Categories
เบเกอรี่

เบเกอรี่ เมนูอาหารเช้ายอดนิยมของคนไทย

https://mykitchencook.com/wp-content/uploads/2021/07/เบเกอรี่-เมนูอาหารเช้ายอดนิยมของคนไทย.jpg

ในแต่ละประเทศการรับประทานอาหารเช้านั้นมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในประเทศแถบตะวันตกจะไม่รับประทานมื้อเช้าหนัก จะดื่มแค่กาแฟ น้ำส้ม น้ำผลไม้ และตามด้วยขนมปัง หรือขนมแพนเค้กนิดหน่อย ส่วนในประเทศแถบเอเชียอาจจะรับประทานคล้าย ๆ กันบ้าง แต่ก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร 

โดยเฉพาะประเทศไทย เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางด้านอาหารมาก มีอาหารเช้ามากมายหลายแบบให้เลือกรับประทานตามใจชอบ ทั้งอาหารแบบ อาทิน้ำเต้าหู้ โจ๊ก กาแฟ ขนมเบเกอรี่ต่าง ๆ สามารถรับประทานอาหารแบบหนัก ๆ ได้เลยในตอนเช้า อาทิ ข้าวราดแกง ข้าวมันไก่ ผัดต่าง ๆ และอาหารที่นิยมรับประทานมากในตอนเช้านั่นก็คือขนมจำพวกตระกูลเบเกอรี่

อาหารเช้าประเภทเบเกอรี่ที่ขายดีสุด ๆ ในประเทศไทย 

สำหรับคนไทยการรับประทานอาหารเช้านั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ส่วนใหญ่ไม่นิยมรับประทานสไตล์อาหารเช้า อังกฤษ ที่รับประทานอาหารในปริมาณเล็กน้อยในตอนเช้า แต่เนื่องด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนไทยในปัจจุบันนั้นเร่งรีบทำแต่งาน การทำอาหารรับประทานเองในครอบครัวนั้นจึงมีให้เห็นได้น้อยมาก ส่วนใหญ่จะหาซื้อนอกบ้าน ธุรกิจของคนที่ทำอาหารขายในช่วงเช้าจึงคึกคักจึงได้รับการตอบรับจากลูกค้ามาก ในช่วงเช้าจะมีอาหารทุกประเภทจำหน่าย ใครอยากรับประทานก็หาซื้อได้เลย ใครรักสุขภาพก็มี อาหารเช้า healthy ให้เลือกตามต้องการ 

และเอาหารประเภทที่ขายดีสุด ๆ ยอดไม่เคยตกนั่นก็คือกาแฟ กับร้านเบเกอรี่ แซนวิช โดยเฉพาะร้านขนมปังไส้ต่าง ๆ โดนัท เพราะเป็นอาหารเช้าที่รับประทานง่าย พกพาสะดวก ไม่หนักท้องจนเกินไป และสามารถรับประทานคู่กับเครื่องดื่มกาแฟ เราจึงพบเห็นร้านเบเกอรี่มากมายเปิดจำหน่ายขนมเบเกอรี่ให้ลูกค้าที่ชื่นชมได้เลือกซื้อรับประทานกันอย่างเต็มที่

โดนัท เบเกอรี่แสนอร่อย เมนูอาหารเช้าสุดฮอตที่หาซื้อง่ายที่สุด 

โดนัทเป็นขนมเบเกอรี่ชนิดหนึ่งที่ไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศไทย แต่คนไทยนั้นนิยมรับประทานมากกว่าขนมไทยเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะช่วงเช้าขนมโดนัทจะเป็นขนมที่หารับประทานได้ง่ายมาก คนส่วนใหญ่นิยมรับประทานเป็นอาหารเช้ามีให้ซื้อทุกที่ ทั้งตลาดนัด ร้านเบเกอรี่ ร้านกาแฟ และที่ง่ายมากเลยคือสี่แยกไฟแดงจะมีคนเดินขายโดนัทบริการถึงรถ เพียงแค่ลดกระจก จ่ายเงิน ในช่วงเวลาเร่งด่วนก็สามารถมีโดนัทรับประทานรองท้องได้แล้ว อีกทั้งรถชาติยังอร่อยนุ่มละมุนเรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์อาหารเช้าแบบไทยไปแล้ว ในอดีตโดนัทที่มีบริการถึงรถนี้ยังไม่แพร่หลาย ส่วนใหญ่จะมีในจังหวัดกรุงเทพฯ แต่ในปัจจุบันมีการขายโดนัทแบบนี้ทั่วทั้งประเทศไทยแล้ว เรียกได้ว่าโดนัทนั้นเป็นอาหารเช้า ง่ายๆ ประหยัด หมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเร่งรีบของคนไทยมากค่ะ

Categories
เบเกอรี่

โดนัทเมนูอาหารว่างง่ายๆ วิธีทำให้อร่อยนั้นไม่ง่ายเลย

ขนมโดนัทจัดว่าเป็นขนมเบเกอรี่อีกชนิดหนึ่งที่คนไทยนิยมรับประทานกันมาก โดยเฉพาะในวัยผู้ใหญ่จะนิยมรับประทานมากกว่าเด็ก นิยมกันขนาดไหนหลายคนคงมองภาพไม่ค่อยออก นิยมถึงขนาดที่ว่าสามารถหาโดนัทรับประทานได้เกือบทุกที่ในประเทศไทย มีทั้งโดนัทสัญชาติต่างประเทศ และทั้งโดนัทสัญชาติไทย ไปห้างสรรพสินค้าก็มีโดนัทให้เลือกมากมายหลายแบรนด์ ขับรถติดไฟแดงก็มีโดนัทขาย ไปตลาดนัดก็สามารถหารับประทานได้ ส่วนใหญ่จะนิยมรับประทานเป็นเมนูอาหารว่างง่ายๆ คู่กับกาแฟ และเครื่องดื่ม

โดนัทประเภทต่าง ๆ ที่คนไทยนิยมรับประทานเป็นเมนูอาหารว่างง่ายๆ

ขนมเบเกอรี่โดนัทนั้น เมนูอาหารว่างง่าย ๆ แสนอร่อย ขนมที่มีต้นกำเนิดมาจากแถบประเทศตะวันตก ขนมโดนัทแบ่ง ออกเป็นยิบย่อยมากมายหลายประเภท ส่วนในประเทศไทยจะมีโดนัทหลัก ๆ อยู่ 2 ประเภทคือโดนัทเค้ก และโดนัทยีสต์ ซึ่งโดนัททั้ง 2 แบบนี้ แม่ค้าจำนวนไม่น้อยยึดทำขายเป็นอาชีพ โดยขายนเป็นอาหารว่าง ทำขาย ง่ายๆ เพราะคนไทยนิยมรับประทาน ทำขายแล้วได้กำไรเยอะ 

บางร้านขายเฉพาะโดนัทเค้ก แต่บางร้านขายเฉพาะโดนัทยีสต์ น้อยมากที่จะเห็นร้านที่เปิดขายโดนัททั้ง 2 แบบ เพราะโดนัททั้ง 2 แบบนี้มีวิธีการทำ และอุปกรณ์ในการทำที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งโดนัทเค้ก และโดนัทยีสต์วิธีการทำให้อร่อยนั้นยากพอ ๆ กัน แต่เป็นความยากคนละแบบ เรียกได้ว่าเป็นอาหารว่างทำเงิน ที่มีวิธีการทำให้ออกมาอร่อยนั้นไม่หมูเลยทีเดียว 

ความยากในการทำโดนัทยีสต์ และโดนัทเค้กให้ออกมาอร่อยมัดใจสาวกสายเบเกอรี่

โดนัท เมนูอาหารว่างง่ายๆ หลายคนรับประทานแล้วติดอกติดใจในความนุ่ม ความหอมมันของรสชาติ และโดนัทไม่ใช่อาหารแปลกใหม่ ทำง่ายแนวฟิวชั่นที่ไม่ต้องอาศัยเทคนิคความรู้ความชำนาญอะไร แต่โดนัทนั้นขึ้นชื่อได้เลยว่าเป็นเมนูอาหารว่างไทยเมนูหนึ่งที่ทำยากมาก 

โดนัทยีสต์ความยากนั้นมีอยู่ทุกขั้นตอน และขั้นตอนที่ยากที่สุดคือขั้นตอนในการขึ้นโดว์ของแป้งโดนัทก่อนทอด เพราะขั้นตอนนี้มีปัจจัยในเรื่องอุณหภูมิอากาศที่ไม่มีความเสถียรในแต่ละวัน บางวันอุณภูมิต่ำมีผลต่อการขึ้นทรงเป็นโดว์ของแป้ง เมื่อแป้งไม่เป็นโดว์ตามมาตรฐาน ก็ไม่สามารถนำมาลงทอดได้ ถึงจะฝืนนำลงทอดก็จะได้โดนัทที่แข็งเหมือนก้อนหิน บางวันอุณหภูมิสูงแป้งโดนัทขึ้นทรงเป็นโดว์เร็วจนทำให้ทอดไม่ทัน ทำให้โดนัทที่ได้นั้นแบนราบไม่เป็นรูปทรงโดนัท 

ส่วนโดนัทเค้กนั้นจะไม่ต้องลุ้นโดว์แป้ง เพราะมีวิธีการทำแบบผสมแป้งแล้วใส่แป้งโดนัทลงพิมพ์เลย แต่ความยากนั้นจะอยู่ที่การผสมแป้ง และขั้นตอนการใช้เครื่องมือบีบแป้งโดนัทลงกระทะน้ำมันร้อน ๆ ขั้นตอนนี้ต้องอาศัยทั้งทักษะการผสมแป้งที่พอดี และความชำนาญในการใช้แม่พิมพ์หยอดแป้ง ดูเหมือนทำง่าย แต่ถ้าทำแบบไม่มีความชำนาญโดนัทเค้กจะมีรูปทรงไม่สวย และไม่น่ารับประทาน

Categories
เบเกอรี่

ขนมปังเนยสด สอนทำเมนูเบเกอรี่ยอดฮิตของคนไทย

https://mykitchencook.com/wp-content/uploads/2021/06/ขนมปังเนยสด-สอนทำเมนูเบเกอรี่ยอดฮิตของคนไทย.jpg

คนไทยสว่นใหญ่ชื่นชอบรับประทานขนมหวาน โดยเฉพาะขนมประเภทเบเกอรี่ ถึงแม้ว่าไม่ใช่ขนมประจำชาติ แต่ก็เป็นขนมฮอตฮิตติดลมบนของคนไทย ความชอบมีมากขนาดไหนสังเกตุได้จากมีร้านเบเกอรี่มากมายทั่วประเทศไทยทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด 

เมนูขนมปังเนยสดก็เป็นเมนูที่คนนิยมรับประทานกันมากเมนูหนึ่งเลยทีเดียว อาจจะเป็นเพราะว่ารับประทานง่าย อิ่มอยู่ท้อง รสชาติของกลิ่นเนย นม ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนใจ อีกทั้งยังสามารถรับประทานได้ทุกมื้อ ทำให้คนไทยทุกเพศทุกวัยนั้นชอบรับประทานขนมนี้มาอย่างยาวนาน

สามารถหาซื้อได้ที่ร้านเบเกอรี่ และร้านกาแฟ เครื่องดื่ม หรือถ้าอยากรับประทานแบบสดใหม่จากเตาอบ ก็สามารถที่จะทำรับประทานเองได้เลยไม่ยาก หรือแม้กระทั่งต่อยอดทำขายก็เป็นอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียว 

เว็บไซต์ mykitchencook จึงได้รวบรวมข้อมูลการสอนทำขนมปังเนยสดไว้เพื่อเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจหาข้อมูล ศึกษาเรียนรู้การทำขนมปังเนยสดไว้ดังนี้

วัตถุดิบ ส่วนผสมเมนูขนมปังเนยสด 

  • แป้งขนมปัง 450 กรัม
  • แป้งสาลี (แป้งอเนกประสงค์) 50 กรัม
  • เนยสด 50 กรัม
  • นมสด 240 มล.
  • ยีสต์แห้ง 1 ช้อนโต๊ะ 
  • เกลือป่น 0.5 ช้อนชา 
  • นมข้นหวาน 60 กรัม 
  • น้ำตาลทราย 90 กรัม 
  • งาขาว 1 ช้อนโต๊ะ (ปริมาณตามความชอบ)

ขั้นตอน เคล็ดลับ ไอเดียต่อยอดในการทำขนมปังเนยสด 

(ผู้ศึกษาทำตามทุกขั้นตอน จะเข้าใจ และได้คำตอบว่าอะไรทำให้แป้งนุ่ม)

  1. เทแป้งขนมปัง แป้งสาลี น้ำตาลทราย ยีสแห้ง เกลือป่น รวมในภชนะเดียวกัน 
  2. จากนั้นใช้ตะแกรงสำหรับร่อนแป้ง ร่อนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
  3. เทส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อนวดแป้ง จากนั้นใส่นมข้นหวาน นมสด เนยสด ตามลงไป 
  4. นวดส่วนผสมทั้งหมดโดยใช้ใบพัดชนิดใบไม้ ปรับระดับความแรงของเครื่องนวดที่เบอร์ 2 นวดเป็นเวลา 20 นาที 
  5. เมื่อนวดแป้งขนมปังได้จับตัวกันเป็นก้อนเหนียวแล้ว ให้ตักก้อนแป้งขึ้นมานวดนิดหน่อยให้เป็นทรงกลม จากนั้นนำก้อนแป้งไปพัก 1 ชั่วโมง โดยใช้ผ้าขาวบางคลุมไว้ 
  6. เมื่อพักแป้งครบ 1 ชั่วโมง จากนั้นนำมาตัดด้วยอุปกรณ์สำหรับตัดขนมปัง แบ่งเป็นก้อน ก้อนละ 40 – 50 กรัม
  1. ใช้มือคลึงแป้งที่ตัดเรียบร้อยแล้วทีละก้อนเป็นรูปทรงกลม จากนั้นเรียงใส่ถาดให้เป็นระเบียบ พักแป้งไว้อีกประมาณ 1 ชั่วโมง
  1. เมื่อพักแป้งไปแล้ว 1 ชั่วโมงให้เอาก้อนแป้งออกมารีดอากาศออกทีละก้อนโดยไม้รีดแป้ง เมื่อรีดเสร็จก็ใช้มือคลึงแป้งให้กลม แล้วนำไปพักต่อในถาด สามารถเรียงให้ก้อนแป้งขนมปังติดกันได้ 
  2. ก่อนวางขนมปังรอบสุดท้ายนี้ ให้ใช้แปรงทาเนยสดบาง ๆ แล้วทาลงในถาดเพื่อป้องกันแป้งเหนียวติดถาด
  3. พักแป้งไว้ต่ออีก 30 นาที ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาน้อยหรือมากขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ถ้าอากาศเย็น หรือฤดูหนาวเวลาพักแป้งนานกว่า 30 นาที แต่ถ้าเป็นช่วงอากาศปกติ หรือฤดูร้อนเวลาพักแป้งก็จะอยู่ไม่เกิน 30 นาที หรือระหว่างพักแป้งให้คอยหมั่นสังเกตถ้าแป้งขยายตัว แป้งเป็นโดสวยงามก็เตรียมนำมาอบได้ 
  4. ก่อนอบ นำเนยสดละลายความร้อนให้เหลวนิดหน่อย ผสมงาขาวลงไปในเนยเหลว จากนั้นใช้แปรงจุ่มเนยสดงาขาวทาบนขนมปัง แล้วนำเข้าตู้อบ 
  5. ก่อนนำขนมปังอบ ให้ทำการวอร์มตู้อบไว้ก่อน 10 นาที แล้วนำถาดขนมปังวางชั้นล่างสุดที่อยู่ติดกับไฟล่าง ปรับระดับการใช้งานตู้อบ โดยเปิดทั้งไฟบน – ไฟล่าง เปิดพัดลมตู้อบด้วย อบด้วยอุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส นาน 15 – 20 นาที 
  6. พักขนมปังไว้ในอุณหภูมิปกติจนหายร้อนจัด เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยได้ขนมปังเนยสดหอมอร่อยสดใหม่ไว้รับประทานกันแล้ว

บอกเคล็ดลับอะไรทำให้แป้งนุ่ม

เคล็ดลับง่าย ๆ ที่ช่วยให้แป้งนุ่มนั่นก็คือการร่อนแป้งขนมปัง และแป้งสาลีก่อนที่จะนำแป้งเข้าหม้อนวด การร่อนแป้งนั้นทำให้เพิ่มช่องอากาศในมากมากขึ้นทำให้ขนมปังเนยสดที่ได้นุ่มดุจปุยนุ่นเลย 

ไอเดียการต่อยอดจากการเรียนรู้ทำเมนูขนมปังเนยสด 

สามารถนำความรู้นี้ไปประกอบเป็นอาชีพสร้างรายได้ เปิดร้านขายเบเกอรี่ และพัฒนาต่อยอดเพิ่มลูกเล่น เพิ่มไส้ เพิ่มความน่าสนใจ สร้างความแตกต่างให้เมนูขนมปังเนยสดได้ 

Categories
เบเกอรี่

คุกกี้เนยสด ขนมเบเกอรี่หอมอร่อย ทำก็ง่าย ทำขายก็รวย

คุกกี้เนยสด ขนมเบเกอรี่หอมอร่อย ทำก็ง่าย ทำขายก็รวย

คุกกี้เป็นขนมที่อยู่คู่คนไทยมานาน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปีนั้นเป็นขนมยอดฮิตที่ทุกคนนิยมซื้อไปฝากคนที่รัก รสชาติอร่อย หอมกลิ่นเนย นม รับประทานคู่กับเครื่องดื่มชารสชาติต่าง ๆ เข้ากันมาก หรือจะรับประทานกับกาแฟตอนเช้าก็ได้รสชาติไปอีกแบบ 

คนไทยนิยมรับประทานเป็นอาหารทานเล่น ช่วงเวลาพักผ่อน คุกกี้อยู่คู่กับคนไทยมายาวนานตั้งแต่อดีต ยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน ความนิยมในการรับประทานคุกกี้นั้นยิ่งมีมากกว่าเดิม จะแตกต่างจากสมัยก่อนก็คือมีลูกเล่นมากกว่า คุกกี้ถูกใส่เดีย ใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไปมากมาย ทำให้ทุกวันนี้เราเห็นคุกกี้ในรูปแบบแปลกใหม่ทำให้เพิ่มมูลค่าให้คุกกี้ได้มากเลยทีเดียว 

นอกเหนือจากความอร่อยแล้ว ขนมคุกกี้นั้นยังทำง่ายใช้วัตถุดิบไม่กี่อย่าง อีกทั้งยังสามารถทำเป็นอาชีพสร้างรายได้เป็นที่น่าพอใจเลยทีเดียว สำหรับคนที่สนใจเรียนรู้การทำคุกกี้ เว็บไซต์ mykitchencook ได้รวบรวมทุกขั้นตอนการทำคุกกี้เนยสดไว้ เพื่อเป็นข้อมูลความรู้ในคนที่สนใจทำขนม และต่อยอดสร้างอาชีพในยุคที่เศรษฐกิจย่ำแย่แบบนี้

วัตถุดิบในการทำเมนูคุกกี้เนยสด

  • เนยสด 100 กรัม (เนยต้องยังมีรูปทรง ไม่เหลว)
  • น้ำตาลทรายเม็ดละเอียด 20 กรัม 
  • แป้งเค้ก 100 กรัม
  • แป้งสาลี 20 กรัม
  • แป้งข้าวโพด 30 กรัม 
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง (เบอร์ 2)
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา (เพิ่มกลิ่นหอมให้คุกกี้)
  • ผงฟู 1/2 ช้อนชา 
  • เกลือ 1 ช้อนชา 
  • ช็อกโกแลตชิป ( 2 – 3 ช้อนต๊ะ ) 

หมายเหตุ : สามารถเพิ่มวัตถุดิบได้ตามต้องการ อาทิเพิ่มช็อกลูกเกดเพื่อทำคุกกี้ลูกเกด เพิ่มธัญพืช เพื่อทำเป็นคุกกี้ธัญพืช

ขั้นตอน และวิธีการทำคุกกี้เนยสด

  1. นำเนยสดรสเค็มออกมาจากตู้เย็นพักไว้ประมาณ 5 นาที 
  2. นำเนยสดใส่ลงในโถตี โดยเลือกใช้ใบพัดแบบตะกร้อ ตั้งระดับความแรงเบอร์ 2 ตีเนยสดให้พอแตกตัวนิดหน่อย ไม่ตีจนนานเกินไป
  3. ใส่เกลือป่น น้ำตาลทราย และร่อนแป้งเค้ก แป้งสาลี แป้งข้าวโพดลงไป จากนั้นใช้ระดับความแรงในการตีแป้งเบอร์ 2 ตีประมาณ 5 นาที จนทุกอย่างผสมเข้ากัน 
  4. ใส่ไข่ไก่ ผงฟู จากนั้นปรับระดับการตีให้ลดลงเหลือความแรงระดับ 1 ตีให้ส่วนผสมเข้ากัน ไม่ต้องตีนานเกินไป โรยช็อกโกแลตชิปตบท้ายแล้วคลุกเคล้าเบาๆ 
  5. เตรียมอุปกรณ์ถุง และหัวบีบครีมแบบ 8 แฉกให้พร้อมใช้งาน จากนั้นใช้ไม้พายตักส่วนผสมทุกอย่างใส่ลงถุงให้เรียบร้อยเพื่อความสะดวกในการบีบ
  1. เตรียมถาดสำหรับใส่คุกกี้อบ ใช้กระดาษไขปูรองจนทั่วถาด จากนั้นบีบส่วนผสมที่เตรียมไว้ในถุงบีบ ทั้งหมดลงถาดขนาดที่พอดี 
  2. วอร์มไฟตู้อบโดยการเปิดไฟตู้อบไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นวางถาดคุกกี้ลงในตู้อบ ใช้ไฟ 140 -150 องศาเซลเซียส 30 – 40 นาที 
  3. เมื่ออบได้สีสันสวยงามแล้ว ให้นำออกมาพักไว้ด้านนอกจนหายร้อนจัด จากนั้นทำการเก็บไว้ โดยใช้วิธีเก็บในขวดโหลที่ปลอดเชื้อ หรือใส่ในถุงและปิดถุงให้สนิท เก็บด้วยวิธีที่ถูกต้องจะทำให้เก็บไว้รับประทานได้นาน

เคล็ดลับในการทำคุกกี้เนยสดให้อร่อยรสชาติละมุน กลิ่นหอมชวนรับประทาน และเก็บไว้รับประทานได้นาน 

ใช้เนยสดแท้เท่านั้นในการทำคุกกี้ ถ้าใช้มาการีนความหอมจะน้อย และเนื้อสัมผัสจะไม่ละมุน

การตีผสมส่วนผสมทั้งหมด ไม่ควรตีจนเนื้อเหลวเกินไป ให้ตีพอประมาณ เพราะถ้าส่วนผสมเหลวจนเกินไป เมื่อนำคุกกี้ไปเข้าเตาอบส่วนผสมจะเหลวละลายไม่เป็นรูปทรง

วิธีในเก็บคุกกี้เนยสดให้เก็บได้นานนั้นจะต้องเก็บในภาชนะที่มิดชิดไม่ให้อากาศเข้าได้ ถ้าต้องการเก็บในภาชนะขวดแก้ว ก่อนนำขวดแก้วมาใช้ฆ่าเชื้อทำความสะอาดก่อนนำมาใส่คุกกี้ 

ไอเดียนำความรู้ในการทำคุกกี้เนยสดไปต่อยอด 

คุกกี้เนยสดเป็นขนมที่อยู่ได้นาน ถ้าเก็บถูกวิธี มิดชิดสามารถอยู่ได้หลายเดือน ต่อยอดทำเป็นอาชีพขายทางออนไลน์ได้ไม่ยากเลย

สามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ดัดแปลง เพิ่มเติมเช่นยุคนี้เป็นยุคของคนรักสุขภาพ สามารถใส่ธัญพืชลงในส่วนผสม เป็นคุกกี้ธัญพืชเพิ่มมูลค่า และความน่าสนใจได้มากเลยทีเดียว

ในยุคดิจิตอลนี้ ถ้าทำคุกกี้จนชำนาญ และมีสูตรที่คิดสร้างสรรค์แบบแปลกใหม่ น่าสนใจ สามารถทำหลักสูตรการสอนออนไลน์ขายให้คนที่สนใจเข้ามาสึกษาเรียนรู้ได้ 

เพิ่มมูลค่าคุกกี้โดยการใช้แพคเกจจิ้งสวยงาม จัดคุกกี้เป็นชุดของขวัญ จำหน่ายเป็นของฝากในโอกาสพิเศษต่าง ๆ 

Categories
เบเกอรี่

คัพเค้กวานิลลา เค้กขนาดมินิที่คนทุกเพศทุกวัยหลงรัก

เค้กจัดเป็นขนมหวานประเภทเบเกอรี่ชนิดหนึ่งที่มีต้นกำเนิดมาจากชาติตะวันตก แต่คนไทยนั้นก็หลงรักกันทั้งประเทศ เค้กแบ่งย่อยออกได้มากมายหลายประเภท หลายขนาด ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนรับประทาน มีตั้งแต่ขนาดใหญ่ 3 ปอนด์ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก มาจนถึงขนาดเล็กจิ๋วน่ารักแบบคัพเค้ก

เป็นไซส์จิ๋วเล็ก แต่กลับเป็นเค้กไซส์ที่คนนิยมรับประทานกันมากเลยทีเดียว เหตุผลเพราะรับประทานง่าย สะดวก ขนาดกำลังพอดีไม่ใหญ่จนเกินไป เหมาะสำหรับเป็นขนมของว่างเลี้ยงแขกในงานสำคัญโอกาสพิเศษต่าง ๆ อาทิปีใหม่ วันเกิด งานปาร์ตี้ รวมไปจนถึงงานประชุม งานสัมมนา งานพบปะสมาคม งานเลี้ยงรุ่น เลี้ยงแขกในงานขาวดำ เป็นต้น

จริง ๆ แล้วคนไทยนิยมรับประทานขนมเบเกอรี่ไม่แพ้ขนมไทยเลย และเบเกอรี่ทุกชนิดนั้นค่อนข้างถูกปากคนไทยเลยก็ว่าได้ ธุรกิจการทำเบเกอรี่จึงเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้พอสมควร และคัพเค้กก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของขนมเบเกอรี่ที่น่าสนใจ สามารถเพิ่มไอเดียนำไปต่อยอดสร้างเป็นอาชีพ สร้างรายได้ เว็บไซต์ mykitchencook รวบรวมวิธีการทำขนมคัพเค้กวานิลลาไว้ตั้งแต่เตรียมวัตถุดิบ คนที่ไม่มีพื้นฐานก็สามารถศึกษา และฝึกทำได้เลย

วัตถุดิบในการทำคัพเค้กวานิลลา

  • แป้งเค้ก 90 กรัม
  • แป้งสาลี 30 กรัม
  • ไข่ไก่ 4 ฟอง ( เบอร์ 2 )
  • เนยสดแท้แบบละลาย 60 กรัม
  • สารเสริมเอสพี 2 ช้อนชา
  • นมจืด 65 กรัม
  • น้ำตาลทรายเกล็ดละเอียด 150 กรัม
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา
  • กลิ่นนมเนย 2 ช้อนชา
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • วัตถุดิบของครีมแต่งหน้าคัพเค้ก
  • วิปปิ้งครีม 180 กรัม
  • น้ำตาลทรายป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอน วิธีการทำคัพเค้กวานิลลา

  1. ทำการแยกไข่แดงออกจากไข่ขาวทั้ง 4 ฟอง
  2. ใส่น้ำตาลทรายเกล็ดเล็กลงไปผสมกับส่วนของไข่แดง จากนั้นใช้เครื่องตีแป้งแบบมือใส่ตัวตีแบบตะกร้อ ปรับระดับความแรงที่เบอร์ 2 ใช้เวลาตีประมาณ 3- 5 นาที ตีจนน้ำตาลละลาย และส่วนผสมของไข่แดงเข้ากับน้ำตาล
  3. จากนั้นร่อนแป้งเค้ก แป้งสาลี ผงฟู เกลือป่น ลงไปในส่วนผสมของไข่แดง และน้ำตาลทรายที่ตีเข้ากันแล้ว
ขอบคุณภาพจาก pixabay
  1. ใส่ sp ลงไปเพื่อเพิ่มความนุ่มของเนื้อขนมคัพเค้ก
  2. ใส่กลิ่นวานิลลา และกลิ่นนมเนยลงไป จากนั้นแบ่งไข่ขาวส่วนหนึ่งลงไป ใช้เครื่องตี ปรับระดับความแรงเบอร์ 2 ค่อย ๆ ตีจนส่วนผสมเข้ากัน
  3. ใส่ส่วนของไข่ขาว นมจืดที่เหลือทั้งหมดลงไป แล้วใช้เครื่องตีจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน
  4. พักส่วนผสทั้งหมดไว้เฉย ๆ ประมาณ 10 นาที แล้วจึงตักใส่ถุงบีบ ใช้อุปกรณ์ปากบีบครีมแบบ 8 แฉก
  5. เตรียมจัดวางถ้วยคัพเค้กกระดาษแบบสำเร็จรูป(อาจจะเป็นถ้วยคัพเค้กการ์ตูนตามชอบก็ได้ จำนวน 12 – 13 ถ้วย จากนั้นบีบส่วนผสมทั้งหมดลงไปในถ้วยคัพเค้กประมาณ 3/4 ของคัพ เผื่อพื้นที่สำหรับเนื้อเค้กฟูขึ้นมา
  6. วอร์มเตาอบทิ้งไว้ 10 -15 นาที จากนั้นใส่ถาดคัพเค้กเข้าไปอบ โดยใช้ไฟอบที่ความร้อน 170 องศาเซลเซียส เปิดทั้งไฟบน ไฟล่าง ใช้เวลาอบ 20 -30 นาที ไม่เปิดพัดลมในตู้อบ เพราะจะทำให้พัดเนื้อเค้กเสียรูปทรง
  7. เมื่ออบได้ที่แล้วเอาคัพเค้กออกมาพักไว้นอกตู้อบ
ขอบคุณภาพจาก pixabay

ขั้นตอนการทำครีมสำหรับแต่งหน้าคัพเค้กวานิลลา

  • ผสมวิปปิ้งครีมกับน้ำตาลทรายป่นเข้าด้วยกัน จากนั้นใช้เครื่องตี ตีจนวิปปิ้งครีมตั้งยอด และน้ำตาลละลาย
  • ตักวิปปิ้งครีมใส่ถุงบีบ ใช้หัวบีบ 8 แฉก จากนั้นบีบวิปปิ้งครีมแต่งหน้าคัพเค้กเพิ่มความสวยงามได้เลย
ขอบคุณภาพจาก unsplash

เคล็ดลับในการทำคัพเค้กวานิลลาให้นุ่มอร่อย

ก่อนใส่แป้งเค้ก กับแป้งสาลีต้องใช้ตะแกรงร่อนทุกครั้งเพราะเป็นการเพิ่มช่องอากาศให้แป้ง ทำให้เนื้อเค้กนุ่มละมุน

น้ำตาลที่ใช้ผสมวิปปิ้งครีม ควรเลือกใช้น้ำตาลป่น และน้ำตาลไอซิ่งเท่านั้น เพราะจะทำให้น้ำตาลละลายง่าย ไม่เป็นเม็ด ๆ

ไอเดียนำความรู้ข้อมูลการทำคัพเค้กวานิลลาไปต่อยอด

  • สามารถต่อยอดสร้างเป็นอาชีพได้ โดยเริ่มจากทำขายในละแวกใกล้บ้าน
  • เมื่อฝึกจนมีประสบการณ์ดีแล้ว เพิ่มไอเดียสร้างสรรค์ อาทิทำเป็นคัพเค้กผลไม้ คัพเค้กการ์ตูน ต่อยอดทำคอร์สออนไลน์ขายให้กับคนที่สนใจอยากเรียน
  • ติดต่อวางขายคัพเค้กร้านกาแฟ ร้านเครื่องดื่ม ธุรกิจจัดเลี้ยงต่าง ๆ
Categories
เบเกอรี่

บราวนี่ช็อกโกแลตเข้มหนึบ สาวกช็อกโกแลตห้ามพลาด

บราวนี่เป็นขนมที่จัดว่าคนไทยให้ความนิยมรับประทานกันมากโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น บราวนี่มีส่วนผสมหลักเป็นช็อกโกแลต ใช้วัตถุดิบในการทำเพียงไม่มีอย่าง สามารถทำได้เพียงไม่กี่ขั้นตอน เป็นขนมที่มีรสชาติเข้มข้นเน้นรสชาติของช็อกโกแลต หวานกำลังดี

เป็นขนมที่สามารถรับประทานได้ทุกโอกาส และสามารถให้เป็นของขวัญวันสำคัญ เป็นของที่ระลึก และสามารถหาซื้อได้ง่ายมากโดยเฉพาะในโลกของออนไลน์ เพราะมีคนทำบราวนี่ขายกันเยอะมาก เรียกว่าบางคนทำขายกันแบบจริงจังเลยก็มี

บราวนี่นั้นมีมากมายหลายสูตร และลักษณะของเนื้อแป้งบราวนี่นั้นก็มีหลายแบบ แต่ละแบบก็จะใส่ปริมาณวัตถุดิบที่ต่างกัน วิธีการทำต่างกัน อาทิ บราวนี่แบบเนื้อแป้งแห้งสำหรับคนที่ชอบเนื้อแป้งบราวนี่แบบแห้งร่วนไม่ชอบหนึบ การทำก็จะใส่เป้งสาลีเยอะ ช็อกโกแลตไม่เยอะ จะเน้นรสชาติของแป้ง และวัตถุดิบอื่นมากกว่า

ขอบคุณภาพจาก unsplash

บราวนี่แบบเนื้อหนึบเหนียว เนื้อบราวนี่ไม่แห้งร่วน แต่ก็ไม่ถึงกับเนื้อฉ่ำ วัตถุดิบที่เพิ่มเข้ามาเพื่อเพิ่มความหนึบนุ่มได้แก้น้ำมันรำข้าว หรือน้ำมันมะพร้าว และเพิ่มปริมาณของช็อกโกแลตเพื่อให้เข้าถึงสัมผัสของช็อกโกแลตมากขึ้น และดูเหมือนว่ากระแสของความนิยมการรับประทานบราวนี่เนื้อหนึบหน้าฟิล์มนั้นมาแรงมาก ทางเว็บไซต์ mykitchencook จึงรวบรวมการทำเมนูบราวนี่เนื้อหนึบหน้าฟิล์มมาให้คนที่สนใจ ศึกษาเรียนรู้การทำ และนำไปพัฒนาต่อยอดสร้างงาน สร้างอาชีพ รวมถึงทำให้คนที่เรารักรับประทานได้

วัตถุดิบ วิธีขั้นตอน เคล็ดลับในการทำบราวนี่เนื้อหนึบหน้าฟิล์ม

  • ไข่ไก่ 2 ฟอง (เบอร์ 1 )
  • น้ำตาลทรายเนื้อละเอียด 125 กรัม
  • แป้งสาลี 80 กรัม
  • ช็อกโกแลตสำเร็จรูปคอมพาวด์ 50 กรัม
  • ช็อกโกแลตแบบ 70 % 40 กรัม
  • น้ำมันรำข้าว / น้ำมันมะพร้าวแบบทำอาหาร 70 กรัม
  • ผงโกโก้ 40 กรัม
  • ผงฟู 1 ช้อนชา

ขั้นตอน วิธีการทำขนมบราวนี่เนื้อหนึบหน้าฟิล์ม

  1. ใส่ไข่ไก่ และน้ำตาลทรายละเอียดลงในภาชนะ จากนั้นใช้อุปกรณ์ตีไข่ค่อย ๆ ตีจนส่วนผสมเข้ากัน ขั้นตอนนี้สำคัญกับการทำขนมบราวนี่มาก
  2. ใช้กะละมังใบใหญ่ตั้งน้ำร้อน แล้วนำภาชนะที่ผสมไข่น้ำตาลเสร็จแล้วลงไปอังความร้อนจากน้ำร้อนในขณะเดียวกันก็คนให้น้ำตาลละลาย เมื่อน้ำตาลละลายก็นำมาตั้งพักไว้
  3. ใส่ช็อกโกแลตคอมพาวด์ ช็อกโกแลต 70 % และนำมันรำข้าวลงในภาชนะเดียวกัน จากนั้นนำไปอังความร้อนจากภาชนะที่ใส่น้ำร้อนไว้ คนจนช็อกโกแลตละลายเหลว
  4. จากนั้นร่อนแป้งสาลี ผงฟู กับผงโกโก้ด้วยตะแกรงลงไปจนหมด แล้วก็คนส่วนผสมทุกอย่างให้เป็นเนื้อเดียวกัน ยกลงจากเตามาพักไว้จนหายร้อน
  5. เมื่อส่วนของช็อกโกแลตหายร้อนแล้ว ให้ทำการเทลงไปรวมกับส่วนของไข่และน้ำตาลที่ผสมไว้แล้ว จากนั้นผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน จะมีลักษณะข้นเหนียวหนืด
ขอบคุณภาพจากpixabay
  1. เตรียมถาดขาดเล็ก 1 ใบ โดยทำการรองกระดาษไขแล้วทานั้นที่กระดาษไขให้มีความมันเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เนื้อบราวนี่ติดก้นถาด
  2. เทส่วนผสมของแป้งบราวนี่ทั้งหมดลงไปในถาดแล้วเขย่าถาดเล็กน้อยให้ส่วนผสมเสมอเท่ากัน
  3. ก่อนอบต้องวอร์มไฟตู้อบก่อน 10 – 15 นาที จากนั้นใส่ถาดบราวนี่เข้าไปอบใช้ไฟ 170 องศาเซลเซียส อบนาน 30 นาที
  4. เมื่ออบครบ 30 นาทีใช้ไม่จิ้มลงไปในเนื้อบราวนี่ ถ้าไม่มีเศษแป้งติดขึ้นมาแสดงว่าเนื้อบราวนี่ข้างในสุกได้ที่แล้ว แต่ถ้าใช้ไม้จิ้มแล้วเนื้อแป้งข้างในติดไม้มา ต้องอบต่ออีก 10 – 15 นาที จึงจะสุก
  5. จากนั้นเมื่อสุกนำมาตั้งพักไว้ให้หายร้อนจัด
  6. สำหรับการทำบราวนี่ขายใช้มีดสำหรับตัดขนมตัดขนมเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสในมุมเท่ากัน ในขั้นตอนนี้ถ้าใช้มีดไม่คม บราวนี่จะเป็นขุยไม่เรียบสวย
  7. เสิร์ฟบราวนี่เนื้อหนึบหน้าฟิล์มรับประทานคู่กับชาอุ่นสักแก้วอร่อยเข้ากันมาก
ขอบคุณภาพจากpixabay

เคล็ดลับในการทำขนมบราวนี่ให้หนึบดังใจ และมีหน้าฟิล์มสวยไม่แตก

ใส่น้ำมันรำข้าวหรือน้ำมันมะพร้าว รวมถึงเพิ่มปริมาณช็อกโกแลตแบบ70% เข้าไปในส่วนผสมจะทำให้เนื้อบราวนี่ไม่แห้งร่วน หนึบหนับ และมีรสชาติเข้มข้นช็อกโกแลต

หน้าฟิล์มของบราวนี่จะสวยหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับขั้นตอนของการผสมไข่ไก่กับน้ำตาล ถ้าน้ำตาลละลายได้หมดในเวลาอันรวดเร็วจะทำให้หน้าฟิล์มที่ได้สวยเนียนแตกแห้ง

ไอเดียนำความรู้วิธีการทำบราวนี่เนื้อหนึบหน้าฟิล์มพัฒนาต่อยอด ฝึกทำบราวนี่จนชำนาญ เพิ่มความคิดสร้างสรรค์สามารถทำบราวนี่ขายสร้างรายได้พัฒนาสูตรหลาย ๆ แบบเปิดหลักสูตรสอนออนไลน์