เนรมิตราเมนทงคัตซึ

วัตถุดิบสำหรับทำเส้นราเมนทงคัตสึ 

1.น้ำสะอาด 140 มิลลิลิตร 

2.แป้งสาลีอเนกประสงค์ 3 ถ้วยตวง 

3.เครื่องทำเส้นราเมน (ไม่มีเครื่องสามารถนวดมือได้) 

วัตถุดิบของน้ำซุป และท้อปปิ้ง 

1.เล้งกระดูก 1 กิโลกรัม (เพิ่มความข้นให้ราเมนทงคัตสึ

2.กระดูกหมูเนื้ออ่อน 1/2 กิโลกรัม 

3.ซี่โครงไก่ 1/2 กิโลกรัม 

4.น้ำสะอาด 3000 มิลลิลิตร 

5.หอมหัวใหญ่  2 หัว (หั่นสี่เหลี่ยม) 

6.กระเทียม 200 กรัม 

7.น้ำตาลทราย 200 กรัม 

8.ขิงแก่ 2 แง่ง (หั่นเป็นแว่น) 

9.เหล้าหวานมิริน 4 ช้อนโต๊ะ 

10.เครื่องปรุงดานิ 1 ช้อนตะ 

11.ซีอิ้วญี่ปุ่นโชยุ 4 ช้อนชา 

12.ผงปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ 

13.ไข่ต้ม 1 ฟอง (หั่นสวยงาม) 

14.สาหร่าย 1 – 2 แผ่น 

15.หอมใหญ่ซอย 2 ต้น 

16.น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ 

ขั้นตอน และวีการทำ ราเมนทงคัตซึ

1.ขั้นตอน ขั้นตอนแรกของเมนูราเมนเป็นขั้นตอนของการล้างทำความสะอาดของเล้ง กระดูกหมู ซี่โครงไก่ในน้ำสะอาด ผสมน้ำส้มสายชูเพื่อดับกลิ่นความคาวของเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ล้างจนสะอาด 3 – 4 รอบ 

2.ใส่น้ำสะอาดในหม้อตั้งไฟ ใส่กระดูกไก่ กระดูกหมู ซี่โครงไก่ ลงไปต้ม จากนั้นตักออก เปลี่ยนน้ำต้มที่เต็มไปด้วยไขมันออก ใส่น้ำสะอาดลงไปใหม่ ใส่กระเทียม ต้นหอม ขิงหั่น เหล้ามิริน ซีอิ้วญี่ปุ่น ผงดานิ ผงปรุงรส ผงดานิ น้ำตาลทราย จาดนั้นใส่กระดูกหมู เล้ง กระดูกไก่ ซี่โครงไก่ ต้ม 4 ชั่วโมงไฟกลาง 

3.เมื่อต้มต่อจนเนื้อเปื่อย ตักแยกกระดูกทั้งหมดออก กรองเอาแต่น้ำซุป ตังน้ำซุปต่ออีก จากนั้นใส่ซุปก้อนลงไป เคี่ยวต่ออีกจนน้ำข้น ส่วนที่เป็นเนื้อให้น้ำไปปั่นจนข้น แล้วค่อนนำมาผสมกับน้ำซุปในหม้อ แล้วนำไปตังไฟจนเดือดเป็นครั้งสุดท้าย เพิ่มผงปรุงรส ซุปก้อน 

4.จากนั้นมาถึงขั้นตอนของการทำเส้นราเมนง่ายๆ โดยผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์กับน้ำสะอาดลงในเครื่องทำเส้นราเมน จากนั้นนำเส้นที่ได้คลุกแป้งเพื่อกันเส้นติดกันอีกครั้ง 

5.ใส่น้ำซุปลงชาม ต้มเส้นราเมนจนสุก นำใส่ในชามราเมน ใส่หอมใหญ่ซอย สาหร้าย ไข่ต้ม หมูชาชู และท้อปปิ้งที่ชอบ เป็นอันเสร็จขั้นตอนเมนูแสนอร่อย เรียกได้ว่า วิธีทำราเมนทงคัตสึนั้นง่าย ๆ ไม่ยากอย่างที่คิด 

 

 

 

เว็บบอล

Categories
อาหารญี่ปุ่น อาหารนานาชาติ

อาหารญี่ปุ่น ข้าวปั้นโบราณโอนิงิริ ที่คนทั่วโลกรู้จัก

https://mykitchencook.com/wp-content/uploads/2021/07/อาหารญี่ปุ่น-ข้าวปั้นโบราณโอนิงิริ-ที่คนทั่วโลกรู้จัก.jpg

ปัจจุบันอาหารญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นอาหารระดับโลกแล้ว เพราะทั่วทุกมุมโลกนั้นต่างให้ความยอมรับทั้งในเรื่องรสชาติความอร่อย การใส่ใจรายละเอียดในการทำ ไม่เพียงแต่คนเอเชียเท่านั้น อาหารญี่ปุ่นยังโด่งดังไปถึงชาติตะวันตก เรียกได้ว่าทุกประเทศทั่วโลกนั้นไม่มีประเทศไหนที่ไม่รู้จักอาหารญี่ปุ่น 

เมนูอาหารญี่ปุ่นขึ้นชื่ออาทิ ซูชิ ราเมน โซบะ ชาบู อูนางิ และเมนูอันดับหนึ่งขวัญใจคนทั่วโลกนั้นก็คือ ข้าวปั้นโอนิงิริ หรือข้าวปั้นสูตรโบราณขงคนญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเมื่อนึกถึงอาหารญี่ปุ่นเมื่อไร ข้าวปั้นเป็นเมนูแรกที่จะนึกขึ้นได้ เมนูนี้เป็นเมนูที่อยู่คู่ชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สมัยอดีตคนญี่ปุ่นมักทำข้าวปั้นห่อไปรับประทานเป็นอาหารกลางวันขณะที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน

วิธีการทำข้าวปั้นโบราณโอนิงิริ อาหารญี่ปุ่นยอดนิยม

ขั้นตอนในการทำข้าวปั้นอาหารญี่ปุ่นชื่อดังนั้นมีไม่กี่ขั้นตอน แต่จะไปยากที่ขั้นตอนการปั้นข้าว เริ่มแรกนั้นหุงข้าวญี่ปุ่น จากนั้นเมื่อข้าวสุกให้ตักข้าวออกมาเตรียมไว้ในถาด แล้วเตรียมปั้นข้าวในขณะที่ข้าวยังอุ่น ๆ ก่อนจะปั้นให้เตรียมล้างมือให้สะอาด จากนั้นนำเกลือป่นมาโรยที่มือนิดหน่อย การปั้นข้าวปั้นอาหารญี่ปุ่นประเภทข้าวสามารถปั้นได้ 2 แบบคือแบบสามเหลี่ยม และแบบวงกลม โดยก่อนปั้นนั้นให้ใส่ไส้ที่ชอบลงไป อาทิปลาเซลมอล ไส้เกล็ดปลาโอแห้งผสมโชยุ หรือใส้ปลาต่าง ๆ ตามที่ต้องการ 

จากนั้นทำการปั้นข้าวปั้นโดยใช้มือทั้งสองมือปั้นข้าว ควรทำเวลาในการปั้นไม่ควรปั้นช้าจนเกินไปเพราะข้าวญี่ปุ่นจะเหนียวติดมือทำให้ข้าวปั้นแฉะไม่น่ารับประทาน สำหรับคนที่ชอบสาหรายก็สามารถห่อสาหร่ายเป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิตที่เรียกได้ว่ามีกรรมวิธีในการปั้นแบบปราบเซียนเลยก็ว่าได้

เคล็ดลับการทำข้าวปั้นโบราณโอนิงิริให้อร่อย ปั้นออกมาสวยงามแบบฉบับต้นตำรับ

เมนูอาหารญี่ปุ่นข้าวปั้นโบราณนั้น เรียกได้ว่าไม่ว่าจะเดินไปซอกซอยไหนของญี่ปุ่น ก็จะสามารถพบเจอร้านข้าวปั้นได้ไม่ยาก เพราะเป็นอาหารที่คนนิยมรับประทานกันมาก ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ชื่อดังนั้น ทุกร้านล้วนแล้วแต่มีความละเอียด มีประสบการณ์ในการทำข้าวปั้นโบราณอย่างชำนาญ และเป็นมืออาชีพ 

สำหรับคนไทยแล้วถ้าจะทำเมนูรายการอาหารญี่ปุ่นข้าวปั้นโบราณให้อร่อย ปั้นสวยงามเหมือนต้นตำรับนั้น ก็ต้องหมั่นฝึกทำเมนูนี้ เพราะวัตถุดิบไม่เยอะ ขั้นตอนง่าย แต่ต้องอาศัยทักษะในการฝึกปั้นข้าว เคล็ดลับในการปั้นข้าวนั้นคือข้าวที่จะปั้นนั้นต้องไม่เย็น การปั้นต้องลงน้ำหนักของอุ้งมือให้พอดี ไม่หนักจนเกินไป และไม่เบาจนเกินไป ถ้าลงน้ำหนักที่อุ้งมือหนักเกินไปข้าวญี่ปุ่นจะแฉะ แต่ถ้าเบาเกินไปข้าวจะแตก และการปั้นข้าวที่ชำนาญการใช้มือสองมือที่สัมพันธ์กันจะทำให้ข้าวปั้นโบราณนิงิริรสชาติอร่อยกลมกล่อมอย่างมาก

Categories
อาหารญี่ปุ่น อาหารนานาชาติ

อาหารญี่ปุ่น ซูชิมากิ เสน่ห์ความอร่อยที่คนทั่วโลก ยกนิ้วให้

อาหารญี่ปุ่นนั้นโด่งดังไปทั่วทุกมุมโลก ไม่เว้นแม้แต่ชาติตะวันตกเองก็ยังหลงใหลในอาหารญี่ปุ่น ไม่เพียงแต่รสชาติความมีเอกลักษณ์ในอาหารเท่านั้น ขั้นตอนวิธีการทำนั้นพิถีพิถันตั้งแต่ขั้นตอนของการเลือกวัตถุดิบ ไปจนถึงขั้นตอนในการรับประทาน ทุกขั้นตอนนั้นร่วมเต็มไปด้วยศาสตร์ และศิลป์ ทำให้อาหารญี่ปุ่นนั้นเป็นอาหารที่มีมูลค่าในสายตาของคนทั่วโลก

อาหารญี่ปุ่นนั้นมีเมนูยอดนิยมหลายเมนู แต่เมนูที่โด่งดังมาก คนทั่วโลกรวมถึงคนไทยนั้นรู้จักเป็นอย่างดีนั่นก็คือเมนูซูชินั้นเอง ไม่เพียงแต่รู้จักเท่านั้น คนไทยยังชื่นชอบ และนิยมรับประทานอาหารญี่ปุ่น เมนูซูชิกันอย่างมาก เว็บไซต์ mykitchencook จึงรวบรวมข้อมูลการทำซูชิมากิตั้งแต่เริ่มต้น และขั้นตอนในการทำซูชิเพื่อเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจ และต่อยอดทำเป็นอาชีพ

ขอบคุณภาพจาก pixabay

วัตถุดิบในการทำเมนูซูชิมากิ

  1. ข้าวญี่ปุ่น 3 ถ้วย
  2. น้ำสะอาด 300 มล.
  3. น้ำส้มสายชูที่ทำมาจากข้าวหมัก 6 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำตาลตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
  5. แตงกวาญี่ปุ่นน 1 ลูก
  6. สาหร่ายแผ่นใหญ่ 2 แผ่น
  7. ผงดาชิ 2 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำมิริน 2 ช้อนโต๊ะ
  9. โชยุ 2 ช้อนโต๊ะ
  10. แครอทหั่นแนวยาว 1/2 ลูก
  11. ไข่หวานสำเร็จรูป 1 แท่ง
  12. เห็ดหอมแห้ง 1 ถ้วยตวง
  13. ซอสมายองเนส 1 ถ้วยตวง

ขั้นตอนการทำเมนูอาหารญี่ปุ่นซูชิมากิ

  1. ขั้นตอนแรกในการทำเมนูอาหารญี่ปุ่น ซูชิมากิ เริ่มต้นโดยการนำข้าวญี่ปุ่นมาล้างทำความสะอาด 3 – 4 ครั้ง จากนั้นแช่ข้าวญี่ปุ่นไว้น้ำสะอาด 30 นาที
  2. เมื่อนำข้าวญี่ปุ่นแช่น้ำครบ 30 นาทีแล้วให้รินน้ำออก แล้วทำการเปลี่ยนน้ำใหม่ จากนั้นใช้วิธีการหุงข้าวบนเตาโดยใช้ไฟระดับกลางเป็นเวลา 30 นาที เมื่อข้าวญี่ปุ่นได้ที่แล้วให้ปรับระดับไฟแรงขึ้น จากนั้นให้ปิดไฟ และปิดฝาหม้อข้าวญี่ปุ่นเพื่อให้ความร้อนระอุกระจายทั่วทั้งหม้อข้าว
  3. วิธีการทำน้ำปรุงข้าว ข้าวที่ใช้ในการทำซูชิรสชาติจะไม่กลมกล่อมถ้าไม่ใส่น้ำปรุง ขั้นตอนนี้สำคัญมาก กรทำน้ำปรุงนั้นก็ไม่ซับซ้อน สามารถทำง่าย ๆ โดยการใส่น้ำส้มสายชู เกลือ น้ำตาลทราย จากนั้นผสมส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน ทิ้งไว้จนเย็น เมื่อข้าวญี่ปุ่นเย็นให้นำมาคลุกกับข้าวญี่ปุ่นโดยค่อยเทใส่ข้าวทีละน้อย เมื่อผสมเสร็จวางข้าวพักไว้ในภาชนะ
ขอบคุณภาพจาก pixabay
  1. จากนั้นเพิ่มอรรถรสให้กับส่วนผสมของเมนูอาหารญี่ปุ่น<ซูชิมากิโดยการต้มน้ำซุปดาชิ โดยการใส่น้ำสะอาดลงไปในหม้อ เปิดไฟระดับกลาง จากนั้นรอให้น้ำเดือด ใส่ผงดาชิ น้ำมิริน และโชยุลงไป จากนั้นนำแคอทลงไปต้มจนสุก
  2. ยังไม่ต้องปิดไฟ ทำการผัดเห็ดหอมต่อ โดยการเทน้ำซุปดาชิที่เหลือออกเล็กน้อย เพิ่มโชยุ น้ำมิรินลงไป น้ำเห็ดหอมลงไปผัดจนเหนียวข้น จากนั้นยกลงพักไว้ให้เย็น
  3. เมื่อเตรียมส่วนผสมทุกอย่างเรียบร้อยแล้วให้ทำการปั้นซูชิมากิได้เลย โดยเริ่มจากการเตรียมเสื่อไม้ไผ่ปั้นซูชิ ให้นำถุงพลาสติกมาคลุมไม้ไผ่ไว้ป้องกันเศษอาหารติดที่ซี่ของไม้ และวิธีนี้ทำให้อายุของการใช้งานเสื่อไม้ไผ่ได้นาน
  4. จากนั้นเริ่มต้นการห่ออาหารญี่ปุ่น ซูชิมากิโดยการวางสาหร่ายแผ่นใหญ่ ตามด้วยข้าวญี่ปุ่น แตงกวา แครอท ไข่หวาน ผัดเห็ดหอม ราดด้วยมายองเนส วางเรียงกันให้สวยงามจากนั้นทำการม้วนให้แน่น แล้วใช้มีดที่มีความคมตัดให้มีความสวยงาม

เคล็ดลับการทำซูชิมากิให้อร่อยน่ารับประทาน

จะว่าไปแล้วเมนูซูชิมากินั้นค่อนข้างต้องใส่ใจรายละเอียดทุกขั้นตอน แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดหรือเรียกว่าเป็นหัวใจในการทำซูวิมากิเลยก็ว่าได้นั้นก็คือการหุงข้าวญี่ปุ่น เพราะถ้าไม่มีเคล็ดลับในการหุงข้าวญี่ปุ่น ข้าวก็จะไม่พอดี แฉะไปบ้าง ร่วนไปบ้าง เมื่อนำมาปั้นเป็นซูชิก็จะได้รูปทรงไม่ดี

ขอบคุณภาพจาก pixabay

ไอเดียในการต่อยอดจากการเรียนรูการทำซูชิมากิ

เมื่อฝึกฝนจนเก่งแล้ว สามารถเปิดร้านเมนูอาหารญี่ปุ่นซูชิเป็นของตัวเอง หรือเริ่มต้นจำหน่ายจากช่องทางออนไลน์ก่อนได้เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุน สามารถสร้างรายได้เสริมได้เพราะคนไทยนิยมรับประทานซูชิกันมาก

ใส่ความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาต่อยอดคิดรูปแบบซูชิในแบบต่าง ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าจากนั้นก็สามารถเปิดสอนการทำซูชิออนไลน์ให้กับคนที่สนใจเรียนได้ วิธีนี้สามารถสร้างรายได้ต่อเนื่อง และยั่งยืน