Categories
ขนมไทย

ข้าวเหนียวมูนมะม่วง ขนมไทยที่ฮอตที่สุดในช่วงหน้าร้อน

ช่วงหน้าร้อนนี้ นอกจากไฮศครีมแล้วข้าวเหนียวมูนมะม่วงก็เป็นอีกเมนูขนมหวานที่คนนิยมรับประทานเพื่อดับร้อนกันมาก เพราะความหวานเย็นฉ่ำของมะม่วงสุกรับประทานคู่กับข้าวเหนียวมูนหวานหอม ทำให้รู้สึกสดชื่นท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัดเลยทีเดียว

ข้าวเหนียวมูนน้ำกะทิมะม่วงนั้นเป็นของหวานที่คนทุกเพศทุกวัยชอบรับประทาน สามารถหาซื้อรับประทานได้ทั่วไป ยิ่งข้าวเหนียวมูนที่เม็ดสวยรสชาติหวานหอมกำลังดีบวกกับมะม่วงหวานเย็นชื่นใจ เป็นความอร่อยที่ลงตัว

ขอบคุณภาพจาก pixabay

ข้าวเหนียวมูนน้ำกะทิดูเหมือนจะเป็นเมนูขนมไทยที่ทำง่าย แต่แท้ที่จริงแล้วทำง่ายก็จริง แต่เรื่องที่ยากคือจะมูนข้าวเหนียวอย่างไรให้อร่อย เพื่อเป็นประโยชน์แก่คนที่สนใจการเรียนการทำขนม และเพื่อนำไปต่อยอดสร้างอาชีพ เว็บไซต์ mykitchencook ได้รวบรวมวิธีการทำและเคล็ดลับในการมูนข้าวเหนียวน้ำกะทิมะม่วงให้อร่อยละมุน

วัตถุดิบ ขั้นตอนการทำ เคล็ดลับ ไอเดียต่อยอดเมนูขนมไทย ข้าวเหนียวมูนน้ำกะทิมะม่วง

วัตถุดิบในการทำเมนูขนมไทยข้าวเหนียวมูนน้ำกะทิมะม่วง

  1. มะม่วงสุก
  2. ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 900 กรัม
  3. สารส้ม 1 ก้อน (สำหรับล้างข้าวเหนียวเพื่อให้ข้าวเหนียวมีเม็ดสวยงาม)
  4. ใบเตย 1 กำ
  5. กะทิ 750 กรัม
  6. น้ำตาลทรายขาว 350 กรัม
  7. เกลือ 3 ช้อนชา

วัตถุดิบสำหรับทำน้ำกะทิราดหน้า

  1. แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
  2. น้ำตาลทราย 65 กรัม
  3. เกลือ 1 ช้อนชา
  4. กะทิ 350 กรัม
  5. ใบเตย 1 กำ (เพิ่มความหอม)
ขอบคุณภาพจาก pixabay

ขั้นตอนวิธีการทำเมนูข้าวเหนียวมูนน้ำกะทิมะม่วง

  1. เมนูขนมไทย ข้าวเหนียวมูนน้ำกะทิมะม่วง ใช้ข้าวเหนียวเขียวงู และล้างด้วยสารส้ม โดยถูสารส้มให้สัมผัสกับเนื้อข้าวเหนียว วิธีนี้จะช่วยให้ข้าวเหนียวเม็ดสวยเรียงตัว
  2. เมื่อล้างข้าวเหนียวเสร็จ ให้แช่ข้าวเหนียวข้ามคืน หรืออ่างน้อย 5 ชั่วโมง
  3. จากนั้นนำข้าวเหนียวมาล้างน้ำให้สะอาดอีกครั้ง ใช้วิธีการนึ่งข้าวเหนียวแบบใช้หวดนึ่งข้าวเหนียว โดยใส่น้ำไว้ในหม้อนึ่งครึ่งหม้อ จากนั้นนึ่งข้าวเหนียว 15 นาทีโดยไฟระดับกลาง
  4. เมื่อนึ่งข้าวเหนียวครบ 15 นาทีแล้ว ให้ฝัดข้าวเหนียวกลับด้าน จากด้านบนลงล่าง จากนั้นปิดฝาหวด แล้วนึ่งข้าวเหนียวต่ออีก 15 นาที
  5. ทำน้ำกะทิมูนข้าวเหนียวของว่างไทยง่ายๆโดยใส่กะทิ เกลือป่น น้ำตาลทราย และใบเตยเพิ่มความหอม 1 กำผสมให้เข้ากัน จากนั้นน้ำไปตั้งไฟค่อย ๆ เคี่ยวให้เริ่มมีความร้อนแต่ไม่ต้องให้เดือด ยกลงพักให้หายร้อนจัด
  6. นำข้าวเหนียวที่ยังมีความร้อนอยู่มาผสมกับน้ำกะทิมูนข้าวเหนียวที่ยังมีความร้อนอยู่ ใช้ไม้พายคลุกเคล้าให้น้ำกะทิซึมเข้าข้าวเหนียว ใช้เวลาคน 20 นาที จากนั้นปิดฝาพักไว้ 10 นาที
  7. เมื่อพักข้าวเหนียวครบ 10 นาทีแล้ว ให้ใช้ไม้พายคนข้าวเหนียวอีกครั้งให้ทั่ว จากนั้นพักข้าวเหนียว ปิดฝาไว้อีก 10 นาที เป็นอันเสร็จขั้นตอนการมูนขนมไทยข้าวเหนียวน้ำกะทิ
  8. มาถึงการทำน้ำกะทิราดหน้าข้าวเหนียวมูน เริ่มจากการผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย เกลือป่น จากนั้นนำมาละลายนน้ำกะทิ แล้วนำไปตั้งไฟในระดับอ่อนไม่ถึงขั้นเดือดจัด จากนั้นยกลงจากเตาพักไว้
  9. ทำการปอกมะม่วง ก่อนที่จะใส่มะม่วงบนข้าวเหนียว ให้ใช้น้ำสะอาดแช่เกลือราดบนผิวมะม่วง
  10. เสิร์ฟข้าวเหนียวมูนน้ำกะทิ พร้อมมะม่วงสุกหั่น แล้วราดน้ำกะทิ เพียงแค่นี้ก็ได้รับประทานขนมหวานแสนอร่อยฉ่ำใจ
ขอบคุณภาพจาก pixabay

เคล็ดลับในการทำเมนูข้าวเหนียวมูนน้ำกะทิมะม่วง

  1. ในการปรุงรสชาติน้ำกะทิสำหรับเมนูของว่างไทยง่ายๆมูนข้าวเหนียวควรเน้นรสเค็มกว่าปกติเล็กน้อย เพราะเมื่อนำน้ำกะทิมามูนกับข้าวเหนียวนึ่งนั้นจะทำให้ได้ข้าวเหนียวมูนที่รสชาติพอดี
  2. ใช้สารส้มในการล้างข้าวเหนียวเขี้ยวงูเพื่อให้เม็ดข้าวเหนียวสวยงาม เรียงตัวน่ารับประทาน
  3. ใส่ใบเตยลงในขั้นตอนการเคี่ยวน้ำกะทิมูนข้าวเหนียวเพื่อเพิ่มความหอมละมุนให้กับน้ำกะทิ
  4. ผสมเกลือป่นลงในน้ำสะอาดจนละลาย จากนั้นนำมาราดบนผิวมะม่วงที่ปอกแล้วจะทำให้มะม่วงไม่ดำคล้ำ
  5. การปอกมะม่วงควรปอกจากซ้ายไปขวาแล้วตลบเปลือกขึ้นจึงค่อยย้ายฝั่งไปปอกอีกด้านหนึ่ง การปอกวิธีนี้จะทำให้มะม่วงไม่ช้ำ

ไอเดียต่อยอดการนำความรู้เมนูข้าวเหนียวมูนน้ำกะทิมะม่วง

  1. เมื่อฝึกทำเก่งแล้วสามารถทำข้าวเหนียวมูนน้ำกะทิมะม่วงสูตรเด็ดจำหน่ายสร้างรายได้
  2. พัฒนาสูตรขึ้นมา ทำหลักสูตรการสอนทั้งออนไลน์ และออฟไลน์
Categories
เบเกอรี่

บราวนี่ช็อกโกแลตเข้มหนึบ สาวกช็อกโกแลตห้ามพลาด

บราวนี่เป็นขนมที่จัดว่าคนไทยให้ความนิยมรับประทานกันมากโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น บราวนี่มีส่วนผสมหลักเป็นช็อกโกแลต ใช้วัตถุดิบในการทำเพียงไม่มีอย่าง สามารถทำได้เพียงไม่กี่ขั้นตอน เป็นขนมที่มีรสชาติเข้มข้นเน้นรสชาติของช็อกโกแลต หวานกำลังดี

เป็นขนมที่สามารถรับประทานได้ทุกโอกาส และสามารถให้เป็นของขวัญวันสำคัญ เป็นของที่ระลึก และสามารถหาซื้อได้ง่ายมากโดยเฉพาะในโลกของออนไลน์ เพราะมีคนทำบราวนี่ขายกันเยอะมาก เรียกว่าบางคนทำขายกันแบบจริงจังเลยก็มี

บราวนี่นั้นมีมากมายหลายสูตร และลักษณะของเนื้อแป้งบราวนี่นั้นก็มีหลายแบบ แต่ละแบบก็จะใส่ปริมาณวัตถุดิบที่ต่างกัน วิธีการทำต่างกัน อาทิ บราวนี่แบบเนื้อแป้งแห้งสำหรับคนที่ชอบเนื้อแป้งบราวนี่แบบแห้งร่วนไม่ชอบหนึบ การทำก็จะใส่เป้งสาลีเยอะ ช็อกโกแลตไม่เยอะ จะเน้นรสชาติของแป้ง และวัตถุดิบอื่นมากกว่า

ขอบคุณภาพจาก unsplash

บราวนี่แบบเนื้อหนึบเหนียว เนื้อบราวนี่ไม่แห้งร่วน แต่ก็ไม่ถึงกับเนื้อฉ่ำ วัตถุดิบที่เพิ่มเข้ามาเพื่อเพิ่มความหนึบนุ่มได้แก้น้ำมันรำข้าว หรือน้ำมันมะพร้าว และเพิ่มปริมาณของช็อกโกแลตเพื่อให้เข้าถึงสัมผัสของช็อกโกแลตมากขึ้น และดูเหมือนว่ากระแสของความนิยมการรับประทานบราวนี่เนื้อหนึบหน้าฟิล์มนั้นมาแรงมาก ทางเว็บไซต์ mykitchencook จึงรวบรวมการทำเมนูบราวนี่เนื้อหนึบหน้าฟิล์มมาให้คนที่สนใจ ศึกษาเรียนรู้การทำ และนำไปพัฒนาต่อยอดสร้างงาน สร้างอาชีพ รวมถึงทำให้คนที่เรารักรับประทานได้

วัตถุดิบ วิธีขั้นตอน เคล็ดลับในการทำบราวนี่เนื้อหนึบหน้าฟิล์ม

  • ไข่ไก่ 2 ฟอง (เบอร์ 1 )
  • น้ำตาลทรายเนื้อละเอียด 125 กรัม
  • แป้งสาลี 80 กรัม
  • ช็อกโกแลตสำเร็จรูปคอมพาวด์ 50 กรัม
  • ช็อกโกแลตแบบ 70 % 40 กรัม
  • น้ำมันรำข้าว / น้ำมันมะพร้าวแบบทำอาหาร 70 กรัม
  • ผงโกโก้ 40 กรัม
  • ผงฟู 1 ช้อนชา

ขั้นตอน วิธีการทำขนมบราวนี่เนื้อหนึบหน้าฟิล์ม

  1. ใส่ไข่ไก่ และน้ำตาลทรายละเอียดลงในภาชนะ จากนั้นใช้อุปกรณ์ตีไข่ค่อย ๆ ตีจนส่วนผสมเข้ากัน ขั้นตอนนี้สำคัญกับการทำขนมบราวนี่มาก
  2. ใช้กะละมังใบใหญ่ตั้งน้ำร้อน แล้วนำภาชนะที่ผสมไข่น้ำตาลเสร็จแล้วลงไปอังความร้อนจากน้ำร้อนในขณะเดียวกันก็คนให้น้ำตาลละลาย เมื่อน้ำตาลละลายก็นำมาตั้งพักไว้
  3. ใส่ช็อกโกแลตคอมพาวด์ ช็อกโกแลต 70 % และนำมันรำข้าวลงในภาชนะเดียวกัน จากนั้นนำไปอังความร้อนจากภาชนะที่ใส่น้ำร้อนไว้ คนจนช็อกโกแลตละลายเหลว
  4. จากนั้นร่อนแป้งสาลี ผงฟู กับผงโกโก้ด้วยตะแกรงลงไปจนหมด แล้วก็คนส่วนผสมทุกอย่างให้เป็นเนื้อเดียวกัน ยกลงจากเตามาพักไว้จนหายร้อน
  5. เมื่อส่วนของช็อกโกแลตหายร้อนแล้ว ให้ทำการเทลงไปรวมกับส่วนของไข่และน้ำตาลที่ผสมไว้แล้ว จากนั้นผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน จะมีลักษณะข้นเหนียวหนืด
ขอบคุณภาพจากpixabay
  1. เตรียมถาดขาดเล็ก 1 ใบ โดยทำการรองกระดาษไขแล้วทานั้นที่กระดาษไขให้มีความมันเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เนื้อบราวนี่ติดก้นถาด
  2. เทส่วนผสมของแป้งบราวนี่ทั้งหมดลงไปในถาดแล้วเขย่าถาดเล็กน้อยให้ส่วนผสมเสมอเท่ากัน
  3. ก่อนอบต้องวอร์มไฟตู้อบก่อน 10 – 15 นาที จากนั้นใส่ถาดบราวนี่เข้าไปอบใช้ไฟ 170 องศาเซลเซียส อบนาน 30 นาที
  4. เมื่ออบครบ 30 นาทีใช้ไม่จิ้มลงไปในเนื้อบราวนี่ ถ้าไม่มีเศษแป้งติดขึ้นมาแสดงว่าเนื้อบราวนี่ข้างในสุกได้ที่แล้ว แต่ถ้าใช้ไม้จิ้มแล้วเนื้อแป้งข้างในติดไม้มา ต้องอบต่ออีก 10 – 15 นาที จึงจะสุก
  5. จากนั้นเมื่อสุกนำมาตั้งพักไว้ให้หายร้อนจัด
  6. สำหรับการทำบราวนี่ขายใช้มีดสำหรับตัดขนมตัดขนมเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสในมุมเท่ากัน ในขั้นตอนนี้ถ้าใช้มีดไม่คม บราวนี่จะเป็นขุยไม่เรียบสวย
  7. เสิร์ฟบราวนี่เนื้อหนึบหน้าฟิล์มรับประทานคู่กับชาอุ่นสักแก้วอร่อยเข้ากันมาก
ขอบคุณภาพจากpixabay

เคล็ดลับในการทำขนมบราวนี่ให้หนึบดังใจ และมีหน้าฟิล์มสวยไม่แตก

ใส่น้ำมันรำข้าวหรือน้ำมันมะพร้าว รวมถึงเพิ่มปริมาณช็อกโกแลตแบบ70% เข้าไปในส่วนผสมจะทำให้เนื้อบราวนี่ไม่แห้งร่วน หนึบหนับ และมีรสชาติเข้มข้นช็อกโกแลต

หน้าฟิล์มของบราวนี่จะสวยหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับขั้นตอนของการผสมไข่ไก่กับน้ำตาล ถ้าน้ำตาลละลายได้หมดในเวลาอันรวดเร็วจะทำให้หน้าฟิล์มที่ได้สวยเนียนแตกแห้ง

ไอเดียนำความรู้วิธีการทำบราวนี่เนื้อหนึบหน้าฟิล์มพัฒนาต่อยอด ฝึกทำบราวนี่จนชำนาญ เพิ่มความคิดสร้างสรรค์สามารถทำบราวนี่ขายสร้างรายได้พัฒนาสูตรหลาย ๆ แบบเปิดหลักสูตรสอนออนไลน์

Categories
อาหารนานาชาติ

เมนูอาหารซุปกิมจิ เมนูยอดฮิตที่สาวกเกาหลีพลาดไม่ได้

อาหารเกาหลีนั้น เป็นอาหารประจำชาติของประเทศเกาหลี เมื่อเรานึกถึงประเทศเกาหลี เมนูภาพจำที่ผุดขึ้นมาโดยที่เราไม่ต้องคิดเลยนั่นก็คือเมนูผักดองกิมจิ เป็นการถนอมอาหารรูปแบบหนึ่งของอาหารเกาหลี สามารถเก็บกิมจินี้ไว้รับประทานได้นานแรมเดือน
อีกทั้งยังสามารถนำผัดกิมจินี้ไปทำเมนูอาหารต่าง ๆ ได้มากมายหลายสิบเมนู และเมนูที่คนนิยมนำกิมจิไปทำมากเมนูหนึ่งเลยนั่นก็คือเมนูซุปกิมจิ เว็บไซต์ mykitchencook ได้รวบรวมข้อมูลตั้งแต่วิธีการดองผักกิมจิ ไปจนถึงขั้นตอนการทำซุปกิมจิ เพื่อเป็นประโยชน์กับคนที่สนใจเรียนรู้ในการทำอาหารเกาหลี

ขอบคุณภาพจาก pixabay

วัตถุดิบ และขั้นตอนในการทำผักดองกิมจิเมนู อาหารแบบเกาหลีต้นตำรับ

วัตถุดิบสำหรับการดองผักกิมจิ

ผักกิมจินั้นเมื่อดองเสร็จเรียบร้อย 3 – 4 วันก็จะสามารถนำไปทำเป็นเมนูอาหารซุปกิมจิได้

  1. ผักกาดขาว 1 หัว
  2. เกลือป่น 2 – 3ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำสะอาด 300 มล.
  4. แป้งข้าวเหนียว 1 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  6. หัวหอมใหญ่ 3/4 ถ้วยตวง
  7. กระเทียมกลีบใหญ่ 3/4 ถ้วยตวง
  8. แครอทหั่น 1/2 หัว
  9. หัวไชเท้าหั่น 1 หัว
  10. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  11. ต้นหอมหั่นยาว 1 ถ้วยตวง
  12. พริกเกาหลีป่น 1.5 ถ้วยตวง
  13. ขิงหั่น 1ช้อนโต๊ะ
  14. เนื้อปลาหมึกสดสับละเอียด 1/2 ถ้วยตวง (สามารถใช้กุ้งฝอยแทนได้) เมื่อนำกิมจิไปทำเมนูอาหารต้มจะให้รสชาติของความเป็นทะเล อาหารทะเล

ขั้นตอนในการดองผักกิมจิ

  1. ล้างทำความสะอาดผักกาดขาวให้สะอาด ไม่มีสิ่งสกปรก ฝุ่น (เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากของเมนูอาหารชนิดนี้)
  2. ใช้มีดหั่นโคนออกเล็กน้อยอย่าให้ใบผักกาดขาวหลุดจากขั้ว
  3. ใช้มีดผ่าตรงเฉพาะส่วนโคนให้เป็นแนวทะแยกมุม 2 แฉก แล้วค่อย ๆ ฉีกผักกาดขาวออกตามแนวมีด เพราะจะทำให้เครื่องต่าง ๆ ที่ใช้ในการดองซึมเข้าเนื้อผักง่ายกว่าการใช้มีดตัด
  4. จากนั้นนำเกลือป่นมาทาทุกส่วนของผักกาดขาว จากนั้นทำการพลิกบนพลิกล่างทุก 40 นาที เป็นเวลา 4 ครั้ง จากนั้นนำมาล้างน้ำสะอาด 3 – 4 ครั้งเพื่อเอาความเค็มออกให้ได้สัก 70 เปอร์เซ็น ขั้นตอนนี้สำคัญมาก ถ้าผักมีความเค็มมากเมื่อนำกิมจิไปทำเมนูอาหารต้ม ซุปกิมจิจะรสชาติขมไม่อร่อย)
  5. วีธีการทำน้ำดองผัก น้ำภาชนะตั้งไฟเปิดไฟอ่อน ใส่แป้งข้าวเหนียว น้ำตาลทราย จนส่วนผสมทุกอย่างละลายเข้ากัน ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบางหรือตะแกรงอีก 1 ครั้ง
  6. จากนั้นน้ำปลาหมึกสดมาบดรวมกับหัวหอมใหญ่ซอย ขิงหั่น กระเทียม บดจนละเอียด
  7. จากนั้นนำน้ำแป้งข้าวเหนียวที่กรองเสร็จแล้ว มาผสมกับส่วนผสมของวัตถุดิบที่นำมาบด คลุกเคล้าให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกันตั้งพักไว้
  8. ใส่ผักกาดขาวที่ล้างเอาความเค็มออกเเล้วมาใส่ในน้ำดองที่เตรียมไว้ ใส่แครอท หัวไชเท้า หอมใหญ่หั่นลงไป เติมสีสัน เพิ่มความเผ็ดให้เมนูอาหารนี้ด้วยการใส่พริกเกาหลี ตามด้วยน้ำปลา
  9. ใช้ช้อน หรือใส่ถุงมือคลุกเคล้าส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน จากนั้นตกใส่กล่อง นำไปแช่ไว้ในตู้เย็น ก่อนที่จะนำผักดองมาทำซุปกิมจิ ต้องดองอย่างน้อย 3 – 4 วัน
ขอบคุณภาพจาก pixabay

วัตถุดิบ การทำเมนูซุปกิมจิ

  1. น้ำ และเนื้อกิมจิ 400 กรัม
  2. น้ำซุปกระดูกหมู 400 กรัม
  3. กระดูกหมู 4 ชิ้น
  4. เต้าหู้ขาวหั่น 1 แผ่น
  5. ซีอิ้วขาว 2 ช้อนชา
  6. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  7. เกลือป่น 2 ช้อนชา
  8. ต้นหอมหั่น 1 ถ้วยตวง
  9. หอมใหญ่หั่น 2 หัว
  10. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  11. ต้นหอมแต่งหน้า

ขั้นตอนการทำซุปกิมจิ

  1. ซุปกิมจิ เป็นเมนูที่นำผักดองกิมจิมาทำเป็นเมนูอาหารต้ม ตั้งกระทะ ใช้ระดับไฟปานกลาง จากนั้นใสน้ำซุปกระดูกหมู กระดูกหมู น้ำเนื้อกิมจิ ซีอิ้วขาว เกลือป่น หอมใหญ่หั่น ต้นหอมหั่น ตั้งไฟจนเดือด จากนั้นใส่เต้าหู้ขาวลงไป
  2. ใส่เป็นไข่ที่ต้มสุกแล้วก็ได้ หรือจะตอกไข่ดิบใส่เลยก็ได้ แม้แต่ใส่ตอนหลังจากยกหม้อลงจากเตาแล้วก็สามารถทำได้เช่นกัน แล้วแต่ความชอบ
  3. จากนั้นโรยหน้าซุปกิมจิด้วยผักชี
ขอบคุณภาพจาก pixabay

เคล็ดลับในการทำซุปกิมจิให้อร่อยน่ารับประทาน

หัวใจของการทำซุปกิมจิให้น่ารับประทานนั้น อยู่ที่ขั้นตอนของการดองผักกิมจิ การดองผักนั้นไม่ควรดองให้มีรสชาติเค็มจนเกินไป ดังนั้นในขั้นตอนของการล้างน้ำเกลือจากผักกาดขาวออก จึงเป็นขั้นตอนที่ต้องล้างน้ำเกลือออกจนเกือบไม่เหลือความเค็มของผักกาดขาวเลย
เมื่อล้างน้ำเป็นครั้งที่ 3 ควรชิมผักกาดให้มีความเค็มติดปลายลิ้นนิดหน่อย ถ้าชิมแล้วยังมีความเค็มให้ล้างน้ำจนกว่าจะเหลือความเค็มแค่ปลายลิ้นเท่านั้น